ชั่งกวน อี้ยวิน สวมชุดสีม่วงประกายอ่อนปักด้วยเส้นลายเมฆ ใบหน้าของนางปิดบังด้วยผ้าคลุมสีคล้ายกัน
ในขณะที่นางเดิน ชุดก็กระเพื่อมไปกับนางในทุกย่างก้าว
นางเดินตรงเข้าไปในหอน้ำชาที่ชั้นสอง ในขณะที่เฟย เหย่เดินตามหลังนางไป
ในสถานที่ที่ชั่งกวน อี้ยวิน มองไม่เห็น นางใช้มือเป็นสัญลักษณ์บอกคนที่ยืนอยู่ในมุม ก่อนจะเดินต่อไป
ชั่งกวน อี้ยวิน ดูราวกับว่านางร้องไห้มา ดวงตาของนางยังเป็นสีแดงและบวมเล็กน้อย
เมื่อนางไปถึงห้อง นางก็เคาะประตูขึ้น
จากข้างในห้อง เสียงผู้ชายก็เปล่งออกมา “ เข้ามา”
นางหันกลับมาและพูดกับเฟย เหย่เบา ๆ “ ดูข้างนอกไว้ อย่าให้ใครเข้าไป”
“เจ้าค่ะ!” เฟย เหย่พยักหน้า สายตาของนางลดลง ในขณะที่นางยืนด้วยความเคารพ
ชั่งกวน อี้ยวิน จึงผลักประตูให้เปิดออก และปิดลงตามหลังนาง
เมื่อผู้ชายในห้องได้ยินเสียงเปิดประตู เขาก็ยืนขึ้น
เขาสวมชุดธรรมดา ใบหน้าของเขาดูหล่อเหลา ในขณะที่เขามองไปที่ชั่งกวน อี้ยวิน ด้วยความเจ็บปวดในสายตาของเขา“ยวินเอ้อร์”
น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของชั่งกวน อี้ยวิน แล้วนางก็พูดขึ้น “ท่านพี่โจว… .. ”
หลังจากพูดจบแล้ว นางก็วิ่งไปข้างหน้าและเข้าไปในอ้อมแขนของเขา
โจวถังแข็งค้างอยู่กับที่ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับมือของเขาดี
ในท้ายที่สุด เขาก็ไม่สามารถทนความคิดถึงที่มีต่อนางเอาไว้ได้และกอดไปที่ไหล่ของนาง “ ยวินเอ้อร์ ขอโทษ ข้ามันไร้ประโยชน์”
“ ไม่ มันไม่ใช่ความผิดของท่าน มันเป็นฮูหยินใหญ่ที่ต้องการให้ข้าแต่งงานออกไป” แต่นางก็ไม่ต้องการที่จะเป็นพระชายารองอะไรนั่น
นางแค่อยากจะมีชีวิตอยู่กับท่านพี่โจวของนาง
“แต่บิดามารดาของเจ้าก็ได้มีคำพูดสุดท้ายในชีวิตแต่งงานของเจ้าแล้ว ดังนั้นเจ้าต้อง … ” โจวถัง หลับตาสีแดงของเขาลง
ในท้ายที่สุด เขาก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป
แต่เขาก็ทนไม่ได้ที่จะพาคุณหนูผู้สูงสงไปกับครูสอนพิณธรรมดาอย่างเขา จะต้องเดินทางไปทั่วและจะทนทุกข์อยู่กับเขา
ดังนั้นเขาควรปล่อยนางไป!
“ข้าได้ยินว่าองค์ชายรองเป็นคนดี มีคุณธรรมและมีน้ำใจ เขาจะไม่ปฏิบัติกับเจ้าอย่างเลวร้าย … “
“ ท่านพี่โจว?” ชั่งกวน อี้ยวิน เงยหน้าขึ้นมองด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา“ แม้แต่ท่านก็ไม่ต้องการข้าหรือ?”
โจวถังเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาจากดวงตาของนางอย่างเจ็บปวด “มันไม่ใช่ว่าข้าไม่ต้องการเจ้า แต่ข้าไม่สามารถที่จะต้องการเจ้าได้ ท่านเจ้ากรมกลาโหม บิดาของเจ้า ได้ใส่ชื่อของข้าลงไปในรายชื่อต้องห้ามแล้ว และยังบอกว่าข้าได้ทำผิดต่อจวนตระกูลชั่งกวน ข้าไม่สามารถพาเจ้าออกไปจากเมืองหลวงได้แบบนี้เจ้ายังจะต้องการอยู่กับข้าอีกหรือ?”
“ ท่านพี่โจว ข้ายอมที่จะตายดีกว่าต้องแต่งงานกับองค์ชายรอง!”
“ ยวินเอ้อร์ … เจ้า ทำไมเจ้าต้องทนทุกข์เช่นนี้!”
“ ท่านพี่โจว พาข้าหนีไป ข้าขอร้องท่าน พาข้าหนีไป…ถ้าข้าไม่สามารถอยู่กับท่านได้ ข้าก็ยอมตาย!”
“ ยวินเอ้อร์ ทำไมข้าถึงจะไม่อยากพาเจ้าหนีไป แต่มันไม่ใช่งานแต่งงานธรรมดา ถ้าข้าพาเจ้าหลบหนีไปในตอนนี้ เมืองหลวงทั้งเมืองจะเกิดความวุ่นวาย”เขาได้ยินมาว่าองค์ชายรองเป็นผู้เหมาะสมที่สุดที่จะได้สำหรับองค์รัชทายาท
หากอนาคตพระชายารองตัดสินใจที่จะหนีตามเขาไป สิ่งนี้อาจทำลายโอกาสของเขาได้
แต่ในอีกแง่หนึ่ง จะมีผู้ชายคนไหนที่จะทนเห็นคนรักของเขาแต่งงานกับผู้ชายคนอื่นได้?
ในขณะที่เขาลังเล เขาก็ได้รับจดหมายของยวินเอ้อร์ บอกว่าอยากจะพบเขาอีกครั้ง ก่อนที่นางจะสิ้นสุดความสัมพันธ์กับเขา
“ท่านพี่โจว? ข้าไม่เข้าใจเรื่องของคนในวัง ข้าเพียงแค่รู้ว่าถ้าไม่มีท่าน ข้าคงจะต้องได้ล้างหน้าด้วยน้ำตาทุกวัน ท่านสามารถทนได้ที่จะเห็นข้าหัวใจแตกลสายและมีชีวิตอยู่อย่างน่าสงสารอย่างนั้นหรือ?” ความลังเลใจของโจวถังทำให้หัวใจของชั่งกวน อี้ยวิน เจ็บปวด
“ยวินเอ้อร์ ขอคิดสักเล็กน้อย”
โจวถังเช็ดน้ำตาของนางออก ความคิดของเขายุ่งเหยิงมาก
ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขารู้สึกเหมือนว่ากำลังจะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นในวันนี้
“ท่านพี่โจว วันนี้ท่านขอให้ข้าออกมาพบท่าน ไม่ใช่ว่าท่านได้วางแผนที่จะพาข้าหนีไปหรอกหรือ”
“ อืม?” โจวถังแข็งค้างไปชั่วครู่ “ข้าขอให้เจ้ามาหรือ ไม่ใช่ว่าเป็นเจ้าหรือที่ให้เฟย เหย่มาส่งจดหมายให้ข้าออกมาพบเจ้าที่นี่?”
ชั่งกวน อี้ยวิน ก็แข็งค้างไปเช่นกัน “ไม่ ข้าไม่ได้ทำ เป็นเฟย เหย่ที่ส่งจดหมายให้ข้าและบอกข้าว่า…”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
“ เปิดประตู เปิดประตู!”