“ปล่อย” เสียงที่เย็นชาและเงียบสงบของโหลว ชิงอู๋ นั้นชัดเจนเหมือนดอกบัวน้ำแขงสีขาว
มันปะทะเข้ามาที่หูของคน เด็ดเดี่ยวและห่างเหิน ทำให้เจ้าอยากวิ่งหนีไป
“ไม่…..ไม่ปล่อย” ความนุ่มนวลในอ้อมแขนของเขา ทำให้เซี่ยโฮ่ว รุ่ย ยิ่งมึนเมามากขึ้นเช่นเดียวกับการอยู่ในความฝันที่งดงาม
ที่ด้านนอกของประตูเซี่ยโฮ่ว หลิวหยุน และหลานป๋าย คนที่เพิ่งมาถึงก็ถึงกลับตาค้าง
เมื่อหลานป๋าย ได้เห็นสิ่งนี้นางก็กำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อที่จะเข้าไปดึงองค์ชายรองออกไปจากเจ้านายของนาง ก่อนที่จะถูกเซี่ยโฮ่ว หลิวหยุน ปิดปากเอาไว้และดึงนางออกไป
จากนั้นเขาก็ปิดประตู
“อืมม อืมม อืมม …. ” เซี่ยโฮ่ว หลิวหยุน เจ้าขยะ ความบริสุทธิ์ของนายของข้า!
ไม่ว่าความพยายามของหลายป๋ายจะมีมากแค่ไหน เซี่ยโฮ่ว หลิวหยุน ก็ยังสามารถดึงนางออกไปและเข้าไปในห้องอื่นได้
ภายในห้องของเซี่ยโฮ่ว รุ่ย คนสองคนยังคงยืนตัวตรง และยังดูเหมือนคู่รัก
ยกเว้นดวงตาของคนคนหนึ่งถูกเคลือบไปด้วยความมึนเมาและของคนอีกคนก็ใสและเยือกเย็น
“เช่นนั้นหรือ?” กอดที่แน่นที่อยู่รอบ ๆ ตัวนาง ทำให้ตาของโหลว ชิงอู๋ หรี่ตาลงในขณะที่มือขวาจับไปรอบๆ โต๊ะ
มือของนางคว้าไปรอบถ้วยเหล้า เมื่อนางยกแขนขึ้นและสาดเหล้าลงบนใบหน้าที่หล่อเหลาของเซี่ยโฮ่ว รุ่ย
แขนของเซี่ยโฮ่ว รุ่ยหลุดออกและโหลว ชิงอู๋ก็ผลักเขาออกไปสามก้าวในขณะที่นางใช้สายตาอันเย็นชาของนางมองไปที่เขา
เซี่ยโฮ่ว รุ่ย ถูใบหน้าของเขา รู้สึกมีจิตใจที่ชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม
แต่เมื่อจิตใจของเขาชัดเจนและเห็นว่าหญิงสาวที่อยู่ข้างหน้าเขาไม่ได้อยู่ในความฝัน แต่อยู่ในความเป็นจริงใบหน้าของเขาซีดลงทันที
“โหลว แม่นางโหลว ข้า ….”
“ดูเหมือนว่าองค์ชายรองจะมีสติที่ชัดเจนแล้ว” โหลว ชิงอู๋ ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะ
นางวางถ้วยเหล้าลง ในขณะที่นางมองไปที่ผู้ชายที่ดูไม่ได้ที่อยู่ต่อหน้าของนาง
หัวใจของเซี่ยโฮ่ว รุ่ย กระโดดขึ้นเมื่อเห็นท่าทางการมองของนางรู้สึกราวกับว่าความอึดอัดนับพัน ๆ กำลังวิ่งขึ้นและลงไปทั่วร่างของเขาเข้าไปจนถึงกระดูกของเขา
เขาไอขึ้นเบา ๆ ซ่อนความรู้สึกของเขา ในขณะที่มองไปที่ผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเขา
นานแค่ไหนแล้วที่เขาได้พบนางครั้งสุดท้ายที่?
ในตอนแรก เขาคิดว่านางคงจะไม่อยากพบเขา หลังจากได้รู้ความรู้สึกของเขา
แต่ตอนนี้ นางอยู่ที่นี่
นั่นหมายความว่านางไม่ได้เกลียดเขาจริงๆ?
แต่ทำไมนางถึงบอกว่านางอยากจะช่วยเขา แต่ก็ยังเข้าไปพัวพันอยู่กับพี่สาม?
ในช่วงสองสามวันนี้ นอกเหนือจากความกดดันจากเสด็จแม่แล้ว ยังมีความคลุมเครือของข่าวลือและเรื่องซุบซิบแพร่กระจายไปทั่วเกี่ยวกับนาง
“แม่นางโหลว เจ้า …”
“อยากจะถามว่าทำไมข้าถึงต้องใกล้ชิดกับองค์ชายสามหรือ?”
“ …. อืม”
“แต่ท่านใช้ฐานะอะไรในการถามข้าเช่นนั้น? ไม่ใช่ว่าท่านแต่งงานแล้วหรือ ส่วนข้ายังไม่ได้ต่างงาน มันจึงเป็นสิทธิของข้าที่จะอยู่ใกล้ชิดกับใครก็ตามที่ข้าชอบ “โหลว ชิงอู๋ เทเหล้าที่อยู่ในไหออกมา เหล้าที่อยู่ในถ้วยสะท้อนภาพเงาของนางขึ้น
“ข้าแค่ … ” เซี่ยโฮ่ว รุ่ยจู่ๆ ก็ยืดตัวขึ้นอยากจะอธิบาย แต่เขาก็คาดหวังด้วยเช่นกัน
“แค่อะไร? คิดว่าเพราะข้าอยากจะช่วยท่าน มันจะหมายความว่าข้าจะมีความรู้สึกต่อท่านหรือ?”
“… ” เซี่ยโฮ่ว รุ่ยไม่อยากยอมรับมัน แต่หัวใจของเขาก็คิดเช่นนั้น
ดังนั้นแม้ว่าเพลงนั้น <ความรู้สึกที่แตกต่าง> ในงานเทศกาลชมดอกไม้จะทำให้เขาเห็นด้วยกับงานแต่งงานของเขา แต่เมื่อเขาตื่นขึ้นมาเขาก็เต็มไปด้วยความเสียใจ ลังเลและไม่สามารถคิดอะไรได้อย่างชัดเจน
“ข้าคิดว่าข้าได้แสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนแล้ว แต่ถ้าองค์ชายรองอยากจะได้ยินอีกครั้งข้าก็จะบอกท่านเอง เหตุผลที่ข้าต้องการจะช่วยท่านเพราะในบรรดาองค์ชาย เพราะท่านเหมาะที่สุดในพวกเขาทั้งหมด อย่างน้อยท่านก็จิตใจดีและมีศักยภาพในการครองแคว้น ดังนั้นการช่วยท่านจึงง่ายที่สุด “
“ถ้าเช่นนั้นก็พูดได้ว่าถ้าไม่ใช่ข้าก็สามารถเป็นคนอื่นได้” เซี่ยโฮ่ว รุ่ย รู้สึกเหมือนกับว่าหัวใจของเขาโดนอะไรบางทุบอย่างแรง
ด้วยคำพูดที่เขาพูดทุกครั้ง มันเต็มไปด้วยความเจ็บปวดราวกับถูกเผาไหม้
“ใช่”