“นายท่าน ท่านต้องการหนอนวูดูไปเพื่ออะไรหรือขอรับ?”
แน่นอนว่าเขาสามารถซื้อได้ แต่สิ่งนั้นเป็นพิษมากเกินไปมันไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะสามารถมีส่วนเกี่ยวข้องกับมันได้
โหลว ชิงอู๋หันมาเผชิญหน้ากับเขา “แน่นอนว่าข้ามีบางอย่างต้องใช้มันเจ้าสามารถหามันได้หรือไม่”
“ข้าจะสามารถลองดูขอรับ” ตราบใดที่เขามีเงินจะมีคนจำนวนมากที่เห็นค่ามันมากกว่าชีวิตของตัวเอง
ดังนั้นมันจึงจะไม่ยากที่จะรับประกันได้ว่าจะมีอย่างน้อยสักคนที่เต็มใจ
“เช่นนั้นก็ไป โดยเร็วที่สุดเท่าที่เจ้าจะทำได้ “
“ขอรับ! ผู้ใต้บัญชาจะไปเดี๋ยวนี้ “
ในเวลาเดียวกันที่จวนท่านอ๋องรัตติกาล
พ่อบ้านเคาะประตูห้องอักษรของเฟิง เหย่เก้อร์ขึ้นอีกครั้ง
แต่เมื่อเทียบกับครั้งก่อน เขารู้สึกเกิดความไม่สบายใจแปลก ๆขึ้น
เขารู้สึกเหมือนกับว่าถ้าเกิดความผิดพลาดขึ้นเพียงครั้งเดียวในครั้งนี้ เขาอาจจะสูญเสียอาชีพพ่อบ้านของเขา
“นายท่าน บ่าวชราผู้นี้เข้าไปได้หรือไม่ขอรับ?”
“อืม เข้ามา”
เสียงของเฟิง เหย่เก้อร์ ดังออกมาจากประตูจากน้ำเสียงของเขาอารมณ์ของเขาน่าจะสดใสดีอยู่
พ่อบ้านเริ่มรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้น
เขาผลักประตูให้เปิดออก ในขณะที่ศีรษะของเขาลดลงพร้อมกับเดินเข้าไปอย่างเงียบๆ
จากนั้นเขาก็ปิดประตูตามหลังเขาอย่างรวดเร็ว
“นายท่าน มีคนนอกจวนต้องการขอพบนายท่านขอรับ”
ในเวลาเดียวกันเขาก็รีบมองดูจานบนโต๊ะ
ขนมอบที่อยู่ในจานหายไปแล้ว เห็นได้ชัดว่ามันถูกเฟิง เหย่เก้อร์กินจนหมอ
พ่อบ้านรู้สึกได้ถึงเหงื่อที่หน้าผากของเขา
“ใคร?”
“…. คนที่ช่วยทำขนมอบให้นายท่านขอรับ”
“อืม?”เฟิง เหย่เก้อร์ยกศีรษะของเขาขึ้น
ดวงตาหงส์ของเขาสดใส ในขณะที่ริมฝีปากบาง ๆ ของเขาดึงเข้าหากันดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
“เมื่อไหร่ที่นางกลายเป็นคนเช่นนี้กัน ตราที่ข้าให้นางอยู่ที่ไหน ไปพานางเข้ามา “
ดูเหมือนว่านางรู้สึกผิดที่กล้าที่จะไปล่องเรือส่วนตัวกับ Xiahou Qing นางกล้าหาญมากจริงๆ
แต่เมื่อมองไปที่ขนมอบ เขาก็โกรธนางไมลง
ริมฝีปากของเขาโค้งขึ้น แต่เมื่อเห็นพ่อบ้านยังยืนอยู่ที่นั่น หัวคิ้วของเขาก็ยกขึ้น ก่อนจะถามขึ้น”มีอะไรอีก?”
จังหวะการเต้นของหัวใจพ่อบ้านเต้นเร็วขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาควรหรือไม่ควรที่จะพูดความจริง
แต่ถ้าเขาพูดความจริงตอนนี้ชีวิตเล็ก ๆ ของเขา …
เขากลืนน้ำลายของเขาลงไปอย่างเงียบ ๆ ในขณะที่เขาตัดสินใจที่จะปล่อยให้เจ้านายของเขาค้นพบตัวเอง
“บ่าวชราผู้นี้จะให้พวกเขาเข้ามาขอรับ”
เมื่อพ่อบ้านจากไป เฟิง เหย่เก้อร์ก็ ไม่ได้ดูงานของเขาอีกต่อไป
เขาผลักพวกมันออกไปข้างๆ ในขณะที่เขาลุกขึ้น
จากนั้นเขาถึงได้รู้ว่าเขายังสวมชุดเดียวกันตั้งแต่เมื่อวาน
หัวคิ้วของเขาขมวดขึ้น ก่อนจะหันไปรอบ ๆ เพื่อเปิดอุโมงค์ลับภายในห้องอักษรของเขา
เขาเปลี่ยนเป็นชุดใหม่และเมื่อเขาออกมาดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนราวกับลมในฤดูใบไม้ผลิเดือนมีนาคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันน่ามองมาก
แต่น่าเสียดายเมื่อประตูเปิดออก คนที่ปรากฏตัวต่อหน้าเฟิง เหย่เก้อร์ กลับไม่ใช่โหลว ชิงอู่ อย่างที่เขาคาดหวัง แต่ …
อารมณ์ตอนแรกของเขาหายไปทันที
“เหย่ จี้ ทำไมถึงเป็นเจ้า?
“พี่ชายเหย่ ทำไมถึงเป็นข้าไม่ได้?”
เหย่ จี้ยังคงสวมชุดสีแดง ใบหน้าของนางสวมหน้ากาก เผยให้เห็นเพียงคู่ของดวงตาที่งดงามเท่านั้น
นางกระพริบตาให้กับเฟิง เหย่เก้อร์ ก่อนที่จะหันไปมองจานเปล่าที่ด้านหน้าของเฟิง เหย่เก้อร์
นางช่วยไม่ได้ที่จะปิดปากและหัวเราะขึ้น”แม่นางโหลวพูดถูก พี่ชายเหย่ชอบกินขนมอบจริงๆ ข้าไม่คิดว่าท่านจะกินอะไรหวาน ๆเช่นนี้ ข้าจะทำมันให้ท่านทุกวันตกลงไหม? ”
เหย่ จี้เดินตรงเข้ามาหาเขา กระดิ่งบนตัวนางส่งเสียงดังขึ้น
ถึงแม้ว่าใบหน้าของนางจะมีความสุขมาก แต่กลิ่นอายของนางกลับยิ่งมีมากกว่า แต่ก็ไม่สามารถทำให้ใบหน้าที่มืดของเฟิง เหย่เก้อร์หายไปได้
อันตรายและเยือกเย็น เฟิง เหย่เก้อร์ถามขึ้น”สิ่งนี้ … เจ้าทำหรือ?”
เหย่ จี้ยิ่งทำเป็นไร้เดียงสามากขึ้น ใบหน้าของนางเงยขึ้น ในขณะที่นางมองไปที่เฟิง เหย่เก้อร์ ราวกับว่านางไม่เห็นความโกรธบนใบหน้าของเขา
“ใช่แล้วพี่ชายเหย่ รสชาติดีหรือไม่? เพื่อที่จะทำให้มันให้ออกมาดีเหมือนของนองชิงอู๋ ข้าต้องฝึกทำมาตลอดทั้งคืน แต่ก็มีเพียงจานนี้จานเดียวที่คล้ายกันมากที่สุด แต่ดูเหมือนว่าพี่ชายเหย่จะชอบมันอย่างแน่นอน ท่านถึงกับกินจนหมด”