เมื่อโหลว ชิงอู๋ และพันหน้า กลับไปที่เรือนลมเอนเอียง พวกเขาก็ไม่ได้พบหลานป๋าย
โหลว ชิงอู๋หยุด “นางอยู่ที่ไหน?”
พันหน้าค้นหาไปทั่วและเดินไปรอบ ๆ สองสามครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถหานางพบ
“ข้าไม่ทราบขอรับ ข้าได้ปลอมตัวนางเป็นท่าน จากนั้นก็จากไป นางควรจะยังคงปลอมตัวเป็นนายท่านอยู่ ดังนั้นนางจึงไม่น่าจะเดินไปไหนอย่างไม่ระวัง “
ดวงตาของโหลว ชิงอู๋ มองไปที่ทางเข้าของเรือนลมเอนเอียง มองไปยังเสียงฝีเท้าที่ยุ่งเหยิงบนพื้นดิน
หัวคิ้วของนางขมวดขึ้น”ไปตรวจดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นที่จวน”
พันหน้าจดจำสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่แล้วได้และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่ปกติ”นายท่านแล้วถ้าหลานป๋าย … “
โหลว ชิงอู๋ส่ายหัว “ไม่น่าจะใช่ ถ้าเกิดอะไรขึ้นที่จวน ถังเอ้อร์ก็คงจะแจ้งให้ข้ารู้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตอนนี้ข้าแค่กังวลว่าโหลว ชุ่นเฟิงหรือใครบางคนอาจจะเรียกนางไป”
พันหน้าแข็งค้างไป ก่อนที่จะพยักหน้าในทันที “ขอรับ ข้าจะรีบไปสอบถามเดี๋ยวนี้เลย”
แม้ว่าเขาจะมั่นใจในทักษะการปลอมตัวของเขา แต่ใบหน้านั้นก็ยังไม่เหมือนหน้าเดิมโดยสมบูรณ์แบบ
ถ้านางถูกเรียกตัวไปด้วยความแตกต่างของนิสัยหลายป๋าย และบุคลิกของเจ้านายของเขา นางก็จะถูกเปิดเผยว่าเป็นตัวปลอม
พันหน้าวิ่งกลับมาในอีกสิบนาที “นายท่านเรามีปัญหาแล้ว องค์ชายสามมาเมื่อหนึ่งชั่วยามก่อน หลานป๋าย ตอนนี้ … ตอนนี้ … “
“นางอยู่ที่ไหน?”
“อยู่ในห้องโถงใหญ่กับองค์ชายสาม และกำลังพูดคุยกันอยู่ขอรับ”
เขาปิดใบหน้าของเขา ไม่กล้าที่จะนึกภาพว่าหลานป๋าย ได้เปิดเผยตัวเองไปแล้วกี่ครั้ง
โหลว ชิงอู๋แข็งค้างไป “เซี่ยโฮ่ว ฉิ่งหรือ?”
“ใช่ขอรับ องค์ชายสาม เขาเลือกที่จะมาผิดเวลา มาในตอนที่เราอยู่นอกจวน “
โหลว ชิงอู๋เงียบสักครู่
นางคิดถึงครั้งสุดท้ายที่หลายป๋ายตกอยู่ในอันตราย
เซี่ยโฮ่ว ฉิ่ง ได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างแล้วและอาจจะรู้ความสำคัญของหลายป๋ายที่มีต่อนางแล้ว
ตามบุคลิกที่ดำมืดและน่ากลัวของเซี่ยโฮ่ว ฉิ่ง เขาคงจะคิดว่าเขานางอยู่ในมือเขาแล้ว
และเนื่องจากที่เขาฉลาดมาก เขาก็คงจะสามารถมองออกแล้วว่านางเป็นตัวปลอม
นางขมวดคิ้วพร้อมกับยืนขึ้น “ไปดูที่ห้องโถงใหญ่กันเถอะ”
“… ขอรับ แต่นายท่าน ท่านควรปลอมตัวเล็กน้อย”
“อืม”
โหลว ชิงอู๋และพันหน้า หลบทหารเข้าที่เรือนใหญ่เพื่อไปที่ห้องโถงใหญ่
นางไม่รู้ว่าเซี่ยโฮ่ว ฉิ่ง พูดอะไรกับพ่อบ้าน แต่มันก็ไม่มีคนรับใช้หญิงหรือชายแม้แต่คนเดียวในห้องโถงใหญ่ที่จะคอยรับใช้พวกเขา
มีเพียงหลานป๋ายและเซี่ยโฮ่ว ฉิ่ง เท่านั้นที่นั่งอยู่ที่ห้องโถงใหญ่ แต่นางไม่ได้ยินเสียงที่พวกเขาพูด เพราะพวกเขาอยู่ไกลเกินไป
โหลว ชิงอู๋ เฝ้ามองอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดกับพันหน้าขึ้น “นำน้ำชาไปให้พวกเขาและบอกหลายป๋าย ให้ออกมาข้าจะเข้าไปแทน”
“ขอรับ!” พันหน้าจัดชุดให้เรียบร้อยอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เขาอยู่ในชุดคนรับใช้
เขาหยิบชุดชาที่เตรียมเอาไว้และเดินไปที่ห้องโถงใหญ่
ยิ่งเขาเข้าไปใกล้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งได้ยินเสียงที่อบอุ่นและอ่อนโยนของเซี่ยโฮ่ว ฉิ่ง มากเท่านั้น
“… เจ้ายังไม่สามารถไปที่จวนได้ เด็กสาวคนนั้นเหย่ จี้ พูดทั้งวันพูดมากจนหูของข้าปวดไปหมด ดังนั้นวันนี้เมื่อข้าเสร็จจากราชสำนักนางก็หาเรื่องทะเลาะวิวาทและอยากจะมาพบเจ้า เสด็จพ่อมอบตำแหน่งใหม่ให้นาง นางจึงมีความสุขมากและอยากจะมาแบ่งปันข่าวกับเจ้า “
ด้านหลังของหลานป๋ายหันมาทางหน้าของพันหน้า ดังนั้นเขาจึงมองไม่เห็นการแสดงออกของนาง แต่เขาไม่พอใจกับเสียงเซี่ยโฮ่ว ฉิ่ง เลยแม้แต่น้อย
เขากำลังพูดราวกับว่าเขาคุ้นเคยกับเจ้านายของเขามาก แต่พวกเขาสนิทกันมากขนาดนั้นแล้วหรือ?
โดยไม่รอให้หลานป๋ายเปิดปากของนาง เขารีบเดินไปข้างหน้าและวางชาลงไป “องค์ชายสาม คุณหนูใหญ่ ชาขอรับ”
หลังจากพูด เขาก็ใช้ร่างกายกั้นอยู่ระหว่างทั้งสอง
เขาหันไปเผชิญหน้ากับหลานป๋าย แต่เมื่อเขาเห็นการแสดงออกทางสีหน้าของนาง ร่างกายของเขาก็แข็งค้างไปทันที