ความคิดของโหลว ชิงอู๋ ยังคงมึนงงอยู่เล็กน้อย ในขณะกลืนยาลงไปอย่างเงียบ ๆ
โดยไม่รู้ว่าลิ้นของนางยังคงสัมผัสอยู่กับนิ้วของเฟิง เหย่เก้อร์
เฟิง เหย่เก้อร์ รู้สึกว่าราวกับเกิดกระแสไฟฟ้าขึ้นเล็กน้อยจากนิ้วมือของเขา ในขณะที่เขาหรี่ตาลง
อารมณ์ลึก ๆ บางอย่างวูบวาบอยู่ในดวงตาหงส์ของเขา ก่อนที่จะหายไปอย่างเงียบ ๆ
ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขายังคงเยือกเย็นและไร้ความรู้สึก แต่หัวใจเต้นเร็วมาก
เขาค่อยๆ ดึงนิ้วของเขากลับมาอย่างเงียบๆ และมองไปที่ใครบางคนที่โง่เขลา คิดว่าเขาจะต้องสอนบทเรียนที่ดีแก่นาง
“เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง?”
เขานั่งอยู่ข้างเตียงและพร้อมกับท่าทางที่เกียจคร้าน
โหลว ชิงอู๋ แข็งค้างไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะยกศีรษะของนางขึ้น “ศีรษะของข้ายังคงเจ็บอยู่เล็กน้อย แต่ข้ารู้สึกดีขึ้นมากแล้ว”
“เมื่อเจ้าช่วยฮูหยินเก้าให้ได้สติ เจ้าเคยคิดไหมว่าเลือดของเจ้าจะได้รับพิษมาด้วย?”
โหลว ชิงอู๋ พยักหน้า “ข้าคิดถึงความเป็นไปได้ว่าพิษจะไม่รุนแรงเกินไป ดังนั้นข้าจะไม่เป็นอะไรมาก”
จากนั้นนางก็พยายามจะขยับมืออีกครั้ง
นางไม่คิดว่านางจะหมดสติไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นนางจึงคิดว่านางคงจะอดทนได้จนกว่านางจะหายาแก้พิษได้
แต่ใครจะรู้ …
“ทำไมข้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”
“พันหน้าส่งเจ้ามา”
“อืม … ” ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมนางถึงได้ตื่นขึ้นมาอย่างรวดเร็วเช่นนี้
ถึงแม้ว่าพิษจะไม่รุนแรง แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้นางตกอยู่ในสภาวะไร้สติอยู่ไม่กี่วัน
มือของนางงอเล็กน้อยและเมื่อค้นพบว่ากำลังของนางกำลังจะกลับมา โหลว ชิงอู๋ก็พยายามจะลุกขึ้นนั่ง
นางเกือบจะฟื้นตัวโดยสมบุรณ์แล้ว ดวงตาของนางก็ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น “ท่านเพิ่งจะให้ยาอะไรแก่ข้า?”
เฟิง เหย่เก้อร์ วางหมอนไว้ด้านหลังของนางและเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เขาก็มองไปที่นางอย่างเย็นชา
ริมฝีปากที่บางเฉียบของเขาเข้ากัดเข้าหากัน “บางสิ่งบางอย่างเพื่อคืนความแข็งแรงให้กับเจ้า”
“อ่า เช่นนั้นก็ขอบคุณศิษย์พี่” มิฉะนั้นนางคงจะต้องหมดสติไปสักสองสามวันและเมื่อถึงเวลานั้นใครรู้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมากแค่ไหน
นี้อยู่นอกเหนือจากความคาดหวังของนาง
เฟิง เหย่เก้อร์ ยังนั่งอยู่ในจุดเดิม ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา
“เจ้ามีเรื่องอื่นที่จะต้องพูดกับข้าหรือไม่”
“อืม? พูดอะไรหรือ?”
อารมณ์ที่ดีแต่เดิมของเฟิง เหย่เก้อร์ดิ่งลงอีกครั้ง
นางวางแผนจะซ่อนทุกสิ่งทุกอย่างจากเขาหรือ?
“พิษของฮูหยินเก้าคือ ‘พันวันมึนเมา‘?”
โหลว ชิงอู๋ แข็งค้างไปเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้า “ใช่”
“แล้วเจ้าวางแผนจะรักษามันอย่างไร?”
“…. ” หัวของโหลว ชิงอู๋ เจ็บเล็กน้อย “ข้ายังไม่ได้คิดถึงวิธีใดๆ เลย”
“แต่เจ้ากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ไม่ใช่หรือ? คิดว่าจะดึงหนอนวูดูมาไว้บนตัวเจ้าเอง? อย่าแม้แต่จะคิด! หนอนวูดูนั้นอยู่ในร่างของฮูหยินเก้ามาเป็นเวลานานเกินไป มันจึงพึ่งพากันและกันแล้ว ช่วงเวลาที่เจ้าดึงมันออกมา มันจะกลายเป็นอันตรายอย่างไม่น่าเชื่อสำหรับเจ้า เจ้าเคยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่? ”
ใบหน้าของโหลว ชิงอู๋ซีดลง นางจะไม่คิดเกี่ยวกับความเป็นไปได้นี้ได้อย่างไร?
แต่ … ถึงแม้ว่านางจะมาอ้อนวอนนาง แต่นางจะละทิ้งมารดาของนางได้อย่างไร?
ไม่ว่าจะอย่างไร นางก็ให้กำเนิดนางมา
นางลดสายตาลง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความมืดมน
มือของเฟิง เหย่เก้อร์ที่กำแน่นก่อนหน้าเริ่มคลายออก
ก่อนจะลูบหน้าผากของเขาอย่างยอมแพ้ “เจ้า เจ้าเคยคิดถึง … “
คนที่ห่วงใยเจ้าหรือไม่?
เฟิง เหย่เก้อร์ ไม่สามารถพูดถึงข้อความสุดท้ายของคำถามของเขาออกมาดัง ๆได้
เขากลัวว่าถ้าเขาจะเปิดเผยความรู้สึกของเขาที่มีต่อนางแม้เพียงเล็กน้อยออกมา เขากลัวว่านางจะทำตัวเหินห่างจากเขา
เพราะเขาห่วงใยนางมากเกินไป ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะพูด
โหลว ชิงอู๋ส่ายหัว “ศิษย์พี่ ข้าก็รักชีวิตของตัวเอง และจนกว่าข้าจะหมดหนทางจริงๆ ข้าถึงจะลงมือ “
“จริงๆหรือ?” การแสดงออกของเฟิง เหย่เก้อร์ดูดีขึ้นมาเล็กน้อย “เจ้าจะไม่ทำอะไรวู่วาม?”
โหลว ชิงอู๋ เห็นความกังวลในสายตาของเขาและในที่สุดก็พยักหน้า “อืม”
“เอาล่ะ ข้าจะเชื่อเจ้าในครั้งนี้”
ตราบเท่าที่นางไม่ได้ทำอะไรวู่วาม เขาก็จะคิดหาวิธีอื่นในการรักษาพิษของหนอนวูดู
แม้ว่าพิษ ‘พันวันมึนเมา‘ จะไม่สามารถรักษาได้ด้วยยาและเนื่องจากเดิมทีหนอนวูดูก้ถูกสร้างมาเพื่อควบคุมคน
ดังนั้นมันจะไม่น่าแปลกใจ ถ้านางจะมีทางออกไว้สำหรับตัวเอง