ผู้กล้าเหนือกาลเวลาบทที่ 215 เพลิงพิโรธเผาสมุทร

บทที่ 215 เพลิงพิโรธเผาสมุทร

บทที่ 215 เพลิงพิโรธเผาสมุทร

ยอดเขาหกของสำนักเจ็ดเนตรโลหิต ขุนเขาทั้งลูกภายใต้การหลอมหลายปีมานี้ของนายท่านหกกลายเป็นปราการสงครามไปแล้ว

นอกจากเขาแล้วไม่มีใครรู้ว่าในยอดเขาลำดับหกนี้มีอาวุธเวทเท่าใด สามารถสำแดงพลังน่าตื่นตะลึงเช่นใดออกมาได้

ตอนนี้ก็เป็นปฏิบัติการครั้งแรกของปราการสงครามยอดเขาลำดับหก

แม้จะยังไม่ได้สำแดงพลานุภาพโดยสมบูรณ์ แต่ลำเพียงการร่นขอบฟ้าครั้งนี้บนทะเลก็ทำให้ทุกคนจิตใจเกิดคลื่นยักษ์ซัดโหมแล้ว

ร่นขอบฟ้า นั่นคือพลังวิเศษที่อัศจรรย์ยิ่งกว่าการเคลื่อนย้ายชั่วพริบตาเสียอีก ต้องใช้พลังเวทที่มากกว่า และสามารถเคลื่อนย้ายภูเขาทั้งลูก สามารถจินตนาการได้ว่าแหล่งพลังงานหลักในปราการสงครามนี้จะต้องเป็นที่น่าสะพรึงสำหรับคนที่ได้ยินแน่นอน

เสี้ยวพริบตาต่อมา ขุนเขามหึมาก็มาปรากฏบนท้องฟ้าทะเลต้องห้าม พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วไปยังที่ไกลตลอดทาง

ทุกที่ที่พาดผ่าน ทะเลข้างล่างคลื่นซัดโหมแผ่ซ่าน อสูรทะเลจำนวนนับไม่ถ้วนต่างสั่นสะท้าน อยู่ใต้ทะเลไม่กล้าเข้าใกล้ผิวน้ำ

เรือสินค้าบนทะเลแต่ละลำเหมือนใบไม้ลอยละล่อง ผู้บำเพ็ญในนั้นหลังจากเงยหน้ามองเห็นภูเขาลูกมหึมาส่งเสียงสะเทือนเลื่อนลั่นผ่านไป จิตใจต่างเกิดระลอกคลื่นรุนแรง สีหน้าตื่นกลัวเป็นอย่างยิ่ง

และในภูเขาตอนนี้ สวี่ชิงก็เป็นเช่นกัน ต่อให้เป็นนายกองก็ใจสั่นสะท้านไปเช่นกัน ดวงตาแดงก่ำมองซ้ายมองขวา ดวงตาวาววาบ

ข้างหน้าของพวกเขาทั้งสองคนคือนายท่านหกถือกาเหล้ามองไปไกลข้างหน้า

สีหน้าเคร่งเครียด ในกายเหมือนมีทะเลเลือดพวยพุ่ง ความรุนแรงของจิตสังหารส่งอิทธิพลต่อท้องฟ้า ทำให้จากการพุ่งไปข้างหน้าของขุนเขาที่หก สายฟ้าแลบแปลบปลาบในท้องฟ้า สายอัสนีแต่ละทางๆ แผ่ลามฟาดผ่า ประดุจงูเงินหางเพลิง

รัศมีอำนาจน่าตื่นตะลึง

“เผ่าดาราสมุทรเป็นเผ่าเล็กๆ ความสามารถของเผ่าอย่าพูดถึงว่าจะเอามาเปรียบเทียบกับสำนักเจ็ดเนตรโลหิตเรา ต่อให้เป็นเผ่าเงือกก็ยังสู้ไม่ได้ ผู้บำเพ็ญระดับแก่นลมปราณในสำนักมีเพียงแค่เจ็ดคนเท่านั้น

ตอนนี้ตายไปแล้วสามตน ยังเหลืออีกสี่” นายท่านหกเอ่ยเสียงราบเรียบ

“ที่แข็งแกร่งที่สุดคือบรรพจารย์ดาราสมุทร เป็นผู้บำเพ็ญระดับแก่นลมปราณบริบูรณ์ แต่ข้าสงสัยว่ามันน่าจะทะลวงขั้นตั้งนานแล้ว ก็แค่แอบซ่อนเอาไว้เท่านั้น นอกจากมันแล้ว ผู้บำเพ็ญแก่นลมปราณสามตนที่เหลือล้วนเป็นช่วงต้น

“ในนั้นรวมถึงหัวหน้าเผ่าดาราสมุทรนั่นด้วย หัวหน้าเผ่าตนนี้มีความเกี่ยวพันทางสายเลือดกับบรรพจารย์ของเผ่า เป็นลูกของมัน และเป็นหัวหน้าเผ่าด้วยเหตุนี้

“สรุปแล้ว นี่เป็นเผ่าเล็กๆ เผ่าหนึ่ง และเผ่าเล็กๆ แบบนี้มีความกล้าที่จะหาเรื่องสำนักเจ็ดเนตรโลหิตและเผ่าที่มีอัจฉริยะฟ้าประทานเผ่าอื่นๆ จะมองอย่างไรก็ไม่ชอบมาพากล

“ดังนั้น สวี่ชิงหลังจากเจ้าไปถึงแล้วต้องระมัดระวังหน่อย เผ่าดาราสมุทร…อาจจะมีเรื่องราวความลับอะไรบางอย่าง” นายท่านหกเอ่ยอย่างสงบนิ่ง

สวี่ชิงพยักหน้าเงียบๆ

นายกองไม่พูดอะไร ฉวยโอกาสที่สวี่ชิงและนายท่านหกไม่ได้สนใจตัวเอง เขาถอยหลังไปหลายก้าว ลูบๆ หินภูเขาบนพื้น ประกายในแววตายิ่งเข้มข้น เห็นได้ชัดว่า…เขาชอบของวิเศษชิ้นนี้มาก

แต่ไม่รอให้นายกองสำรวจนานเท่าไร จากเสียงดังสนั่นหวั่นไหวของยอดเขาลำดับหกที่ดังขึ้นอีกครั้ง สายฟ้าฟาดสะเทือนเลื่อนลั่น ดวงดาวเคลื่อนย้าย ขุนเขาทั้งลูกเคลื่อนย้ายร่นขอบฟ้าอีกครั้ง ครั้งนี้…มาปรากฏกลางท้องฟ้าเผ่าดาราสมุทรทันที

เผ่าดาราสมุทรอยู่ระหว่างสำนักเจ็ดเนตรโลหิตและเกาะเผ่าเงือก ดินแดนของเผ่ามีเพียงแค่เกาะเดียวเท่านั้น มองจากท้องฟ้าลงไปเหมือนปลาดาวขนาดมหึมา แต่ก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าถูกเผ่าดาราสมุทรตบแต่งในภายหลัง ไม่ได้เป็นปลาดาวตัวมหึมานอนพักอยู่ตรงนี้มาโดยตลอด

มองจากท้องฟ้าไกลลงมา จะเห็นในเผ่าดาราสมุทรมีห้าเมืองหลัก สิ่งก่อสร้างส่วนมากล้วนก่อขึ้นจากปะการัง ในขณะเดียวกันเอกลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดคือต้นปะการังจำนวนนับไม่ถ้วนที่เติบโตอยู่บนเกาะ!

นี่เป็นต้นไม้ที่รูปร่างเหมือนปะการัง แต่ละต้นล้วนสูงใหญ่ ตอนกลางคืนจะส่องประกายแสงห้าสีออกมา ส่วนยามกลางวันจะเป็นสีเทาไปทั่วทั้งบริเวณ

ในขณะเดียวกัน สิ่งก่อสร้างมากมายล้วนสร้างอยู่บนต้นปะการังยักษ์แต่ละต้นเหล่านี้ อีกทั้งสมาชิกเผ่าดาราสมุทรทั้งเผ่ามีประมาณแสนกว่าเห็นจะได้ เนื่องจากการปกป้องคุ้มครองของสำนักเจ็ดเนตรโลหิต ดังนั้นหลายปีมานี้จึงไม่โดนคลื่นความวุ่นวายสักเท่าใด ตอนนี้ดูแล้วยังนับว่าเจริญรุ่งเรือง

และการปรากฏขึ้นของยอดเขาลำดับหกก็ดึงความสนใจของเผ่าดาราสมุทร พวกเขาแม้จะไม่รู้จักปราการสงครามมหึมายอดเขาลำดับลูกนี้ แต่ผู้แข็งแกร่งในเผ่าก็ยังสัมผัสได้ถึงระลอกคลื่นวิชาเจ็ดเนตรโลหิต

ดังนั้น แทบจะในเสี้ยวพริบตาที่ยอดเขาลำดับหกปรากฏขึ้น จิตเทพทางหนึ่งก็แผ่ออกมาจากในเผ่าดาราสมุทร

“เป็นสำนักเจ็ดเนตรโลหิตที่มาเยือนใช่หรือไม่ ไม่ทราบว่าเป็นผู้อาวุโสท่านใดที่มาเยี่ยมเยือน หากมีอะไรขาดตกบกพร่อง ขอท่านได้โปรดอภัยด้วย” สิ่งที่ปรากฏขึ้นตามจิตเทพที่คือชายชราสวมชุดคลุมยาวห้าสีคนหนึ่ง

ชายชราคนนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม มองความคิดที่อยู่ในใจไม่ออก ตอนนี้ลอยตัวจากพื้นขึ้นมาบนฟ้า ประสานหมัดคารวะไปทางยอดเขาลำดับหก

แต่สิ่งที่ตอบรับเขาคือดัชนีที่ผันแปรมาจากจิตสังหารท่วมฟ้าของนายท่านหกที่ยืนอยู่บนยอดเขา

ดัชนีหนึ่งฟาดลงมา ทันใดนั้นขุนเขาที่หกที่มีขนาดมหึมาก็เหมือนตราประทับตราหนึ่ง กดทับลงมายังเผ่าดาราสมุทรที่อยู่ข้างล่างอย่างโหดเหี้ยม

ภายใต้การกดทับนี้ฟ้าดินสะเทือนเลื่อนลั่น มิติแตกร้าว พลังกดดันทรงพลังไม่อาจต้านทานมหาศาลกลุ่มหนึ่งประทับลงมายังเผ่าดาราสมุทร ทำให้ยอดเขาทุกยอดเขาในเผ่าสั่นคลอนเกิดรอยแยก จากนั้นก็แตกเป็นเสี่ยงๆ ระเบิดออก

แม้แต่ผืนดินก็เป็นเช่นนี้ ภายใต้การถูกประทับลงมาของพลังกดดันกลุ่มนี้ก็ถล่มเป็นหลุมหลายที่

ภาพนี้ทำให้ชายชราเผ่าดาราสมุทรที่ออกมาต้อนรับคนทั้งหลายหน้าเปลี่ยนสี

“นายท่านหก นี่หมายความว่าเช่นไร!”

“ข้าหมายความเช่นไร เจ้าว่าข้าหมายความว่าเช่นไรเล่า!!” จิตสังหารในใจของนายท่านหกควบคุมเอาไว้ไม่ได้อีกต่อไป เอ่ยอย่างเยือกเย็นน่าขนลุก ร่างก้าวไปกลางอากาศ มาปรากฏข้างหน้าบรรพจารย์เผ่าดาราสมุทรตนนั้นทันที มือขวาเงื้อขึ้นแล้วคว้าไปเต็มแรง

ฟ้าดับดินมืด อาทิตย์จันทราอับแสง ผืนนภาแหลกร้าว!

บรรพจารย์เผ่าดาราสมุทรไม่อาจหลบหลีกได้ ถูกนายท่านหกคว้าหัวเอาไว้ จากการบีบอย่างโหดเหี้ยมของนายท่านหก ร่างของมันก็ส่งเสียงบึ้ม ระเบิดทันที

ทว่าท่ามกลางการระเบิดนี้มีเงาเลือดทรงปลาดาวทางหนึ่งบินออกมา ปรากฏร่างขึ้นใหม่ในที่ไกล กระอักเลือดสดๆ ออกมา ถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว ในดวงตาฉายแววหวาดกลัว

“นายท่านหก เข้าใจอะไรผิดหรือไม่!”

นายท่านหกมองบรรจารย์เผ่าดาราสมุทรที่หลอมร่างขึ้นอีกครั้งอย่างเย็นชา

“เจ้าอำพรางพลังบำเพ็ญจริงๆ ด้วย ทะลวงถึงระดับปราณก่อนกำเนิดแล้ว แต่ไม่เป็นไร แบบนี้ถึงจะสนุก…ส่วนเจ้าทำให้ข้าต้องทนทุกข์กับความเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียบุตรชาย ข้าก็จะให้เจ้าได้ลิ้มรสความเจ็บปวดจากการที่เผ่าของเจ้า แผ่นดินของเจ้า ทุกอย่างของเจ้าจะย่อยยับต่อหน้าเจ้า”

ระหว่างที่นายท่านหกพูด มือขวาก็ยกขึ้นประสานปางมือแล้วกดลงมาทันที

ทันใดนั้นขุนเขายอดเขาลำดับหกส่งเสียงดังกึกก้อง ประทับลงมายังเผ่าดาราสมุทรที่อยู่ข้างล่างอย่างรวดเร็ว

ไม่ได้กดลงมาโดยสมบูรณ์ แต่หลังจากที่อยู่กลางท้องฟ้าประมาณพันจั้งก็หยุดลง เปลวไฟสีฟ้าแต่ละทางๆ แผ่ซ่านออกมาจากขุนเขา ปกคลุมไปที่เกาะเผ่าดาราสมุทรทั้งเผ่าข้างล่างทันที

มองไกลๆ เปลวไฟสีฟ้านี้เหมือนอัคคีสวรรค์ไหลวนปกคลุมไปทั่วทุกทิศ ทั้งเหมือนดาวตกร่วงสู่พื้นดิน ส่งเสียงสนั่นหวั่นไหวไปทั่ว ทำให้น้ำทะเลที่อยู่ภายใต้อุณหภูมิสูงเดือดพล่าน ทำให้สิ่งก่อสร้างนับไม่ถ้วนในเผ่าดาราสมุทรลุกไหม้ทันที เสียงร้องโหยหวนชวนสังเวชดังก้องไม่หยุด

“หลอมมันเสีย!”

“หลอมเผ่าของเจ้า หลอมแผ่นดินของเจ้า หลอมสายเลือดของเจ้า ข้าจะหลอมเผ่าดาราสมุทรของเจ้าทั้งเป็น หลอมให้มันกลายเป็นเทียนเล่มหนึ่ง จุดติดอยู่หน้าหลุมศพของบุตรชายที่รักของข้าทุกเช้าค่ำ!!”

นายท่านหกดวงตาแดงก่ำ บ้าคลั่งไปแล้ว ขณะที่สะบัดมือ ยอดเขาลำดับหกก็มีอาวุธเวทสงครามเป็นแถวๆ ปรากฏขึ้น ต่างปะทุขึ้นพร้อมกัน เกิดเป็นลำแสงเป็นทางๆ พุ่งไปยังแผ่นดินเผ่าดาราสมุทร

ทั้งยังมีหุ่นเชิดพวกนั้นที่รายล้อมอยู่รอบๆ ทุกตัวต่างมีจิตสังหารลอยเอ่อ พุ่งไปยังเผ่าดาราสมุทร ทำการฆ่าสังหาร

ยิ่งไปกว่านั้นคือลูกศิษย์และผู้อาวุโสของยอดเขาลำดับหกตอนนี้ก็พุ่งไปเช่นกัน

ภาพนี้ ทำให้บรรพจารย์เผ่าดาราสมุทรตนนั้นสีหน้าเคร่งเครียด คิดจะขัดขวาง ทว่าเสี้ยวพริบตาต่อมา นายท่านหกก็มาถึงพร้อมด้วยจิตสังหาร เสียงดังสนั่นหวั่นไหวเกิดขึ้นทันที

บรรพจารย์เผ่าดาราสมุทรกระอักเลือดอีกครั้ง ดวงตาแดงก่ำ เส้นสีเงินเส้นหนึ่งปรากฏวาบขึ้นในดวงตา พลังของเขาเพิ่มขึ้นทันที เกิดเป็นลมพายุรุนแรงนอกกาย ในขณะที่กวาดสยบทั่วทุกสารทิศ พลังรัศมีอำนาจของนายท่านหกทางนั้นแข็งแกร่งกว่า สะกดสยบลงมา

ในขณะเดียวกัน สวี่ชิงและนายกองก็ทะยานตัวพุ่งไปที่พื้น

ในเสี้ยวพริบตาที่ร่อนลง สวี่ชิงเหยียบลงบนต้นปะการังต้นหนึ่ง

ตอนนี้เป็นกลางวัน ต้นปะการังสีเทาทนไม่ได้ก็สลายไป สวี่ชิงดวงตาแดงก่ำ จิตสังหารที่อัดอั้นในกายจนถึงตอนนี้ก็ไม่สามารถสะกดเอาไว้ได้อีกต่อไป ทะยานไปหาเผ่าดาราสมุทรที่อยู่ข้างหน้า

นายกองไม่ได้ไปพร้อมกับสวี่ชิง หลังจากร่อนลงก็ตามอยู่ข้างหลังเงียบๆ เพราะเขารู้ ความกราดเกรี้ยวบ้าคลั่งในใจสวี่ชิงตอนนี้รุนแรงมาก ความกราดเกรี้ยวบ้าคลั่งนี้จำต้องใช้เลือดและการสังหารปริมาณมหาศาลถึงจะสลายไป

สำหรับเขา เผ่าดาราสมุทรไม่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นคำสั่งลับๆ ภายหลังที่นายท่านเจ็ดมอบให้เขา หรือจะเป็นมิตรภาพเต๋าระหว่างเขากับสวี่ชิง ล้วนทำให้เขาปรารถนาอยากให้สวี่ชิงฟื้นฟูเร็วๆ

ดังนั้นการติดตามมาครั้งนี้ของเขามีเพียงเป้าหมายเดียว นั่นคือ…ร่วมเคียงข้าง

“ฆ่าเถิด ศิษย์น้องน้อย ในกลียุคนี้ การสังหารเป็นการระบายอารมณ์เพียงสิ่งเดียวเท่านั้น ตอนนั้นข้าก็ผ่านมาเช่นนี้เช่นกัน ไม่บดขยี้สักสามสี่เผ่า จะทำให้คนเคารพยำเกรงได้อย่างไรเล่า” นายกองพึมพำ ในตามีความบ้าคลั่ง

ส่วนสวี่ชิงที่อยู่ข้างหน้าก็เริ่มสังหารแล้ว

ไฟชีวิตในกายสวี่ชิงกระตุ้นขึ้น เหล็กแหลมสีดำนอกร่างแผ่แสงอัสนี สิ่งใดก็ตามที่ดวงตาสวี่ชิงเห็น ก็จะเป็นเป้าโจมตี เสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่นก้องฟ้าทันที ส่วนการลงมือของสวี่ชิงยิ่งโหดเหี้ยมน่าตกใจ เพียงพริบตาก็มาอยู่หน้าผู้บำเพ็ญระดับสร้างฐานเผ่าดาราสมุทรตนหนึ่ง

ก่อนที่อีกฝ่ายจะตั้งตัว สวี่ชิงก็กระแทกมา ท่ามกลางเสียงดังสนั่น ร่างของผู้บำเพ็ญเผ่าดาราสมุทรตนนี้ก็แหลกละเอียด ระเบิดทันที

และในร่างของมันก็มีหนอนสีเงินตัวเล็กๆ ที่เหมือนกับเส้นไหมจำนวนหนึ่ง ตอนนี้กำลังชอนไชอยู่ในก้อนเนื้อ และแห้งเหี่ยวไปตามการแหลกละเอียดของผู้บำเพ็ญเผ่าดาราสมุทรตนนี้

สวี่ชิงกวาดตามองแวบหนึ่ง ร่างเพียงไหววูบก็พุ่งไปยังศาลบรรพบุรุษเผ่าดาราสมุทรในที่ไกล ที่นั่นคือที่ที่หัวหน้าเผ่าดาราสมุทรนั่งสมาธิ หลอมยาลูกกลอนในยามปกติ

ระหว่างทางมา นายท่านหกก็บอกข้อมูลทุกอย่างที่ได้จากการหลอมวิญญาณ พวกเขาแบ่งแยกงานกันชัดเจน นายท่านหกจะแก้แค้นบรรพจารย์เผ่าดาราสมุทร ในขณะเดียวกันก็จะหลอมเผ่าดาราสมุทรทั้งเผ่าด้วย

ส่วนเป้าหมายของสวี่ชิงคือหัวหน้าเผ่าตนนั้น เพราะเป็นอีกฝ่ายที่ออกคำสั่งลอบสังหารปรมาจารย์ไป่

ดังนั้นตอนนี้หลังจากร่อนลง ความเร็วของสวี่ชิงก็น่าตกใจ ในกายเหมือนมีเตาหลอมยักษ์ลุกไหม้ พุ่งตรงไปยังศาลบรรพชนของเผ่าดาราสมุทร

ทุกที่ที่พาดผ่าน จากการร่วงลงมาของเปลวไฟสีฟ้าบนท้องฟ้า สิ่งก่อสร้างทุกอย่างล้วนลุกไหม้ สมาชิกเผ่าดาราสมุทรนับไม่ถ้วนส่งเสียงร้องโหยหวนชวนเวทนาออกมาจากเปลวไฟนี้

แผ่นดินแหลกราญย่อยยับ ภายใต้อุณหภูมิสูงนี้ก็ละลายด้วยความเร็วที่ตาเปล่ามองเห็น พื้นที่ลุ่มหลายๆ แห่งมีการสะสมจากเปลวไฟสีฟ้า คล้ายว่าจะแทรกซึมไปในดิน ไปทำการหลอมในชั้นที่ลึกลงไป

แล้วยังมีหุ่นเชิดยอดเขาลำดับหกแต่ละตัวๆ เหล่านั้นที่มาพร้อมด้วยจิตมุ่งมั่นของนายท่านหก สังหารอย่างรวดเร็ว ลูกศิษย์ยอดเขาลำดับหกก็เช่นกัน ปฏิบัติตามคำสั่งของนายท่านหก

ทั้งเผ่าดาราสมุทรวุ่นวายปั่นป่วนต้นปะการังแต่ละต้นๆ ล้มโค่น พื้นดินถล่มยุบไปทั่ว เมืองหลักห้าเมืองตอนนี้มีสามเมืองที่ตกอยู่ในทะเลเพลิงสีฟ้าเข้มข้นไปแล้ว

ควันดำลอยโขมง

ความเร็วของสวี่ชิงเร็วยิ่งกว่า เพียงพริบตาก็ประชิดไปยังผู้บำเพ็ญเผ่าดาราสมุทรที่ขวางการพุ่งไปข้างหน้าของเขา มือขวาของเขาเงื้อขึ้นแล้วฟาดลงมา วิชาวิหคทองหลอมหมื่นวิญญาณเพียงสูด ผู้บำเพ็ญตนนี้ร่างสะท้านเฮือกทันที แล้วกลายเป็นโครงกระดูก

ความเร็วของสวี่ชิงไม่ลดลง วิหคทองที่อยู่ข้างหลังติดตาม เพลิงแดงลอยเอ่อประดุจผ้าคลุม รอบๆ สวี่ชิงยิ่งมีหมอกดำมหาศาลวนล้อม ก่อตัวเป็นใบหน้าเหี้ยมเกรียมกลางอากาศ ในนั้นมีแมลงสีดำตัวเล็กยั้วเยี้ย

และยังมีเงาบนพื้นที่ติดตามอย่างเร็วรี่ เหล็กแหลมสีดำเองก็เช่นกัน

มองไกลๆ สวี่ชิงในตอนนี้ราวเทพพิฆาตมาเยือนโลก ทุกที่ที่พาดผ่าน การขัดขวางทุกอย่าง ล้วนดับดิ้นแตกสลายไปสิ้น!!

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา

Score 10
Status: Completed
เมื่อเขากลายเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวในเมืองที่ถูกพลังของเทพเจ้าทำลายล้าง... รายละเอียด กำลังภายใน-เทพเขียนเรื่องใหม่จากนักเขียนชื่อดัง 'เอ่อร์เกิน' ผู้เขียน 'หนึ่งความคิดนิจนิรันดร์' 'สู่วิถีสุรา' ฟื้นลิขิตฟ้าข้าขอเป็นเขียน' 'หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา' เมื่อเทพเจ้าลืมตาจับจ้องมา โลกก็เกิดการเปลี่ยนแปลง ไอพลังประหลาดกระจัดกระจายไปทั้งโลกมนุษย์ เกิดการกลายพันธุ์ต่อสรรพชีวิตบนโลก 'สวี่ชิง' เด็กหนุ่มผู้รอดชีวิตใช้ชีวิตเพียงลำพัง ดิ้นรนเอาตัวรอดจากอสูรร้ายและไอพลังประหลาดได้พบกับพลังวิเศษ แต่ในโลกกลียุคเช่นนี้ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นจึงจะมีชีวิตรอด เพื่อที่จะแก้แค้นให้กับคนที่รัก เพื่อตามหาครอบครัวที่อาจจะมีชีวิตอยู่ที่ใดสักแห่ง เขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้นให้ได้ . . . เขาต้องรอด!!!

Options

not work with dark mode
Reset