ผู้กล้าอาคมดํา ตอนที่ 28
หลังจากอาบน้ําชําระกายเสร็จแล้ว ร็อดก็หยิบเสื้อผ้าของเอลล็อตภายในแหวนมิติออกมาสวมใส่ จากนั้นจึงนําชุดคลุมที่พับเอาไว้อย่างเรียบร้อยออกมาสวมทับ
หลังจากสวมชุดคลุมแล้ว ผ้าคลุมผืนใหญ่ก็ได้ปกปิดรูปร่างของร็อดเอาไว้ และหลังจากที่สวมหมวกคลุม มองจากภายนอกก็ยากจะเห็นใบหน้าของร็อด ตั้งแต่หัวจรดเท้าล้วนถูกห่อหุ้มเอาไว้ด้วยชุดคลุมสีดํา
หลังจากจัดแจงเสื้อผ้าจนเข้าที่แล้ว ร็อดก็พาแวมไพร์เดินเลียบไปตามแม่น้ํา เพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองที่อยู่ใกล้ที่สุดในแผนที่
เดินมาได้สักพัก ร็อดก็เห็นว่าที่ด้านหน้าของเขามีกวางกลุ่มหนึ่งกําลังกินน้ําอยู่ จู่ๆก็เกิดระลอกความคิดขึ้นในตราประทับวิญญาณ แวมไพร์กําลังขออนุญาตจากเขา
เนื่องเพราะอาการบาดเจ็บยังไม่หายดี เมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตอยู่ตรงหน้า แวมไพร์จึงไม่อาจยับยั้งความหิวกระหายตามสัญชาตญาณ แต่หากปราศจากคําอนุญาตจากร็อด มันก็ไม่กล้าลงมือ
เมื่อคิดว่าเลือดและเนื้อสดๆของกวางพวกนี้สามารถเร่งกระบวนการฟื้นฟูของแวมไพร์ได้ ร็อดจึงอนุญาตวินาทีถัดมา แวมไพร์ก็พุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อแวมไพร์พุ่งตัวออกไปได้ครึ่งทาง พวกกวางก็รู้สึกตัวและหลบหนี แวมไพร์ไล่ตามกวางตัวหนึ่งไปก่อนจะตวัดกรงเล็บออกไป จากนั้นจึงเบนสายตาไปยังกวางตัวถัดไป
กวางที่ถูกแวมไพร์จู่โจมยังคงวิ่งหนีต่อไป บนร่างกายของมันปรากฏแผลลึกสี่รอย หลังจากวิ่งไปได้เพียงไม่กี่ก้าว กวางตัวแรกก็ล้มลงเพราะทนบาดแผลไม่ไหว แต่เพราะหยุดลงมือกับกวางตัวแรก กวางตัวที่เหลือจึงมีเวลาให้วิ่งหนี ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่แวมไพร์จะตามทันได้
พวกกวางกระจายตัวกันหนีหายเข้าไปในป่า แต่มีกวางตัวหนึ่งที่อยู่ใกล้กับร็อดมาก
ร็อดมือยกขึ้นเล็งก่อนจะใช้ [เมจิกแอโรว์] ศรเวทดอกหนึ่งพุ่งเข้าใส่กวางที่อยู่ใกล้ๆตัวนั้นและทะลวงร่างมันจนเป็นรู กวางล้มลงจมกองเลือด
เมื่อเห็นว่าไล่ตามกวางตัวที่เหลือไม่ทันแล้ว แวมไพร์ก็กลับไปหากวางตัวแรกก่อนจะเริ่มกัดกินเลือดเนื้อของมัน
ขณะที่แวมไพร์กําลังกินกวางอยู่นั้น ร็อดก็เปิดข้อความจากระบบขึ้นมาดู
กวางนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตไร้ลําดับขั้น ดังนั้นจึงไม่ให้ค่าประสบการณ์ใดๆหลังจากที่ฆ่าได้ ร็อดที่คาดการณ์เอาไว้ก่อนแล้วจึงไม่ได้รู้สึกผิดหวังอะไรนัก
ร็อดลองทําการทดลอง หลังจากเปลี่ยนรางวัลความสําเร็จ เขาก็ลองใช้ [ปลุกชีพ กับกวางบนพื้น ผลลัพธ์ของมานาที่จะต้องใช้คือ 5 หน่วย ซึ่งเท่ากับการใช้ [เมจิกแอโรว์] 1 ครั้ง ในใจของร็อด ลพันบังเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา
แวมไพร์จัดการกวางตัวนั้นเสร็จในเวลาไม่นาน และความผันผวนของรอยประทับวิญญาณก็แข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย
ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปต่อ ร็อดก็ใช้ [ปลุกชีพ] กับกวางบนพื้น
ภายใต้ผลของ [ปลุกชีพ] เลือดของกวางที่ตายแล้วเริ่มจับตัวแข็งก่อนจะหยุดไหลในที่สุด แม้จะมีบาดแผลจากการถูกแวมไพร์กัดแทะ แต่กวางที่ตายไปแล้วก็ยังลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง
แต่เนื่องเพราะกวางไม่ถูกจัดอยู่ในลําดับขั้นและแทบจะไม่มีพลังโจมตี ดังนั้นถึงแม้ว่าจะถูกปลุกชีพขึ้นมา แต่มันก็ไม่ถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทอันเดด
แต่เดิมทีร็อดก็ไม่ได้จะใช้กวางซอมบี้มาสู้ในฐานะอันเดดอยู่แล้ว แต่เขาจะใช้มันด้วยวิธีการอื่น
ร็อดพลิกตัวปีนขึ้นไปนั่งบนหลังกวาง จากนั้นจึงออกคําสั่งผ่านทางตราประทับวิญญาณให้มันเดินหน้า
พวกอันเดดนั้นไม่มีข้อจํากัดทางกายภาพ ดังนั้นร็อดจึงเลือกที่จะเปลี่ยนกวางให้กลายเป็นพาหนะของเขา ทําให้ช่วยย่นเวลาที่จะไปถึงเมืองเป้าหมาย
ร็อดทําเช่นเดียวกันกับกวางอีกตัว จากนั้นจึงให้แวมไพร์ขึ้นไปขี่มัน
พวกเขาออกเดินทางต่อ ด้วยเพราะมีกวางเป็นพาหนะ ต่อให้เส้นทางจะขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อ แต่ความเร็วในการเดินทางก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ในระหว่างการเดินทาง พวกเขาไม่ได้พบเจอสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆอีก และก่อนที่ท้องฟ้าจะมืด ร็อดก็มองเห็นตัวเมือง
จากการประเมินดูแล้ว เขาคิดว่าเมืองแห่งนี้สมควรเป็นเมืองขนาดเล็กเมืองหนึ่ง และอาจเป็นเพราะใกล้ค่ํา ที่ประตูเมืองจึงมีคนอยู่มากมาย
ตามบันทึกการเดินทางของเอลล็อต เอลล็อตเคยมาซื้อขายภายในเมืองแห่งนี้ ไม่ว่าจะเพื่อซื้อขายอันเดดหรือผู้กล้า ที่นี่ก็สมควรมีสมาคมการค้าอิสระตั้งอยู่ และการค้าขายกับเนโครแมนเซอร์ก็ไม่ใช่ข้อห้ามแต่อย่างใด
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหายุ่งยาก ร็อดจึงนําชุดคลุมอีกตัวออกมาให้แวมไพร์สวมใส่ไว้ จากนั้นจึงฉีกผ้าสีดําบางส่วนออกมาปกปิดใบหน้าของแวมไพร์ ไม่ให้เห็นเขี้ยวอันโดดเด่นของมัน
วิธีการนี้เพียงสามารถปกปิดรูปลักษณ์ภายนอกได้เท่านั้น แต่ไม่สามารถปกปิดออร่าของอันเดดที่แผ่ออกมาจากตัวมัน หากว่านักเวทมาพบเห็น พวกเขาจะรู้ได้ในทันที
ทั้งสองลงจากหลังกวาง จากนั้นร็อดจึงใช้ดาบฆ่ากวางทิ้ง ตระเตรียมจะเข้าเมือง
ในช่วงเวลาแบบนี้ยังคงมีผู้คนเข้าออกเมืองเป็นปกติ ร็อดนําแวมไพร์ไปต่อด้านหลังของแถว
ก่อนที่จะเข้าเมืองนั้น ทหารที่เฝ้าประตูเมืองจะตรวจสอบสิ่งของสัมภาระของผู้ที่บรรทุกสิ่งของจํานวนมาก ส่วนผู้ที่สวมชุดทหารจะสามารถผ่านเข้าเมืองได้โดยตรง
นอกจากมหานครหรือตามเมืองใหญ่ๆแล้ว เมืองอื่นๆมักจะไม่ได้กําหนดค่าผ่านทาง แต่แน่นอนว่าอาจจะมีเมืองเล็กๆที่ขุนนางเจ้าเมืองเลือกที่จะเก็บค่าผ่านทางอยู่
ทหารไม่ได้ตรวจค้นร็อดอย่างเข้มงวดเท่าใดนัก หลังจากตรวจเพียงเล็กน้อยก็ปล่อยให้เขาเข้าไปในเมือง
เมื่อเทียบกับชาวบ้านหรือพ่อค้าที่แต่งตัวธรรมดาสามัญแล้ว การแต่งกายด้วยชุดคลุมสีดําทั้งตัวของร็อดและแวมไพร์ออกจะโดดเด่นสะดุดตาไปสักหน่อย
ทหารที่ท่าทางมีประสบการณ์ขมวดคิ้วขณะมองสํารวจดูร็อด แต่เขาก็ปล่อยร็อดเข้าไปในเมือง
หลังจากที่ร็อดเข้าไปในเมืองแล้ว ทหารที่มีประสบการณ์คนนั้นก็ส่งสายตาเป็นสัญญาณให้กับทหารคนอื่นๆ ทหารที่อยู่โดยรอบพลันเคลื่อนไหว
ในขณะที่ผ่านเข้าไปในเมือง ร็อดย่อมเห็นการเคลื่อนไหวเหล่านี้
ร็อดเข้าใจการกระทําของพวกเขา หากว่ามีเนโครแมนเซอร์ที่แข็งแกร่งต้องการจะเข้าไปในเมือง เขาเองก็คงเลือกที่จะไม่ฉีกหน้าลงมือในทันทีเพราะไม่ทราบความแข็งแกร่งของเนโครแมนเซอร์คนนั้น แต่เขาจะส่งคนไปจับตาดูเอาไว้ เพื่อไม่ให้เนโครแมนเซอร์ทําลายความสงบสุขภายในเมือง
ร็อดส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายใจ ภายในเกมเองก็มีการตอบสนองแบบนี้อยู่เช่นกัน
ภายในเกมในชีวิตที่แล้วของเขานั้น ก่อนที่จะมีภาคเสริมตัวที่สองปล่อยออกมา พวกเนโครแมนเซอร์นั้นจะถูกห้ามไม่ ให้เข้าเมืองโดยเด็ดขาด ยกเว้นที่ดีย่า เพราะว่าเคยมีครั้งหนึ่งที่เนโครแมนเซอร์เข้าไปทําลายเมืองและสร้างกองทัพอันเดดขึ้นมา ดังนั้นจึงมักจะมีผู้ตรวจสอบพิเศษคอยประจําการอยู่ที่ประตูทางเข้าเมือง เพื่อตรวจสอบผู้ที่มีความผิดปกติโดยเฉพาะ
ที่ร็อดคาดคิดไม่ถึงก็คือ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีการตรวจสอบอะไร แต่ทหารที่เจนศึกนั้นกลับสามารถค้นพบตัวตนของเขาได้โดยเพียงการมองสํารวจเท่านั้น
เมื่อเทียบกับพวกทหารเกณฑ์ที่ไม่รู้สึกตัวอะไรเลย ทหารเจนศึกสามารถวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี นี่จึงเป็นเหตุผลที่พวกเขามักจะถอนตัวออกจากกองทัพแทนที่จะสู้จนต้องตายในสงคราม
ร็อดไม่ได้สนใจมากนัก เขาเดินเข้าไปภายในเมือง
มีชายในชุดชาวบ้านคนหนึ่งเดินมาจากทางด้านหน้าของร็อดอย่างรวดเร็ว
แม้จะไม่ต้องพึ่งสกิลสอดแนม ร็อดก็รู้สึกได้ว่า แม้ชายคนนี้จะไม่ได้มองมาทางเขาแม้สักแวบเดียว แต่ความสนใจทั้งหมดล้วนอยู่บนตัวของเขา
” กําลังทดสอบกันสินะ…”
ร็อดแค่นเสียง
ขณะที่ร็อดกําลังจะเดินชายคนนั้นไป ชายคนนี้ก็ดูเหมือนจะเสียหลัก ร่างของเขาล้มมาทางร็อด ขณะเดียวกัน มือขวาของเขาก็เหมือนพยายามจะคว้าหลักยึด มือข้างนั้นยื่นมาทางร็อด