p>ผู้กล้าอาคมดำ ตอนที่ 15
หลังจากเรียนสกิลรอบรู้ ความเร็วในการอ่านตำราเวทของร็อดก็เพิ่มขึ้นมาก
ร็อดใช้เวลาไม่นานในการอ่านจนหมดเล่ม จากนั้นจึงเริ่มแยกแยะเนื้อหา ครึ่งแรกของตำราเวทนั้นเป็นบันทึกประสบการณ์ของเอลล็อตในการฝึกควบคุมอันเดดและการทำสมาธิ ขณะที่ครึ่งหลังนั้นเป็นบทร่ายของเวทมตร์ หน้ากระดาษส่วนใหญ่ยังขาวสะอาดไม่ถูกขีดเขียน
เมื่อพิจารณาเนื้อหาในตำราและทบทวนจากประสบการณ์ในชีวิตก่อนแล้ว ร็อดก็รู้สึกได้ถึงกลุ่มก้อนความรู้ใหม่ในหัว เมื่อลองเปิดข้อความจากระบบขึ้นมาอ่าน ร็อดก็พบว่ามันเป็นไปตามที่คาด
“โดยการศึกษาตำราเวท คุณได้เรียนรู้เวทมตร์ระดับหนึ่ง [เมจิกแอโรว์] [สโลว์] [บอดี้ชิลด์]”
—————————————–
[เมจิกแอโรว์ ระดับ 1]: เวทมนตร์ระดับหนึ่ง ใช้มานา 6 หน่วยและยิงศรเวทเข้าใส่ศัตรูเพื่อสร้างความเสียหาย 16 หน่วย ค่าประสบการณ์ที่ใช้ในการเลื่อนระดับ 20
—————————————–
—————————————–
[สโลว์ ระดับ 1]: เวทมนตร์ธาตุดินระดับหนึ่ง ใช้มานา 6 หน่วยเพื่อลดความเร็วของศัตรูลง 2 จุด ผลคงอยู่ 22 วินาที ค่าประสบการณ์ที่ใช้ในการเลื่อนระดับ 10
—————————————–
—————————————–
[บอดี้ชิลด์ ระดับ 1]: เวทมนตร์ธาตุดินระดับหนึ่ง ใช้มานา 5 หน่วย ลดความเสียหายที่ได้รับลง 10% ผลคงอยู่ 22 วินาที ค่าประสบการณ์ที่ใช้ในการเลื่อนระดับ 10
—————————————–
“โดยการศึกษาประสบการณ์ของนักเวทคนอื่นๆ คุณได้เข้าใจส่วนหนึ่งในศาสตร์แห่งการควบคุมอันเดด คุณสามารถศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองหรือเลื่อนสู่ระดับเชี่ยวชาญได้โดยตรงด้วยการใช้ค่าประสบการณ์ 80 หน่วย”
ค่าความเสียหายของเวทมนตร์และระยะเวลาล้วนสัมพันธ์กับค่าจิตวิญญาณของนักเวทคนนั้น
ตอนที่เขาตื่นขึ้นมาในสุสานครั้งแรก ค่าจิตวิญญาณของร็อดนั้นมีเพียงแค่ 2 ต่อมาเมื่อได้รับรางวัลความสำเร็จแบบต่อเนื่อง ค่าจิตวิญญาณในปัจจุบันของร็อดก็กลายเป็น 6 ดังนั้นผลของเวทมตร์ที่ร่ายจึงมีผลเพิ่มเติมจากปกติ
จากการกะประมาณของร็อดแล้ว ค่าจิตวิญญาณของเขาสมควรอยู่ในระดับเดียวกับนักเวทฝึกหัด กระนั้นก็ยังต่ำกว่าเอลล็อตอยู่มาก
แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นร็อดก็ยังพึงพอใจ เพราะร็อดไม่ได้ลงแต้มคุณสมบัติไปที่ค่าจิตวิญญาณเลย อาศัยเพียงโบนัสที่ได้รับจากรางวัลความสำเร็จ ค่าจิตวิญญาณของเขาก็เพิ่มมาไม่น้อยเลย
ร็อดรู้ว่าหากเขาสามารถทำสมาธิระยะปลายได้ ค่าจิตวิญญาณของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
สิ่งที่ร็อดให้ความสำคัญมากที่สุดไม่ใช่ผลในการเรียนรู้เวทมนตร์ เพราะในชีวิตก่อนเขามีประสบการณ์ทางด้านนี้อยู่แล้ว ผลเพิ่มเติมของเวทมนตร์ไม่ใช่สิ่งที่ลึกลับสำหรับแต่อย่างใด กลับกัน เรื่องที่ร็อดให้ความสนใจที่สุดก็คือประโยคสุดท้ายของข้อความ
ร็อดเปิดหน้าต่างคุณสมบัติขึ้นมาดู หลังจากที่สังหารร่างสถิตย์เวทและอันเดดตัวอื่นๆแล้ว ค่าประสบการณ์ในปัจจุบันของเขาก็คือ 215
จำนวนค่าประสบการณ์ที่มีอยู่ตอนนี้เพียงพอจะเพิ่มเลเวล แต่ร็อดเลือกที่จะไม่เพิ่มมัน เขาเลือกที่จะใช้ค่าประสบการณ์จำนวน 80 หน่วยในการเรียนรู้เวทมนตร์ควบคุมอันเดด [ตราประทับจิตวิญญาณ]
เพื่อที่จะสร้างอันเดดและควบคุมพวกมันนั้น สกิลที่ต้องใช้มีอยู่ด้วยกัน 2 สกิล
การสร้างอันเดดขึ้นมานั้นขึ้นอยู่กับทักษะในการจัดการศพของเนโครแมนเซอร์และสกิลพิเศษ [ปลุกชีพ] สกิล [ปลุกชีพ] นั้นถือเป็นสกิลหากินของเนโครแมนเซอร์เลยก็ว่าได้ นี่เป็นสกิลที่ต้องใช้แต้มในการเรียนรู้ พวกอันเดดส่วนใหญ่ก้สร้างขึ้นจากสกิลนี้เอง
แต่สกิลที่ใช้ควบคุมพวกอันเดดนั้นก็คือสกิล [ตราประทับจิตวิญญาณ] ซึ่งสามารถเรียนรู้ได้โดยการใช้ค่าประสบการณ์ หรือจะศึกษาค้นคว้าเองก็ย่อมได้
[ตราประทับจิตวิญญาณ] นั้น หลักใหญ่ใจความของมันไม่ได้ซับซ้อนอะไร แต่หลังจากที่เข้าใจหลักการของมันแล้วก็จพต้องใช้เวลาในการศึกษาที่ยาวนาน แต่หลังจากร็อดใช้ค่าประสบการณ์เป็นทางลัดไปแล้ว ร็อดก็สามารถข้ามขั้นตอนในการตีความและนำมันมาใช้ได้เลย
ว่ากันว่าเดิมทีสกิลนี้ถูกคิดค้นขึ้นโดยอาร์คเมจเพื่อใช้ในการควบคุมโกเลมที่ไม่มีชีวิต และต่อมาเวทมนตร์บทนี้ก็แพร่กระจายไปอย่างกว้างขวางโดยฝีมือของเหล่าเนโครแมนเซอร์
ร็อดเรียนรู้สกิลนี้ก็เพื่อที่จะจัดการกวาดล้างพวกหมาป่าที่อยู่ด้านล่างนั่น เขาจำได้ว่าก่อนที่เนโครแมนเซอร์ฝึกหัดคนนั้นจะเข้าไปภายในสุสาน เขาได้ส่งองค์รักษ์นักรบโครงกระดูกสองตัวล่วงหน้าเข้าไปก่อน
ในเมื่อเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดตายไปแล้ว เมื่อได้เรียนรู้สกิลนี้ ร็อดก็สามารถควบคุมนักรบโครงกระดูกที่ไร้นายทั้งสองได้ทันที!
โดยการพึ่งพาสกิล [ตราประทับจิตวิญญาณ] เนโครแมนเซอร์จะสามารถควบคุมอันเดดระดับต่ำที่ไร้นายได้ แต่มันจะไร้ผลหากใช้กับอันเดดที่มีจิตสำนึกเป็นของตนเอง
ด้วยการมีนักรบโครงกระดูกเป็นตัวชนและเบี่ยงเบนความสนใจของพวกหมาป่า ร็อดก็สามารถใช้ทักษะดาบของเขาจัดการพวกมันลงทีละตัว
ขณะที่ครุ่นคิดหาวิธีอยู่นั้น เขาก็ยังพิจารณาว่าจะใช้ศพภายในนั้นเพื่อลดความเสี่ยงลงด้วย ศพเหล่านั้นยังไม่ทันได้ถูกปลุกชีพ ดังนั้นร็อดจงสามารถนำพวกมันมาใช้ได้
แต่ก่อนอื่นเลยนั้น ร็อดจะต้องเรียนรู้สกิล [ปลุกชีพ] เสียก่อน
[ปลุกชีพ] เป็นสกิลเฉพาะของเนโครแมนเซอร์ หลังจากที่เรียนรู้สกิลนี้แล้ว ผู้เล่นก็จะถูกบังคับให้กลายเป็นอาชีพเนโครแมนเซอร์ และทางเลือกในการพัฒนาแนวทางของอาชีพระดับสูงก็จะถูกจำกัดลงมา
ร็อดกำลังลังเลว่าจะเรียน [ปลุกชีพ] ดีหรือไม่
ในชีวิตก่อนภายในเกมนั้น การผจญภัยของร็อดส่วนใหญ่อยู่ภายในบราคาดา อาณาจักรแห่งจอมเวท และข้อมูลของเนโครแมนเซอร์นั้น เขาก็เพียงเคยศึกษาจากบอร์ดสนทนา ไม่ได้รู้ข้อมูลลงลึกอะไร
บราคาดานั้นมีความเป็นปฏิปักษ์ต่อเนโครแมนเซอร์สูงมาก หากว่าเขาเรียนรู้สกิล [ปลุกชีพ] และเปลี่ยนเป็นอาชีพเนโครแมนเซอร์แล้ว ประสบการณ์ที่มีอยู่ก็อาจจะใช้ไม่ได้อีก
หลังจากเม้มปากอย่างลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ร็อดก็เริ่มนับเลขขึ้นในใจก่อนจะกดเรียนรู้สกิล [ปลุกชีพ]
ร็อดเข้าใจสถานการณ์ของตัวเองในปัจจุบันดี [ปลุกชีพ] นั้นเป็นหนทางในการเพิ่มความแข็งแกร่งที่ได้ผลที่สุดในตอนนี้ ไม่เพียงเพื่อรับมือกับฝูงหมาป่าฝูงนี้เท่านั้น แต่ยังเพื่อจัดการกับศัตรูที่จะพบเจอในอนาคต….
ต่อให้เขาไม่เรียนสกิล [ปลุกชีพ] ในตอนนี้ แต่เพื่อที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นในเวลาสั้นๆ ในอนาคตเขาก็ยังต้องเรียนมันอยู่ดี
นอกจากนี้ร็อดยังมีความมั่นใจอยู่บ้าง แม้จะไม่ได้เดินบนเส้นทางที่เคยเลือกเคยในชีวิตก่อน เขาก็ยังมีประสบการณ์อย่างล้นเหลือ อีกทั้งยังมีโบนัสจากรางวัลความสำเร็จแบบต่อเนื่อง ร็อดมั่นใจว่าเขาจะกลายเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งได้แน่
“[ปลุกชีพ] เป็นสกิลเฉพาะของอาชีพเนโครแมนเซอร์ ท่านต้องการจะเรียนรู้หรือไม่?”
เมื่อร็อดเลือกเรียนรู้สกิล [ปลุกชีพ] ระบบก็ส่งข้อความมาถามซ้ำ นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นเมื่อร้อดเรียนรู้สกิลอื่นๆ
เมื่อรู้อยู่ก่อนแล้วว่าจะมีผลอย่างไร ร็อดก็ตอบตกลง
—————————————–
[ปลุกชีพ ระดับต่ำ]: โดยการศึกษาศาสตร์แห่งความตาย คุณก็ไม่เชื่อในกำแพงที่ขวางกั้นระหว่างชีวิตและความตายอีกต่อไป ความตายในความคิดของคุณไม่ใช่จุดสิ้นสุด คุณได้ก้าวเข้าสู่โลกแห่งความตาย คุณสามารถปลุกชีพคนตาย แต่ดูเหมือนว่าดูพลังของคุณในตอนนี้อาจจะลำบากอยู่บ้าง
—————————————–
“คุณได้รับรางวัลความสำเร็จแบบต่อเนื่อง [เนโครแมนเซอร์]”
—————————————–
[เนโครแมนเซอร์]: เรียนรู้สกิล [ปลุกชีพ]
โบนัสพื้นฐาน: ค่าความสัมพันธ์ต่อเนโครแมนเซอร์+10%, ค่าความสัมพันธ์ต่อฝ่ายดี -50%, เมื่อคุณก้าวหน้าขึ้น คุณจะสามารถเลือกสายอาชีพที่เกี่ยวข้องกับศาสตร์แห่งความตายได้เท่านั้น
โบนัสเพิ่มเติมเมื่อสวมใส่: ระดับของสกิล [ปลุกชีพ] +1
—————————————–
เมื่อได้เห็นโบนัสการสวมใส่ที่อยู่ด้านล่าง ร็อดก็ตาเป็นประกาย
การใช้ [ปลุกชีพ] ในตอนที่อยู่เลเวลต่ำๆนั้นสิ้นเปลืองมานาอย่างมาก สำหรับเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดนั้น หากไม่พึ่งพาพลังความตายจากภายนอกเข้าช่วย บางทีแม้แต่ทหารโครงกระดูกสักตัวก็คงปลุกขึ้นมาไม่ได้
และเพราะสาเหตุนี้เอง การเพิ่มระดับของ [ปลุกชีพ] ขึ้นหนึ่งระดับจะสามารถช่วยลดการใช้มานาได้อย่างมาก อีกทั้งยังช่วยให้ประหยัดแต้มสกิลเพื่อไปลงสกิลอื่นๆได้อีกด้วย การสวมใส่รางวัลนี้เรียกได้ว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก
เทียบกันแล้ว โบนัสที่เพิ่มค่าความสัมพันธ์ต่อเนโครแมนเซอร์นั้นไร้ประโยชน์สุดๆ
ต่อให้ค่าความสัมพันธ์จะติดลบ แต่เพื่อที่จะบีบเค้นใช้งานคุณแล้ว เนโครแมนเซอร์ย่อมต้องปล่อยภารกิจออกมาให้คุณ และต่อให้มีค่าความสัมพันธ์เป็นบวก เมื่อถึงเวลาที่ต้องแย่งชิงทรัพยากรกัน เนโครแมนเซอร์ผู้นั้นย่อมไม่ยอมยกประโยชน์ตรงหน้าให้เพียงเพราะมีค่าความสัมพันธ์กันเล็กน้อย
หลังจากตรวจดูทุกอย่างเสร็จสิ้น ร็อดก็หยิบอาวุธออกมาจากแหวนมิติ ขณะเดียวกันก็มองไปยังทางเข้าสุสานอันมืดมิด ร็อดเตรียมจะลงมือแล้ว….