ผู้กล้าอาคมดำ ตอนที่ 11
ร็อดพุ่งเข้าหาทหารโครงกระดูกที่อยู่ด้านข้าง ก่อนที่ทหารโครงกระดูกตัวนั้นจะทันได้ตอบโต้โดยการเหวี่ยงดาบฟันใส่ศัตรูที่พุ่งเข้ามา แสงสีเงินสายหนึ่งกระพริบวูบ จากนั้นหัวกะโหลกที่ยังมีไฟวิญญาณติดอยู่ก็ลอยขึ้นฟ้า
ร็อดไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองทหารโครงกระดูกที่ถูกตัดหัว เขาตวัดดาบฟันใส่เป้าหมายต่อไปทันที
ด้วยเลเวลที่เพิ่มขึ้นและโบนัสจากรางวัลความสำเร็จแบบต่อเนื่อง พวกทหารโครงกระดูกจึงแทบจะไร้พิษสงเมื่ออยู่ต่อหน้าร็อด
ตอนที่ค่าความสามารถของเขายังต่ำ ร็อดสามารถพึ่งพาทักษะดาบอันแข็งแกร่งจัดการพวกทหารโครงกระดูกที่ค่าความสามารถสูงกว่าได้โดยไร้ซึ่งบาดแผล ตอนนี้ก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ด้วยค่าความสามารถในปัจจุบันแล้ว ขอเพียงไม่มีนักรบโครงกระดูกเข้ามาแทรกแซง ร็อดก็มั่นใจว่าจะกวาดล้างอันเดดฝูงนี้ได้ทั้งหมด
แต่แม้จะมีความมั่นใจเปี่ยมล้น ร็อดก็ไม่ได้สู้กับพวกอันเดดโดยไม่มีแบบแผน
ระหว่างที่ต่อสู้อยู่ ร็อดก็สู้ไปพลางสังเกตการเคลื่อนไหวของพวกอันเดดไปพลาง เมื่อเห็นพวกอันเดดมากระจุกตัวรวมกัน ร็อดก็จะย้ายตำแหน่ง ไม่ปล่อยให้พวกอันเดดได้มีโอกาสโอบล้อม
ขณะที่การต่อสู้ดำเนินไป ร็อดก็พบว่าต่อให้เขาไม่ได้ใช้ [เฮฟวี่แสลช] เขาก็สามารถรับมือกับอันเดดฝูงนี้ได้
บางทีอาจจะด้วยผลของการเพิ่มความชำนาญดาบขึ้นเป็นระดับสูง ในระหว่างที่ต่อสู้ไป ร็อดก็พบเห็นช่องโหว่มากมายของพวกอันเดด
ดาบในมือตวัดออกไปอย่างไม่คิดอะไรมาก ร่างกายของเขาตอบสนองไปเองโดยอัตโนมัติ ของเพียงมีอันเดดเผยจุดอ่อนออกมา ดาบของเขาก็จะพุ่งทะลวงลำคอของอันเดดตัวนั้นได้อย่างแม่นยำ ด้วยผลของค่าความสามารถที่สูงขึ้น เพียงหนึ่งการโจมตีก็ส่งหัวของอันเดดตัวนั้นลอยกระเด็นไป
ร็อดยิ่งต่อสู้ก็ยิ่งมั่นใจ เมื่อไม่มีการใช้สกิลในการต่อสู้ ค่าความอึดของเขาจึงลดลงไปเพียงน้อยนิด บวกลบอัตราฟื้นฟูและอัตราใช้ไปแล้ว ค่าความอึดของร็อดก็ไม่เคยลดลงต่ำกว่าครึ่ง
วิถีของดาบทั้งแม่นยำและได้ผลสูงสุด ตัดการเคลื่อนไหวอันเกินจำเป็นออก เมื่อเป็นเช่นนี้ก็แทบจะไม่ต้องออกแรงอะไร บางทีนี่อาจจะเป็นประโยชน์ที่แฝงเร้นอยู่ในสกิลชำนาญดาบระดับสูง
ในสนามรบขนาดย่อมอันวุ่นวาย ประกายสีเงินจากดาบของร็อดกระพริบขึ้นวูบวาบ จากนั้นก็มีร่างของทหารโครงกระดูกหรือซอมบี้ล้มลง ร็อดบุกตะลุยไปทุกทิศโดยไร้ซึ่งอุปสรรค เพียงเสี้ยววินาทีที่ร่างกายเฉียดผ่านกันไป ศีรษะของอันเดดตัวหนึ่งก็จะร่วงหล่น
พื้นดินในตอนนี้เต็มไปด้วยร่างอันไร้ซึ่งศีรษะของพวกอันเดดกระจัดกระจายอยู่เกลื่อนกลาด
ท่ามกลางซากศพอันเดดเหล่านั้น โชคดีที่พวกทหารโครงกระดูกนั้นตายแล้วก็ตายไป ไม่มีภัยคุกคามใดอีก แต่พวกซอมบี้นั้นไม่ใช่ เพราะหลังจากที่พวกซอมบี้ตายไปนานๆเข้า แม้ว่าเลือดของพวกมันจะไม่ไหลออกมาหลังจากถูกตัดหัว เลือดจากตามร่างกายของมันก็จะไหลย้อมทั่วพื้นอยู่ดี และเลือดเหล่านั้นก็ได้เปลี่ยนสนามรบให้ตลบอบอวลด้วยกลิ่นเหม็นเน่า
ผ่านไปไม่นาน อันเดดที่ล้อมเขาอยู่ก็ถูกกำจัดทั้งหมด
เป็นเพราะอันเดดระดับต่ำนั้นขับเคลื่อนโดยสัญชาตญาณในการฆ่าเพียงอย่างเดียว ดังนั้นพวกมันจึงไม่มีอารมณ์ความรู้สึก และถึงแม้จะมีพวกพ้องล้มตายเป็นจำนวนมาก พวกมันก็ยังกรูกันเข้าไปโจมตีร็อดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หากเปลี่ยนอันเดดเหล่านี้เป็นศัตรูเผ่าพันธุ์อื่นแล้วล่ะก็ หากเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่า ทั้งสหายร่วมรบยังตกตายเป็นใบไม้ร่วงแบบนี้ พวกมันก็คงเสียขวัญจนสองเท้าก้าวไม่ออกไปนานแล้ว
อีกทั้งอันเดดพวกนี้ก็ซึ่งไร้ความกลัว ไม่ว่าจะสูญเสียไปสักเท่าไร พวกมันก็ไม่ลดละความพยายามที่จะกำจัดศัตรู หากเปลี่ยนเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีความฉลาดมากกว่านี้ ตอนนี้ร็อดคงรับมืออย่างเต็มกลืน
ขณะที่ร็อดตั้งใจจะลงมือกวาดล้างพวกอันเดดที่เหลือ หางตาของร็อดก็เหลือบไปเห็นการต่อสู้ที่ห่างออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
ที่อีกด้านหนึ่งนั้น ร่างสถิตย์มานาที่ถูกบงการโดยมานากลายสภาพกำลังต่อสู้กับนักรบโครงกระดูกตัวหนึ่งอย่างดุเดือด
ร่างสถิตย์มานาซัดหมัดขวาออกไป หมัดนั้นกระแทกลงบนโล่เหล็กของนักรบโครงกระดูกอย่างรุนแรงจนโล่เหล็กนั้นแตกกระจุย ร่างสถิตย์มานาไม่หยุดชะงักดูผลงาน มืออีกข้างของมันพลันยื่นไปคว้าจับแขนข้างที่ใช้ถือดาบของนักรบโครงกระดูก จากนั้นจึงออกแรงกระชาก แขนกระดูกข้างนั้นถูกกระชากจนหลุดจากร่าง
ร็อดจำได้ว่าตอนแรกคู่ต่อสู้ของมันคือนักรบโครงกระดูกสองตัว ซึ่งอีกตัวที่ว่านั้นก็กลายเป็นกองกระดูกบนพื้นไปแล้วเรียบร้อย ตรงกลางอกที่สวมใส่เกราะเหล็กของมันเวลานี้มีรูขนาดใหญ่ปรากฏอยู่อย่างเด่นหรา กะโหลกที่เคยสมบูรณ์ มาตอนนี้กลับเหลือเพียงครึ่งหนึ่ง ทั้งยังเป็นครึ่งที่แตกร้าว ดูเหมือนว่าการต่อสู้ทางด้านนั้นใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว
ใต้เท้าของร่างสถิตย์มานามีศพของพวกอันเดดนอนตายเกลื่อนกลาด ที่นักรบโครงกระดูกตัวนั้นยังไม่ถูกบดขยี้ก็คงเป็นเพราะผู้เสียสละเหล่านี้เอง
หลังจากครุ่นคิดชั่วครู่ ร็อดก็ตัดสินใจได้
ดาบถูกฟันออกไปหลายครั้ง ร่างหลายร่างก็ล้มลง จากนั้นร็อดก็ละทิ้งศัตรูที่ขวางอยู่เบื้องหน้าและพุ่งไปยังทิศทางที่ร่างสถิตย์มานาอยู่
ด้วยประสบการณ์จากชีวิตที่แล้ว ร็อดย่อมกระจ่างดีว่าร่างสถิตย์มานาผู้นี้ถูกมานาภายในร่างควบคุมอยู่ หากว่าร่างสถิตย์มานาตายไปอีกครั้ง พลังมานาที่หมุนวนอยู่ภายในร่างจะขยายตัวและเกิดการระเบิด ยิ่งมีมานาหลงเหลือมากเท่าไร ความรุนแรงตอนระเบิดก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น
ในเมื่อการลงมือลอบสังหารของร็อดนั้นทำได้อย่างหมดจด พลังมานาที่เหลืออยู่ภายในร่างของร่างสถิตย์มานาย่อมมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม และนั่นก็หมายความว่า ถึงจะกำจัดพวกอันเดดทั้งหมดไปแล้ว มานาที่อยู่ในร่างของร่างสถิตย์มานาก็อาจจะยังถูกใช้ไปไม่หมดด้วยซ้ำ
เพื่อที่จะรวบรวมค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้นเล็กน้อยก็ยังดี แน่นอนว่าร็อดย่อมไม่ปล่อยให้ร่างสถิตย์มานามาแย่งชิงกลุ่มค่าประสบการณ์อันมีค่าของเขาไป ร็อดละทิ้งพวกอันเดดที่กำลังต่อสู้ด้วยเอาไว้ข้างหลัง และเปลี่ยนเป้าหมายไปเป็นร่างสถิตย์มานา
ตอนนี้นักรบโครงกระดูกที่เสียแขนไปข้างหนึ่งทำได้เพียงถือเศษโล่เอาไว้แน่น มันทำได้เพียงทนรับการโจมตีจากร่างสถิตย์มานาอย่างสิ้นหวัง
หมัดและโล่กระทบกันอย่างรุนแรง ควบคู่ไปกับการโจมตีอันหนักหน่วงจากก่อนหน้านี้ มือของร่างสถิตย์มานาจึงเริ่มมีสภาพเหวอะหวะ เส้นเลือดบริเวณแขนเกิดการฉีกขาด กระนั้นบาดแผลฉกรรจ์นี้กลับไม่ส่งผลต่อพลังโจมตีเลยแม้แต่น้อย
ร่างสถิตย์มานาถูกบงการโดยพลังมานาภายในร่าง ต่อให้ทั่วทั้งร่างจะยับเยินเพียงใด ขอเพียงยังมีมานาเหลืออยู่ มันก็ยังสามารถระเบิดพลังต่อสู้ออกมาได้
ใช้ประโยชน์จากตอนที่นักรบโครงกระดูกกำลังต้านทานร่างสถิตย์มานาอย่างสุดความสามารถนี้ ร็อดที่มองหาจังหวะอยู่ก่อนพลันวาดดาบใส่จากด้านหลังของนักรบโครงกระดูก
ขณะที่นักรบโครงกระดูกทุ่มเทพลังทั้งหมดต่อสู้กับร่างสถิตย์มานา ดาบเหล็กเล่มหนึ่งก็วาดผ่านกระดูกคอของมัน
หลังจากตระหนักได้ว่านักรบโครงกระดูกตายไปแล้ว สายตาของมันก็เบนมายังศัตรูที่อยู่ใกล้ที่สุด ร็อด
ร่างสถิตย์มานายกเท้าเตะใส่ร่างของนักรบโครงกระดูก และส่งร่างนั้นพุ่งไปทางร็อด
เมื่อสัมผัสได้ถึงความตั้งใจของร่างสถิตย์มานา ร็อดก็ไม่สนใจร่างที่พุ่งเข้ามาของนักรบโครงกระดูก ร็อดไม่ได้ถอยหลังหลบหลีก แต่พุ่งสวนกลับไป ร็อดโยกตัวเบี่ยงออกข้างก่อนจะกระชับดาบในมือขวา คมดาบอันรวดเร็วพลันพุ่งเข้าหาร่างสถิตย์มานา
ร่างสถิตย์มานาก้มลงหยิบกระดูกแขนข้างหนึ่งขึ้นมากันดาบของร็อดเอาไว้ แรงกระแทกอันมหาศาลทำให้ร็อดแทบจะทำดาบหลุดออกจากมือ และนี่ก็เป็นการย้ำเตือนร็อดว่า ศัตรูที่ด้านหน้าของเขาไม่ได้กระจอกเหมือนกับอันเดดระดับต่ำที่เคยจัดการไป
ร่างสถิตย์มานาไม่แม้แต่จะชะงัก มันพลันต่อยหมัดตามมา ร็อดจำต้องทิ้งตัวหลบและกลิ้งไปด้านหลัง ขณะที่หลบการโจมตีนี้ ร็อดก็คว้าโล่เหล็กของนักรบโครงกระดูกติดมือมาด้วย
เมื่อเห็นร่างสถิตย์มานากำลังตามติดมา ร็อดก็รีบเปิดหน้าต่างคุณสมบัติ……