ผู้กล้าอาคมดำ ตอนที่ 10
หลังจากเท้าแตะสัมผัสพื้น ร็อดก็รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไร
ด้วยค่าร่างกายในตอนนี้ของร็อดแล้ว การกระโดดลงมาจากความสูงห้าหกเมตรนับว่าเต็มฝืนอยู่บ้าง และเพราะว่าเขาต้องการสังหารเนโครแมนเซอร์ฝึกหัด เขาจึงไม่สามารถม้วนตัวเพื่อลดแรงกระแทกได้ เขาทำได้เพียงลงกระแทกพื้นเต็มแรง
ร็อดพลันรู้สึกสองขาชาด้าน บางทีอาจจะเป็นเพราะมีกระดูกหักไปบางท่อน เขาจึงรู้สึกเจ็บแปลบบริเวณช่วงเอว
ใช้ประโยชน์จากตอนที่พวกอันเดดกำลังสูญเสียการควบคุมนี้ ร็อดรีบเปิดข้อความขึ้นมาอ่าน
“…..”
“คุณได้สังหารผู้กล้าขั้นที่สอง”
“ชัยชนะอันยอดเยี่ยม! คุณได้รับค่าประสบการณ์จำนวน 400 หน่วย!”
“คุณได้รับรางวัลความสำเร็จแบบต่อเนื่อง [กล้าหาญ]”
—————————————–
[กล้าหาญ]: สังหารศัตรูที่มีลำดับชั้นเหนือกว่าคุณ 1 ขั้นโดยลำพัง
โบนัสพื้นฐาน: แต้มสกิล+1
โบนัสเพิ่มเติมเมื่อสวมใส่: ความเสียหายเพิ่มเติมที่คุณกระทำต่อศัตรูที่มีระดับชั้นเหนือกว่าจะเพิ่มขึ้น 10%
—————————————–
“คุณได้รับรางวัลความสำเร็จแบบต่อเนื่อง [ผู้กล้าอาบโลหิต]”
—————————————–
[ผู้กล้าอาบโลหิต]: สังหารผู้กล้าจำนวน 1 คน
โบนัสพื้นฐาน: ค่าความสามารถทั้งหมด+1
โบนัสเพิ่มเติมเมื่อสวมใส่: ความเสียหายเพิ่มเติมที่คุณกระทำต่อผู้กล้าจะเพิ่มขึ้น 20%
—————————————–
“คุณได้ทำการสังหารผู้กล้า พลังพิเศษของคุณบางส่วนจะถูกเปิดใช้งาน (1/3)”
ข้อความแจ้งเตือนที่ไหลยาวเต็มหน้าจอทำให้ร็อดตะลึงไปครู่หนึ่ง เขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดคนนี้จะเป็นถึงผู้กล้า
แต่อันที่จริงหากคิดดูดีๆแล้ว ร็อดก็จะพบเห็นถึงความแตกต่างระหว่างเนโครแมนเซอร์คนนี้กับเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดทั่วไป
จำนวนอันเดดที่เนโครแมนเซอร์ผู้นี้สามารถควบคุมมีจำนวนเยอะกว่าปกติมาก ไม่ว่าจะพวกซอมบี้และทหารโครงกระดูกจำนวนมาก หรือกระทั่งนักรบโครงกระดูกเหล่านั้น อิงจากความเข้าใจในอาชีพเนโครแมนเซอร์ของร็อดแล้ว ไม่ว่าอย่างไรเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดคนหนึ่งก็ไม่สามารถควบคุมได้เยอะขนาดนี้
การที่เนโครแมนเซอร์จะควบคุมพวกอันเดดได้นั้น พวกเขาจะต้องจ่ายค่าจิตวิญญาณประมาณหนึ่ง และเมื่ออันเดดที่ควบคุมตายไป ค่าจิตวิญญาณที่จ่ายออกไปนั้นก็จะได้กลับคืน
หากเนโครแมนเซอร์ควบคุมอันเดดจำนวนมากในคราวเดียวก็ย่อมแน่นอนว่าค่าจิตวิญญาณของเขาจะต้องต่ำเอามากๆ และมันก็จะส่งผลกระทบกับเวทมนตร์ที่ใช้ในระดับหนึ่ง นี่ก็คือการบาลานซ์พลังไม่ให้อาชีพเนโครแมนเซอร์แข็งแกร่งจนเกินไป
ด้วยการทำสมาธิ เนโครแมนเซอร์จะสามารถรับค่าความสามารถพิเศษสำหรับการควบคุมอันเดด ซึ่งค่าความสามารถนี้สามารถใช้แทนหรือชดเชยค่าจิตวิญญาณได้
แต่แม้จะนับรวมค่าความสามารถเพิ่มเติมนี้เข้าไปแล้ว จำนวนของอันเดดภายใต้การควบคุมของเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดคนนี้ก็ยังอยู่เหนือการคาดการณ์ของร็อด ในระหว่างการสอดแนมก่อนหน้านี้ ร็อดไม่ได้รู้สึกสะกิดใจอะไรจนกระทั่งเขาได้รู้ว่าอีกฝ่ายก็เป็นผู้กล้าคนหนึ่ง หากลองมองดูให้ดีๆแล้วเขาก็จะพบปัญหาเหล่านี้ได้ง่ายๆ
ร็อดไม่ได้ตรวจดูรางวัลความสำเร็จที่เพิ่งได้รับมามากนัก หลังจากยืนยันว่าได้ค่าประสบการณ์จำนวนมากแล้ว ร็อดก็เทค่าประสบการณ์ลงไปที่เลเวลอย่างไม่ลังเล
“คุณใช้ค่าประสบการณ์จำนวน 300 หน่วย ค่าประสบการณ์ที่เหลืออยู่คือ 125 เลเวลตัวละครของท่านเพิ่มจาก 6 เป็น 10….”
“ได้รับแต้มคุณสมบัติจำนวน 4 แต้ม ได้รับแต้มสกิลจำนวน 4 แต้ม….”
ร็อดรีบลงแต้มคุณสมบัติจำนวน 2 แต้มไปที่ค่าร่างกายเพื่อฟื้นฟูบาดแผลที่ขา จากนั้นจึงลง 1 แต้มไปที่ค่าความแข็งแกร่ง 1 แต้มไปที่ค่าความเร็ว และขณะเดียวกันก็ลงแต้มสกิล 2 แต้มเรียนรู้ชำนาญดาบ ระดับสูง
—————————————–
[ชำนาญดาบ ระดับสูง]: หลังผ่านการขัดเกลาในวิถีดาบอย่างยาวนาน คุณก็เชี่ยวชาญในการใช้ดาบทุกประเภท ความชำนาญในการใช้ได้ฝังลึกอยู่ในสัญชาตญาณของคุณจนถึงแก่น อาศัยเพียงสัญชาตญาณนี้ ทุกดาบของคุณจะฟาดฟันออกไปด้วยมุมองศาที่ถูกต้องที่สุด คุณจะสามารถใช้ดาบทุกประเภทได้อย่างง่ายดาย ค่าความเสียหายที่สร้างจากดาบจะเพิ่มขึ้น 30%
—————————————–
หลังจากเร่งจัดสรรแต้มในชั่วพริบตา เมื่อร็อดกระทำสิ่งเหล่านี้เสร็จ พวกอันเดดที่เหลือก็ยกดาบชูโล่พุ่งเข้าหาร็อดพอดี
หลังจากที่เนโครแมนเซอร์ฝึกหัดตายไป พวกอันเดดที่เขาเคยควบคุมก็จะหลุดการควบคุมและกลับไปพึ่งพาสัญชาตญาณ นั่นก็คือ การกวาดล้างสิ่งมีชีวิต ร็อดในตอนนี้ย่อมไม่มีสกิลควบคุมพวกอันเดด ไม่อย่างนั้นเขาคงควบคุมพวกมันที่ไร้ซึ่งนายเหนือได้ทันที
การจัดสรรแต้มคุณสมบัติไปที่ค่าร่างกายทำให้เกิดผลฟื้นฟูขึ้นทันที ตอนนี้ความเจ็บปวดที่ขาของร็อดได้หายไปแล้ว ร็อดลองขยับขาดูและพบว่ามันไม่มีปัญหาแล้ว
นักรบโครงกระดูกสองตัวที่อยู่ไม่ไกลได้พุ่งมาถึงข้างตัวร็อดแล้ว ร็อดพลันยกดาบขึ้นตั้งท่า
ทันใดนั้นร็อดก็รู้สึกได้ถึงอันตรายจากทางด้านหลัง เขาไม่ได้คิดอะไรมากและม้วนตัวกลิ้งหลบไปทางหนึ่ง ร็อดโชคดีพอจะหลบการโจมตีลึกลับนี้ได้ทันท่วงที
แต่นักรบโครงกระดูกตัวหนึ่งที่เพิ่งขยับไปแทนตำแหน่งของร็อดไม่ได้โชคดีเช่นนั้น มันรับการโจมตีนี้เข้าไปเต็มๆ ชุดเกราะที่มันสวมใส่พลันยุบตัวลงไป กระดูกซี่โครงของมันก็แตกกระจายเกลื่อนกลาด
เมื่อม้วนตัวเสร็จ ร็อดก็รีบลุกขึ้นก่อนจะมองไปทิศทางที่อีกฝ่ายโจมตีเข้ามา ร็อดตกใจเมื่อพบว่าเนโครแมนเซอร์ที่เพิ่งถูกเขาปลิดชีพไปนั้นกำลังยืนอยู่ แต่เนโครแมนเซอร์คนนั้นกำลังก้มหน้าลงต่ำ และร่างกายของเขาก็อยู่ในท่าโจมตี
แล้วเรื่องที่ร็อดคาดคิดไม่ถึงก็เกิดขึ้น หลังจากโจมตีใส่ร็อดแล้ว เนโครแมนเซอร์ก็เปิดฉากโจมตีใส่นักรบโครงกระดูกที่อยู่ข้างๆ เพียงต่อยไปหมัดเดียว โล่เหล็กที่นักรบโครงกระดูกยกขึ้นมากันก็ยุบลงไป และร่างกายบางส่วนของเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดผู้นั้นก็เกิดการระเบิดจนผิดรูปเช่นกัน นักรบโครงกระดูกส่งเสียงร้องบาดแก้วหูราวกับเหล็กเสียดสีกันออกมา จากนั้นก็โจมตีต่อไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“นี่คือ….อันเดดวิปลาส? หรือจะเป็นมานากลายสภาพ?” ร็อดครุ่นคิด
ในเมื่อในข้อความจากระบบมีรายงานการได้รับค่าประสบการณ์อยู่ ร็อดก็มั่นใจว่าเขาได้สังหารเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดไปแล้ว ทว่าตอนนี้ร่างของเนโครแมนเซอร์คนที่ว่ากลับลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง และมันก็เริ่มโจมตีมั่วซั่วโดยไม่สนว่าจะเป็นมิตรหรือศัตรู ร็อดเริ่มคาดเดาสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงนี้
อิงจากความรู้ที่มีในชีวิตก่อนแล้ว ร็อดก็เริ่มจะนึกอะไรขึ้นมาได้
สิ่งแรกที่เขาสงสัยเลยก็คือ อันเดดวิปลาส ภายในเกมนั้น เนโครแมนเซอร์หลายๆคนที่ถูกร็อดกำจัดไปก็มีสภาพเช่นนี้
เป็นเพราะร่างกายของเนโครแมนเซอร์ที่ทรงพลังนั้นกักเก้บพลังแห่งความตายเอาไว้มากมายมหาศาล ยามเมื่อเนโครแมนเซอร์ผู้นั้นตาย พลังแห่งความตายเหล่านั้นก็จะสูญเสียการควบคุม และมันจะเปลี่ยนศพของเนโครแมนเซอร์ผู้นั้นให้กลายเป็นอันเดดไประยะหนึ่ง นี่ก็คือ อันเดดวิปลาส
แต่สำหรับเหล่าเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดนั้น พลังแห่งความตายที่ต้องใช้ในการกลายร่างนั้นสูงเกินไป และมันก็เกิดขึ้นได้ยากมาก และวิธีการต่อสู้ของอันเดดที่ลุกขึ้นมาด้วยวิธีนั้นไม่เหมือนกับที่ร็อดเห็นในตอนนี้ คิดถึงตรงนี้ ร็อดก็ตัดอันเดดวิปลาสทิ้งไป
ร็อดมองตรวจสอบศพของเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดอย่างละเอียด ลำตัวของมันเอนมาข้างหน้าอย่างผิดธรรมชาติ แต่มือและเท้าของมันกลับเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว มันสามารถปัดป้องและหลบการโจมตีของนักรบโครงกระดูกสองตัวได้ในเวลาเดียวกัน ขณะที่ดาบและหมัดของพวกมันปะทะกันนั้นก็ไม่ได้ประกายไฟปรากฏขึ้น แต่ใบดาบถูกกระแทกกลับไปจนบังเกิดช่องว่างขึ้นมา
พิจารณาจากรูปแบบการต่อสู้ของศพเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดในตอนนี้และความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างผิดปกติในระดับเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดแล้ว ร็อดก็พอจะเดาได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดผู้นี้
“ร่างสถิตย์มานา…..” มองดูซากศพที่ลุกขึ้นมาต่อสู้กับนักรบโครงกระดูกแล้ว ร็อดก็ได้ข้อสรุปเช่นนี้
ปกติแล้วนักเวทจะมีมานาอยู่ภายในร่าง และมานาเหล่านั้นก็จะสลายไปเมื่อนักเวทตาย มานากลายสภาพก็คือการใช้วิธีที่ใช้ควบคุมอันเดดมาผูกมัดกับมานาที่แต่เดิมจะสลายหายไป ทำให้ร่างกายของนักเวทผู้นั้นขยับเคลื่อนไหวตามมานาที่แฝงอยู่ในมือและเท้า
เทียบกับอันเดดวิปลาสแล้ว ข้อกำหนดของมานากลายสภาพนั้นต่ำกว่ามาก ตราบใดที่ตัวผู้ร่ายยังมีมานาหลงเหลืออยู่ พวกเขาก็จะเกิดการกลายสภาพ อย่างไรก็ตาม อัตราความสำเร็จของการกลายสภาพชนิดนี้ต่ำเป็นอย่างยิ่ง และมันจะส่งผลก็ต่อเมื่อตัวผู้ใช้ตายไปแล้วเท่านั้น โดยปกติแล้วคงมีคนจำนวนไม่มากที่จะใช้เวทบทนี้
ร็อดนึกถึงตอนที่เขาอยู่ภายในเกม การกลายสภาพเช่นนั้นส่วนใหญ่มักจะใช้กับพวกทหารพลีชีพในสนามรบเสียมากกว่า
ในเวลานี้เอง พวกอันเดดที่อยู่โดยรอบก็เข้ามาล้อมร็อดเอาไว้ ที่อยู่ใกล้กับร็อดที่สุดก็คือพวกทหารโครงกระดูก ขณะที่พวกซอมบี้ยังคงเดินเตาะแตะเข้ามาหาเขาอย่างเชื่องช้า ร็อดก็กลับมาอยู่กับความเป็นจริง ดูเหมือนว่าเขาคงจะต้องกำจัดอันเดดเหล่านี้ก่อน
เป็นเพราะร่างสถิตย์มานานั้นไม่ใช่เผ่าพันธุ์อันเดด ดังนั้นมันจึงถูกกลุ้มรุมโดยเหล่าอันเดด นักรบโครงกระดูกที่ร็อดกังวลที่สุดสองตัวกำลังต่อสู้อยู่กับร่างสถิตย์มานา ผลแพ้ชนะคงไม่ปรากฏออกมาในเร็วนี้ๆ
เมื่อไม่มีภัยคุกคามจากนักรบโครงกระดูก ด้วยความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นจากการอัพเลเวล ร็อดย่อมสามารถจัดการกลุ่มอันเดดที่เบื้องหน้าได้ก่อนที่พวกที่เหลือจะทันได้ล้อมเข้ามา ร็อดพุ่งเข้าใส่ทหารโครงกระดูกที่อยู่ใกล้กับเขาที่สุด……