ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ — I Woke Up Piloting the Strongest Starship, so I Became a Space Mercenary 365 ฮ่า! น่า! เซ่! (ปล่อย! ฉัน!)

ตอนที่ 365 ฮ่า! น่า! เซ่! (ปล่อย! ฉัน!)

“ฮิโระซามะ กัปตันเซเรนน่าขอให้ไปที่เรสตาเลียส”

“ฮือออ? ไปเพื่อ?”

หลังมาถึงระบบดาวริชและสร้างแถวในวงโคจรของดาวเคราะห์เป้าหมาย หรือริชที่สาม มีมี่รายงานบางอย่างแปลกๆมาและผมอดใจไม่พูดกลับไปในน้ำเสียงสงสัยไม่ได้ เพราะเรียกผมแล้วอยากเจอหน้าในเวลานี้มันน่าสงสัยมากรู้เปล่า?

“มันดูเหมือนเธออยากให้พี่ไปด้วยกับเธอในเกราะพลังงานจักรกล เธอพูดว่าเธอไม่ค่อยมีโอกาสลองขึ้นเกราะพลังงานจักรกลใหม่ตั้งแต่ได้มา”

“เข้าใจแล้ว…… ผู้หญิงคนนั้นจะลงพื้นดาวด้วยตัวเองอีกแล้วเหรอ?”

“เพราะเธอเป็นขุนนางจักรวรรดิล่ะนะ……”

“แต่ไม่ใช่มันไม่ดีเหรอที่เจ้าหน้าที่สั่งการพุ่งไปหน้าสุด……?”

“มันเพราะธรรมเนียมน่ะเธอ”

หลังพูด  เอลม่ายักไหล่ ผมเข้าใจเหตุผลคำพูดที่ว่าผู้บัญชาการหนีกระสุนไม่ได้แม้ว่าเขาอยู่ข้างหลังในฝั่งนอกการต่อสู้ของกองยาน แต่ผู้บัญชาการไปแนวหน้าระหว่างการสู้ประชิดมันอันตรายและไม่มีประสิทธิภาพไม่ว่ามองมุมไหน…… แต่ผมวิจารณ์เธอมากไม่ได้เพราะมันเป็นธรรมเนียมแหละ

“ได้งั้นฉันจะเอาเกราะพลังงานจักรไป…… เธอน่าจะมากับฉันด้วยนะเอลม่า แม้ว่าไม่น่าจะเกิด มันยังเร็วไปที่จะให้มีมี่กับคูกิขี่กฤษณะถ้าบางครั้งฉันไปสู้มั่วๆและบาดเจ็บทีหลัง

“มันช่วยไม่ได้ อืมใช่ว่ามดสิงโตใช้ระยะใกล้เพื่อสนับสนุนที่นี่ไม่ได้อยู่ดี”

อาวุธหลักมดสิงโตคือลำแสงแรงสูงพลังงานสูง และอาวุธรองเป็นเครื่องยิงมิสไซล์ค้นหา ดังนั้นมันไม่เหมาะมาใช้สนับสนุนใกล้ๆในระบบดาวริชเพราะอาวุธลำแสงอุณหภูมิไม่ได้มีผลดีกับพวกลูกกลมๆ ปืนใหญ่ซองกฤษณะมีประสิทธิภาพมากกกว่า แต่เพราะอาวุธลำแสงอุณหภูมิที่ติดตั้งกับยานอวกาศยิงแรงกว่าเมื่อเทียบกับอาวุธที่ทหารราบและพลเกราะพลังงานจัรกลใช้ ไม่ใช่มันเป็นไปได้ที่จริงๆแล้วมันยิงลูกกลมพวกนั้นดีกว่าหรือ?

แม้อย่างนั้น ปืนใหญ่ซองน่าจะลงตังได้ปลอดภัยก่วา

ดังนั้นเอง มีมี่กับเอลม่าไปด้วย และเดินคู่กับคูกิตอนเราออกยานและไปเรสตาเลียสกับคนผมเกือบทั้งหมดด้วยกันเพื่อไปเจอกัปตันเซเรน่า อย่างไรก็ตาม

“ลงผิวดาวเคราะกับฉันได้มั้ย?”

กัปตันเซเรน่ายิ้มหวานและทำตัวน่ารักน่าหยิก ผมยิ้มกลับ

“ฉันกลับล่ะบาย”

“เดี๋ยเดี๋ยวเดี๋ยวดิ! อย่าคิดเร็วปานนั้นดิ!”

เมื่อผมหันกลับกัปตันเซเรน่าดึงเสื้อและใช้สุดแรงเพื่อไม่ให้ผมไปไหน เออ้ ปล่อย อีผู้หญิง! อย่ามาใช้การเสริมพลังร่างกายเพื่ออะไรแบบนี้ดิ เธอโคตรแข็งแรงเลยนะ!

“แน่นอนฉันคงจะเห็นด้วยหรอก! ถ้าลงนะมันต้องสู้กับตัวที่นำพวกแมงมุมเหล็กพวกนั้นแหงๆ! แค่ตอนเธอเอาฉันลงผิวดาวกำลังปรับครั้งที่แล้วฉันก็ใจจะขาดแล้ว!”

“แต่นายพึ่งพาได้สุดๆเลยนี่นาตอนนั้นอ่ะ! ขุนนางคนอื่นไปด้วยก็จริง แต่อย่างไรก็ตามนายเป็นคนที่ฉันฝากหลังได้! และนอกจากนี้สองเราขับเกราะพลังจักรกลเก่งด้วย!”

“ฉันจะ! ไม่มีวัน! ไป! ปล่อย! ฉัน! นะ!”

ผมมีแผนลอยดูไกลๆในกฤษณะแทน! เธอคิดว่าฉันจะตกลงครับท่านกับบางอย่างที่เหมือนโดดเอาหัวลงไปที่ที่ไปแล้วตายแหงเหรอ!?

“เดี๋ยวมีรางวัลน่า! ฉันจะจ่ายเป็นภูเขาเลย! เดี๋ยวฉันจะให้มั่นใจเลยนะว่าตอบแทนนายแบบผู้บัญชาการในกองยานนี้!”

“……พูดถึงเท่าไหร่?”

“เอิ่ม…… ประมาณ 50, 000 มั้ง?”

“ชีวิตฉันไม่ได้ถูกบัดซบขนาดนั้นโว้ย! อย่างน้อยให้มากกว่านั้นห้าเท่าเซ่!”

“นี่เธอก็อย่ามาโลภได้มั้ย!? แค่เงินที่ได้กับยศทหารรับจ้างก็เยอะแล้ว!”

“ก็เดี๋ยวฉันขี่ยานใกล้แล้วยิงสนับสนุนไง แบบนี้ถึงจะได้มีในสัญญา แต่สัญญาที่ว่าใส่เกราะพลังจักรกลลงดาวแห่งความตายกับพวกแมงมุมเหล็กบ้าๆนั้นด้วยดาบไม่ได้สัญญาไว้เลย! กลับไปอ่านให้เป็นล้านครั้งแล้วมาบบอกว่าฉันผิดเซ่!”

เอลม่าถอนหายใจและเข้าแทรกระหว่างผมและกัปตันเซเรน่า

“จ้าจ้าหยุดเหอะ เธอสอง อย่าตะคอกกันแบบนั้นเหมือนเด็กๆ เราโตๆกันแล้ว”

“กุนู้”

“จึ”

มันจริงที่ผมตั้งใจไปหน่อย…… เอิ่มมากกว่าหน่อยแล้วกันผมว่า แน่นอนผมจะพูดแก้ตัวแต่เอลม่าให้ผมหุบปาก

“ฉันเข้าใจว่าทำไมเธอไม่พอใจนะฮิโระ เธอไม่ชอบเอาเนื้อไปสู้และเสี่ยงเยอะๆในภารกิจที่ไม่ได้อยู่ในสัญญาที่ตกลง”

ผมกอดดอกและพยักหน้าตอบเอลม่า แต่บอกตรงหมดเลยว่าผมไม่พอใจอะไร แน่สิว่าใส่เกราะพลังจักรกลมันปลอดภัยกว่าเนื้อล้วนจริงแต่เกราะพลังจักรกลมันก็แค่กระดาษเมื่อเทียบกับห้องนักบินกฤษณะที่เกราะเกรดกองทัพหนาพิเศษซ้อนโล่พลังงานสามชั้น มันยังอันตรายอยู่ถ้าผมลดการป้องกันแม้แต่เสี้ยววินาที แขนขาผมจะบ๋ายบายหายไปตลอดกาล พร้อมชีวิตผมอีก

“แต่เธอรู้มั้ย ฮิโระ เธอก็ไม่ชอบทำอะไรให้ขมปากถูกมั้ย? เธอแน่ใจว่าเดี๋ยวผ่านไปไม่เสียใจเมื่อเธอไม่สนที่กัปตันเซเรน่าขอและจริงๆแล้วเธอตาย?”

“เอิ่ม นั่น…..”

แน่ไม่ใช่คิดแบบนั้นไม่ยุติธรรมเอาเสียเลยหรือ? มันจริงที่ผมมีสัมพันธ์แบบดีๆกับกัปตันเซเรน่า และผมจะเสียใจแน่ๆถ้าเธอตายหรือหายไปหลังผมไม่ให้ที่เธอขอ แต้เรื่องนี้กับเรื่องนั้นมันคนละเรื่องนี่เข้าใจไหม? เราเป็นทหารรับจ้างรู้เปล่า? ผมตายด้วยมันเท่ากับทุกอย่างจบถูกไหม?

“แล้วใครจะดูพวกเธอเล่าถ้าฉันตายด้วย? ฉันมีหน้าที่ดูแลพวกเธอในฐานะกัปตันลูกเรือ นั่นทำไมฉันยินดีข้ามสะพานเสี่ยงจะพังไม่ได้หรอก มันเพราะชีวิตฉันไม่ใช่เพื่อตัวฉันคนเดียวอีกแล้ว ฉันต้องคิดถึงพวกเธอด้วย”

“งั้นเธอแค่ต้องให้กัปตันเซเรน่าเดินนำให้ได้ มันไม่ใด้เหมือนเราอยากให้เธอไปหน้าสุดเองซะหน่อยรู้เปล่า? แต่ถ้าพวกเขามีแผนทำเหมือนครั้งที่แล้ว แบบนั้นก็ไม่จำเป็นต้องคิดหรอก”

“เราระบุจุดที่ต้องสำรวจได้แล้วน่า และเราจะใช้หุ่นยนต์ต่อสู้เป็นกองกำลังแนวหน้าด้วย ดังนั้นเองแม้ว่าฉันลงดาวจริงฉันไม่ได้คิดดจะไปสู้หน้าสุดด้วยน่า”

“แน่ใจสุดๆนะ……?”

ไม่ได้ตอแหลใช่มั้ย? เธอพูดเมื่อกี้ว่าจะไม่สู้หน้าสุดทีหลังใช่ไหม

“มันจริงสุดๆ ถ้าฉันผิดสัญญานะ ฉันให้ขออะไรก็ได้จากฉันเลย”

กัปตันเซเรน่าวางมือบนอกและทำหน้าพอใจตัวเอง กัปตันเอ๋ยรู้อะไรเปล่า เขาเรียกว่าปักธงอันตราย แล้วก็ฉันไม่ขออะไรจากเธอหรอก ดังนั้นเองไม่ครับขอบคุณครับ

 

 

 

ดังนั้นเอง ในท้ายที่สุดของทั้งหมดนั่น ผมมาใส่เกราะพลังงานจักรกลและลงผิวดาวเคราะห์กับกัปตันเซเรน่า เอิ่มมันจริงที่ว่าผมจะนอนไม่หลับถ้าผมทิ้งเธอตอนนี้ แต่……. ผมไม่เชื่อยังไงก็ไม่รู้ดิรู้เปล่า? มันรู้สึกเหมือนไปไปติดแหไปด้วยในสถานการณ์แบบนี้เลย ผมว่าผมค้างบุญคุณเอลม่าแล้ว

“บรรยากาศส่วนใหญ่มันเป็นคาร์บอนไดออกไซด์…… แรงกดบรรยากาศต่ำสุดขีดและพื้นฐานมันไม่ใช่บรรยากาศอยู่รอดแบบพอใจได้”

ผมพูดเบาๆตอนผมดูจอฉายข้อมูลในแผงจอหน้ากาก แรงโน้มถ่วงมันไม่ค่อยมี และมันค่อนข้างน่ากลัวที่จะเดินแถวนี้มาก ก่อนชินมันอีก และดังนั้นผมทำให้ตัวเองคุ้นเคยกับบรรยากาศที่นี่

『โอย้า เธอเคลื่อนที่โดยฉันไม่ต้องเตือนเลยนะใช่มั้ย? น่าประทับใจ』

“เดาว่าฉันต้องขอบคุณสินะ”

กัปตันเซเรน่าที่ใส่เกราะพลังจักรกลขาวเหมือนอัศวินโทรมา และผมตอบแบบไม่ใส่ใจ

ฉันต้องเตือนเธอเปล่าว่าเธอร้องงอแงและเกาะฉันอย่างสิ้นหวังในแค่ชั่วโมงก่อนหน้านี้เอง คุณนาย? มันไม่มีประโยชน์ที่จะทำตัวเท่และใจสงบอีกครั้งหรอก ภาพเธอน่ะเละหมดแล้ว

“ฉันไปหน้าสุดครั้งนี้แหงแบบสุดๆ”

『ฉันรู้แล้วแหละ ยกเว้นบางอย่างมหัศจรรย์เกิดขึ้น ไม่มีความจำเป็นที่เราต้องร่วมปฏิบัติการ』

หยุดพูดอะไรแบบนั้นได้แล้ว ฉันเริ่มรู้สึกว่าเดี๋ยวเราก็ได้ออกไปหน้าสุดแล้วเนี่ย

『กัปตันครับ! วัตถุที่ระบุไม่ได้จำนวนมากออกมาในสิ่งก่อสร้างที่ดูเหมือนซากปรักหักพังครับ!』

“……”

『……』

ผมและกัปตันมองตากันผ่านเกราะใบหน้าของเกราะพลังจักรกล

เห็นไหมล่ะ!?

แปลโดย: wayuwayu

tipme : tipme.in.th/wayuwayutl

ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ด้วยการช่วยเหลือของท่านจะทำให้แปลต่อไปได้เรื่อยๆ ขอบคุณครับ

ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: https://x.com/wayutl

https://facebook.com/100087843892571/

ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ — I Woke Up Piloting the Strongest Starship, so I Became a Space Mercenary

ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ — I Woke Up Piloting the Strongest Starship, so I Became a Space Mercenary

Score 10
Status: Completed
เมื่อผมตื่นขึ้นมา ผมพบว่าตัวเองอยู่ในยานอวกาศ ผมเดาว่าพวกคุณต้องคิดว่าผมพูดไร้สาระที่นี่ แต่ผมก็ไม่มีเบาะแสเลยว่าอะไรเกิดขึ้นกับผมกันแน่ ผมเกือบจะขาดสติ แต่เดชะบุญ ผมสามารถที่จะสังเกตว่าที่นี่คล้ายกับโลกที่อยู่ในเกมที่ผมเล่นไม่นานมานี้จริงๆ ผมฝันอยู่หรือ? ไม่ มันไม่ใช่ฝัน ผมอาจจะถูกส่งไปที่โลกอื่นหรืออะไรบางอย่าง? แต่ไม่ใช้เรื่องพวกนั้นปรกติแล้วจะถูกส่งไปที่โลกแห่งเวทมนตร์ ที่มีเอลฟ์ ดวาร์ฟ มังกร และอะไรพวกนั้นหรือ? ไม่ว่ากรณีไหน ผมไม่รู้ว่าอะไรเป็นเหตุสำหรับเรื่องนี้ แต่ผมเดาว่าผมต้องยอมรับความไม่พึงพอใจพวกนี้ และใช้ชีวตอยู่อย่างถูกต้องในโลกนี้ตั้งแต่ตอนนี้ไป มันจะโอเค ผมได้อยานอวกาศที่ผมเชื่อใจมา ดังนั้นผมน่าจะหาเงินได้บ้าง มันจะโอเค! มันต้องโอเค! นี่เป็นเรื่องราวของชายที่ถูกโยนเข้าไปในจักวารอย่างกระทันหัน ด้วยกันกับยานอวกาศส่วนตัวของเขา เขาไปทุกที่กับมัน และช่วยสาวน้อยที่เดือดร้อนในที่เหล่านั้นระหว่างที่ไป จีบกับสาวที่ว่ามานั้น หาเงินในฐานะทหารรับจ้าง ไปสู่การใช้ชีวิตอย่างอิสระและง่ายดาย

Options

not work with dark mode
Reset