ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ — I Woke Up Piloting the Strongest Starship, so I Became a Space Mercenary 312 ข้ออ้างและห้องพิเศษ

ตอนที่ 312 ข้ออ้างและห้องพิเศษ

สำหรับเวลานี้ ผมถามคูกิจังว่าเธอพักอยู่ไหน หรือ เธอจองห้องหรือโรงแรมหรืออะไรแบบนั้นไหม

“มีสถานทูตของจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์วูเอลซารัสในโคโลนีนี้ค่ะ หนูเลยถูกจัดเตรียมให้พักอยู่ที่นั่น”

“อยู่อย่างนั้นเหรอ…… ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“หนูเพิ่งได้มาโคโลนีนี้เมื่อวาน”

คูกิจังตอบคำถามอย่างร่าเริ่งคู่กับการโบกหางไปมา เข้าใจแล้ว เมื่อวาน ถ้าอย่างนั้นนั่นหมายถึงเธอเพิ่งมาโคโลนีนี้ที่เวลาเดียวกันและจากนั้นสามารถเจอผมได้อย่างรวดเร็วหลังจากนั้นถูกไหม?

กันไว้ก่อนผมส่งสัญญาณเมย์ให้ทำการตรวจอย่างเร็ว มันง่ายและเรียบง่ายมากๆที่จะทำการตรวจประวัติอย่างนั้นหรือ มีคำถาม?

อืม ทหารรับจ้างอย่างเรามีวิธีของเรา เพราะมันเป็นหนึ่งในงานเราที่จะต้องตามตัวและล่าอาชญากร (ที่ส่วนใหญ่เป็นโจรสลัด) ที่ทำงานอยู่ในระบบดาวทั้งหลาย เราสามารถหาของแบบข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลความปลอดภัยเช่นบันทึกการเข้าออกโคโลนีตราบใดที่เราทำขั้นตอนที่ถูกตั้งโดยสมาคมทหารรับจ้าง

“เข้าใจแล้ว…… ถ้าอย่างนั้นอะไรที่เธอมีแผนจะทำตอนนี้ล่ะ? เธอจะอยู่กับเราเลยหลังจากนี้เหรอ?”

“ถ้ามันไม่สร้างปัญหาให้ท่าน ท่านลอร์ดของหนู หนูจะอยากอยู่ข้างท่านจากตอนนี้”

“ถ้าเธอต้องการอย่างนั้น เอาสัมภาระเธอมาด้วยจะดี เราจำเป็นต้องให้เธอผ่านขั้นตอนก่อนเพื่อที่เธอจะเช็คอินเข้าโรงแรมกับเราได้”

ห้องที่เราอยู่ไม่ได้เทียบได้กับห้องรับรองแขกสำคัญ แต่ผมคิดว่ามันมากกว่าพอแล้วที่จะคิดว่ามันเป็นห้องพิเศษสุดหรู

เราจองห้องชั้นบนสุด ดังนั้นการเพิ่มแขกอีกคนไม่ควรเป็นปัญหามาก มันควรไม่เป็นไรหลังจากยื่นเงินพิเศษให้พนักงานต้อนรับเพิ่ม มั้ง

“ขอบคุณมากๆค่ะท่านลอร์ดของหนู งั้นหนูจะออกเดินทางเพื่อเตรียมย้ายด้วยความเร็วสุดตัวค่ะ”

“แน่นอน ไปเป็นคนคุ้มกันเธอด้วยเมย์”

“รับทราบค่ะ”

เมย์พยักหน้าตอบอย่างเร็วและตามหลังคูกิจังไป

เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ผมว่าเราจัดเตรียมทุกอย่างที่ต้องจัดเตรียมเสร็จแล้วสำหรับตอนนี้

“……”

“จจจี่–……”

เอลม่าเงียบสนิท และมีมี่จ้องผมด้วยสายตาสุดเกลียดอย่างหนัก พวกเธอทั้งสองคนไม่ได้ดูชอบคูกิจังมากมาย พวก ช่างน่าปวดหัว ผมว่าทั้งหมดที่ทำได้ตอนนี้คือพูดแก้ตัวตามให้ถูกต้อง นายทำได้ ฉัน

“ให้ฉันได้พูดก่อนพวกเธอ; มันไม่เหมือนว่าฉันเชื่อคำพูดเธอหมดเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ พูดตรงๆ ฉันยังสงสัยว่าเรื่องที่เธอพูดมันไร้สาระ 70% 80%”

“เจงงงงเดะ? และนี่ฉันก็คิดว่าเธอได้ซี่ได้ซี่กับคูกิจังเพราะเธอน่ารักซะอีก”

“ได้ มันจะเป็นฉันโกหกถ้าฉันพูดว่า ไม่ใช่อย่างนั้นเลย อย่างน้อยส่วนหนึ่งหรอกนะ ฉันหมายถึง ‘ถูกตัดทิ้ง’ แค่ทำให้ฉันรู้สึกไม่ดีอ่ะดิรู้เปล่า”

“หนูว่า แม้อย่างนั้น หนูคิดว่าเธอมันต่อยใต้เข็มขัด”

ผมยิ้มอย่างขมขื่นใจและพยักหน้าตอบคำพูดวิสเกอร์ เธอถูกอารมณ์ชิงร่างกายง่ายหรือเธอแค่เก่งการแสดง?

“……ถ้าอย่างนั้นแล้วที่เหลือ 20% 30% ล่ะฮิโระซามะ?”

มีมี่ถามระหว่างพองแก้ม

น่ารักมาก

“มีเรื่องไม่รู้หลายอย่างเกี่ยวกับจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์วูเอลซารัสถูกป่ะล่ะ พูดกันปรกตินะ ส่งสาวน้อยเหมือนคูกิจังมาหาคนที่เรียกจังว่า ‘ผู้มาเยือนจากโลกด้านบน’ โดยไม่ได้รับประกันเลยว่าจะเจอสักคนรึเปล่ามันไม่ได้ฟังแล้วมีเหตุผลมากนักหรอก มันแค่ไม่มีประสิทธิภาพ แต่จักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์วูเอลซารัสที่มีเทคโนโลยีวิญญาณที่พัฒนาแล้วและดูเหมือนสามารถทำบางอย่างที่ดูเป็นไปไม่ได้มากๆ เพราะแม้แต่บางคนแบบฉันที่ดูเหมือนว่ามีความสามารถประหลาดดึงดูดโชคร้ายรัวก็คิดว่ามันไม่ได้อยู่ในความเป็นไปได้ที่ว่าบางคน หรือบางอย่างข้างนอกสามารถทำอะไรเหมือนเห็นเหตุการล่วงหน้าหรือยุ่งวุ่นวายกับโชคชะตาได้”

“เอ่อ บอสดูหนังโฮโลมากไปเปล่านะบอส?”

“บางทีละกัน และแม้อย่างนั้น บางทีไม่ใช่อย่างนั้น นั่นทำไมฉันอยากตรวจสอบอะไรๆก่อน พวกเธอ ทุกอย่างมันจะง่ายๆเลยถ้ามันเป็นแค่การต้มตุ้นแบบคิดมาดีเพราะทั้งหมดที่เราต้องทำหลังจากนั้นคือโยนสาวนั้นทิ้งไปเสีย”

ผมยักไหล่หลังจากบอกที่ผมอยากบอก ไม่สำคัญว่าเธอน่ารักแค่ไหน ผมไม่มีเจตนาให้บางคนที่มีเจตนาหลอกผมมาอยู่ใกล้ผม

“และถ้ามันไม่ได้เป็นเรื่องต้มตุ๋น?”

“เธอหมายถึงถ้าสาวพิสูจน์ตัวเองแล้วร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเป็นนักบวชหญิงจากจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์วูเอลซารัสเหรอ? ถ้าหน้าที่เธอคือใกล้ชิดฉันให้ได้และรับใช้ฉัน งั้นฉันว่าฉันไม่มีทางเลือกนอกจากให้เธอทำ……”

ผมชำเลืองมีมี่และเอลม่าเร็วๆเพื่อดูว่าเธอตอบสนองแบบไหน และผลลัพธ์ก็คือ….. อืม นั่นน่าตกใจ

แทนที่จะงอนต่อไป เอลม่าดูเหมือนเธอค่อนข้างถอดใจกับทั้งหมดแล้ว แค่มีมี่ยังคงเงียบไม่พูดเลย แต่มันดูเหมือนพวกเธอไม่ได้ปฏิเสธความคิดนั้น

“พวกเธอมีอะไรจะว่าฉันมั้ยล่ะ?”

“อืมมันจริงที่ฉันแค่ได้อยู่นี่เพราะความเมตตาเห็นใจและการตัดสินใจแบบมุ่งมั่นของเธอ ฮิโระ มันเลย……”

“เราพูดอะไรมากกว่านี้ไม่ได้”

“ไม่ จริงๆแล้วฉันจะชอบมากกว่าถ้าบอสบอกว่าไม่พอใจเรื่องอะไร ฉันหมายถึงถ้าถ้าบอสเก็บความรู้สึกไม่ดีพวกนั้นสะสมเยอะมันไม่ดีนะ รู้ป่ะ”

ความสัมพันธ์จะเสียหายเนื่องจากความรู้สึกไม่พอใจที่สะสมแล้วปะทุทั้งหมดทีเดียว มันเป็นเรื่องที่รู้จักกันดี ผมอยากเรียนรู้กรณีแบบนั้นและทุ่มเทที่จะไม่พลาดแบบเดียวกันถ้าเป็นไปได้

“มันไม่เหมือนว่าฉันไม่มีอะไรบ่น แต่มากกว่านั้น ฉันเชื่อที่เธอตัดสินใจฮิโระ เราแค่ทดสอบน่ะ ถูกมั้ย?”

“ใช่ไม่สำคัญว่าจริงๆแล้วเธอตำแหน่งอะไร มันสำคัญที่จะต้องดูว่าเธอสนิทกับเราได้หรือไม่ แม้ว่าความประทับใจแรกอยากเปลี่ยนไม่ง่ายนัก ฉันหวังว่าพวกเธอพยายามสื่อสารกับเธอนั้นก่อนสำหรับเวลานี้”

“ได้สิ หนูจะพยายามไม่ทำมากเกินไปและทำให้เป็นธรรมชาติ”

“รับทราบแล้วเธอล่ะทีน่าซัง, วิสเกอร์ซัง……?”

“เราไม่มีปัญหาอะไรนะ”

ทีน่าโบกมือไม่ได้สนอะไรมากตอนเธอตอบ และวิสเกอร์พยักหน้าถัดจากเธอ มันดูเหมือนสองคนนี้ไม่ได้คิดกับคูกิจังว่าเป็นคนไม่ดีตั้งแต่แรก

“เรามันแค่ชุดเมียน้อยที่สองถัดเอลม่าเน่ซังและมีมี่อยู่ดีแหละนะ ถูกป่ะล่ะ?”

“ม-เมียน้อยที่สอง…… หนูไม่มีเจตนาทำกับตัวเองเป็นแบบนั้นเลยนะพี่”

“เอาล่ะ ปล่อยไว้แค่นั้นก่อน พวกเธอสองคน ทำไมเราไม่ไปห้องตอนนี้ก่อน? เรายังต้องเปิดกระเป๋าของเราด้วยนี่”

“ฮึ่ม……”

ด้วยคำนั้น เราสรุปการคุยในแบบกำกวม อืม มันจริงที่ว่าผมลงมือกับคุณนายทุกคนที่ขึ้นยานผมแล้ว และผมไม่มีคำอะไรเพราะซาบซึ้งยังไม่พอที่จะแสดงความขอบคุณคุณนายพวกนี้ที่ตอบรับผมและสนิทกันอย่างเร็วจนดูไม่ทัน แต่……

ผมอยากรับผิดชอบแบบไหนก็ได้ ผมคิดสุดหัวที่จะหาบางที่ตอบแแทนได้และตามหลังสาวๆไป

 

 

ก่อนขึ้นไปห้องเรา เราแจ้งโต๊ะด้านหน้าเกี่ยวกับการเพิ่มจำนวนแขก คุณนายพนักงานตอนรรับน่าจะด่าผมในใจที่กล้ารับสาวมาเพิ่ม เราจ่ายค่าใช้จ่ายพิเศษและขึ้นลิฟต์ไปห้องพิเศษ

“เฮฮ๋ มันกว๊างกว้างและสวยอ่ะ”

เอลม่าดูห้องอย่างอารมร์ดี ใช่มันกว้าง เฟอร์นิเจอร์ข้างในก็ดูหรูและสบายด้วย มันเหนือระดับกว่าห้องพิเศษทั่วไป ถ้าอย่างนั้นนี่เป็นอพาร์ทเม้นท์พิเศษ

“หนูยังรู้สึกรู้สึกว่าแปลกที่ได้พักในที่แบบนี้น่ะสิ”

“โอ้พี่เข้าใจ พวกเขาเรียกว่าอะไรกันแล้วนะ? ชนชั้นกลางมั้ง?”

“ชนชั้นกลาง…… อืม หนูว่าหนูพอเข้าใจ”

มีมี่, ทีน่า, และวิสเกอร์โดนขนาดและความหรูท่วมท้นใส่ จริงๆแล้วผมพอเข้าใจว่าทำไมเธอคิดอย่างนั้นด้วย

ไม่ว่าอย่างไร ค่าเช่าที่เราต้องจ่ายสำหรับความหรูหรานี้คือ 5,000 อีเนลต่อคนสำหรับอยู่หนึ่งอาทิตย์ และเพิ่มเติมคูกิจังมาอีกคนเรามีเจ็ดคน ดังนั้นค่าเช่าทั้งหมดคือ 35,000 อีเนล

เมื่อเราอยู่ที่รีสอร์ทพักร้อนที่เราอยู่บนเซียร่าที่สาม เราต้องจ่ายค่าอยู่สองอาทิตย์ 560,000 เรามีแค่สี่คนกลับไปตอนนั้น ค่าเช่าต่อคนเลยเป็น 70,000 อีเนลต่ออาทิตย์

ราคาพักคนเดียวกลับไปตอนนั้นจริงๆแล้วสองเท่าของค่าเช่าครั้งนี้สำหรับเราทั้งหมด

“แต่เธอต้องยอมรับว่านี่ถูกกว่าอยู่ในรีสอร์ทดาวเคราะมาก”

“อืม…… นั่นจริงฉันว่า”

“แค่ดูความชนชั้นกลางนี่ดิวี แน่นอนเรามีชนชั้นกลางเยอะนะเนี่ย พวกเขาแม้แต่พูดบางอย่างเกี่ยวกับรีสอร์ทดาวค้งดาวเคราะห์อะไรพวกนั้นด้วยนะ”

“อืมเพราะพี่ใหญ่และที่เหลือคือทหารรับจ้างล่ะนะ ดังนั้นเขาจะมีเงินใช้อยู่เยอะเหลือเฟือแหง”

“ไม่ ไม่ใช่ว่าพวกเธก็ค่อนข้างรวยด้วยตอนนี้นี่ไม่ใช่เหรอ?”

“……ใช่เรารวย ใช่มั้ยนะ?”

“หนูคิดว่าหนูลืมเกี่ยวกับมันหมดแล้ว……”

พี่น้องเพิ่งได้ 3.6 ล้านอีเนลไม่นานจากการขายยานที่เรายึดไว้ได้ พวกเธอสมควรได้ 30% ที่ได้ นั่น 1.8 ล้านอีเนลต่อพี่ต่อน้อง มันเป็นจำนวนเงินที่ใช้หมดได้ยากถ้าคนหนึ่งหรูหราไม่มาก แต่มันจะหายไปในพริบตาเมื่อซื้อยานอวกาศ

“เราจะทำยังไงเกี่ยวกับภาษีดีล่ะ? เราต้องทำเป็นเหมือนงานคู่เปล่า? แต่เราถูกส่งมาหาบอสโดยคำสั่งบริษัท เราเลยทำเป็นเหมือนได้เพราะรายได้แทนเหรอ?”

“หนูคิดว่าปรึกษาบริษัทเกี่ยวกับมันดีกว่า…… หรือบางทีกรมสรรพากรเหรอ?”

อย่างไรก็ไม่รู้ สองคนคุยเกี่ยวกับเรื่องน่าปวดหัวระหว่างทาง ในกรณีของผม ผมถือสิทธิ์พลเมืองชั้นหนึ่งในจักรวรรดิกรากัน แต่ก่อนหน้านั้นผมเป็นทหารรับจ้างมันเลย……

หืม? ผมต้องจ่ายภาษีเพราะผมเป็นพลเมืองจักรวรรดิกรากันทางเทคนิคไหม? ผมแค่จะถามเมย์ทีหลัง ทหารรับจ้างมันค่อนข้างเป็นอาชีพพิเศษนิดหน่อย ดังนั้นผมไม่ค่อยแน่ใจรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องการต้องจ่ายภาษี ผมคิดว่าเจ้าหน้าที่ให้รางวัลเงินจากรัฐบาลและถูกหักภาษีอัตโนมัติก่อนมาถึงมือเราแล้ว แต่ค่าหัวโจรสลัดแต่ละคนไม่ได้ถูกหักภาษี อย่างไรก็ตาม ผมไม่แน่ใจว่ากฏนี่ยังใช้อยู่ไหมเมื่อคนทำเป็นพลเมืองชั้นหนึ่งของจักรวรรดิ เพราะกรมสรรพากรน่ากลัว ผมต้องดูแลพื้นฐานของผมให้ถูกต้อง หรือเมย์จะดูแลให้ถ้าผมขอมากกว่า ผมเลยไม่ได้กังวลขนาดนั้น

“ได้เลย หยุดเหม่อแล้วเอาของออกได้แล้วคุณชาย”

“จ้า ฉันไม่มีอะไรต้องเอาออกเยอะอยู่ดีแหละ”

เพราะผมมีแค่กระเป๋าใบเดียวผมไม่ได้แน่ใจด้วยซ้ำว่าต้องเอาของออกไหมตั้งแต่แรก

มีมี่ต้องเอาของออกแน่นอนเพราะเธอเอาสัมภาระมาเยอะแต่ไม่เหมือนว่าผมช่วยเธอได้ เพราะพวกเเขาพูดว่าผู้หญิงมีอะไรที่พวกเธอไม่อยากให้เพศตรงข้ามเห็นหรือจับ แม้ว่าเราใกล้ชิดพวกเธอมากมาย ยกเว้นผมจะถูกขอให้ช่วยตรงๆผม ผมว่าผมจะแค่ดูไกลๆสำหรับตอนนี้

แปลโดย: wayuwayu

tipme : tipme.in.th/wayuwayutl

patreon (Ebook): patreon.com/wayuwayu

ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: ​http://linktr.ee/wayuwayu

ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ — I Woke Up Piloting the Strongest Starship, so I Became a Space Mercenary

ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ — I Woke Up Piloting the Strongest Starship, so I Became a Space Mercenary

Score 10
Status: Completed
เมื่อผมตื่นขึ้นมา ผมพบว่าตัวเองอยู่ในยานอวกาศ ผมเดาว่าพวกคุณต้องคิดว่าผมพูดไร้สาระที่นี่ แต่ผมก็ไม่มีเบาะแสเลยว่าอะไรเกิดขึ้นกับผมกันแน่ ผมเกือบจะขาดสติ แต่เดชะบุญ ผมสามารถที่จะสังเกตว่าที่นี่คล้ายกับโลกที่อยู่ในเกมที่ผมเล่นไม่นานมานี้จริงๆ ผมฝันอยู่หรือ? ไม่ มันไม่ใช่ฝัน ผมอาจจะถูกส่งไปที่โลกอื่นหรืออะไรบางอย่าง? แต่ไม่ใช้เรื่องพวกนั้นปรกติแล้วจะถูกส่งไปที่โลกแห่งเวทมนตร์ ที่มีเอลฟ์ ดวาร์ฟ มังกร และอะไรพวกนั้นหรือ? ไม่ว่ากรณีไหน ผมไม่รู้ว่าอะไรเป็นเหตุสำหรับเรื่องนี้ แต่ผมเดาว่าผมต้องยอมรับความไม่พึงพอใจพวกนี้ และใช้ชีวตอยู่อย่างถูกต้องในโลกนี้ตั้งแต่ตอนนี้ไป มันจะโอเค ผมได้อยานอวกาศที่ผมเชื่อใจมา ดังนั้นผมน่าจะหาเงินได้บ้าง มันจะโอเค! มันต้องโอเค! นี่เป็นเรื่องราวของชายที่ถูกโยนเข้าไปในจักวารอย่างกระทันหัน ด้วยกันกับยานอวกาศส่วนตัวของเขา เขาไปทุกที่กับมัน และช่วยสาวน้อยที่เดือดร้อนในที่เหล่านั้นระหว่างที่ไป จีบกับสาวที่ว่ามานั้น หาเงินในฐานะทหารรับจ้าง ไปสู่การใช้ชีวิตอย่างอิสระและง่ายดาย

Options

not work with dark mode
Reset