บ่วงมาร 47

ตอนที่ 47

พเยียมองร่างอรชรของนาริกาที่กำลังยืนเหม่อมองพระอาทิตย์ยามอัสดงด้วยความเห็นใจ หล่อนเข้าใจความรู้สึกของนาริกาได้เป็นอย่างดี เพราะความเจ็บปวดพวกนี้หล่อนผ่านมันมาแล้วทั้งนั้น พวกผู้ชายคิดว่าตัวเองสมบูรณ์แบบและไม่จำเป็นต้องก้มหัวให้กับใครทั้งสิ้น แม้กระทั่งคนที่ตัวเองรักจนสุดใจก็ตาม

“มองอะไรอยู่หรือจ๊ะที่รัก…”

อ้อมกอดอบอุ่นของมาร์คอสที่สวมกอดมาทางด้านหลังทำให้พเยียสะดุ้งน้อยๆ ก่อนที่หญิงสาวจะหันกลับมาตีหน้ายักษ์ใส่สามี

“คุณก็อีกคนมาร์คอส เห็นผู้หญิงเป็นอะไรกัน ทำไมถึงได้คิดจะเก็บก็เก็บจะขว้างทิ้งก็ขว้างทิ้งแบบนี้ ผู้หญิงก็มีหัวใจนะคะ ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงหรือขยะแบบที่พวกคุณคิดเอาไว้สักหน่อย!”

“ใจเย็นสิครับทูนหัว… ผมไม่เข้าใจสิ่งที่คุณพูดเลย”

มาร์คอสรีบคลายอ้อมแขนและถอยออกห่างอย่างรวดเร็ว มองหน้าแม่ภรรยาคนงามที่ตอนนี้ได้แปลงร่างเป็นนางพญาเสือแล้วด้วยความงงงวย

“คุณมันก็นิสัยเดียวกันกับเจ้านายนั่นแหละ พวกผู้ชายปากแข็ง!”

“แต่ผมไม่ใช่เจ้าเดนนิสนะพเยีย ผมรักคุณ… แม้ผมจะบอกเอาตอนจบก็ตาม”

ชายหนุ่มแย้งเสียงอ่อน ก่อนจะเสียหลักล้มลงนั่งบนขอบเตียงนอนเมื่อถูกพเยียไล่ต้อนเข้ามาหาติดๆ และหล่อนก็มาหยุดตรงหน้าเขา มองเขาด้วยสายตาขุ่นเขียวและขุ่นเคือง

เขาไม่เกี่ยวอะไรด้วยสักหน่อย ทำไมพเยียถึงได้พาลแบบนี้นะ

มาร์คอสร่ำร้องอยู่ภายในอกด้วยความหงุดหงิด แต่ก็ไม่สามารถระเบิดอารมณ์ใส่ภรรยาได้ นอกจากนั่งทำตาปริบๆ น่าสงสารเท่านั้น ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนอย่างมาร์คอส โรเจอริโอจะต้องมากลัวเมียแบบนี้ รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น ชายหนุ่มถอนใจออกมาด้วยความสงสารตัวเอง

“ชอบนักหรือไงที่ได้เห็นผู้หญิงเสียใจน่ะ”

“พเยียครับ… มองผมให้ดีๆ นะ…”

เมื่อรู้สึกว่ามันจะมากเกินกว่าจะรับไหวมาร์คอสจึงเค้นเสียงเรียบติดกระด้างออกไป และนั่นก็ทำให้ภรรยาสาวที่กำลังระเบิดอารมณ์อยู่ชะงักงัน

“ผมมาร์คอส โรเจอริโอ สามีของคุณ… ไม่ใช่เดนนิส โอซิล อดีตสามีของริก้า…”

ใช่… สิ่งที่ได้ยินมันคือเรื่องจริง แต่หล่อนก็อดแค้นเคืองแทนนาริกาไม่ได้ ถึงแม้ว่าตอนนี้ทั้งคู่จะหย่าขาดจากกันแล้วจริงๆ ก็ตาม แต่หล่อนก็ยังเชื่อมั่นสุดหัวใจว่าแท้จริงแล้วเดนนิสรักนาริกา ไม่ได้เกลียดอย่างที่ปากพูดออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว

หล่อนยังจำเสียงเมามายของเจ้านายเก่าเมื่อสองวันก่อนตอนที่หล่อนโทรไปหาได้เป็นอย่างดี เดนนิส โอซิลผู้สมบูรณ์แบบในทุกระเบียดนิ้ว ผู้ที่ไม่เคยหลุดจากคำว่าเทพบุตรแม้แต่จังหวะการหายใจ ผู้ที่ไม่เคยปล่อยตัวเองให้จมปลักกับความผิดหวังแม้แต่ครั้งเดียวในชีวิต แต่เดนนิสที่พูดกับหล่อนเมื่อสองวันก่อนกำลังเป็นทุกอย่างที่เขาไม่เคยเป็น

เขาถูกนักข่าวจับภาพได้ขณะกำลังดูดปากกับแม่โสเภณีราคาถูกในไนท์คลับเกรดเอด้วยสภาพเมามายเมื่ออาทิตย์ก่อน แล้วหลังจากนั้นไม่กี่วันเดนนิสก็ขึ้นหน้าหนึ่งด้วยข้อหาทะเลาะวิวาทกันในสถานบันเทิง และคู่กรณีของเขาก็คือเดวิดอดีตคนรักเก่าของนาริกานั้นเอง ในข่าวบอกว่าตอนนี้เดวิดยังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอยู่เลย

ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมานั้นมันบอกให้รู้ได้เป็นอย่างดีเลยว่าตอนนี้เดนนิส โอซิลกำลังอยู่ในสภาพใด หากเป็นคนอื่นอาจจะมองไม่ออก แต่หล่อน… หล่อนรู้จักและทำงานกับเขามาหลายปี และเวลาเหล่านั้นก็ทำให้หล่อนรู้จักตัวเดนนิสมากกว่าที่เขารู้จักตัวเองเสียอีก

เดนนิสรักนาริกา… และนี่คือความจริง…

“พเยียขอโทษค่ะ พเยียคงลืมตัวไป…”

“ผมยกโทษให้ แต่อย่าทำแบบนี้บ่อยนะครับทูนหัว เพราะผมอาจจะหัวใจวายได้ รู้ไหมเวลาคุณโกรธน่ากลัวมากเลยพเยีย…”

เมื่อเห็นภรรยาเข้าสู่สภาวะปกติชายหนุ่มจึงยิ้มกว้างออกมา แต่ก็ต้องหุบยิ้มทันควันเมื่อได้ยินคำพูดต่อมาของแม่เจ้าประคุณ

“แต่คุณจะต้องมีส่วนรับผิดชอบในเหตุการณ์ครั้งนี้ค่ะ”

“ว่าไงนะพเยีย… ผมเนี่ยนะ?!” เสียงห้าวเปลี่ยนคีย์เป็นสูงลิบ

หญิงสาวพยักหน้ารับน้อยๆ “ใช่ค่ะ คุณจะต้องช่วยพเยียทำให้เจ้านายกับริก้าคืนดีกัน… และจะต้องทำให้สำเร็จด้วย”

มาร์คอสเบ้ปากอย่างไม่เห็นด้วย “ให้ไอ้หมอนั่นมันทนทุกข์แบบนั้นน่ะดีแล้ว อยากปากแข็งเองช่วยไม่ได้ และอีกอย่างเราก็พยายามกันมารอบหนึ่งแล้วนี่ ขนาดใช้เอเดนเป็นตัวช่วยยังไม่สามารถทำให้อะไรต่อมิอะไรมันดีขึ้นมาได้เลย แถมยังแย่ลงไปมากกว่าเดิมอีกต่างหาก”

“แต่เราต้องทำแบบนั้นอีกครั้งหนึ่ง…”

พเยียเค้นเสียงจริงจังออกมา ขณะขยับเข้ามายืนอยู่กลางระหว่างต้นขาของสามี มาร์คอสครางในลำคอเบาๆ ตวัดมือหนารวบเอวคอดเล็กของภรรยาเอาไว้แน่นก่อนจะจับให้หล่อนขึ้นมานั่งคร่อมตักของตัวเอง ปากร้อนผ่าวกำลังจะทาบลงไปบนกลีบปากอิ่มเต็ม แต่มือบางก็ยกขึ้นมากั้นเอาไว้เสียก่อน

“อย่าพึ่งค่ะ ถ้าคุณต้องรับปากพเยียก่อน…”

“ไว้หลังจากเราเสร็จธุระกันไม่ได้เหรอทูนหัว ผมอยากกินคุณแล้ว ดูสิ…” ชายหนุ่มหยัดสะโพกเพรียวขึ้นหาเป็นจังหวะ บอกกล่าวให้ภรรยารู้ว่าที่หน้าขาของเขากำลังแข็งเครียดแค่ไหน พเยียแก้มแดงจัด ความต้องการไม่น้อยไปกว่าสามีเลยแต่หล่อนสามารถข่มมันได้ดีกว่าเท่านั้นเอง

“ไม่ได้ค่ะ… คุณต้องรับปากจะช่วยริก้าก่อน ไม่อย่างนั้น… พเยียจะหนีคุณกลับเมืองไทย”

“ไม่ได้นะพเยีย ผมไม่เกี่ยวอะไรด้วย ทำไมต้องทำกับผมแบบนี้…” ชายหนุ่มโอดครวญเสียงหงุดหงิด

“ก็ถ้าคุณไม่บังคับให้ริก้าปลอมเป็นแองจี้ เรื่องทุกอย่างก็คงไม่เกิดขึ้น”

“งั้นก็แสดงว่าผมผิดใช่ไหม…?”

มาร์คอสถามเสียงขุ่น ยกร่างภรรยาลงจากตักตัวเองไปวางลงบนเตียงทันที จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินหนีไปหยุดที่ริมหน้าต่างห้อง พเยียหน้าเสียเมื่อเห็นสามีโกรธจริงๆ

“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะคะมาร์คอส พเยียแค่…”

“คุณอยากให้เจ้านายของคุณมีความสุข จนต้องมาบังคับฝืนใจผม… นี่ผมชักอดคิดไม่ได้แล้วสิว่า…” เขาหันกลับมาจ้องหน้าหล่อนเขม็ง

“คุณยังมีเยื่อใยกับไอ้หมอนั่นอยู่…”

“ไม่ใช่นะคะมาร์คอส…! พเยียรักคุณ และไม่เคยรักเจ้านายเลย”

หญิงสาวปฏิเสธโดยไม่คิดจะเสียเวลาคิดเลยแม้แต่วินาทีเดียว จากนั้นก็กระโดดลงจากเตียงก้าวเดียวก็สามารถมาหยุดตรงหน้าของสามีตัวโตที่ตอนนี้หน้าบูดบึ้งน่ากลัวได้อย่างไม่น่าเชื่อ

“พเยียรักคุณ…”

“รักผม… แต่บังคับให้ผมทำเพื่อมัน…”

“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ พเยียแค่สงสารริก้า สงสารน้องสาวบุญธรรมของคุณยังไงล่ะคะ”

สาวน้อยสวมกอดสามีแน่น ไม่ยอมปล่อยแม้ว่าเขาจะผลักไสยังไง จนในที่สุดเขาก็ยอมยืนเฉยๆ ให้หล่อนกอดเอาไว้อย่างนั้น

มาร์คอสหรี่ตามองภรรยาที่ซบหน้าลงกับแผงอกของตัวเองแล้วก็ถอนใจออกมา “เอาล่ะพเยีย… ผมจะช่วยคุณก็ได้ เลิกกอดผมได้แล้ว”

เขาพูดด้วยน้ำเสียงห่างเหินและดันหล่อนออกห่างทันทีแต่หล่อนยอมที่ไหนกันล่ะ เพราะหล่อนยังเกาะกอดเขาแน่นเหมือนเดิน

“ผมจะช่วยมันอีกครั้ง… แต่ครั้งนี้เอเดนจะไม่ให้ความร่วมมืออีกแล้ว เราคงต้องหาวิธีอื่น…” ชายหนุ่มพึมพำเสียงแผ่วเบา ก่อนจะผลักหล่อนอีกครั้งหนึ่งด้วยแรงที่มากกว่าเดิม แต่เจ้าหล่อนก็มือเหนียวเป็นบ้า ดันเท่าไหร่ก็ไม่หลุด และจะให้ผลักแรงกว่านี้เดี๋ยวหล่อนก็จะเจ็บเอาเปล่าๆ

“ในเมื่อผมรับปากจะช่วยคุณแล้ว… คุณก็ปล่อยผมสักทีสิพเยีย… ผมอึดอัด”

“ไม่ปล่อยค่ะ พเยียรักคุณ…”

“ถ้าคุณไม่ปล่อย ผมจะปล้ำคุณเดี๋ยวนี้แหละนะ” เขาขู่ แต่หญิงสาวไม่กลัว เพราะหล่อนก็อยากให้เขาทำอย่างที่พูดใจจะขาด

“ตามสบายค่ะ”

“ว่าไงนะ?” เขาถามกลับเสียงสูง ความกังขาเต็มน้ำเสียง “ไหนว่าจะไม่นอนกับผม จะหนีผมกลับเมืองไทยไม่ใช่หรือ แล้วตอนนี้…”

“พเยียจะทำอย่างนั้นได้ยังไงกันคะ ในเมื่อพเยียรักคุณ…”

หญิงสาวเงยหน้าขึ้นจากแผงอกที่หล่อนพิสูจน์มาไม่รู้กี่ครั้งแล้วว่ามันแข็งแกร่งทรงพละกำลังแค่ไหน ก่อนจะฉีกยิ้มหวานฉ่ำให้กับสามีที่กำลังงอนหล่อนอยู่

“พเยียก็แค่ขู่เฉยๆ”

Options

not work with dark mode
Reset