ตอนที่ 996: ดูท่าแล้วกลั่นแกล้งได้
…………………………………………………..
ตอนที่ 996: ดูท่าแล้วกลั่นแกล้งได้
ยมบาลลงมือฉับไวเหลือเกิน ไม่มีพูดพล่าม แค่พลิกมือก็ฆ่าคน!
วิธีการรุนแรงที่เผยออกมาให้เห็นโดยไม่ได้ตั้งใจเช่นนั้นทำเอาเย่ลั่วรู้สึกสั่นสะท้านขึ้นในใจ ผู้หญิงคนนี้ ต้องเป็นหญิงโหดกินคนไม่คายกระดูกอย่างแน่นอน!
“บังอาจ! พวกเจ้ากล้าฆ่าคนของสำนักนภายมโลกได้อย่างไร!”
เสียงโกรธเกรี้ยวดังขึ้นแต่ไกล ผู้แข็งแกร่งที่เฝ้ารักษาการณ์อยู่ในบริเวณนี้ต่างก็พากันโฉบบินมาทางนี้
ท่าทีดุดันอย่างแรง!
เวลานี้แม้กระทั่งตัวตนขอบเขตรู้แจ้งลึกล้ำที่กำลังปิดล้อมผู้เฒ่าชุดนักพรตอยู่ไกล ๆ เหล่านั้นก็ยังตื่นตระหนก ต่างก็ไม่คิดว่าแขกไม่รับเชิญสามคนนี้จะกล้าเข้ามายุ่งด้วย
“สหายเต๋าซูท่านนั้น!”
ผู้เฒ่าชุดนักพรตที่ได้รับบาดเจ็บเต็มตัว เวลานี้กลับตื่นเต้นขึ้นมา
เพียงแค่ชั่วแวบตาเดียว เขาก็จำซูอี้ คนหนุ่มผู้มีที่มาล้ำลึกไม่อาจคาดเดาคนนี้ได้!
ชั่วขณะนี้ ผู้เฒ่าชุดนักพรตรีบส่งเสียงร้องเสียงดัง “หวังถิง สลัดความคิดฟุ้งซ่านออก ตั้งใจทลายภัยพิบัติ ตรงไปข้างหน้าอย่าได้วอกแวก!!”
ภายใต้ภัยพิบัติสวรรค์ ชายหนุ่มชุดสีขาวตั้งสติ
“ฮึ ไม่ว่าจะเป็นใครมา วันนี้พวกเจ้าศิษย์อาจารย์ ต้องตายอย่างแน่แท้!”
ผู้เฒ่าผมขาวโพลนสวมชุดสีแดงสบถเสียงเย็นชาราวกับน้ำแข็ง “ศิษย์น้อง เจ้าจงพาคนไปฆ่าสามคนที่ไม่รู้จักความตายพวกนั้น!”
“ขอรับ!”
ผู้ชายร่างผอมสวมชุดสีดำที่กำลังปิดล้อมผู้เฒ่าชุดนักพรตรับคำสั่ง หมุนตัวพุ่งตรงไปหาพวกของซูอี้ที่อยู่ห่างออกไป
ครืน!
ทางนี้กำลังต่อสู้กันดุเดือด รอบด้านสั่นสะเทือน
การโจมตีของยมบาลสร้างความโกรธเกรี้ยวให้กับฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่ต้องสงสัย เวลานี้ ผู้แข็งแกร่งทั้งสิ้นสามสิบกว่าคนบุกเข้ามาพร้อม ๆ กัน
โดยไม่ต้องพูดพล่าม พวกเขาก็ลงมือในทันใด
“ยกให้เป็นหน้าที่ของพวกเจ้า”
ซูอี้กวาดตามอง ฉับพลันหมดความสนุก
ผู้แข็งแกร่งทั้งสามสิบกว่าคนนั้น ส่วนใหญ่แล้วเป็นตัวตนในขอบเขตหยั่งเห็นลึกล้ำ ดูเหมือนจะได้เปรียบด้านจำนวนคน แท้จริงแล้วไม่เข้าตาซูอี้แม้แต่น้อย
“ขอรับ!”
เย่ลั่วชักดาบไม้สีดำของตัวเองออกมา เขาก้าวไปหนึ่งก้าว ก่อนจะพุ่งขึ้นสู่ฟากฟ้า กลิ่นอายพลังในตัวเขาก็เปลี่ยนไป
ก่อนหน้านี้ตอนที่ติดตามอยู่ข้างกายซูอี้ เขาเก็บเนื้อเก็บตัวไม่แสดงออก
ทว่าเวลานี้ บนตัวเขากลับมีภาวะดาบเดือดพล่านราวกับคลื่นทะเลถาโถมปรากฏขึ้น อานุภาพในตัวรุนแรงเสียดฟ้า ฟ้าดินพากันสั่นสะเทือน
ผู้แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งที่บุกเข้ามาสีหน้าเปลี่ยนไป
เวลานี้พวกเขาจึงตระหนักแล้วว่าคู่ต่อสู้นั้นร้ายกาจเพียงใด
ทว่าสายไปเสียแล้ว…
“ขนาดอาจารย์ยังไม่อยากจะจัดการกับพวกเจ้า แล้วข้าอยากจะ.. รังแกพวกเจ้าเช่นนั้นหรือ?”
เย่ลั่วถอนใจยาว ๆ
ด้วยขอบเขตของเขาในตอนนี้ หากไม่จำเป็น เย่ลั่วก็ไม่อยากจะต่อสู้กับพวกขอบเขตหยั่งเห็นลึกล้ำเลยจริง ๆ
ประการที่หนึ่งเลยก็คือน่าเบื่อ
ประการที่สองเสียภาพลักษณ์ของตัวเอง
และประการที่สาม ชนะแล้ว มีอะไรให้ดีใจ?
แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ เย่ลั่วก็เอื้อมมือไปดีดดาบไม้ในมือ ร่างของเขาเคลื่อนย้ายรวดเร็วราวกับแสงดาวตกยามค่ำคืน ระเบิดพลัง
คำสั่งอาจารย์ไม่อาจขัดขืน
ครืน!
ศึกใหญ่ปะทุขึ้น เพลิงแสงส่องสว่างไปทั่วฟ้าดิน
คู่ต่อสู้เหล่านั้นไม่นั่งรอความตายเป็นแน่ ต่างก็แสดงฝีมืออย่างเต็มกำลังไม่มีหมกเม็ด
พวกเขาไม่เกรงกลัว เพราะว่าข้างหลังของพวกเขายังมีผู้สามารถขอบเขตรู้แจ้งลึกล้ำคอยหนุนหลัง!
ผู้ชายร่างผอมสวมชุดสีดำที่ก่อนหน้านี้บุกล้อมผู้ชายในชุดนักพรตหลูคนนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง กำลังบุกมาทางนี้แล้ว
เขาคือตัวตนขอบเขตรู้แจ้งลึกล้ำขั้นกลาง กลิ่นอายพลังยิ่งใหญ่พิสดาร คนธรรมดาทั่วไปไม่อาจเทียบเทียมได้
“อุบ… คน ๆ นี้มอบให้เป็นที่ข้าก็แล้วกัน”
ยมบาลสาวกะพริบตาใสสว่างเย้ายวน
เสียงอ่อนหวานมีเสน่ห์ดึงดูดเป็นเอกลักษณ์ของนางยังคงดังก้อง ทว่าร่างอรชรก้าวเดินไปกลางอากาศแล้ว โฉบไปหาผู้ชายร่างผอมใส่ชุดสีดำคนนั้น
ครืน!
เมื่อยมบาลเคลื่อนตัว กลิ่นอายภัยพิบัติทำลายล้างที่น่าหวาดกลัวก็แผ่ปกคลุมไปทั่วฟ้าดินด้วยเช่นกัน
ชุดกระโปรงสีดำของนางโบกพลิ้ว ร่างสูงโปร่งถูกปกคลุมด้วยเงาสีดำบาง ๆ ราวกับแสงจันทราสลัวส่องสว่างรอบตัว
ชั่วขณะนั้น ทุกคนในเหตุการณ์ต่างก็สั่นสะท้านในใจ ทุกคนรู้สึกหนาวลึกถึงกระดูก
ในสายตาของคนทั้งหลาย สตรีผู้สูงส่งนางนี้ เปรียบเสมือนผู้ชี้ชะตาที่เดินออกมาจากภัยพิบัติมืดมิด น่าหวาดกลัวอย่างไร้ขอบเขต
เพียงแค่ครู่เดียวนางก็กลายเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดสายตาคนทั้งหลาย
“ไม่ได้การ!”
ผู้แข็งแกร่งแห่งขอบเขตรู้แจ้งลึกล้ำที่กำลังปิดล้อมผู้เฒ่าชุดนักพรตเต๋าสีหน้าเปลี่ยนอีกครั้ง พวกเขาตระหนักถึงความผิดปกติของคู่ต่อสู้ที่พบเจอในครั้งนี้ น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก!
“เร็วเข้า พวกเจ้าทั้งสามจงไปรับมือศัตรูโดยเร็ว!”
ผู้เฒ่าผมขาวโพลนในชุดสีแดงตัดสินใจเฉียบขาด เขาไม่กล้าชักช้าอีกต่อไป และสั่งผู้แข็งแกร่งขอบเขตรู้แจ้งลึกล้ำอีกสามคนไปรับมือกับยมบาลสาว
ทว่าอย่างไรก็ยังคงช้าไปอยู่ดี
ฉึบ!
ขาเรียวยาวประดุจหยกของยมบาลก้าวไปกลางอากาศ มืองามประดุจดาบฟาดฟันทุกสิ่ง
พลังดาบสีดำที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายพลังภัยพิบัติมหาวิถีพุ่งออกไป เชือดเฉือนท้องนภา ฟันร่างผู้ชายตัวผอมในชุดสีดำตรงหน้า
“ไป!”
ผู้ชายร่างผอมชุดสีดำรู้สึกได้ถึงอันตราย ชักขวานเหล็กด้ามหนึ่งออกมาขว้างไปอย่างเต็มกำลัง
ครืน!
เสียงระเบิดดังสะท้านฟ้าสะเทือนดิน
ขวานเหล็กส่องประกายแสงเทวะสีทองขนาดใหญ่ เดิมทีเป็นศาสตราลึกล้ำมหาวิถีอันลี้ลับอย่างที่สุด ทว่าในชั่วเวลาขณะนี้กลับถูกคมมีดสีดำตัดขาดราวกับกระดาษ
แคร้ก!
ขวานเหล็กหักเป็นสองท่อน
ผู้ชายร่างผอมที่มีระดับวิถีขอบเขตรู้แจ้งลึกล้ำขั้นกลางคนนั้นถูกฟันกระเด็นออกไป สมบัติป้องกันตัวทั่วทั้งร่างแตกระเบิดโดยพร้อมเพรียงกัน
เมื่อยืนได้มั่นแล้ว ที่หน้าอกของเขาก็มีรอยวิถียาวฉื่อกว่า ๆ ผิวเหวอะเนื้อขาด กระดูกสีขาว ๆ ปรากฏให้เห็น!
แค่ดาบเดียวเท่านั้น เกือบจะฟันผู้สามารถขอบเขตรู้แจ้งลึกล้ำตายทั้งเป็น!!
ภาพเหตุการณ์อันดุเดือดสะเทือนขวัญเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว สร้างความตื่นตระหนกให้คนทั้งหลายไม่รู้เท่าใด
ทว่ายมบาลสาวกลับขมวดคิ้วดำคล้ำงดงามคู่นั้น ราวกับไม่ค่อยพอใจมากนัก ก่อนจะถอนใจกล่าวเบา ๆ “อย่างไรเสียก็เป็นเพียงแค่ร่างจำแลงเท่านั้น ไม่อาจฆ่าตัวตนเช่นนี้ได้…”
“ฆ่า!”
ห่างออกไป ผู้แข็งแกร่งขอบเขตรู้แจ้งลึกล้ำอีกสามคนก็บุกเข้ามา ล้อมตัวยมบาลพร้อมกับผู้ชายร่างผอมชุดสีดำ
ศึกใหญ่จึงระเบิดขึ้น
เมื่อได้เห็นความยิ่งใหญ่สุดยอดแห่งฟ้าดินของยมบาลแล้ว เย่ลั่วราวกับได้รับแรงกระตุ้น จากนั้นเขาก็ฆ่าศัตรูด้วยดาบไม้ในมือโดยไม่ยั้งแรงอีก
ภายในดาบเดียว ราวกับฟ้าถล่มดินทลาย สมบัติล้ำค่าไม่รู้กี่ชิ้นกระเด็นไปไกล ไม่รู้ว่ามีเคล็ดวิชามากมายเท่าใดถูกคมดาบบดขยี้ราวกับฟองสบู่
การร่วมมือกันของผู้เป็นจักรพรรดิขอบเขตหยั่งเห็นลึกล้ำหลายสิบคนถูกสลายลงในชั่วครู่!
เย่ลั่วราวกับเสือเข้าไปอยู่ในฝูงหมาป่า กวัดแกว่งดาบราวกับสายฟ้า เงาดาบโฉบเฉี่ยวฉวัดเฉวียน อานุภาพวิถีดาบอันไร้เทียมทานแผ่กระจายในทันใด
เอื๊อก! เอื๊อก! เอื๊อก!
เพียงแค่พริบตาเท่านั้น ผู้เป็นจักรพรรดิที่บุกอยู่ด้านหน้าสุดหลายคนถูกประหาร ร่างระเบิด เลือดกระเซ็นทั่วท้องฟ้า เสียงโอดครวญสั่นสะท้านฟ้าดิน
พลังของเย่ลั่วไม่ถดถอย พุ่งตรงไปประหัตประหาร
เดิมทีเขาก็อยู่ขอบเขตรู้แจ้งลึกล้ำอยู่แล้ว อีกทั้งยังเป็นศิษย์สายตรงของซูอี้อีก ฝีมือวิถีดาบของเขาเป็นที่ตื่นตะลึงตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ชื่อเสียงเกรียงไกรทั่วแดนเทวามหาแดนดิน ผู้เฒ่ารุ่นโบราณในขอบเขตเดียวกันไม่รู้เท่าใดต่อเท่าใดที่พูดถึงเขาแล้วเป็นต้องหน้าถอดสี
ตอนนี้รับมือกับเหล่าผู้เป็นจักรพรรดิขอบเขตหยั่งเห็นล้ำลึก จึงเป็นเรื่องง่าย ไม่มีใครสู้ได้
“เร็วเข้า พวกเจ้าสองคนไปจัดการกับคนผู้นั้น!”
ผู้เฒ่าผมขาวโพลนในชุดสีแดงตะคอก
สีหน้าเขาคร่ำเคร่ง โกรธเกรี้ยวยิ่งนัก
เดิมที ศึกในครั้งนี้พวกเขามีความมั่นใจถึงเก้าส่วน ชัยชนะอยู่แค่เอื้อม ไม่นานเท่าไรก็สามารถฆ่าผู้เฒ่าชุดนักพรตคนนั้นได้ และสามารถทำลายความหวังที่ศิษย์ของเขาจะผ่านภัยพิบัติกลายเป็นจักรพรรดิได้
ทว่าใครจะคาดคิด การมาของแขกไม่รับเชิญทั้งสาม กลับทำลายแผนการของพวกเขาไปจนสิ้น!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกำลังการต่อสู้อันน่ากลัวที่ยมบาลกับเย่ลั่วแสดงออกมานั้น ทำให้ผู้เฒ่าผมขาวโพลนชุดสีแดงไม่อาจนิ่งนอนใจได้อีก เขาร้อนใจอยู่ลึก ๆ
“ฆ่า!”
ทันใด ผู้สามารถขอบเขตรู้แจ้งลึกล้ำอีกสองคนก็พุ่งเข้าไปฆ่าเย่ลั่ว
เพียงครู่เดียว คู่ต่อสู้ที่กำลังปิดล้อมผู้เฒ่าชุดนักพรตก็เหลือเพียงแค่ผู้เฒ่าผมขาวโพลนชุดสีแดงกับชายวัยกลางคนชุดสีเหลืองเท่านั้น
ทำให้แรงกดดันของผู้เฒ่าชุดนักพรตลดลงไปด้วยเช่นกัน เมื่อหลุดออกมาจากสถานการณ์เลวร้ายยิ่งได้ ในใจของเขารู้สึกตื้นตันนัก ความเกรี้ยวกราดในตัวปะทุขึ้น สำแดงเดชกลับเป็นฝ่ายโต้ตอบ
ครืน!
ฟ้าดินในแถบนี้เกิดความสับสนอลหม่านขึ้นมา ภาพแห่งการทำลายล้างปรากฏไปทั่ว
ใต้ท้องฟ้า ชายหนุ่มน้อยชุดสีขาวผ่านภัยพิบัติ อัสนีภัยพิบัติเดือดพล่าน อยู่ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อ
ยมบาลรับมือสี่คน สำแดงพลังยิ่งใหญ่ สง่างามอย่างยิ่ง
เย่ลั่วเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ขอบเขตรู้แจ้งลึกล้ำสองคน ตกเป็นฝ่ายถูกล้อม ทว่าเขากลับไม่ตื่นตระหนก ในที่สุดภาวะสงครามภายในใจก็ถูกจุดประกาย
ไม่กลัวว่าคู่ต่อสู้มีคนมาก กลัวแต่เพียงคู่ต่อสู้จะด้อยเกินไป!
ตอนนี้ดีเลย ในที่สุดก็มีสองคนที่พอเข้าตามาเพิ่ม!
ส่วนผู้เฒ่าชุดนักพรตทางนั้น ก็ต่อสู้อย่างดุเดือดเช่นกัน
หากว่าอยู่ในแผ่นดินมืดมิด สงครามประหัตประหารเช่นนี้ จะต้องสร้างความตื่นตะลึงแก่คนทั้งหลายอย่างแน่นอน
เพราะอย่างไรเสีย สำหรับผู้ฝึกตนส่วนใหญ่ในใต้หล้าแล้ว ผู้เป็นจักรพรรดินั้นหาพบได้ยากราวกับมังกรเห็นหัวไม่เห็นหาง
ทว่าบัดนี้ ในพื้นที่ต้องห้ามเช่นนี้ ศึกแห่งเหล่าจักรพรรดิกลับเปิดฉากขึ้น
ซูอี้ชายตามองดูภาพทั้งหมดนี้ด้วยสีหน้าที่ราบเรียบ
มือหนึ่งของเขาไพล่หลัง ส่วนอีกมือหนึ่งถือค้อนทุบเซียน สายตาาคอยดูเหตุการณ์อยู่ไกล ๆ โดยไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่งด้วย
ทว่าภาพเช่นนี้กลับถูกมองว่าอ่อนแอสามารถรังแกได้ หรือกล่าวได้ว่า ถูกมองว่ามีโอกาสให้รุก
ทันใด จู่ ๆ ผู้แข็งแกร่งขอบเขตหยั่งเห็นลึกล้ำที่กำลังปิดล้อมเย่ลั่วก็แบ่งคนมาสิบกว่าคนพุ่งไปที่ซูอี้พร้อมกัน
“แย่แล้ว หากอาจารย์เห็นว่าข้ารั้งคนพวกนี้ไว้ไม่ได้ คงเสียหน้าแย่…”
เย่ลั่วมุมปากกระตุก เขารู้สึกเสียหน้าอย่างมาก
“หึ เล่นกับใครไม่เล่น คิดจะเล่นกับคนที่เล่นไม่ได้ ไม่รู้จักความตายเลยจริง ๆ”
แววตาสดใสยั่วยวนของยมบาลสาวผุดประกายเย็นชาขึ้นมา
ทว่าในสายตาของผู้เป็นจักรพรรดิเหล่านั้น ซูอี้ในเวลานี้ เป็นตัวตนที่รังแกง่ายที่สุดโดยไม่ต้องสงสัย…
“จับตัวคนนี้ไว้เป็นตัวประกัน!”
ผู้ชายชุดหรูหราที่เป็นหัวหน้าร้องตะคอก
ครืน!
เสียงยังดังก้อง อีกทั้งยังอยู่ในระยะห่างไกลกันมาก ผู้เป็นจักรพรรดิเหล่านั้นก็พากันลงมือแล้ว ต่างคนต่างผลักดันสมบัติล้ำค่าของตัวเอง สำแดงเคล็ดวิชาพิฆาตไปที่ตัวซูอี้
ซูอี้ขมวดคิ้ว ใช้ค้อนทุบเซียนแทนดาบ จากนั้นก็ฟันออกไปกลางอากาศ
เรียบ ๆ ง่าย ๆ เพียงแค่ทีเดียว
ทว่าชั่วขณะนั้น พลังมืดมิดไร้พรมแดนผุดขึ้นราวกับคลื่นยักษ์ สั่นสะเทือนอากาศ ภาวะดาบกระเพื่อมขึ้นลงดั่งระลอกคลื่น
คล้ายกับน้ำในแม่น้ำใหญ่กำลังเพิ่มสูงขึ้น!
ชั่วขณะนี้ ฟ้าดินสั่นสะเทือนอย่างแรง สรรพสิ่งมืดมิด พลังภาวะดาบอันไร้เทียมทานบดขยี้อากาศ ทุกแห่งที่พาดผ่านล้วนพังทลายโค่นล้ม
ชั่วขณะนี้ แม่น้ำภาวะดาบเขมือบกลืนอากาศ กลืนกินสมบัติล้ำค่านานาชนิดกับเคล็ดวิชาทุกรูปแบบที่เคลื่อนตัวเข้าหา
และในชั่วขณะนี้เช่นกัน ผู้เป็นจักรพรรดิขอบเขตหยั่งเห็นลึกล้ำที่มีกันสิบสามคนโดนคลื่นยักษ์โหมซัดราวกับใบหญ้าที่ร่วงหล่นลงในแม่น้ำอันกว้างใหญ่ไพศาล
สมบัติป้องกันตนบนตัวพวกเขาระเบิดพร้อมกัน ถัดจากนั้นร่างก็ถูกบดขี้กลายเป็นก้อนเนื้อชิ้นเล็กชิ้นน้อย จิตวิญญาณยังไม่ทันได้หลบก็ถูกคลื่นภาวะดาบอันทรงพลังโหมซัดจนแหลก
หนึ่งดาบชักพาทางช้างเผือก ฟ้าล่มดินถล่มโลกาพินาศ!
และดาบนี้เพียงดาบเดียวเช่นกันที่ฆ่าผู้เป็นจักรพรรดิขอบเขตหยั่งเห็นลึกล้ำถึงสิบสามคน!
ภาวะดาบดังคลื่นยักษ์ยังคงไม่ถอยไป หมอกควันเดือดพล่านยังคงไม่สลาย ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นกลับกลายเป็นซากศพไร้คนรอดชีวิต
ทุกอย่างสงบนิ่ง
ผู้ใดก็ตามที่ได้เห็นภาพเหตุการณ์เช่นนี้เป็นต้องสั่นสะท้าน
อานุภาพแห่งดาบเดียว ร้ายกาจได้ถึงเพียงนี้!
……….