บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ 387 ขอพรไม่สู้ขอตัวเอง

ตอนที่ 387 ขอพรไม่สู้ขอตัวเอง

ฟางเจิ้งกับ​ลิง​ได้ยิน​แบบ​นั้น​ก็​หมด​คำ​จะพูด​ เจ้านี่​เกียจคร้าน​เอาแต่ได้​ รัก​สบาย​ อยาก​จะได้​อะไร​ฟรี​ๆ! ที่​สำคัญ​คือ​เจ้านี่​หลงตัวเอง​เป็นพิเศษ​!

ฟางเจิ้งขมวดคิ้ว​ก่อน​ยืน​ขึ้น​เดิน​เข้า​อุโบสถ​ไป​จุด​ธูป​เช่นกัน​ โขก​หัว​ก่อน​พึมพำ​ใน​ปา​กว่า​ “พระโพธิสัตว์​ ขอให้​อาตมา​ได้​สึก​ใน​เร็ว​วัน​ด้วย​เถอะ​” ขณะเดียวกัน​ก็​ใช้ความฝัน​ยาม​ต้ม​ข้าวฟ่าง​ เข้าฝัน​!

ชายหนุ่ม​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ตกใจ​สะดุ้ง​ มีคน​ขอ​เรื่อง​แบบนี้​ด้วย​? พอ​หันไป​มอง​ก็​ตกใจ​จน​แทบจะ​กระโดด​ขึ้น​ คน​ที่​คุกเข่า​ข้างๆ​ คุ้นตา​อย่างยิ่ง​!

ครั้น​เงยหน้า​มอง​บน​ป้าย​หมื่น​พุทธ​ก่อน​มอง​คน​ข้าง​กาย​อีกที​ ไม่อยาก​เชื่อ​ว่า​จะเหมือนกัน​ทุก​ประการ​! ชายหนุ่ม​ตกใจ​จน​วิญญาณ​จะลอย​ล่อง​!

ขณะนี้​เอง​ฟางเจิ้งหันหน้า​มา พูด​ยิ้ม​ๆ “ประสก​ มีปัญหา​อะไร​หรือ​?”

“ทะ​…ท่าน​…เธอ​…” พาน​อัน​ชี้ฟางเจิ้งก่อน​ชี้พระโพธิสัตว์กวนอิม​บน​ป้าย​หมื่น​พุทธ​ พูด​อะไร​ไม่ออก​แล้ว​

ฟางเจิ้งไม่ตอบ​ แต่​รอคอย​อย่าง​สงบนิ่ง​

พาน​อัน​กลืนน้ำลาย​ลงคอ​จน​ในที่สุด​ก็​ปลุก​ความกล้า​ขึ้น​มาได้​ “ท่าน​คือ​เธอ​?”

ฟางเจิ้งพยักหน้า​ “ใช่”

“ท่าน​คือ​พระโพธิสัตว์​?” พาน​อัน​ร้อง​ตกใจ​

ฟางเจิ้งพยักหน้า​ต่อ​

พาน​อัน​เห็น​ฟางเจิ้งมีสีหน้า​เป็นมิตร​ไม่มีอันตราย​ เลย​กล้าหาญ​ขึ้น​มา “ใน​เมื่อ​ท่าน​คือ​พระโพธิสัตว์​ แล้ว​ทำไม​ถึงขอ​พระโพธิสัตว์​? ไม่ใช่สิ ทำไม​ท่าน​ถึงขอพร​ตัวเอง​?”

ฟางเจิ้งตอบ​ยิ้ม​ๆ “เพราะ​อาตมา​รู้​ว่า​ขอ​คนอื่น​สู้ขอ​ตัวเอง​ไม่ได้​ ตน​ไม่พยายาม​ ขอ​คนอื่น​จะมีประโยชน์​อัน​ใด​? อาตมา​จะสำเร็จ​อรหันต์​ก็​ต้อง​พึ่งพา​ตัวเอง​ ให้​พึ่งพา​คนอื่น​? จะพึ่งพา​ได้​หรือ​?”

พาน​อัน​งุนงง​…

ฟางเจิ้งเอ่ย​จบ​ก็​ยืน​ขึ้น​ออกจาก​อุโบสถ​ กลายเป็น​ธาร​แสงสว่าง​สาย​หนึ่ง​หาย​ไป​ แน่นอน​ว่า​ฟางเจิ้งบิน​ไม่ได้​ แต่​นี่​เป็น​ภาพมายา​นี่​ จึงบิน​ไป​ตามใจ​…

พาน​อัน​ตาค้าง​ ถ้าเมื่อ​ครู่​เขา​ยัง​คิด​ว่า​ตน​อาจจะ​ตาฝาด​ เห็น​ภาพหลอน​ หรือไม่​ก็​ถูก​คน​แต่ง​COSPLAY หลอก​ แต่​ตอนนี้​เชื่อ​จริงๆ​ แล้ว​! คนธรรมดา​บิน​ได้​หรือ​? แน่นอน​ว่าไม่ได้​! เมื่อ​หันไป​มอง​ป้าย​หมื่น​พุทธ​ พาน​อัน​สับสน​แล้ว​ ก่อน​ถามขึ้น​ว่า​ “พระโพธิสัตว์​ ท่าน​กำลัง​ชี้แนะ​ผม​เหรอ​ครับ​?”

น่าเสียดาย​ป้าย​หมื่น​พุทธ​ไม่มีการโต้ตอบ​ใดๆ​

ทว่า​พาน​อัน​ยังคง​ยิ้ม​ “ใช่ พระโพธิสัตว์​จะต้อง​ชี้นำ​เรา​แน่ๆ​! ฮ่าๆ…ฉัน​รู้​อยู่แล้ว​ว่า​ชีวิต​เรา​ไม่ธรรมดา​ แม้แต่​พระโพธิสัตว์​ยัง​จุติ​ลงมา​ชี้แนะ​เรา​ด้วยตัวเอง​ พระโพธิสัตว์​ถูกใจ​เรา​ แล้ว​เรา​จะไม่สำเร็จ​ได้​ยังไง​? อืม​ กลับ​ไป​พยายาม​ต่อ​ดีกว่า​…” พาน​อัน​พึมพำ​พลาง​เดิน​ออกจาก​อุโบสถ​ วิ่ง​ออกจาก​วัด​ก่อน​ลง​เขา​หายวับไปกับตา​

ลิง​ยืน​อยู่​ข้าง​กาย​ฟางเจิ้ง ถาม “อาจารย์​ ทำไม​เจ้านี่​ถึงประหลาด​จัง?”

ฟางเจิ้งยิ้ม​ “บางคน​ไม่มีเทพ​ใน​ใจ แต่​มาขอพร​เทพ​ บางคน​มีเทพ​ใน​ใจ มาขอพร​เทพ​เช่นกัน​ แต่กลับ​ไม่รู้เรื่อง​ของ​โลก​นี้​ว่า​ขอ​ใคร​ก็​สู้ขอ​ตัวเอง​ไม่ได้​”

“อาจารย์​ ถ้าท่าน​จะว่า​แบบนี้​ ถ้าอย่างนั้น​ท่าน​ยัง​เปิด​วัด​ทำไม​? ยัง​ต้อง​มีแสงธูป​ไป​ทำไม​? ทุกคน​กลับ​ไป​ขอ​ตัวเอง​ไม่ดีกว่า​หรือ​?” ลิง​เกา​หัว​พลาง​ถามด้วย​ความ​ไม่เข้าใจ​

ฟางเจิ้งตอบ​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ขอ​ตัวเอง​เป็น​สิ่งที่​ดี​ ขอ​เทพ​เป็น​สิ่งที่​ดี​ระดับปานกลาง​ ล้มเลิก​เป็น​สิ่งโง่เขลา​ เพราะ​โลก​นี้​มีคน​ที่​ไม่รู้จัก​ขอ​ตัวเอง​และ​พยายาม​ แถมยัง​ลุ่มหลง​มากเกินไป​ ดังนั้น​ถึงมีการ​ขอพร​พระพุทธ​ใน​วัด​อย่าง​ปัจจุบัน​ ไม่รู้จัก​การ​ขอ​ตัวเอง​ จึงได้​แต่​ถอย​และ​ขอพร​พระพุทธ​ซึ่งรอง​ลงมา​ อย่าง​น้อย​ก็​ยัง​มีความหวัง​ การ​คงอยู่​ของ​พระพุทธ​คือ​การ​ให้​ความหวัง​กับ​ผู้คน​ ไม่ว่า​นาย​จะขอพร​พระพุทธ​ใน​เวลา​ใด​ เขา​ก็​จะยืน​อยู่​ข้าง​นาย​ ฟังรสชาติ​ชีวิต​ของ​นาย​ ทั้ง​ยัง​ใช้วิธี​ของ​เขา​แก้​ความทุกข์​ใน​ใจ แบ่งปัน​ความสุข​ ไม่อย่างนั้น​แล้ว​เมื่อใด​ที่​ทุก​ชีวิต​สับสน​ มองไม่เห็น​ความหวัง​และ​ไม่มีใคร​เข้าใจ​พวกเขา​แล้ว​นั้น​ จะเดิน​บน​ทาง​แห่ง​ความอับ​จนได้​ง่าย​มาก​”

“ถะ…ถ้าอย่างนั้น​ทุกคน​ขอ​ตัวเอง​แล้ว​ ก็​แสดงว่า​พระพุทธ​ไม่มีประโยชน์​แล้ว​หรือ​?” ลิง​ถามอย่าง​กังวล​

ฟางเจิ้งหัวเราะ​เสียงดัง​ “ทุกคน​ต่าง​ขอ​ตัวเอง​แล้ว​ โลก​ก็​คือ​เขา​คุ​น​หลุน​ ทุก​สรรพสัตว์​คือ​พระพุทธ​ จะบอ​กว่า​ไม่มีประโยชน์​ได้​ยังไง​? คุณธรรม​ที่​ดี​ทั้งหมด​อย่างเช่น​พบ​ความ​ตั้งใจจริง​ของ​ตน​ เห็น​ธรรมชาติ​แต่​เดิมที​ของ​ตน​และ​มั่นคง​หนักแน่น​เป็นต้น​ถูก​ผู้คน​ปลุก​จาก​ใน​ใจ ทุก​สรรพสัตว์​ล้วน​เป็น​พระพุทธ​ นั่น​ต่างหาก​คือ​ยุค​ที่​เจริญรุ่งเรือง​”

ลิง​เข้าใจ​แจ่มแจ้งแล้ว​ มัน​ประนม​สอง​มือ​กล่าว​ “อ​มิตา​พุทธ​ ศิษย์​ได้รับ​การ​สั่งสอน​”

ฟางเจิ้งตบ​หัวลิง​ก่อน​กลับ​ไป​สวดมนต์​ที่​อุโบสถ​อย่าง​พอใจ​

เวลา​ผ่าน​ไป​ทีละ​วัน​ กินเจ​สวดมนต์​ทุกวัน​ ตัก​น้ำ​ทำนา​ ใช้ชีวิต​อย่าง​อิสร​เสรี​ ทว่า​วันนี้​ฟางเจิ้งได้รับ​บัตรเชิญ​จากวัด​แสงตะวัน​รอน​ฉบับ​หนึ่ง​

วัด​แสงตะวัน​รอน​ แม้จะไม่ใช่วัด​ใหญ่​หมายเลข​หนึ่ง​ใน​มณฑล​จี๋หลิน​ แต่​ถือว่า​เป็น​วัด​ดัง​อันดับ​ต้น​ๆ วัด​นี้​มีประวัติศาสตร์​หลาย​ร้อย​ปี​ ผ่าน​การเปลี่ยนแปลง​สมัย​ราชวงศ์​ แต่​ไม่เคย​เสื่อม​ลง​เลย​ วัด​แสงตะวัน​รอน​ตั้งอยู่​บน​ภูเขา​ฉางไป๋​ และ​ก็​เป็น​วัด​ใหญ่​บน​ภูเขา​ฉางไป๋​ที่​มีหลาย​วัด​สร้าง​อยู่​บน​นั้น​

แม้จะอยู่​บน​เทือกเขา​ฉางไป๋​ ทว่า​ภูเขา​ฉางไป๋​แบ่ง​เป็น​ส่วน​ความหมาย​กว้างๆ​ กับ​ความหมาย​แคบ​ๆ ยอดเขา​ฉางไป๋​ใน​ความหมาย​แคบ​ๆ คือ​ยอด​ส่วน​นั้น​ตรง​มุมทาง​ภาค​ตะวันตกเฉียงใต้​ของ​ภูเขา​ฉางไป๋​ ตรงนั้น​มียอดเขา​หลัก​ของ​ภูเขา​ฉางไป๋​ ส่วน​ภูเขา​ฉางไป๋​ใน​ความหมาย​กว้างๆ​ คือ​ขวาง​ข้าม​สามมณฑล​ทาง​ภาค​ตะวันออกเฉียงเหนือ​ เรียก​รวมกัน​ว่า​พื้นที่​ภูเขา​ส่วน​ทาง​ภาค​ตะวันออกเฉียงเหนือ​ ทางเหนือ​เริ่ม​จาก​ตีน​เทือกเขา​หวาน​ต๋า​ ทางใต้​ยาว​ไป​จนถึง​ภูเขา​เหลา​เถี่ย​เทือกเขา​เชีย​น​ซาน​ ยาว​ประมาณ​1300 กิโลเมตร​ ตะวันออก​และ​ตก​กว้าง​ประมาณ​400 กิโลเมตร​ เป็นต้น​แม่น้ำ​ยาลวี่​ แม่น้ำ​ถูเห​มิน​และ​แม่น้ำ​ซงฮวา​

วัด​แสงตะวัน​รอน​ตั้ง​บน​เทือกเขา​ฉางไป๋​ใน​ความหมาย​กว้าง​ อยู่​ทาง​ตะวันออกเฉียงเหนือ​สุด​ของ​มณฑล​จี๋หลิน​ ถ้าฟางเจิ้งจะไป​ หาก​นั่ง​รถ​ต้อง​ใช้เวลา​สอง​วัน​สอง​คืน​ ถ้านั่ง​รถไฟ​ความเร็ว​สูงจาก​เมือง​เฮย​ซาน​ไป​เมือง​จี๋หลิน​ นั่น​ก็​จะเร็ว​ แต่ว่า​ก็​ต้อง​จ่าย​มากกว่า​…

ฟางเจิ้งนั่ง​อ่าน​บัตรเชิญ​อยู่​หน้า​ประตู​วัด​ด้วย​หน้า​กลัดกลุ้ม​ อย่า​ว่าแต่​รถไฟ​ความเร็ว​สูงเลย​ แค่​ค่า​รถยนต์​ยัง​ไม่พอ​!

ขณะ​ฟางเจิ้งกำลัง​กลัดกลุ้ม​นั้น​ พลัน​ได้ยิน​เสียงดัง​ข้าง​หู​ “นี่​มัน​บัตรเชิญ​จากวัด​แสงตะวัน​รอน​?”

ฟางเจิ้งอึ้ง​งัน​ เงยหน้า​ขึ้น​ก็​พบ​เด็กสาว​คน​หนึ่ง​กำลัง​ถลึงตา​โต​ใสแป๋ว​ มอง​บัตรเชิญ​ใน​มือ​ฟางเจิ้งด้วย​ความแปลกใจ​ เด็กสาว​คน​นี้​ไม่ใช่คนแปลกหน้า​ เธอ​คือ​โอว​หยาง​เฟิงหวา​ลูกสาว​นักเขียน​พู่กัน​จีน​โอว​หยาง​หวา​ไจที่​เคย​ประลอง​ศิลปะ​พู่กัน​จีน​กับ​ฟางเจิ้งใน​ตอนนั้น​ เธอ​ไว้​ผมเปีย​หาง​ม้าง่ายๆ​ สวม​เสื้อเชิ้ต​สีเหลือง​ กางเกงยีน​เจ็ด​ส่วน​ ดวง​ตาโต​สว่างไสว​ แพ​ขน​ตา​ยาว​มาก​ เป็นประกาย​วิบ​วับๆ​ ดึงดูด​คน​อย่างยิ่ง​

“อ​มิตา​พุทธ​ ที่แท้​ก็​สีกา​โอว​หยาง​” ฟางเจิ้งยืน​ขึ้น​ประนม​สอง​มือ​กล่าว​ทักทาย​

“บ่ะ​ ไต้​ซือ​ ท่าน​เกรงใจ​ไป​แล้ว​ หัวโบราณ​จังเลย​นะคะ​ ท่าน​ที่​ฉัน​จำได้​ไม่ใช่แบบนี้​นี่​” โอว​หยาง​เฟิงหวา​กะพริบ​ตาโต​ด้วย​ท่าที​ขบขัน​

ฟางเจิ้งยิ้ม​แล้ว​ถามกลับ​ “แล้ว​อาตมา​ใน​สายตา​สีกา​เป็น​แบบ​ไหน​?”

“ถึงจะดู​โบราณ​อยู่​บ้าง​ แต่​ก็​เป็น​คน​ที่​น่าสนใจ​มาก​ อย่าง​น้อย​ก็​ไม่หัวโบราณ​” โอว​หยาง​เฟิงหวา​อยาก​บอก​มากว่า​เจิด​จรัส​ เท่​และ​มีไหวพริบ​นิดๆ​ ทว่า​กลัว​ว่า​พูด​ไป​แล้ว​ฟางเจิ้งจะไม่พอใจ​ เลย​เปลี่ยน​คำ​

ฟางเจิ้งยิ้ม​เล็กน้อย​ เขา​คัดค้าน​คำวิจารณ์​ของ​โอว​หยาง​เฟิงหวา​ไม่ได้​จริงๆ​ เพราะ​เขา​ไม่ใช่คน​หัวโบราณ​โดยแท้จริง​ ต่อหน้า​คน​เป็น​ไต้​ซือ​ ลับหลัง​คน​เป็น​คน​ปกติ​ แถมยัง​เป็น​หัวโจก​ทำ​เรื่อง​ซุกซน​ก่อกวน​ไม่น้อย​

“ขอบคุณ​ที่​สีกา​ชม” ฟางเจิ้งตอบกลับ​

“อย่า​ขอบคุณ​ไปมา​เลย​ค่ะ​ แล้วก็​อย่า​เรียก​ฉัน​ว่า​สีกา​ด้วย​ พวกเรา​สนิท​กัน​ขนาด​นี้​แล้ว​ ท่าน​เรียกชื่อ​ฉัน​ก็​พอ​ ฉัน​โอว​หยาง​เฟิงหวา​ ทุกคน​เรียก​ว่า​ฉัน​ว่า​เฟิงหวา​” โอว​หยาง​เฟิงหวา​พูด​ด้วย​ท่าที​ขำขัน​

ฟางเจิ้งตรึกตรอง​แล้วก็​ยัง​ตอบ​ไป​ว่า​ “สวัสดี​สีกา​โอว​หยาง​”

………………………

บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์

บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์

Score 10
Status: Completed

บนภูเขาเอกดรรชนีในเขตภูเขาอันไกลโพ้นทางตะวันออกเฉียงเหนือ

มีวัดเล็กแห่งหนึ่งนามว่าเอกดรรชนี แต่กลับประหลาดอย่างยิ่ง

ในวัดมีข้าว ส่งกลิ่นหอมโชยสิบลี้

ในวัดมีน้ำ หวานสดชื่นอย่างยิ่ง เลิศล้ำกว่าสุราชั้นดี

ในวัดมีพระพุทธ หากจริงใจจะสัมฤทธิ์ผล

วัดไม่ใหญ่แต่กลับมีทุกสิ่ง วัดไม่ใหญ่แต่ความคึกคักของเพลิงเทียนกลับเหนือกว่าวัดทุกแห่งหน

และดึงดูดผู้คนนับไม่ถ้วนจากภายนอกให้อดหลับอดนอนเรียงหน้ากันเข้ามา…

ในวัดนี้มีหลวงจีนรูปหนึ่ง แม้ใจอยากสึก แต่กลับถูกระบบพุทธองค์ชั่วช้าจับตัวไว้

จำต้องอยู่ต่อไปเพื่อบรรลุอรหันต์ ได้แต่คอยพูดงึมงำอยู่ทุกวันว่า

“อาตมาจะสึก จะหาภรรยาที่ไม่ต้องสวยมาก มีลูกน้อยด้วยกัน แล้วใช้ชีวิตอย่างสงบสุข!”

Options

not work with dark mode
Reset