บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ 382 ยืนขึ้นมา!

ตอนที่ 382 ยืนขึ้นมา!

หลู่​เจิ้งแหงนหน้า​มอง​ลูก​บาส​ที่​ลอย​มา ใน​ความคิด​มีคะแนน​เจ็ดสิบ​ต่อ​เจ็ดสิบ​วูบ​ผ่าน​ พอ​นึกถึง​การ​สนับสนุน​ของ​ทีม​เฉิน​เหว่​ย​ นึกถึง​แต้ม​นำ​ของ​ทีม​เฉิน​เหว่​ย​ภายใต้​การ​ช่วยเหลือ​ของ​หมาป่า​เดียวดาย​ก่อน​เขา​จะมา และ​ยัง​นึก​ไป​ถึงการกระทำ​ถ่วง​ขา​คนอื่น​หลายครั้ง​ของ​ตน​…ไฟฮึด​สู้ใน​ใจหลู่​เจิ้งกำลัง​ลุกโชน​!

ความเชื่อมั่น​ส่งเสียงดัง​ซ้ำไปมา​ใน​ใจหลู่​เจิ้ง ‘เรา​ทำได้​! เรา​ทำได้​! เรา​ทำได้​! เรา​ไม่ใช่ตัวถ่วง​ เรา​จะต้อง​รับ​ลูก​นี้​เพื่อ​ทีม​ เรา​ต้อง​ชนะ​! ชนะ​! ชนะ​!’

ภายในใจ​กำลัง​ร้อง​คำราม​ ปาก​ตะโกน​ตาม​โดย​จิตใต้สำนึก​ “ชนะ​!”

หลู่​เจิ้งไม่รู้​ว่า​เอาแรง​มาจาก​ไหน​ ขา​สอง​ข้าง​ที่​ไม่รู้สึก​มานาน​มาก​เหมือน​มีความรู้สึก​ใน​ฉับพลัน​ เขา​ออกแรง​ถีบ​ ตะโกน​พร้อมกับ​ยืน​ขึ้น​!

วินาที​นั้น​ทั้งโลก​คล้าย​กับ​หยุดนิ่ง​ พริบตา​นั้น​สายตา​ทุกคน​ตะลึง​ค้าง​! ชั่ว​ขณะนั้น​ราวกับว่า​หลู่​เจิ้งควบคุม​ทั้งโลก​ได้​! เขา​ยืน​ขึ้น​แล้ว​! เขา​ยืน​ขึ้น​แล้ว​! ใน​เมื่อ​เขา​ยืน​ขึ้น​ได้​ ถ้าอย่างนั้น​กระโดด​ล่ะ​?

จากนั้น​หลู่​เจิ้งกระโดด​ขึ้น​ แม้เพราะ​เพิ่ง​ยืน​ขึ้น​เลย​ไม่มีแรง​มาก​นัก​ แต่​เขา​ก็​ยัง​กระโดด​

ตอนนี้​เอง​ ตรง​เอว​ถูก​คน​ดึง​ขึ้น​มา ทั้งตัว​ลอย​กลางอากาศ​ ก่อน​คว้า​ลูก​บาส​เอาไว้​ได้​!

“อ​มิตา​พุทธ​ ประสก​ แสลม​ดังก์​ไป​เลย​!” เสียง​ฟางเจิ้งดัง​ขึ้น​ ขณะเดียวกัน​หลู่​เจิ้งรู้สึก​ว่า​มีแรง​แล่น​เข้ามา​ ร่างกาย​ลอย​ไป​โดย​ควบคุม​ตัวเอง​ไม่ได้​! ตัว​ลอย​อยู่​กลางอากาศ​ ห่วง​บาส​อยู่​ใกล้​ตรงหน้า​! เขา​ฝัน​อยาก​ยัด​ลูก​ลง​ห่วง​มาตลอด​ ท่า​การ​แสลม​ดังก์​ฉาย​ผ่าน​ใน​ความคิด​ไม่รู้​กี่​ครั้ง​! ครั้งนี้​เขา​ควบคุม​ร่างกาย​โดยไม่รู้ตัว​ กอด​ลูก​บาส​ยัด​ลง​ไป​ใน​ห่วง​!

เขา​จำได้​ว่า​มีคน​เคย​บอ​กว่า​แสลม​ดังก์​คือ​อะไร​? มัน​คือ​การ​ใช้พลัง​ทั่ว​ร่างกาย​ยัด​ลูก​บาส​ลง​ไป​ใน​ห่วง​ บดขยี้​ทุกอย่าง​ บดขยี้​ห่วง​บาส​ บดขยี้​ลูก​บาส​! ใช้พลัง​พิสูจน์​ตัวเอง​ ใช้แรง​บด​ทำลาย​ทุกสิ่ง​ ใช้แรง​กำราบ​ทุกสิ่ง​ ใช้แรง​ช่วงชิง​ชัยชนะ​มา!

“อ๊าก!”​

หลู่​เจิ้งใช้แรง​ทั้งหมด​พร้อมกับ​ตะโกน​ลั่น​!

ชูมือขึ้น​สูง อัด​ลง​ไป​!

ปัง​!

เกิด​เสียง​ดังสนั่น​!

เสียง​สะเทือน​ฟ้า!

พริบตา​นั้น​ สายตา​ทุกคน​ตะลึง​ค้าง​!

“พระเจ้า​!”

“โหด​มาก​!”

“เวร​ นั่น​ยัง​เป็น​คน​อยู่​รึเปล่า​เนี่ย​?”

“บ้า​ไป​แล้ว​ โยน​คน​ตัว​ใหญ่​ขึ้นไป​สูงขนาด​นั้น​ได้​ยังไง​! หลวงจีน​นี่​ใช่ซุน​หงอ​คง​รึเปล่า​?”

……..

ไม่ผิด​ ทุกคน​ไม่ได้​ตกใจ​ที่​หลู่​เจิ้งแสลม​ดังก์​ แต่​ตกใจ​ที่​ฟางเจิ้งโยน​คน​ขึ้นไป​สูงขนาด​นั้น​!

หวัง​คุ​นตบ​บ่า​เฉิน​เหว่​ย​ “เฉิน​เหว่​ย​ จากนี้​นาย​ทำเป็น​เก่ง​ต่อไป​เถอะ​ ฉัน​จะให้​ไต้​ซือ​โยน​นาย​เข้าไป​ใน​ส้วม​ซะ”

“ทำเป็น​เก่ง​ไม่ไหว​แล้ว​ นี่​มัน​โหด​เกินไป​…” เฉิน​เหว่​ย​ยิ้มเจื่อน​ๆ

ทว่า​พวกเขา​พูดคุย​กัน​เสียง​เบา​มาก​ หลู่​เจิ้งกำลัง​มัวเมา​อยู่​ใน​ความสุข​ของ​การ​แสลม​ดังก์​อย่าง​สิ้นเชิง​ จึงไม่ได้ยิน​อะไร​เลย​

ฟางเจิ้งได้ยิน​เข้า​ก็​หน้าแดง​นิดๆ​ แสร้ง​ทำเป็น​ไม่ได้ยิน​ เขา​ที่​รีบ​มาอยู่​ใต้​แป้น​บาส​รับ​หลู่​เจิ้งเอาไว้​

ตอนนี้​ หลู่​เจิ้งเพิ่ง​ได้สติ​กลับมา​ มอง​ฟางเจิ้งด้วย​สีหน้า​ตื่นเต้น​ “ไต้​ซือ…​ผะ​…ผม​แสลม​ดังก์”​

“อืม​ แสลม​ดังก์​ รบกวน​ประสก​ส่งห่วง​บาส​ให้​อาตมา​ด้วย​?” ฟางเจิ้งมอง​หลู่​เจิ้งด้วย​ความขมขื่น​

หลู่​เจิ้งถึงเพิ่ง​รู้​ว่า​เขา​ใช้แรง​ทุ่ม​ลูก​ทั้งหมด​จน​ห่วง​หลุด​ลงมา​ด้วย​! ใบหน้า​เล็ก​แดงก่ำ​ มอง​ไป​รอบ​ๆ ด้วย​ความ​เก้อเขิน​อย่างยิ่ง​ เขา​รู้ดี​ว่า​เขต​เล็ก​เยียน​กว่าง​เป็น​สนาม​บาส​ที่​ใกล้​กับ​โรงเรียน​ที่สุด​ ทว่า​เขต​เล็ก​เยียน​กว่าง​เป็น​เขต​โรงเรียน​เก่า​ อยู่​มานาน​มาก​แล้ว​ พวก​อุปกรณ์​สาธารณะ​เหล่านี้​ขาด​การ​บำรุง​ไป​นาน​หลาย​ปี​ ด้วย​ความ​ที่​ลม​พัด​และ​ฝนตก​เลย​เสื่อม​ข้างใน​ ทว่า​อย่าง​น้อย​ก็​ยัง​ใช้ได้​ ยัง​เล่น​ได้​…

ครั้งนี้​จบเห่​แล้ว​ เขา​หัก​ห่วง​ลงมา​ จากนี้​ทุกคน​ไม่ต้อง​เล่น​กัน​แล้ว​

ฟางเจิ้งมอง​ห่วง​บาส​ใน​มือ​พลาง​ตบ​ๆ หลู่​เจิ้ง “ยินดี​ด้วย​ ประสก​ยืน​เอง​ได้​แล้ว​”

หลู่​เจิ้งอึ้ง​งัน​ ตอนนี้​เพิ่ง​รู้​ว่า​ฟางเจิ้งปล่อยมือ​นาน​แล้ว​! เขา​ยืน​ได้​ด้วย​กำลัง​ของ​ตัวเอง​ ยืน​ขึ้น​แล้ว​!

“ยินดี​ด้วย​เพื่อน​!” พวก​เฉิน​เหว่​ย​กับ​หวัง​คุ​น​เห็น​แบบ​นั้น​ก็​พา​กัน​เดิน​เข้ามา​แสดงความยินดี​

เฉิน​เหว่​ยก​อด​บ่า​หลู่​เจิ้งพลาง​ว่า​ “เพื่อน​ สู้ๆ ขอให้​หาย​ไว​ๆ พวกเรา​จะได้​สู้เคียงบ่าเคียงไหล่​กัน​!”

“เฉิน​เหว่​ย​ แก​ไปให้พ้น​เลย​ ฉัน​เจอ​หลู่​เจิ้งก่อน​ ก็​ต้อง​เข้า​ทีม​ฉัน​สิ!” หวัง​คุ​น​ร้อง​โวย​

“ไอ้บ้า​! อย่าง​น้อย​ตอนนี้​เขา​ก็​อยู่​ทีม​ฉัน​! อีก​อย่าง​ฉัน​ชนะ​! ไหน​คุย​กัน​แล้ว​ว่า​ใคร​ชนะ​คน​นั้น​เป็นใหญ่​! จะบอก​ให้​นะ​ หลู่​เจิ้งไม่ใช่แค่​ลูกทีม​ฉัน​ แต่​วันนี้​นาย​จะต้อง​เลี้ยงข้าว​ด้วย​!” เฉิน​เหว่​ย​หัวเราะ​เบา​ๆ

หวัง​คุ​นม​อง​ค้อน​เขา​ไป​ที​ “ถือว่า​นาย​ชนะ​!”

พอ​เห็น​ว่า​เจ้าสอง​คน​นี้​ทะเลาะ​กัน​เพราะ​แย่ง​ตัวเอง​ แถมยัง​สัมผัส​ได้​ถึงมิตรภาพ​ใน​คำหยาบ​ หลู่​เจิ้งถึงกับ​หัวเราะ​

“เอาล่ะ​ หลู่​เจิ้งเพิ่ง​ยืน​ได้​ ร่างกาย​ไม่ควร​เหนื่อย​เกินไป​ ให้​เขา​พัก​ก่อน​สักหน่อย​เถอะ​” ฟางเจิ้งพูด​ขัด​ทุกคน​

แม้หลู่​เจิ้งจะทำใจ​จาก​ไม่ได้​ แต่​ก็​มอง​ฟางเจิ้งด้วย​ความ​ซาบซึ้งใจ​ เขา​ไม่ใช่คนโง่​ หวัง​คุ​น​และ​เฉิน​เหว่​ย​ไม่ได้มา​เล่น​บาส​เป็นครั้งแรก​ แต่​ทุกอย่าง​ที่​เกิดขึ้น​เริ่ม​จาก​ที่​ฟางเจิ้งมาทานข้าว​ที่​บ้าน​เขา​ นี่​อธิบาย​ทุกอย่าง​แล้ว​ อีก​อย่าง​หลังจาก​ตื่นเต้น​มากเกินไป​ ตอนนี้​เขา​เหนื่อย​เล็กน้อย​ อยาก​จะพักผ่อน​

ทุกคน​เข้าใจ​เหตุผล​นี้​ หวัง​คุ​น​กับ​เฉิน​เหว่​ย​จึงบอ​กว่า​ “หลู่​เจิ้งสู้ๆ เริ่ม​พรุ่งนี้​เลย​ พวกเรา​มาเล่น​บาส​ด้วยกัน​อีก​”

หลู่​เจิ้งพยักหน้า​ตอบ​ตกลง​

เมื่อ​ทุกคน​แยกย้าย​กัน​ไป​ ฟางเจิ้งเข็น​หลู่​เจิ้งไป​ใต้​ตึก​ พูด​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “จะขึ้นไป​เอง​หรือ​ให้​อาตมา​เข็น​ขึ้นไป​?”

“ผม​ขึ้นไป​เอง​!” หลู่​เจิ้งตอบ​อย่าง​ไม่ลังเล​แม้แต่น้อย​

ฟางเจิ้งยิ้ม​ เขา​ไม่ได้​อยาก​ให้​หลู่​เจิ้งขึ้นไป​เอง​จริงๆ​ แต่​เพียงแค่​อยาก​เห็น​ว่า​หลู่​เจิ้งมีความมั่นใจ​และ​มุ่งมั่น​ที่จะ​สู้อีกครั้ง​จริงๆ​ หรือไม่​! ตอนนี้​ดู​แล้ว​เขา​คง​คิดมาก​ไป​

ลง​ตึก​ง่าย​ ขึ้น​ตึก​ยาก​ หลู่​เจิ้งเพิ่ง​ใช้แรง​มาจน​หมด​แล้​วจะ​ไป​ขึ้น​ได้​อย่างไร​? สุดท้าย​ฟางเจิ้งยก​หลู่​เจิ้งขึ้นไป​ หลู่​เจิ้งมอง​ฟางเจิ้งด้วย​ใบ​หน้าแดง​ๆ ว่า​ “ขอบคุณ​ครับ​…”

“อ​มิตา​พุทธ​ ประสก​ไม่ต้อง​อาย​ อย่า​ว่าแต่​ประสก​เลย​ คน​ส่วนใหญ่​ก็​นั่ง​รถเข็น​ขึ้น​บันได​ไม่ได้​ แต่​อาตมา​เชื่อ​ว่า​อีกไม่นาน​ประสก​จะไม่ต้อง​ใช้มัน​แล้ว​” ฟางเจิ้งพูด​พร้อม​ตบ​ไป​ที่​รถเข็น​

หลู่​เจิ้งพยักหน้า​อย่าง​มั่นใจ​

ชั่ว​ขณะนี้​เอง​ ซูอวิ๋น​กับ​หลู่​ฮุย​กลับมา​แล้ว​ พอ​เจอ​หน้า​กัน​ หลู่​เจิ้งเอ่ย​ทันที​ “พ่อ​ แม่…”

“ฮ่าๆ…หลู่​ฮุย​ คุณ​ได้ยิน​ไหม​? เสี่ยว​เจิ้งเรียก​พวกเรา​ด้วย​ ฮือ​ๆๆ…เรียก​พวกเรา​แล้ว​…ฮือ​ๆ…” ซูอวิ๋น​ที่​หวั่นไหว​ง่าย​กอด​บ่า​หลู่​ฮุย​และ​ร้องไห้​อีกครั้ง​

หลู่​ฮุย​เกร็ง​หน้า​พลาง​ต่อว่า​ “มอง​อะไร​? ไม่เคย​เห็น​แม่แก​กระเง้ากระงอด​เหรอ​ ไม่เคย​เห็น​คน​จีบ​กัน​รึ​ไง?!”

หลู่​เจิ้งตกใจ​จน​แลบลิ้น​ ก่อน​รีบ​เข้าไป​ใน​บ้าน​

ฟางเจิ้งหัวเราะ​แล้ว​เข้า​บ้าน​หลู่​ฮุย​อีกครั้ง​ เขา​พบ​ว่า​ยังคง​เป็น​ห้อง​นั้น​ ยังคง​มีเครื่องเรือน​เหล่านั้น​ ยังคง​มีแสงไฟแบบ​เดิม​ แต่​ครอบครัว​นี้​สว่างไสว​ขึ้น​แล้ว​

มื้อ​กลางวัน​ฟางเจิ้งก็​ยัง​ฝากท้อง​ไว้​กับ​บ้าน​หลู่​ฮุย​ หลู่​เจิ้งไม่เก็บตัว​อยู่​ใน​ห้อง​เป็นครั้งแรก​ แต่​นั่ง​ใน​ห้องรับแขก​ ใน​ครอบครัว​พูดคุย​กัน​สนุกสนาน​และ​มีความสุข​ แน่นอน​ว่า​ไม่ขาด​คำขอบคุณ​เช่นกัน​…

ฟางเจิ้งปฏิเสธ​การ​ไป​ส่งและ​เงิน​ขอบคุณ​จาก​หลู่​ฮุย​ ก่อน​มาที่​หน้าบ้าน​หวัง​คุ​น​

ผล​คือ​ได้ยิน​เสียงหัวเราะ​จาก​ใน​บ้าน​หวัง​คุ​น​ เห็นได้ชัด​ว่า​เด็ก​พวก​นี้​พอใจ​กับ​ภารกิจ​ใน​วันนี้​มาก​ กระทั่ง​ฟางเจิ้งยัง​ได้ยิน​หวัง​คุ​น​กับ​เฉิน​เหว่​ย​กำลัง​เสนอ​ความคิดเห็น​อย่างหนึ่ง​

“เพื่อน​ๆ วันนี้​เรา​ทำสำเร็จ​แล้ว​! ฉัน​รู้​แล้ว​ว่าการ​ช่วย​คนอื่น​ฟิน​กว่า​แกล้ง​คนอื่น​! แม่ง จากนี้ไป​ฉัน​จะเป็น​คนดี​!” หวัง​คุ​นก​ล่า​ว​

บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์

บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์

Score 10
Status: Completed

บนภูเขาเอกดรรชนีในเขตภูเขาอันไกลโพ้นทางตะวันออกเฉียงเหนือ

มีวัดเล็กแห่งหนึ่งนามว่าเอกดรรชนี แต่กลับประหลาดอย่างยิ่ง

ในวัดมีข้าว ส่งกลิ่นหอมโชยสิบลี้

ในวัดมีน้ำ หวานสดชื่นอย่างยิ่ง เลิศล้ำกว่าสุราชั้นดี

ในวัดมีพระพุทธ หากจริงใจจะสัมฤทธิ์ผล

วัดไม่ใหญ่แต่กลับมีทุกสิ่ง วัดไม่ใหญ่แต่ความคึกคักของเพลิงเทียนกลับเหนือกว่าวัดทุกแห่งหน

และดึงดูดผู้คนนับไม่ถ้วนจากภายนอกให้อดหลับอดนอนเรียงหน้ากันเข้ามา…

ในวัดนี้มีหลวงจีนรูปหนึ่ง แม้ใจอยากสึก แต่กลับถูกระบบพุทธองค์ชั่วช้าจับตัวไว้

จำต้องอยู่ต่อไปเพื่อบรรลุอรหันต์ ได้แต่คอยพูดงึมงำอยู่ทุกวันว่า

“อาตมาจะสึก จะหาภรรยาที่ไม่ต้องสวยมาก มีลูกน้อยด้วยกัน แล้วใช้ชีวิตอย่างสงบสุข!”

Options

not work with dark mode
Reset