ตอนนั้น เหลียงเฉิงหู่ไม่สนใจเช่นเดิม
แต่ตอนนี้เขาสนใจแล้ว รู้แล้วว่านรกเดินยาก…นี่คือนรกทีละก้าว หนึ่งก้าวคือบาปกรรมหนึ่งเรื่อง! เขาเดินก้าวที่สองก็เจ็บ เจ็บจนอยากจะร้องเสียงดัง เจ็บจนเขาอยากตัดขาทิ้ง แต่สุดท้ายก็อดกลั้นไว้
เดินไปอีกก้าว มีอีกภาพปรากฏในความคิดเหลียงเฉิงหู่ เขาเปิดน้ำราดในรังมด ไม่รู้ว่ามดตายไปกี่ตัว
เดินต่อไปอีก ภาพวูบผ่านในความคิดเหลียงเฉิงหู่ทีละภาพ เจ็บ…แต่เขาก็ยังกัดฟันยืนหยัด พูดโกรธๆ ในใจว่า ‘ฉันฆ่าพวกแกตอนเป็นได้ พอตายไปแล้วคิดจะแก้แค้นฉันเรอะ? ไม่มีทาง! ก็แค่เจ็บปวดนี่? ฉันยังไหว ยังทนไหว! รอฉันขึ้นภูเขาดาบก่อนเถอะ พวกแกจะทำอะไรฉันได้? ถึงโลกกว้างใหญ่ แต่ใครจะชนะฉันได้?’ ตอนนี้เวลานี้ ยิ่งเหลียงเฉิงหู่นึกย้อนดู บาปกรรมในใจไม่ลดน้อยลงแต่กลับเพิ่มขึ้น! แต่เขาไม่เห็นเลยว่าไกลออกไปมีหลวงจีนหัวโล้นรูปหนึ่งกำลังมองเขาอย่างสงบนิ่ง
“เป็นคนชั่วที่ไม่สำนึกพร้อมกลับตัวจริงๆ น่าเสียดาย ต่อให้ประสกชั่วกว่านี้แล้วยังไง คิดว่าจะออกจากนรกนี้ไปได้ง่ายๆ รึ?” ฟางเจิ้งส่ายหน้าเล็กน้อย
เป็นดังคาดไว้ เหลียงเฉิงหู่ไม่รู้ว่าเดินไปนานเท่าไร ไม่นึกว่าจะดั้นด้นมาถึงเชิงภูเขาดาบ! ยามเงยหน้ามองภูเขาดาบสูงชัน เหลียงเฉิงหู่พบสิ่งที่น่าเศร้าคือ เขาเดินขึ้นภูเขานี้ดาบไม่ได้ ได้แต่ปีนขึ้นไป! หรือพูดได้ว่าครั้งนี้ไม่ได้เจ็บเท้า อย่างน้อยสุดก็ต้องใช้มือ ดีไม่ดีหน้าอกจะถูกคมดาบเฉือนหนังไปด้วย!
ทว่าเหลียงเฉิงหู่ก็ยังเป็นคนโฉด เวลาพร้อมกันนั้นเขารู้แล้วว่าขอแค่เดินหน้าต่อไปได้ บาดแผลจะสมานอย่างรวดเร็ว ไม่ได้ฉีกเขาเป็นชิ้นๆ แล้วกลับมาต่อใหม่ ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องทนจริงๆ มีแค่ความเจ็บปวด! ในใจตัดสินใจเด็ดขาด เหลียงเฉิงหู่กัดฟัน ยื่นสองมือคว้าคมดาบไว้ คำรามด้วยความโกรธแล้วเริ่มปีนเขา!
ตอนนี้เอง มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้น วิญญาณดวงซวยดวงหนึ่งตกลงมาข้างล่าง พลันถูกตัดออกเป็นเศษเนื้อเต็มพื้นก่อนจะกลับไปเกิดใหม่ เหลียงเฉิงหู่หันไปมอง จุดที่เกิดใหม่เป็นจุดแรกสุด หรือพูดได้ว่าถ้าล้มเหลวจะต้องเริ่มใหม่!
‘จะเริ่มใหม่ไม่ได้! จะเริ่มใหม่ไม่ได้!’ เหลียงเฉิงหู่คำรามอย่างบ้าคลั่งในใจ แม้แต่ผีก็รู้ว่าเขาอดทนผ่านเส้นทางนี้มาได้อย่างไร จะให้ไปทำอีกรอบ? นั่นทำให้เขาสิ้นหวังแน่นอน
เหลียงเฉิงหู่ปีนภูเขาต่อไป ไต่ความสูงขึ้นเรื่อยๆ สูงขึ้นทุกที…ขณะเดียวกัน แต่ละก้าวจะมีภาพและความทรงจำวาบเข้ามา ทุกภาพกับความทรงจำล้วนกระตุ้นในใจเขาอย่างลึกล้ำ เดิมทีนี่เป็นการให้นักโทษพิจารณาตัวเอง แต่ผลกลับกลายเป็นต้นกำเนิดแรงขับเคลื่อนของเหลียงเฉิงหู่ เขาปีนไปพลางด่าไปพลาง “แค่เดรัจฉานกลุ่มเดียว ตายก็ตายไปแล้ว มีสิทธิ์อะไรมาให้ฉันต้องรับโทษ? รอฉันออกไปได้ก่อน ฉันจะฆ่าคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า! ฆ่าๆๆ!”
เหลียงเฉิงหู่ปีนต่อไปเพื่อฆ่าคืน ไม่น่าเชื่อว่าจะมีแนวโน้มมาแรงจนไม่อาจต้านได้แล้ว
แต่ภูตผีน้อยตัวเล็กและใหญ่ข้างหลังกลับเผยยิ้มที่ไม่แยแสแม้แต่น้อย
เหลียงเฉิงหู่เห็นว่าจะปีนถึงยอดเขาแล้ว ห่างเพียงก้าวเดียว! เขาเหมือนเห็นแสงแรกอรุณแห่งชัยชนะ เห็นความหวังว่าจะได้ออกจากที่นี่! เขาเผยรอยยิ้มตื่นเต้น ขณะจะปีนขึ้นไปนั้น!
ได้ยินเพียงเสียง
เพียะ!
เสียงนั้นดังขึ้น เหลียงเฉิงหู่รู้สึกแค่ว่ากระดูกสันหลังถูกฟาดจนแหลก! ร่างเขาตกลงไปโดยไม่อาจควบคุมได้ ปลายทางที่เดิมทีใกล้มากกลายเป็นไกลจนเอื้อมไม่ถึง เหลือเพียงความไม่ยอมและสิ้นหวัง…
ตุบ!
เหลียงเฉิงหู่ถูกหั่นจนเป็นเศษเนื้อกระจายเต็มพื้น…
จากนั้นกลับไปเกิดใหม่
“ไม่ยุติธรรม! เห็นๆ อยู่ว่าฉันใกล้จะได้ออกไปแล้ว พวกแกจะฟาดฉันทำไม?” เหลียงเฉิงหู่ตะคอกอย่างโกรธเกรี้ยว ประณามภูตผีน้อยตนที่ถือแส้
ภูตผีน้อยชำเลืองมองเขาอย่างไม่แยแสทีหนึ่งพลางว่า “ข้าเพียงแค่บอกเจ้าว่าปีนขึ้นไปได้ก็จะได้ออกไป แต่ข้าไม่ได้บอกว่าข้าห้ามตีร่างเจ้าให้แหลก?”
“ถะ…ถ้าแกจะทำแบบนี้ ใครจะไปปีนได้วะ” เหลียงเฉิงหู่ร้องโวยด้วยความโกรธแค้น “ฉันจะยื่นฟ้องแก!”
“ยื่นฟ้อง?” ภูตผีน้อยมองภูตผีตัวใหญ่
ผีตัวใหญ่ยกเท้าถีบไปทีหนึ่ง เหลียงเฉิงหู่ร้องโหยหวนขณะถูกถีบลอยไปตกลงบนเส้นทางดาบ และถูกหั่นเป็นเศษเนื้อบนพื้น
เขากลับมาเกิดใหม่
ผีน้อยกล่าว “ยื่นฟ้องรึ…ฮี่ๆ เราสองพี่น้องเป็นผู้เฝ้านรกภูเขาดาบนี่ พวกเราเป็นคนคุมกฎทุกอย่าง! แน่นอน ขึ้นถึงยอดเขาจะได้ออกจากที่นี่เป็นกฎของท่านมัจจุราช พวกเราเปลี่ยนไม่ได้ แต่ถ้าไม่ชอบใคร จะเฆี่ยนมันก็ไม่ใช่ปัญหา เอาล่ะ อย่าพูดมาก เจ้าจะเดินต่อไปหรือให้พวกข้าส่งเจ้าอีกรอบ?”
เหลียงเฉิงหู่มองภูตผีตัวเล็กใหญ่ที่ไม่มีเหตุผลเลย สีหน้าคับอกคับใจ แต่สถานภาพอีกฝ่ายเหนือกว่า เขาจะทำอะไรได้? ทางรอดเดียวคือปีนภูเขาดาบ ไม่เดินทางนี้ก็ต้องทรมานไม่มีวันจบสิ้น!
สุดท้ายเหลียงเฉิงหู่ก็ยังเดินไป ความทรงจำเหล่านั้นเริ่มใหม่อีกครั้ง ความเจ็บปวดเหมือนจะมากกว่าเดิม! แต่ความแน่วแน่ของเหลียงเฉิงหู่น่ากลัวจริงๆ เขาใกล้จะปีนถึงยอดเขาอีกครั้งแล้ว!
ทว่า มีเท้าใหญ่ข้างหนึ่งปะทะเข้าหน้า ถีบเหลียงเฉิงหู่ดังโครม ตกลงไปกลายเป็นเศษเนื้อ…
“ขอร้องพวกแกล่ะ อย่าแกล้งฉันอีกเลย ทำยังไงถึงจะปล่อยฉันออกไป?” เหลียงเฉิงหู่ร้องขึ้นมา
“เรื่องนี้พวกเราบอกไม่ได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเจ้า…” ภูตผีน้อยสะบัดแส้พลางหัวเราะร่า
เพียะ!
“โอ๊ยๆๆ…” เหลียงเฉิงหู่เจ็บจนกระโดดไปๆ มาๆ และกระโดดเข้าไปในเส้นทางดาบ พอเจ็บเท้าก็กลิ้งตัว กลายเป็นเศษเนื้ออีก…
เมื่อเกิดใหม่อีก เหลียงเฉิงหู่ว่าง่ายแล้ว ไม่บ่น แต่ยกเท้าเดินไป
ทว่าก็เจ็บกว่าเดิม ความทรงจำฉายซ้ำรุนแรงยิ่งขึ้น เขาเดินไปได้ครึ่งทางก็ทนไม่ไหว ล้มลงกับพื้น ตาย!
เกิดใหม่ ตายอีกครั้ง มิหนำซ้ำเหลียงเฉิงหู่ยังพบเรื่องที่น่าสิ้นหวังคือระยะทางที่เขาปีนได้สั้นลงเรื่อยๆ…เขามองไม่เห็นความหวังแล้ว
ดั่งภาษิตที่ว่าเวลาคนใกล้ตายมักจะพูดความในใจ พูดแต่สิ่งดีๆ ท่ามกลางความสิ้นหวัง ในที่สุดเหลียงเฉิงหู่ก็เรียนรู้ที่จะตรึกตรอง เรียนรู้การสำนึก เรียนรู้การมองอดีตอย่างจริงจัง…
ตายทุกครั้งจะได้รับมาหนึ่งครั้ง จะได้สำนึกเสียใจครั้งหนึ่ง กลิ่นอายบาปกรรม ความเคียดแค้น และแรงกรรมในตัวเขาเริ่มหายไปอย่างช้าๆ
ไม่รู้ว่าเดินไปกี่ครั้ง สำนึกเสียใจมานานเท่าไร สุดท้ายเหลียงเฉิงหู่คุกเข่าอยู่บนภูเขาดาบ เดินหนึ่งก้าวคุกเข่าน้อมคำนับหนึ่งครั้ง ตายมาไม่รู้กี่ครั้ง เกิดใหม่ก็ไม่รู้กี่ครั้ง ตอนที่เขาได้ยืนบนยอดเขาอีกที เขาหันกลับไปมอง เห็นภูตผีน้อยใหญ่ไม่มีเวลามาสนใจเขา กำลังทรมานวิญญาณดวงซวยอีกดวง เหลียงเฉิงหู่ไม่ได้พูดอะไร แต่โค้งคำนับก่อนเดินเข้าไปในประตูใหญ่ข้างหลัง พริบตานั้นเขารู้สึกแต่เบาสบายไปทั้งตัว เหมือนชดใช้หนี้ทั้งชีวิตหมดสิ้นแล้ว
แต่เขารู้ว่านี่เป็นเพียงการเริ่มต้นของการชดใช้หนี้เท่านั้น! หนี้เยอะขนาดนั้น เขาจะชดใช้หมดหรือ?
“อมิตาพุทธ” ตอนนี้เอง เสียงสวดนามพุทธองค์ดังขึ้น
แสงแห่งพุทธสายหนึ่งสว่างขึ้นตรงหน้าเหลียงเฉิงหู่ กล่าวให้ถูกต้องคือแสงตะวันสายหนึ่ง เป็นแสงตะวันที่ไม่ได้เห็นมานาน เขาราวกับไม่ได้เห็นแสงตะวันมานานแสนกว่าปีแล้ว…