ตอนที่ 70 ดันเจี้ยนชั้นที่500 ที่ต้องพิชิตภายใน1เดือน
「เห๊? พวกคนจากกลุ่มคนดู?」
「อ้า……ถึงจะดูเหมือนว่าครึ่งหนึ่งจะแค่ถูกสถานการณ์ลากตาม ๆ กันมาเท่านั้น……」
「สิ่งนั้นที่หลอกหลอนรุรุซัง」
「หรือว่าไม่มีทาง、ไม่อยากจะเชื่อว่าเลยว่าจะกำลังติดต่อโดยตรง……」
「……สิ่งนั้น……อาจจะสามารถคุยด้วยได้ล๊าぁ……」
「รุรุซัง、โปรดระวังไว้ดีกว่าครับ……」
「คำสาปซามะ」ควรจะเป็นแค่คอนเซ็ปต์ แต่ครั้งนี้กลับสามารถเขียนข้อความลงบนเน๊ตได้ด้วยความตั้งใจของตนเอง……และเมื่อฉันได้ยินว่าเขาดูสนุกสนานกับผู้ชม ก็เริ่มไม่เข้าใจเขาเลย
ยังไงก็คาม เหยื่อรายใหญ่ที่สุดอย่างรุรุซังตกอยู่ในความงุนงง
ก็แน่นอนล่ะ
「สำหรับตอนนี้ หัวหน้าของฉันบอกว่าให้เราทำงานบนสมมติฐานที่ว่า『คำสาปซามะ』มีตัวตนอยู่จริงค่ะ เผื่อไว้ในกรณีที่เลยกำหนดเวลาไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถไม่เคลียร์ได้……」
「อ้าー」
ก็แบบ……เน๊ぇ……?
คำสาปซามะมีความตั้งใจบางอย่าง……เน๊ะ……?
ใครบ้างล่ะที่จะไม่กลัวปรากฏการณ์ประหลาดที่มีเจตจำนง?
นั่นมันยังกับผีญี่ปุ่นเลย
น่ากลัว
「ก่อนอื่นก็ต้องพูดถึงเงื่อนไขปัจจุบัน กำหนดเวลาคือ 720ชั่วโมง――」
「อะ、นั่นมันมาตราสามสิบหก*」
(*มาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติมาตรฐานแรงงาน การแจ้งข้อตกลงเกี่ยวกับการทำงานล่วงเวลา/งานในวันหยุด)
「สามสิบหก?」
「……ฮารุซัง、ตอนนี้คุณไม่ใช่พนักงานบริษัทแล้วนะคะ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องไปคิดเกี่ยวกับเรื่องพวกนั้นหรอกนะคะ……」
「อะ、จริงด้วย ม๊า ผมเอง、ก็ไม่ใช่คนที่ต้องทำงานล่วงเวลาด้วย ดังนั้นก็ไม่สำคัญจริง ๆ แหละเน๊」
ผมแทรกเข้าไปเมื่อได้ยินตัวเลขที่เคยได้ยินบ่อย ๆ ในการบรรยาย「เข้าฟังซะ」ที่บริษัทจัดปีละ 1 หรือ 2 ครั้ง
เรื่องราว ๆ นี้ก็นับว่าเป็นข้อเสียของการเป็นคนทำงานก็ได้ล่ะมั้ง?
หรือว่าไม่ใช่กันน๊า?
「……หรือก็คือ、เอ๊ะโตะ」
「720ชั่วโมงก็คือ 30วัน、ดังนั้นก็นับ 1 เดือนหลังจากการไลฟ์สดครั้งนั้นทันที นั่นคือเวลาที่ต้องใช้ในการเคลียร์ชั้นที่ 500――หมายความว่าแบบนั้นสินะ」
ยังไงก็ตาม เหมือนว่าตอนแรกจะสั้นกว่านั้นมาก
แล้วด้วยเหตุผลบางอย่าง……ไม่สิ จะว่ายังไงดี……ก็อะไรแบบนั้นเน๊ะ……ผู้ชมเฮโล่กันโจมตีคำสาปซามะที่มาปรากฎบนกระดานข่าวและ SNS อย่างกล้าหาญ และพูดคุยกันโดยตรง
แล้ว รู้สึกว่าจะพูดเกินจริงเกี่ยวกับสภาพร่างกายของผมไปสักหน่อย ผลก็คือ「จ๊า 1เดือน。 เคลียร์ให้ได้ใน 1 เดือนได้ใช่ไหม?」เป็นเรื่องทำนองนั้น
「……จะว่ายังไงดีคำสาปซามะนี่ดูเหมือนเป็นมนุษย์เลยเน๊」
「บุฟู๊วっ」
「อะ、อืม……นั่นคือสิ่งที่ทุกคนดูเหมือนจะพูดกันเน๊ะ……」
ม๊า ก่อนอื่นเลย ตัวรุรุซังเอง พ่อแม่ของรุรุซัง、และก็ผู้คนในบริษัทเดียวกับรุรุซัง ผู้คนที่มาร่วมงานด้วยไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงมากนัก
ใช่ แม้จะเคยมีอาการบาดเจ็บสาหัสขึ้น1ครั้ง แต่มันเกิดขึ้นกับพ่อแม่ของเธอ แล้วรุรุก็เป็นคนเดียวที่ร่วงหล่นล้มไปในที่ห่างไกล
แม้ว่าผมจะช่วยเธอไว้ได้ แต่นั้นก็เป็นเพราะผมอยู่ใกล้ ๆ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม「ถึงได้ผล」และผมก็รู้สึกเหมือนกำลังดูรุรุซังต้องทนทุกข์ทรมาน
เพราะอย่างงั้นแล้ว ผมถึงรู้สึกว่าคำสาปซามะมีสติปัญญาระดับหนึ่ง……มีบุคลิกภาพมาตั้งแต่แรกเริ่ม ผมรู้สึกมั่นใจครึ่งหนึ่งเลยคราวนี้
แต่บางทีก็อาจจะเป็นจินตนาการของผมเอง
บางทีอาจเป็นเพียงจินตนาการเน๊ะ
ม๊า จะยังไงก็ช่าง
「……ต่อกันเลยเน๊ะ ภายในดันเจี้ยนนั้นมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา――จากที่เคยเป็นดันเจี้ยนสำหรับมือใหม่จนถึงชั้นที่ 15 แต่ตอนนี้」
「ยังโชคดีที่ทางเราไม่อนุญาตให้ใครเข้าไป แต่หลังจากที่มีการโพสต์ ทีมสืบสวนก็รีบไปที่บริเวณนั้นทันทีค่ะ……เรายืนยันได้ว่ามีชั้นอย่างน้อย 30 ชั้น」
「ดูเหมือนว่าเลเวลจนถึงจุดนั้นค่อนข้างต่ำ……ตรงกันข้าม มันกลายเป็นสถานที่อันตราย」
「อ้า、น่าคิดอยู่ว่าถ้ามีมือใหม่ที่ไม่ระมัดระวังเข้าไปจะเป็นยังไง ……รู้สึกว่าพื้นที่นั้นคล้ายกับดันเจี้ยนเมื่อครั้งที่แล้ว」
「จ๊า บางที……เอ๊ะโตะ」
「ชั้นที่ 500 ――ระดับชั้นที่ลึกที่สุดของพื้นที่ที่มนุษยชาติยังเข้าไม่ถึง แต่ดันให้ทำอะไรอย่างRTAไปที่นั่น……」
ใต้ดินชั้นที่ 500สิน๊าぁ……ดูเหมือนค่อนข้างยากเลย
ม๊า นอกจากนี้ผมยังรู้สึกเหมือนเคยไปที่ที่คล้ายกันแบบนั่นมาก่อน แต่ถ้าบอกว่ายังไม่เคยมีไปถึงจุดนั้นมาก่อน ก็อาจเป็นเรื่องจริงเน๊ะ
「อะ、แต่、แต่ถ้าใช้กับดักหลุมพรางเหมือนวันนี้」
「นั่นห้ามー!!!!」
「ไม่ดีค่ะ ทั้งในแง่จรรยาบรรณและปฏิบัติ……เหนือสิ่งอื่นใด มันอันตรายเกินไป」
「ใช่แล้ว ฮารุซัง、ตอนนี้ไม่มีพลังเวทมนตร์เหลือเลยไม่ใช่เหรอ」
「อะ、ครับ」
ว้าー、รุ่งริ่งเลยー。
ไอ้นั่นช่วยให้ค่อนข้างง่ายขึ้นเลยน๊าぁ……ถึงจะทำให้เหนื่อยเน๊ะ
ขัดแย้งกันในเรื่องของความง่ายแต่ทำให้เหนื่อย
「นอกจากนี้、ยังลึกมากขนาดนั้นเลยนะคะ ครั้งหน้าต้องจัดปาร์ตี้ที่เหมาะสมด้วยเน๊ะ」
「เอ๋ー、น่ารำคาญ」
「ฮารุจัง」
「ครับ」
「……ไม่ใช่แค่รุรุหรอกนะคะ、พวกเราทุกคนก็เป็นห่วงคุณเหมือนกัน」
「นั่นสิเน๊ เพราะมีร่างกายแบบนี้ด้วยเน๊ะ」
「ไม่หรอกค่ะ、ต่อให้คุณเป็นผู้ชายวัยทำงานแล้วก็ยังน่าเป็นห่วงอยู่ดีค่ะ、อย่างที่คาดไว้เลย……」
「อย่างงั้นเหรอครับ」
ถ้าเป็นการโซโล่ มันจะทั้งง่ายและรวดเร็ว แต่ดูเหมือนว่าจะทำแบบนั้นไม่ได้ในตอนนี้
มันยากที่จะยากขึ้นเมื่อมีคนอยู่รอบตัวคุณ
แต่ก็ไม่ได้รังเกียจอะไรเป็นพิเศษ
「อย่างน้อยก็คนแบกสัมภาระ……」
「ทีมแพทย์จากทีมกู้ภัยด้วย……」
「เหล่ากองหน้า、แทงค์ซังสำหรับฮารุจังโดยเฉพาะ……」
จากนั้นทั้ง3สาวก็คุยกันเอง
ผมกับคุณลุงหมอเริ่มรู้สึกเหมือนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
「……………………………………」
ผมสบตากับคุณลุงหมอ
อืม
เข้าใจแล้ว
เข้าใจแล้วครับ
ไม่มีอะไรให้ผู้ชายสามารถทำได้เมื่อเหล่าเด็กผู้หญิงกรี๊ด กร๊าดกันเน๊
พวกผมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอยู่เฉย ๆ เพื่อฆ่าเวลา
เหมือนเหล่าพ่อบ้านใจกล้าที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั่งเล่นในห้างสรรพสินค้ามั่ง ศูนย์การค้ามั่ง
มันเป็นเรื่องน่ารำคาญ แต่ถ้าคุณต้องอยู่ที่นั่น ก็จะเป็นการอาศัยแบบพาสซีฟ เพราะคุณจะต้องการที่เก็บสัมภาระ
ผู้ชายกำลังเศร้าเน๊
「ต้องกำหนดจำนวนผู้คุ้มกันด้วย เพื่อไปให้ถึงชั้นที่ 500 การมีคนมากเกินไปจะส่งผลตรงกันข้ามแทน แต่อีกด้านก็ใช่ว่าจะไม่มีผลกระทบเลย ……เพราะอาจจะเป็นเรื่องยากที่จะจัดเตรียมบุคลากรสำหรับสับเปลี่ยน」
「จำนวนสูงสุด……และนั่นก็ต้องรวมไปถึงจำนวนยุทธปัจจัยของผู้คนที่น่าจะหมดลงหลังผ่านไปครึ่งทาง、รวมทั้งจำนวนคนที่จะขนสัมภาระที่ไม่จำเป็นออกไปด้วย……」
「เอ๊ะโตะ、ฉัน、ไม่เคยได้ยินคนพูดเกี่ยวกับชั้นที่ 100มาก่อนเลยแต่……สงสัยว่าจะมีถึง 10 คนไหม? จะสามารถตามไปจนถึงที่สุดได้ไหม」
「ใช่ค่ะ……โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อระดับนั้นลึกมาก、เลเวลและและลักษณะพิเศษของมอนสเตอร์ที่ปรากฏนั้นไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด」
เฮ้ー、เป็นแบบนั้นเอง
ผม、อยู่คนเดียวมานานเลยไม่เข้าใจจริง ๆ
ตอนที่ยังเป็นผู้ชายเป็นยังไงไม่รู้ แต่ตอนที่ได้ร่างกายนี้มาแล้ว ผมก็รู้สึกว่าเกรณ์มาตรฐานสำหรับวัดความรู้สึกเหนื่อยล้า และการทำงานหนักมากเกินไปถูกยกระดับขึ้น
「ทั้งบุคคลกร ทั้งสัมภาระ、จากสถานการณ์ที่มองยังไงก็เป็นไปไม่ได้มาจนถึงตอนนี้……ทั้งยังได้สัญญาไว้กับผู้ชมที่ช่วยเจรจาต่อรองไว้แล้ว เริ่มแรกลังเลไว้ที่ประมาณ 10 คนดีไหม」
「มีความเมตตาของมนุษย์มากขึ้นเรื่อย ๆ เน๊」
「ฮารุจังน่าจะเป็นคนเดียวที่กล้าพูดเรื่องนี้ได้อย่างเปิดเผยล่ะ……」
「เป็นอย่างงั้นเหรอครับ」
「ยังไงก็ตาม เรากำลังวางแผนที่จะนำสัมภาระเข้าไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้อยู่ค่ะ เพื่อเป็นการลดภาระของฮารุซังด้วย แล้วก็、นอกจากนี้ยังมีกระสุนอีกจำนวนมาก……เราจะจ้างคนประมาณ5คนเพื่อการนี้โดยเฉพาะค่ะ」
「เฮ๋ー」
สำหรับของผมก็ใส่ไว้อยู่ในกระเป๋าสกปรกแล้ว……อะ ไม่สิ ผมเองก็ยังไม่เคยลองดูเลยว่าจะใส่ของได้มากขนาดไหน ไม่รู้ว่าจะใส่ได้เยอะอย่างที่คิดกันไหม
ตั้งแต่จุดนี้ ทุกคนก็พูดคุยจริงจังยิ่งกว่าเดิม แต่พูดตามตรง ผมสามารถจัดการอะไรหลายอย่างด้วยตัวเองได้ แต่ก็รู้สึกว่าเข้าไปแทรกไม่ไหว เลยได้แต่นั่งแกว่งขาไปมา
「……………………………………」
「……………………………………」
เพราะงั้นผมเลยกำลังแข่งจ้องตากับคุณลุงอยู่
ก็ดีเพราะทำให้รู้สึกใกล้ชิดคุณลุงมากขึ้นเน๊ะ
◇
「อะ、ต่อไปสุดท้าย……ยังมีอีกเรื่อง」
「มีอะไรเหรอครับ เอมิซัง อยากกอดเหรอครับ?」
「ซู๊ด――――ไม่ใช่ค่ะ!」
「อะ、ยอดเยี่ยมเลย」
การแข่งขันจ้องตากับคุณลุงในที่สุดก็ชนะ
จากนั้น พวกเราก็กลับมาที่ห้องผู้ป่วย……ส่วนคุชิมะเหมือนจะไปจ่ายบิลหรืออะไรสักอย่าง
「แต่เรื่องอื่นเหรอ? เรื่องอะไรล่ะ เอมิจัง」
「อุมุ……นั่น、ฮารุ、กรุณาสงบสติอารมณ์และฟังฉันนะคะ」
「เอ๊ะ、ครับ」
อะไรล่ะนั่น
เอมิซังวันนี้、ทำงานหนักมาก จริง ๆ อัตราส่วนคือ โอเน่ซังโหมดจริงจัง80 เปอร์เซ็นต์ และโหมดเฮ็นไตซัง 20 เปอร์เซ็นต์ล่ะ
ยิ่งไปกว่านั้น เธออาจจะถูกคนในตำแหน่งที่สูงกว่าดุมาอีกครั้ง ดังนั้นเปอร์เซ็นต์เฮ็นไตนั้นควรจะต่ำกว่านี้อีก
「……อยากได้กางเกงในเหรอครับ?」
「จะให้เหรอคะ!?」
「เอมิจัง……」
「มันซักแล้วครับ ดังนั้นผมไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษหรอกครับ ยังไงข้างในก็ยังเป็นผู้ชาย」
「คู๊วっ……มะ、ไม่、ไม่……ไม่、ใช่………………อู๊ว……っ」
「อะ、อะไรกัน เอมิจังกำลังร้องไห้……?」
กางเกงชั้นในของเด็กผู้หญิง
กางเกงชั้นในของสาวน้อย
……อยากได้มากจนร้องไห้เลยเหรอ……?
ผมก็ยังเป็นผู้ชาย、หากเป็นเด็กผู้หญิงหรือผู้หญิงก็คงไม่แม้แต่จะหยุดคิดจริงไหม แต่เธอเป็นสาวน้อย ?
พอไม่ได้สกปรกขนาดนั้น มันก็มีค่าน้อยลงไม่ใช่เหรอ?
「เอา!!!!!」
「เอมิจัง!?」
อะ เหมือนจะบรรลุอะไรบางอย่างแล้ว?
「……สงสัยจังว่าเกิดอะไรขึ้นต่อไป……」
「เอมิจัง、อยากได้รับคำปรึกษาที่ถูกต้องหรือเปล่า?」
「อุ、อุมุ……รุรุจะไปด้วยกันเหรอ……」
เหมือนจะสื่อสารไม่ตรงกันเลย
เซฟ
「……ฮะแอ่ม นั่น、นั่นสิน๊า……ใจเย็น ๆ แล้วตั้งใจฟัง」
「เหมือนเคยได้ยินคำน้ำมาแล้ว」
「อะโต๊ะ、กรุณาอย่าพูดแทรกจนกว่าฉันจะพูดจบเหมือนกับรุรุด้วยค่ะ」
「บูー」
เอมิซังเปลี่ยนไปแล้ว
เหมือนกับกำลังจะกล่าวคำสารภาพเน๊ะ
……กับ เฮ็นไตซัง ถ้าตอนที่ได้เจอกันครั้งแรกโดยที่ยังไม่รู้จักกันแล้วผมยังมีร่างกายเป็นผู้ชายอยู่ก็คงอยู่ในขอบเขต OK แต่ตอนนี้ไม่ดีสำหรับเฮ็นไตซัง
นอกจากนี้ สำหรับผมก็NG(No Good) เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเช่นกัน เพราะจะกลายเป็นการพรากผู้เยาว์
นี่เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากเน๊ะ
อะ ไม่สิ จากมุมมองของผู้ชายแล้ว เรื่องของเฮ็นไตซังน่าจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากกว่า ตราบใดที่เป้าหมายยังเป็นเด็กสาว……เน๊ぇ?
พูดอีกอย่างก็คือ เด็กคนนี้หมดหวังแล้วล่ะ
「……โรงพยาบาลแห่งนี้、มีกล้องวงจรปิด ใช่ไหมล่ะ……?」
「นั่นสินะครับ บนเพดานตรงนั้นก็มี」
「……กล้องตัวนั้น ……เหมือนที่ฉันพูดก่อนหน้านี้ ที่พูดก็เพราะไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น……」
「――อ้าー。 การจ้องมองนี้、ผมก็สงสัยอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เป็นคำสาปซามะสินะครับ」
「!?」
「เอ๊っ……」
ก็แบบความรู้สึกเหมือนโดนเกาะติดจั๊กจี้เข้ามาเรื่อย ๆ เลยเน๊ー
แต่เพราะดูเหมือนจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายอะไร ดังนั้นผมก็เลยเพิกเฉยไป งั้นเหรอ เข้าใจล่ะ
「ยาฮู๊ー」
「บูฟู๊วっ」
「เอมิจัง、เลือดกำเดาไหล……」
「ขะ、ขอโทษ……พลังทำลายล้างขนาดนั้น……」
เพราะผมคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะมีความตั้งใจบางอย่าง เลยโบกมือให้อย่างไม่คิดอะไรมาก แต่ดูเหมือนว่าจะไปทำความเสียหายลูกหลงให้กับเอมิซัง
เป็นโลลิค่อนซังนี่ลำบากจังเน๊ะ
แม้แต่การให้อาหารก็เจ็บปวดได้
「ดูอยู่ไหมー?」
「……ฮารุจัง、ไม่คิดมากเลยเน๊ะ……」
「เอ๊ะ、ก็แบบร่างกายนี้、ก็ไม่ใช่ของผมตั้งแต่แรกอยู่แล้วไงครับ」
โดยสัญชาตญาณ……ผมใช้เวลาในร่างนี้มากกว่า1ปีแล้วจริงไหมเน๊ะ และผมรู้ดีว่านี่เป็นตัวผมเอง
ยังไงก็ตาม ผมไม่สนใจหรอกว่าพวกเด็ก ๆ เหล่านี้จะมาเห็นตอนที่ผมเปลือยอยู่หรือไม่ เพราะพอได้มาอยู่ในร่างนี้ สิ่งแรก ๆ ที่ทำก็คือ การออกไปข้างนอกเพื่อหาซื้อเสื้อผ้าโดยสวมแต่เสื้อเชิ้ตตัวเดียว และไม่ได้แม้แต่สวมกางเกงชั้นใน
ผมไม่ได้พูดแบบนั้นออกไป เพราะกลัวจะทำให้พวกเธอเป็นลมถ้าได้ยินแบบนั้น แต่นั่นคือสิ่งที่ผมทำลงไปจริง ๆ
「……ด้วยรูปลักษณ์แบบนั้น……ขอโทษ、แต่ที่จริงแล้ว……」
「เอ๊ะ」
「โกหก……ยังไลฟ์สดอยู่เหรอค๊า……!?」
「มันไปถึงเฉพาะปฐมกาลล่ะคะ……หรือต้องบอกว่า、ดูเหมือนว่ามันจะถูกส่งตรงไปยังอุปกรณ์ที่พวกเขาใช้รับชมการออกอากาศของพวกฮารุเท่านั้น พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย และไม่สามารถแม้แต่จะปิดเครื่องได้ ทำได้แค่รับชมภาพและเสียงที่ถ่ายผ่านกล้องเท่านั้น แล้วก็อย่างที่คาดไว้เมื่อกี้――ตั้งแต่ที่ฉันกลับมา ฉันก็ถูกบอกว่าอย่ามองไปที่อุปกรณ์」
ดูจะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนแต่ล่ะ แต่เอมิซังเป็นเพื่อนกับเหล่าปฐมกาลเหรอ?
「จ๊า、ตอนนี้ก็ด้วยเหรอ……หรือว่าแม้แต่ตอนเมื่อกี้ด้วยเหรอค๊า!?」
「อ้าー、รุรุซังเองก็ทำเรื่องอันตลายลงไปเหมือนกัน」
รุรุซังกรีดร้อง「ฮี่ย๊าาาาาาา」และกลายเป็นสีแดงสด
……แต่บางทีคนที่คงอยากได้ยินเรื่องนี้มากที่สุดคงเป็นลิลี่ซังเน๊ะ
「เพราะอย่างงั้น、ตอนนี้สายเกินไปแล้วล่ะ」
「ถึงอย่างงั้นผมก็ไม่สนใจหรอกครับ อะ、จริงด้วย、ปาฐมปากาลซ๊างー」
ผมก้าวออกห่างจากหน้าอกอันน่ารักของเอมิซังแล้วเดินไปทางกล้อง
「ขอบคุณสำหรับที่ผ่านมาー」
「สาวน้อยยยยยっ!!!!」
「เอมิจ๊างー!?」
ผมกังวลนิดหน่อย เพราะได้ยินเสียงคนตกจากเก้าอี้ดังขึ้นจากด้านหลัง
เนื่องจากเป็นพวกเอมิซัง ผมจึงคิดว่าคงจะไม่เป็นไร จากนั้นผมก็เลยโบกมือทั้งสองข้างให้แรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วยแขนสั้น ๆ นี้
คนเหล่านี้คือ คนที่คอยดูผมมาตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นผู้ชาย
ยิ่งกว่านั้นแม้จะเกิดเรื่องทั้งหมดนี้แล้วก็ตาม พวกเขาก็ยังคงมาดูไลฟ์สดของผมอย่างต่อเนื่อง และครั้งนี้ผมก็รบกวนพวกเขาแล้ว
อย่างน้อย ผมก็ควรทำประมาณนี้แหละเน๊ะ
ไม่มีปัญหา ผลจากการเรียนรู้ต่างๆ ทำให้ผมสามารถแสดงเป็นสาวน้อยได้ค่อนข้างดีเลยล่ะ
「แล้วก็ถึงจะแค่เล็กน้อย ยินดีที่ได้รู้จักเน๊ー」
「……………………………………」
「เอมิจัง、เอมิจัง……เธอไม่หายใจแล้ว!? ระ、เรียกพยาบาลที!!」
อะ、แต่ดูเหมือนว่าต้องคุยกับคุณหมอในเรื่อง「ตอนผมเป็นผู้ชาย」หรือ「ตอนผมเป็นผู้ใหญ่」พวกนั้นด้วย?
……ม๊า、ช่างเถอะ
ไม่จำเป็นต้องหยุดเอมิซังอีกแล้ว พวกเขาคงตัดสินใจว่า เธอช่วยไม่ได้แล้ว ล่ะ
◇
「 」
「 」
「 」
「 」
「 」
「 」
「 」
「 」
「……นี่สิน่ะ、พลังทำลายล้างของฮารุตัน……อะ、แย่แล้ว、โรคเรื้อรังมัน」
「ประธานー!? ชะ、ชีพจร……ตะ、ต้องเรียกรถพยาบาล!」
「แย่แล้ว、ฮารุคิ๊ว、อันตรายกว่าที่คิดไว้แย๊ว ทำเอาตื่นเต้นจริงจังเลย……แต่ผู้ชายทุกคนที่นี่ตาขาวกระตุกจนน่าขนลุกเลย อะฮ่าๆๆๆๆๆ」
『อ้า、ฮารุซามะ……ช่างกล้าหาญยิ่ง……!』
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
ขอบคุณมากสำหรับการอ่านตอนที่ 70
งานนี้เดิมตั้งใจโพสต์หลายเรื่องพร้อมกัน จากนี้ไปจะโพสต์ประมาณ 3,000 ตัวอักษรวันละครั้ง
ฉันเริ่มเขียนเรื่องนี้เพราะต้องการอ่านเรื่องเด็ก TSไลฟ์สดในดันเจี้ยน(อิทธิพล)
“การไลฟ์สดในดันเจี้ยนควรจะได้รับความนิยมมากกว่านี้”
“อะไรก็ได้ อยากเห็นโลลิ TS”
หากคุณคิดเช่นนั้น เราจะยินดีอย่างยิ่งหากคุณสามารถเปลี่ยนการให้คะแนนด้านล่างจาก [☆☆☆☆☆] เป็น [★★★★★] และเปิดการแจ้งเตือนสำหรับบทล่าสุดโดยการบุ๊กมาร์ก ฉันยังขอขอบคุณความคิดเห็นที่สนับสนุนและติดตามของคุณ
https://ncode.syosetu.com/n1479ik/70/
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ
{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}
ขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ
ขอบคุณงับ
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
โลลินีทนักแปลไร้สาระ
ตอนนี้น้ำหนักคนแปลแทบจะลดลงเดือนล่ะโลแล้ว หลังจากลองชั่งน้ำหนักทุกๆ10วันคือ ค่อยๆหายไปทีล่ะ2-3ร้อยกรัม
ทั้งที่กิจวัตรเหมือนเดิมมาตลอด ข้าวก็กินมากกว่าเมื่อตอนอยู่คนเดียวที่น้ำหนักคงที่ซะอีก สงสัยพอคิดแง่ลบอยากตายมากๆเข้า ร่างกายเลยเริ่มตอบรับแล้ว ฮา
ตอนนี้(11/07)คนแปลน้ำหนักเหลือ 68.6 จากที่วัดแล้วจำจริงจังตอนเดือน3-4 ได้ที่ 72นิดๆ ฮา