ตอนที่ 61 เสียงกระซิบแห่งดวงดาวและทะลวงดารา
『ทะ、ทำได้แล๊ววววว! ลีดเดอร์、ฉันเอาชนะโอเน่ซามะได้แล้วค๊า!』
เอย์น่ากรีดร้องด้วยความดีใจเมื่อเห็นโซลเซียลาถูกกลืนหายเข้าไปในแรงระเบิด
การละเล่นหลบหนีของโซลเซียลาที่ดำเนินมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่เริ่มใช้ทะลวงดารา、จบลงง่ายดายกว่าที่คาดไว้เช่นนี้เอง
ควรจะเป็นเช่นนั้น
「……ไม่、ยังไม่จบ」
『เอ๊ะ?』
ตรงกันข้ามกับเอย์น่าที่เต็มไปด้วยความสุข、โรคุฮาระจ้องมองไปยังจุดที่เกิดการระเบิดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ไม่มีความสุขสำหรับชัยชนะในสายตาของเขา
(สัญชาตญาณของข้ามันบอกว่าอย่างงั้น สิ่งที่เกิดขึ้นจนถึงตอนนี้เป็นเพียงการแสดงเปิดม่านเท่านั้น)
「เข้มแข็งไว้ล่ะ เอย์น่า、ของจริงกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว」
『เอ๊ะ、ไม่ไม่ กำลังพูดอะไรกัน――อะ』
เพราะเอย์น่ามีประสาทสัมผัสที่ยอดเยี่ยม、เธอจึงสามารถตระหนักด้วยตัวเองได้ชัดเจนยิ่งกว่าคำพูดหรืออากัปกิริยาของโรคุฮาระ
ปฏิกิริยาพลังเวทมนตร์ที่ควรจะหายไปก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
『ฟื้นคืนชีพ……ไม่ใช่、นั่นไม่เป็นความจริง นี่มัน พลังเวทมนตร์กำลังเพิ่มขึ้น!?』
ได้ยินเสียงเอี๊ยดของอากาศ
ลมที่พัดระหว่างอาคารบิดเบี้ยวจนกลายเป็นกระแสวังวนอย่างผิดปกติ
มันถูกดึงเข้าสู่พลังเวทย์มนตร์อันหนาแน่น
ในที่สุดสายลมก็ม้วนควันดำมาร่วมกันราวกับสิ่งมีชีวิต และกวาดออกไปในคราวเดียว ราวกับเพื่อปกป้องเจ้านายของมัน
เมื่อควันดำจางลง เด็กสาวคนหนึ่งก็ปรากฎตัวออกมาจากจุดศูนย์กลางการระเบิด
ไม่สิ、เธอจะยังสามารถเรียกได้ว่าเป็นเด็กสาวได้อยู่จริง ๆ อย่างงั้นเหรอ
แม้รูปลักษณ์ของเธอจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป
อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดคือ ดวงตาของเธอ
ดวงตาซึ่งควรจะมีประกายแสงขั้นต่ำในฐานะมนุษย์ กลับเย็นชาและไร้ความเป็นมนุษย์มากยิ่งขึ้น
「……ฮ่าๆๆ ความรู้สึกนี่มันอะไรกัน」
ทันใดนั้นความรู้สึกถึงวิกฤตโดยสัญชาตญาณก็เข้าปกคลุมร่างกายของโรคุฮาระ กรีดแทงผิวหนังของเขาเหมือนไฟฟ้าช็อต
แม้แต่โรคุฮาระที่รอดชีวิตจากความตายมาหลายครั้งก็ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน
(ฉัน、กำลังสั่นอยู่งั้นเรอะ? ……เยี่ยมมาก)
โรคุฮาระยกธนูขึ้น、และยิงลูกธนูไปอีกครั้ง
ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย
สัญชาตญาณของเขากำลังบอกว่าช่วงเวลานี้เป็นโอกาสอันน้อยนิดที่จะคว้าชัยชนะมาได้
เป็นการยิงอย่างรวดเร็วจนทำให้ประหลาดใจ
ลูกธนูที่เต็มไปด้วยพลังเวทมนตร์ที่มากเกินพอแม้จะสร้างขึ้นมาอย่างกะทันหัน、มุ่งหน้าสู่โซลเซียลา
ในทางกลับกัน โซลเซียลาไม่ได้สร้างวงเวทย์เหมือนก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ、เธอทำเพียงยกมือขึ้นตรงหน้า
「อวดดี」
ลูกธนูถูกหยุดอย่างกะทันหัน
ลูกธนูหยุดอยู่ตรงหน้ามือของโซลเซียลาเหมือนกับภาพนิ่ง、แล้วแตกสลายลงเหมือนเม็ดทรายจากปลาย
『ความสามารถในการแทรกแซงของโอเน่ซามะ ……』
ได้ยินเสียงแห่งความสิ้นหวัง
เธอในฐานะคนที่รู้จักโซลเซียลา、ทำให้เธอจะรู้ทันทีว่ามันคืออะไร
「――」
โซลเซียลาถอนหายใจสั้น ๆ
ในเวลานั้นเอง、วงเวทย์ขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นที่เท้าของเธอ
แตกต่างจากวงเวทย์สีฟ้าม่วงที่เคยเห็นมาก่อน
เป็นวงเวทย์รูปแบบใหม่ที่มีสูตรเวทย์มนตร์นับไม่ถ้วนฝังอยู่ในนั้น สีม่วงเข้มที่ดูเหมือนจะกลืนสีน้ำเงินลงไป
วงเวทย์ถูกเปิดใช้งาน ในขณะที่เล่นเสียงคลิกบางอย่างราวกับเพื่อให้รู้ว่าเวลากำลังเดิน
ไม่นานนัก、โซลเซียลาก็กล่าวภาษาสำหรับเปิดใช้งานวงเวทย์ราวกับกำลังสวดภาวนา
「ประกายแสงแห่งดวงดาวจงเจิดจรัส ณ ที่แห่งนี้เถิด」
ราวกับกำลังรอคำพูดเหล่านั้นอยู่แล้ว、วงเวทย์ก็ปล่อยแสงสีม่วงเข้มออกมา
วงเวทย์ขนาดเล็กจำนวนหนึ่งถูกสร้างขึ้นมาโดยรอบ และมุ่งตรงไปยังแขนขาของโซลเซียลา
「นี่มัน、คืออะไร」
แล้วรูปลักษณ์ของโซลเซียลาก็เปลี่ยนไปต่อหน้าของโรคุฮาระ
จากชุดสีขาวดำที่เหมือนตุ๊กตาก่อนหน้านี้ ไปสู่สิ่งที่น่ากลัวและน่าเกรงขามยิ่งขึ้น
「――เฟส 2、แปรเปลี่ยนเสร็จสมบูรณ์」
นั่นคือสิ่งที่เป็นดังยามราตรี
ชุดเดรสสีดำสนิทมีการปักจุดสีเงินขนาดเล็กซึ่งดูราวกับประกายดาว
จี้สีน้ำเงินบนหน้าอกของเธอคือ ประกายแสงอันริบหรี่สุดท้ายในฐานะมนุษย์ของเธออย่างงั้นหรือไม่
ร่างอันงดงาม แต่น่าสะพรึงกลัวที่ไม่ควรอยู่บนโลกนี้
เมื่อมองไปที่เธอ、ภาพของยมทูตก็ปรากฏขึ้นในใจของโรคุฮาระ
(เอย์น่าบอกว่ายัยนี้จะเป็นคนทำลายตัวเอง หรือก็คือ、แก่นแท้ของยัยนี้นี้คือ เพชฌฆาตสินะ……!)
ถ้าเธอคือผู้นำมาซึ่งความตาย
ถ้าเธอควบคุมความตายได้
ชุดเดรสสีดำสนิทก็เหมาะกับเธออย่างแน่นอน
วงเวทย์ถูกใช้งานไปที่หัวของเธอ、เป็นดังประกาศว่าเป็นการตกแต่งขั้นสุดท้าย
มีผ้าคลุมศีรษะติดไว้พร้อมกับเครื่องประดับผมสีดำ ราวกับมอบนามแห่งเพชฌฆาตให้เธอ
「……ฟุๆๆๆ」
โซลเซียลา、ค่อยๆ ชี้นิ้วชี้ของเธอไปที่โรคุฮาระท่ามกลางสายลมที่โหมกระหน่ำ
จากนั้น、เธอก็มีรอยยิ้มบิดเบี้ยวที่ดูเงอะงะเหมือนตุ๊กตา
「พวกคุณ、ช่างน่าสนใจ ฉันจะมอบความจริงจัง、เพียงเล็กน้อย」
「……ได้งั้นจะขอบใจมาก ไอ้แบบนี่สิข้ายิ่งถูกใจมากกว่าเป็นไหน ๆ」
『ลีดเดอร์、หนีกันเถอะ นี่น่ะเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ จนถึงตอนนี้เรามีโอกาสชนะก็เพราะโอเน่ซามะยังไม่ตื่นเต็มที่ ไม่สิ、นั่นคือสิ่งที่ฉันคิดไปเองค๊า! คราวนี้วิกฤตแล้ววววว!』
โดยไม่สนใจเสียงกรีดร้องของเอย์น่า、โรคุฮาระขึ้นสายธนู และยิงลูกธนูออกไปอีกครั้ง
ยังไงก็ตาม、มันก็แตกสลายร่วงลงไปยังพื้นดินเมื่อเข้าใกล้โซลเซียลา
โรคุฮาระยังคงหัวเราะกับภาพที่น่าสะพรึงกลัวนี้ ราวกับว่าความตายเป็นคำที่ถูกต้องสำหรับลูกธนูซึ่งแต่เดิมไม่มีชีวิต
「นี่คือสิ่งที่คณะกรรมการเองก็ต้องการสิน๊า หากมียัยนี้อยู่ก็รับประกันความมั่นใจได้ แม้ต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัตินั่น」
『……ลีดเดอร์ยังคิดว่าจะชนะอยู่เหรอค๊า เอ๊ะ、ล้อกันเล่นใช่ไหมเน๊? นี่คือสถานการณ์ที่เราต้องต้องร้องขอชีวิตเพื่อให้ไว้ชีวิตแล้วเน๊? เน๊!?』
ธนูขนาดใหญ่กำลังสั่นไหวในมือของเขา
นั่นคือคำอุทธรณ์ด้วยพลังทั้งหมดที่มีของเอย์น่า
แต่ไม่มีใครอื่น、มีเพียงโซลเซียลาที่เห็นและพูดด้วย
「อุตส่าห์เป็นอังกอร์*ของฉัน? โปรดตอบสนองให้มากกว่านี้เสียหน่อยสิ」
(*การแสดงซ้ำอีกครั้งตามคำเรียกร้องของผู้ชม)
「ใช่、ใช่เลย หากข้าปฏิเสธที่นี่ก็ล้มเหลวในฐานะลูกผู้ชายแล้ว! ยังก่อนยังก่อน ข้ายังสู้ได้เฟ๊ย!」
『ลีดเดอร์ぁ!?』
โรคุฮาระออกวิ่ง
แม้ว่าจะยังเป็นแค่การก้าวไปเพียงหนึ่งก้าวก็ตาม、แต่หากเป็น S แร๊งค์แล้ว คุณจะสามารถเข้าถึงความเร็วสูงสุดได้ตั้งแต่ความเร็วต้น
หากคุณเป็นคนธรรมดา เขาก็ก้าวด้วยความเร็วสูงจนคุณไม่มีเวลาให้คิดจะมองตามด้วยซ้ำ
โรคุฮาระพุ่งเข้าไปปิดระยะห่างกับโซลเซียลา、ก่อนจะหักธนูยาวออกเป็นสองส่วนเมื่อเข้ามาประชิดได้
『อะ、จู่ ๆ ก็หักทะลวงดาราอีกแล้วเหรอค๊า!』
「ก็แบบนี้มันใช้ง่ายกว่านี่หว่า!」
จากธนูขนาดใหญ่、ก็ถูกเปลี่ยนกลับเป็นดาบคู่โดยใช้กำลัง
พลังเวทมนตร์สีแดงที่ถูกใช้ในลูกธนู、ถูกเพิ่มเข้าไปในใบดาบทั้งอย่างงั้น และมันก็กลายเป็นดาบมรณะที่รับประกันผล
ใบดาบคมสองเล่มเข้ามาใกล้เร็วยิ่งกว่าลูกธนู
ยังไงก็ตาม、โซลเซียลาก็รับมันได้ด้วยเคียวยักษ์ของเธอโดยไม่แม้จะหันมามองดูด้วยซ้ำ
เพียงแค่รับการโจมตีโดยตรงเพียงครั้งเดียว、ก็สร้างแรงช็อกมหาศาลโดยรอบ
ยางมะตอยได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง、ผนังอาคารโดยรอบพังทลายลงมา、และมีลมแรงพัดกระหน่ำส่งเศษซากให้ปลิวขึ้นไปบนท้องฟ้า
การปะทะกันระหว่าง S แร๊งค์、เพียงแค่นี้ก็ทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงต่อเขตใจกลางเมือง
แต่、ถึงกระนั้น ปรมาจารย์ด้านการป้องกันการโจมตีก็ไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย และเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อยด้านหลังผ้าคลุมหน้า
「การโจมตีที่ดีเน๊ะ」
「ถ้างั้นก็ช่วยแกล้งทำเป็นว่าได้ผลหน่อยสิโว๊ย!」
โรคุฮาระหมุนไปด้านหลังของโซลเซียลาทันที
การโจมตีครั้งแรกเป็นเพียงการเตรียมการสำหรับการโจมตีครั้งต่อไปเท่านั้น
(ยัยนี้กำลังคาดการณ์การโจมตีแล้วค่อยป้องกันสินะ มองด้วยสายตาแล้วเลือกทางออกที่ดีที่สุด ถ้าอย่างงั้น การโจมตีจากจุดบอดต้องเป็นจุดอ่อนกว่าใคร)
จุดอ่อนของโซลเซียลาคือเธอเป็นมือสมัครเล่นในการต่อสู้
เพราะแข็งแกร่งมากจึงไม่จำเป็นต้องคาดเดาการกระทำของคู่ต่อสู้
สัญชาตญาณในการเอาชีวิตรอดของเธอแทบไม่ทำงาน และไม่แม้แต่จะคาดการณ์ล่วงหน้า ดังนั้นเธออจึงไม่สามารถอ่านการเคลื่อนไหวของโรคุฮาระได้
ในความเป็นจริง、โรคุฮาระประสบความสำเร็จอย่างง่ายดายในการเข้าข้างหลังโซลเซียลา
「จะตัดแกเอง」
เขาแทงดาบเข้าไปในหลังที่เปิดโล่ง
เป็นการโจมตีที่เต็มไปด้วยพลังเวทมนตร์อันทรงพลังที่ได้รับมาจากดีมอนเกียร์、แต่ก็ป้องกันด้วยบาเรียสุดแข็งแกร่งที่ถูกวางเอาไว้
ยังไงก็ตาม、โรคุฮาระก็อัดพลังเวทมนตร์เข้าไปมากขึ้นโดยไม่ลังเล
「ข้าจะตัดแกซ๊า! เอย์น่าァ、ส่งพลังให้มากกว่านี้ซะ!」
『ค่ะ、ค๊าาา!』
พลังเวทย์มนตร์สีแดงถูกปลดปล่อยออกจากร่างของโรคุฮาระ
การโจมตีอันทรงพลังที่ไม่มีใครเทียบได้ซึ่งแม้แต่นักสำรวจระดับสูงก็ไม่สามารถต้านทานได้ ค่อย ๆ แทงลึกลงในบาเรีย
「อุย๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก!」
รอยแตกปรากฏขึ้นบนบาเรีย
นั่นเป็นการโจมตีและป้องกันที่กินเวลาไม่ถึงวินาที
บาเรียแตกออกด้วยเสียงแหลมสูงราวกับกระจก
โรคุฮาระยังคงรักษาโมเมนตัมเอาไว้、และแทงดาบเข้าไปใส่โซลเซียลา
การตอบสนองที่มั่นคงจากการแทงเข้าไปในร่างกาย
「จับได้แล้ว」
มุมปากของเขาโค้งงอโดยไม่ตั้งใจให้กับความรู้สึกที่รอคอยมานาน
ทว่า、ครู่ต่อมาเอย์น่าก็กรีดร้องจากในมือของเขา
『นะ、นี่มัน、ของปลอมค๊า!』
「ห๊า!?」
ร่างของโซลเซียลาระเบิดออกด้วยเสียงดังเบา ๆ
ขนนกสีม่วงจำนวนนับไม่ถ้วนที่สร้างจากพลังเวทมนตร์หมุนวนอยู่โดยรอบ
โรคุฮาระคว้าขนนกเส้นหนึ่งมาด้วยท่าทางหงุดหงิด
เป็นขนนกที่ได้รับการสร้างออกมาอย่างดีจนถึงรายละเอียดที่เล็กที่สุด
「ตั้งแต่เมื่อไหร่กันห๋า……!ไหนว่าจะให้ความบันเทิงกับข้าไง!」
『ฉันจะรีบค้นหาทันทีเลยค่ะ』
「ไม่จำเป็นแล้วเน๊」
โรคุฮาระพูดขณะมองดูขนนกบนฝ่ามือของตัวเอง
『เอ๊ะ?』
「ยัยเวรนั่น、อยู่บนฟ้า」
ตั้งแต่ปลายขนนก、เริ่มกลายเป็นอนุภาคสีฟ้าม่วงและลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า
ไม่สิ、ไม่ใช่แค่ขนนกเท่านั้น
ยางมะตอยและเศษซากของอาคารที่กระจัดกระจายไปทั่ว และกระจกที่แตกกระจายทั้งหมดลอยขึ้นกลายเป็นพลังเวทมนตร์
โรคุฮาระเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าแล้วหัวเราะ
「แกนี้ชอบดูถูกคนอื่นซะจริง」
ที่เบื้องหน้าของเขา、คือวงเวทย์ขนาดมหึมาที่ปกคลุมทั่วทั้งเขตใจกลางเมือง
ก่อเกิดเป็นท้องฟ้ายามค่ำคืนรูปแบบใหม่ของโลกนี้ ทว่าแม้จะพูดแบบนั้น แต่มันก็ใหญ่มากจนเขาเองยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความกลัวโดยสัญชาตญาณ
เขารู้จักสิ่งนี้จากวิดีโอที่เคยดูมาก่อนหน้านี้ จึงรู้ว่านี่คือ จุดเริ่มต้นของการโจมตีแบบบรรจบ
「ไม่ว่าผู้ใด、ก็มิอาจสามารถสัมผัสดวงดาวได้ แม้เพียงยื่นมือออก และปรารถนา ก็มิสามารถยอมรับได้」
『ลีดเดอร์ぁ、หนีกันเถอะ ถ้าโดนไอ้นั่นไม่ดีแน่นอนเลย』
「หนวกหูโว๊ย」
โรคุฮาระไม่สนใจคำแนะนำของเอย์น่า และเปลี่ยนดาบคู่ให้เป็นธนูขนาดใหญ่อีกครั้ง
จากนั้น、เขาก็หัวเราะอย่างดุร้ายขึ้นไปบนท้องฟ้า
「งั้นข้าจะทำลายแกเอง! เอย์น่าァ、เตรียมปล่อยไอ้นั้นซะ!」
『เอ๊ะ、เอ๋!?』
「ถ้าชนะ ข้าจะให้เธอเติมท็อปปิ้งอะไรก็ได้ที่ต้องการในราเมงเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์!」
『จริงเหรอค๊า!? สัญญาแล้วเน๊!』
วงเวทย์สีแดงแผ่ออกมาจากเท้าของโรคุฮาระ
ดังเช่นลาวาที่คืบคลานไปตามพื้นดิน มันลุกลามกัดกร่อนเขตปกครองตนเอง
และ、ในตอนนั้นเอง
ก็มีการติดต่อบนไดฟ์เกียร์ของโรคุฮาระ
เป็นสายลับฉุกเฉินที่เตรียมไว้สำหรับ S แร๊งค์
「อะ? อะไรฟ๊ะ、ในเวลาแบบนี้……เชื่อมต่อ」
ไม่นานหน้าจอก็เปิดออกข้างใบหน้าของโรคุฮาระ
ภายในมีหญิงสาวที่ไม่มีลักษณะพิเศษใดถูกฉายออกมา
โรคุฮาระเหลือบมองมันแล้วอ้าปากขณะถือธนูใหญ่
「ต้องการอะไร? เอ๋โตะ……หล่อนเป็นใคร」
『ริวโกะไงค่ะ! วาตาริ ริวโกะ! เอ๊ะ、นี่ลืมหน้ากันจริง ๆ เหรอคะ!? ……ไม่ใช่เรื่องนั้นสิ、เมื่อกี้ฉันเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากคณะกรรมการบริหาร และกำลังจะไปทางนั้น ยังไงก็ตาม、ฉันหยิบคิริกะจังมาแล้ว、และกำลังรีบไปด้วยความเร็วมัคเลยค่ะ!』
「ห๊า? จะมาที่นี่งั้นเรอะ」
『ลีดเดอร์、ถ้ามี S แร๊งค์ถึงสามคนฉันคิดว่าเป็นไปได้ค่ะ!? เย้、ไข่、เมนมะ(หน่อไม้ดอง)、ชาชู!』
「เอย์น่าァ……หล่อนหุบปากแล้วคำนวณต่อซะ」
โรคุฮาระปิดปากเอย์น่า、แล้วเหลือบมองไปที่ริวโกะซึ่งสะท้อนให้เห็นอยู่บนหน้าจอ
ข้างหลังเธอเป็นท้องฟ้ายามค่ำคืน และจากการกระจายตัวของเมฆที่เห็น คำนวณได้ว่าเธอกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง
「จะมาถึงในอีกนานแค่ไหน」
『สามนาทีก็เพียงพอแล้ว』
「งั้นเรอะ」
โรคุฮาระพูดพร้อมกับพยักหน้า
「ยัยโง่อย่ามา」
『『……เห๊ะ?』』
เสียงโง่ดังมาจากธนูใหญ่ และอีกด้านของหน้าจอ
ในขณะที่ยังคงขยายวงเวทย์ต่อไป、โรคุฮาระก็พูดขึ้นว่า「ไม่ได้ยินรึไง?」และพูดต่อ
「ข้าบอกว่าอย่ามาไงเห๊ย ยัยนี้เป็นเหยื่อของข้า ข้าไม่ทนกับการมาแย่งเหยื่อไปหรอกนะเฟ๊ย」
『ไม่สิไม่สิ、ใช่เวลามาพูดแบบนั้นรึไงย๊า!? เขตใจกลางเมืองของโรงเรียนคิโซแทบจะถูกทำลายเละไปแล้วไม่ใช่รึง๊ายกัน!? มาร่วมมือกันตรงนี่เถอะ ฉันไม่ได้สนใจต้นไม้ดวงดาวหรืออะไรแบบนั้นหรอก』
「ขอปฏิเสธ นอกจากนี้、ข้ายังเปิดใช้งานพิธีกรรมเวทมนตร์ของทะลวงดาราไปแล้ว ถ้าเป็น S แร๊งค์จริงก็น่าจะเข้าใจสินะ」
เมื่อได้ยินคำพูดของโรคุฮาระ ใบหน้าของริวโกะก็ซีดลง
『เอ๋っ!? เดี๋ยว、บัลติอุส หยุด หยุด! สต็อป!』
เขาได้ยินเสียงคำรามที่น่าสะพรึงกลัวบางอย่างดังมาจากอีกฟากของหน้าจอ
โรคุฮาระขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิด
「กิ้งก่าของแกน่ารำคาญจนอยากฟันทิ้งซะจริง ไหน ๆ ก็รู้แล้ว ก็ช่วยส่งข่าวให้คณะกรรมการรู้ด้วยแล้วกัน ที่เหลือ、หากเข้าสู่เขตใจกลางเมืองตอนนี้ ทุกอย่างจะอยู่ในระยะ จงฟังคำแนะนำของข้า และกลับไปโรงเรียนของแกซะ」
『เอ๊ะ、เดี๋ย――』
เมื่อพูดในสิ่งที่ต้องการพูดจบ、โรคุฮาระก็ตัดสายไป
「ขอโทษทีน๊า、ทำให้รอไหม?」
「มิมีปัญหาเป็นพิเศษ ฉันจะไม่โจมตีคุณในขณะที่คุณกำลังคุยกับเพื่อนหรอก」
「งั้นเรอะ、ไม่ใช่เป็นเพื่อนกันหรอก……แต่งั้นก็ช่วยรออีกสักหน่อยจะเป็นไรไป」
วงเวทย์ของทั้งคู่สว่างยิ่งขึ้น
โลกที่ท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยวงเวทย์สีม่วง、และฝืนดินที่ปกคลุมด้วยวงเวทย์สีแดงขนาดใหญ่、จนดูราวกับเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบ
『การคำนวณเสร็จสิ้นแล้วค๊า……』
เอย์น่าพูดด้วยความรู้สึกผิดหวังที่การช่วยเหลือถูกปฏิเสธ
「กี่คน」
『ในเขตใจกลางเมือง รวมจำนวนทั้งสิ้น 160,349 คนค่ะ……』
「งั้นเรอะ เอาล่ะ、งั้นมาเริ่มกันเลย」
『ค่ะ……』
วงเวทย์สีแดงเพิ่มความเจิดจ้ายิ่งขึ้น
จากนั้นบริเวณโดยรอบก็เริ่มมีเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ
นักเรียนที่กำลังชมการต่อสู้ระหว่างโซลเซียลากับโรคุฮาระ、รวมถึงผู้ที่ได้อพยพออกไปแล้ว、ทุกคนต่างกรีดร้องราวกับว่าพวกเขากำลังจะเป็นบ้า
ควันดำลอยขึ้นทั่วทุกแห่งและเสียงไซเรนแหลมสูง
มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากน้ำมือของเด็กสาวที่ชื่อเอย์น่าเพียงผู้เดียว
「แกรู้อยู่แล้วใช่ไหม?ความสามารถที่แท้จริงของเอย์น่า」
「……ความสามารถพิเศษในการดูดซับอารมณ์ของมนุษย์ภายในขอบเขตที่กำหนด และแปลงให้เป็นพลังเวทย์มนตร์ ถูกไหม?」
「แกเป็นคนในวงการเดียวกันอย่างที่คิด งั้นข้าจะเสริมให้、คนที่โดนดึงอารมณ์จนหมดจะกลายเป็นพวกวิกลจริตชั่วคราว มันคือการเสียสละของผู้คน เพียงแค่นี้ข้าจะปลดปล่อยพลังที่เหนือกว่าตอนนี้เพื่อแกเพียงผู้เดียวเลย」
『การแปลงอารมณ์……เริ่มการบรรจบ』
ด้านหน้าธนูขนาดใหญ่ของโระคุฮาระ มีวงเวทย์สีแดงหลายวงเล็งไปที่โซลเซียลา
ในที่สุดวงเวทย์ก็เริ่มหมุนอย่างช้า ๆ
เมื่อโซลเซียลาเห็นเช่นนั้น、เธอก็ยิ้มทันที
จากนั้น ท่อโปร่งแสงยื่นออกมาจากวงเวทย์ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า เชื่อมต่อกับเคียวยักษ์ซึ่งชี้ปากกระบอกปืนไปที่โรคุฮาระ
「ฉันจะสอนถึงความเจิดจ้าของดวงดาวให้เอง」
「ฮา、ไม่ต้องการโว้ย」
กลุ่มวงเวทย์ที่อยู่ตรงหน้าทั้งคู่เริ่มทวีการหมุนอย่างรุนแรงขึ้น
ด้วยพลังอันแข็งแกร่งสองประการ พื้นที่นี้จึงไม่ใช่สถานที่ที่สิ่งมีชีวิตจะสามารถดำรงอยู่ได้อีกต่อไป
ในพื้นที่เวทมนตร์ที่มีความเข้มข้นสูงซึ่งไม่มีใครสามารถเข้าไปได้ ทั้งสองคนก็ยิงโจมตีพร้อมกัน
「「――ッ」」
แสงสีแดงและสีเงินปะทะกัน
พื้นดินสั่นสะเทือนด้วยเสียงอันรุนแรง
「เอย์น่าァ、อดทนอีกหน่อยォ」
『ค๊าาาา!』
แสงสีแดงยังเพิ่มความเจิดจ้ายิ่งขึ้น
นั่นเป็น、การโจมตีที่รุ่นแรงที่สุด โดยเปลี่ยนอารมณ์ของทุกคนที่ร่างกายสัมผัสกับวงเวทย์ในเขตใจกลางเมือง
ความตื่นเต้นและความกลัวของผู้คนที่เห็นการต่อสู้ระหว่างโซลเซียลากับโรคุฮาระ ยิ่งทำให้โรคุฮาระมีพลังมากยิ่งขึ้น
「เยี่ยมมากเน๊ェ、มาฟันมันทิ้งทั้งอย่างงี้กันเลยยยยยย!」
แสงสีแดงเริ่มมีมากกว่าแสงสีเงินทีละน้อย
สีแดงที่ย้อมสีเงินราวกับกลืนกินดูเหมือนเป็นการนับถอยหลังการทำให้ดวงดาวร่วงหล่น
ยังไงก็ตาม、เมื่อมาถึงจุดนี้ โรคุฮาระได้ก้าวไปอีกขั้นเพื่อเอาชนะ
「เอย์น่า、ยังมีพลังงานเหลืออยู่ใช่ไหม เอาให้ถึง 50% ไปเลย ความรับผิดชอบโยนให้คณะกรรมการไปซะ」
『เข้าใจแล้วค๊า!ความรู้สึกที่เหมือนสามารถเอาชนะโอเน่ซามะได้นี่、ฉันจะทำให้ดีที่สุดค๊าาาาาา!』
มีการเพิ่มสูตรเวทมนตร์มากมายเข้าไปในวงเวทย์、อารมณ์ถูกดูดซึมและเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกันคือ、แสงสีแดงเอาชนะการโจมตีแบบบรรจบโซลเซียลาได้แล้ว
ราวกับกลืนดวงดาว ในไม่ช้ามันทะลุแสงสีเงินเข้าไป――
「ฮ่าๆๆๆ、ชัยชนะเป็นของข้า」
มันยิงทะลุผ่านตำแหน่งที่โซลเซียลาอยู่ได้สำเร็จ
แสงสีแดงทำลายวงเวทย์สีม่วงและสลายเมฆทั้งหมดที่ลอยอยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืนออกไป
การโจมตีที่ยิงจากพื้นดินเจาะทะลุดวงดาวอย่างแน่นอน
หลังจากนั้นไม่นาน、การโจมตีของโรคุฮาระก็สิ้นสุดลงเช่นกัน
มันค่อย ๆ กลายเป็นเส้นแสงบาง ๆ และสลายหายไปในท้องฟ้ายามค่ำคืน เหลือเพียงเสียงสะท้อนไว้เบื้องหลัง
『ชะ、ชนะแล้ว……? ชนะแล้วจริง ๆ ใช่ไหมคะ!?』
「อ้า คิดว่าข้าเป็นใคร――อะ?」
ฉึก、เขารู้สึกเบา ๆ ที่หลัง
ในเวลาเดียวกัน、รู้สึกเหมือนมีบางอย่างที่ร้อนแพร่กระจาย
「อะไร……」
โรคุฮาระมองย้อนกลับไป
คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากโซลเซียลา
(เวทมนตร์เทเลพอร์ต? ถึงยังงั้นก็เถอะ เอย์น่าต้องสังเกต……ไม่สิ、ซ่อนอยู่การโจมตีนั้น!)
การโจมตีแบบบรรจบที่ยิงโดยโซลเซียลา、มีผลมากเกินพอที่จะปกปิดพลังพลังเวทมนตร์เล็กน้อยที่เกิดจากเวทย์เทเลพอร์ต
ในช่วงกลาง、ที่การโจมตีแบบบรรจบของโรคุฮาระเริ่มกลืนกินการโจมตีของโซลเซียลา นั่นไม่ใช่เพราะเขาชนะ
(ตั้งแต่แรก、โซลเซียลาไม่ได้อยู่ที่ตรงกลางนั้น)
ไล่มองท้องฟ้าด้วยสายตา
ที่นั่นมีวงเวทย์แห่งการโจมตีแบบบรรจบสีน้ำเงินม่วงที่กำลังจะจางหายไป
เป็นวงเวทย์การโจมตีแบบบรรจบแบบอิสระที่ได้รับการดัดแปลงจากวงเวทย์ธรรมดา
(……ยัยนี้เข้ามาใกล้ขนาดนี้ตั้งแต่แรกได้ยังไงกัน? มีจุดประสงค์อะไรกันแน่)
หลายครั้งที่โซลเซียลาแกล้งทำเป็นเข้าใกล้โรคุฮาระ
หากเธอจริงจัง、เธอสามารถจัดการเขาได้ด้วยการระดมยิงการโจมตีแบบบรรจบได้ในเวลาอันรวดเร็ว
หากเป็นอย่างงั้นแล้ว、เหตุใดโซลเซียลาจึงใช้ความยินดีต่อชัยชนะของเขาเหนือการโจมตีแบบบรรจบที่เป็นแค่การบลัฟฟ์เพื่อที่จะเข้าใกล้กัน
คำตอบอยู่ที่ดาบสั้นที่เธอถือ
「……นะ、นี่มัน、แก……ใช้ยาพิษกับข้าเรอะ」
เมื่อเขาหันกลับมา โรคุฮาระก็ล้มลงบนหลังของตัวเองโดยไม่รู้ตัว
เมื่อโดนจ้องอย่างงั้น、โซลเซียลาก็ทำให้ดาบสั้นหายไป
(มันไม่ใช่ยาพิษธรรมดา อาจเป็นยาที่ได้รับมาจากเวทมนตร์พิเศษ……)
อาการอัมพาตค่อย ๆ เริ่มที่ปลายแขนขา
เขาได้ยินเสียงกรีดร้องของเอย์น่า、แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถตอบสนองได้แม้แต่น้อยนิด
「ไม่ถึงตายหรอก ไม่ต้องห่วง」
โซลเซียลาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ในเวลาเดียวกัน เขาก็เข้าใจได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่การฆ่าอย่างสนุกสนานสำหรับเธอ
ตั้งแต่แรกเริ่ม เธอต่อสู้อยู่บนพื้นฐานความต้องการที่จะทำให้โรคุฮาระหมดความสามารถในการต่อสู้
(พูดให้ตรงคือ、แค่เล่นกับข้าสินะ……!)
นี่ไม่ใช่การต่อสู้ชี้ขาด
นี่เป็นเพียงแค่การเต้นไปตามสถานการณ์ที่เธอสร้างขึ้น
「บ้า、ที่、สุด」
『ลีดเดอร์ぁ! ลีดเดอร์ぁ!』
เอย์น่ากลับมาเป็นร่างมนุษย์、และเกาะติดกับโรคุฮาระ
และหลังจากที่เขย่าร่างของเขาหลายที、เธอก็จ้องไปยังโซลเซียลา
「คะ、คิดที่จะทำอะไรกับพวกฉันกันคะ……!」
「ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ」
โซลเซียลาหันเท้ากลับ
「จงแข็งแกร่งขึ้นในวันแห่งการต่อสู้ชี้ขาด ฉันแน่ใจว่าความสามารถของพวกคุณไม่ใช่มีเพียงเช่นนั้น」
หลังจากพูดอย่างนั้น、โซลเซียลาก็หายตัวเข้าไปในวงเวทย์เทเลพอร์ตสีน้ำเงินม่วง
ความเงียบเข้าปกคลุมพื้นที่
「……ลีดเดอร์」
เอย์น่าหันไปเรียกหาโรคุฮาระด้วยความรู้สึกที่ไม่มีที่ไป
และ、รู้สึกตัว
「ฮะ、ฮ่าฮ่า……ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ!」
ว่าโรคุฮาระกำลังหัวเราะ
เขาหัวเราะอย่างดุร้าย ไร้เดียงสา จากก้นบึ้งของหัวใจ
「เอย์น่าァ、ข้าตัดสินใจแล้ว」
「เอ๊ะ?」
โรคุฮาระฝืนขยับแขนขวาของเขา ซึ่งควรจะเป็นอัมพาตและขยับไม่ได้ ด้วยแรงใจของเขา
จากนั้น、ก็เอื้อมมือออกไปที่ดวงดาวที่ส่องแสงเจิดจ้าบนท้องฟ้ายามค่ำคืนแล้วพูดว่า
「ดวงดาวนั่น――ข้าจะทำลายมันซะ」
ในสถานการณ์นี้、เอย์น่าทำได้เพียงพูดด้วยความประหลาดใจ
「ยะ、ยังจะทำอีกเหรอคะ」
「แน่นอนที่สุด ข้าไม่ได้รู้สึกอนาถแบบนี้มานานมากแล้ว อ้าー、น่าสนใจ、เธอช่างเป็นผู้หญิงที่น่าสนใจจริง ๆ!」
โรคุฮาระหัวเราะอย่างมีความสุขอีกครั้ง
ณ ใจกลางของโลกที่พังทลาย เสียงหัวเราะนั้นก้องกังวานต่อเนื่อง
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ
{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}
ขอบคุณ คุณนิรนามที่ฝากเข้ามาผ่านCDM มาก ๆ ครับ
ขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ
ขอบคุณงับ
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
ตอนนี้ยาวกว่าปกติหน่อยเลยแปลช้า แถมเป็นฉากต่อสู้เลยต้องอ่านๆแปลๆตีลังกาสามตลบให้ดีว่าของใคร ฮา
แต่อีกส่วนที่ทำให้ช้าคือ ไม่มีอารมณ์อยากอยู่บ้าน
เมื่อคนที่บ้านมาชวนไปเดินออกกำลังกาย
ชวนดีๆปกติสามัญ—ไม่
ชวนประชดประชันหาดีไม่ได้—ใช่
เอาซะหงุดหงิดต้องออกไปเดินคลายอารมณ์แบบห่างเป็นคืบ เพราะถ้าไม่ออกจะหนักกว่านั้นเยอะ