ตอนที่ 42 โรงเรียนและการเสแสร้ง
เมื่อมิโรคุตื่นขึ้นมา เธอก็อยู่ในห้องผู้ป่วยของโรงพยาบาลแล้ว
สำหรับคนที่เตรียมใจที่จะรับความตายไว้แล้ว รู้สึกเหมือนโดนทรยศแปลก ๆ ล่ะ
นอกจากนี้เมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็ไม่มีเรื่องอะไรที่ทำให้เกิดความยุ่งยากเป็นพิเศษ
ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยที่จะบอกว่าหลงเธออยู่ในโลกแห่งความเป็นและความตาย แต่ก็จำได้ว่าได้รับการปฏิบัติอย่างสงบชัดเจนมากเพียงใด
หนึ่งครั้ง、ที่มีหมอมาตรวจร่างกายของเธอ แต่หลังจากนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น
และตัวเธอก็ได้รับรู้ว่าเด็กชายกับนาตากิ เคย์ที่อยู่ด้วยกันปลอดภัยดีแล้ว、ส่วนเธอในตอนนี้อยู่ในสภาพไม่สามารถติดต่อได้สักพัก
หลังจากใช้เวลาประมาณสามวันเช่นนั้น、ก็มีแขกมาเยี่ยมเธอ
「――อ้า พวกคุณนี้เอง มีเรื่องที่อยากคุยกับฉันงั้นเหรอจ๊ะ」
หนุ่มน้อยกับสาวน้อยคู่หนึ่งมาพบกับมิโรคุ
เครื่องแบบที่พวกเขาสวมใส่อยู่、เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีของทุกคนภายในเมืองแห่งโรงเรียน
ชุดเครื่องแบบของโรงเรียนมิคาเงะ、หนึ่งในสี่โรงเรียนใหญ่
「ขอขอบคุณที่รับฟังคำขออย่างกะทันหันของพวกเราครับ ชื่อของผมคือ กาโต้ โทรัค และทางนี้คือ、อากากิริ รินกะ」
「ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ สภาพร่างกายเป็นยังไงบ้างคะ」
「จ๊ะ รู้สึกดีมากเลย รู้ไหมจ๊ะ ตอนที่ฉันสลบไปมีรู้ใหญ่ที่ท้องของฉันด้วยล่ะจ๊ะ?แต่ตอนนี้ดูสิ สวยเรียบเนียนมากเลย」
หลังจากพูดแบบนั้น、มิโรคุก็ม้วนชุดผู้ป่วยขึ้นเผยให้เห็นหน้าท้องของเธอ
「いっ!?」
โทรัคหันหน้าหนีทันที และปล่อยเสียงกรีดร้องอันเงียบงัน
แต่ว่า การมองเห็นการเคลื่อนไหวที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีของเขาก็ทำให้เห็นหน้าท้องสีขาวบริสุทธิ์นั้นอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
มิโรคุเอียงหัวให้กับโทรัคที่ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงสด
เมื่อเห็นสถานการณ์แบบนั้น、รินกะก็เข้าใจว่าคนตรงหน้าเธอเป็นคนแบบไหน
「……อาー、โล่งอกไปทีนะคะที่ไม่มีรอยแผลเป็นหลงเหลืออยู่ ยังไงก่อนอื่น、ก็ช่วยปิดหน้าท้องของคุณได้แล้วค่ะ คงจะไม่ดีถ้าคุณเป็นหวัด」
「อะ、จริงด้วยเน๊ ฟุๆๆๆ、ยังไงก็เถอะจ๊ะ โรงพยาบาลของโรงเรียนมิคาเงะนี่น่าทึ่งมากเลยนะเน๊ะ แม้แต่กับคนที่กำลังจะตายอย่างฉันก็ยังสามารถรักษาให้หายขาดได้ขนาดนี้」
「……นั่นสิเน๊ー」
รินกะเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นก็เข้าใจสิ่งหนึ่ง
(แน่ใจเลยว่าเป็นโซลเซียลาที่รักษาจนหายสนิท)
เมื่อพวกรินกะมาถึง、มิโรคุก็หลงเหลือแม้แต่รอยขีดข่วนเรียบร้อยแล้ว
ยังไงก็ตาม、จากที่เธอพูดมา แสดงว่าเธออาจได้รับบาดเจ็บที่ร้ายแรงจนอาจถึงแก่ชีวิต
เมื่อพูดถึงคนใกล้ตัวเธอที่สามารถรักษาบาดแผลแบบนั้นได้ก็มีเพียงโซลเซียลาเท่านั้น
ไม่ใช่สิ、สำหรับมิโรคุแล้วคือ นาตากิ เคย์ หรือเปล่าน่ะ
(ท่าทางแบบนี้、ดูเหมือนน่าจะยังไม่รู้ว่า นาตากิ เคย์ คือ โซลเซียลา สิเน๊ะ)
ที่โรงเรียนสหศึกษา เฟกตอม、เห็นได้ชัดว่าเธอใช้ชีวิตเป็น นาตากิ เคย์ สอดคล้องกับสิ่งที่ได้ยินจากโทรัคมาก่อนหน้านี้
「ซ้าซ้า、ช่วยนั่งที่เก้าอี้ตรงนั้นแล้วกันจ๊ะ ฉันเริ่มเบื่อแล้ว 」
「เช่นนั้นขอรบกวนด้วยนะคะ……โทรัค、ไม่เป็นไรแล้ว」
「อะ、เข้าใจแล้ว」
รินกะนั่งลง และดึงแขนเสื้อของโทรัคที่ยังตัวแข็งทื่อและมองไปทางอื่นอยู่
หลังจากแน่ใจว่าโทรัคนั่งลงแล้ว、รินกะก็เริ่มพูด
「อย่างที่ได้แจ้งไปก่อนหน้านี้、เราอยากถามคุณเกี่ยวกับเรื่องของนาตากิ เคย์ค่ะ」
「จ๊ะ、เชิญเลย」
มิโรคุตอบด้วยรอยยิ้ม
จุดประสงค์ในการมาของพวกรินกะครั้งนี้คือ、หาคำตอบว่า ทำไมนาตากิ เคย์จึงไปเรียนที่โรงเรียนสหศึกษา เฟกตอม
ปัจจุบันมีหลายสิ่งที่ยังไม่ทราบเกี่ยวกับเธอ ดังนั้นพวกรินกะจึงตัดสินใจพูดคุยกับนักเรียนที่เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันจริง ๆ
「อะ、แต่ว่าก่อนหน้านั้น……ทำไมพวกคุณถึงอยากได้ยินเกี่ยวกับเคย์กันล่ะจ๊ะ」
(ระวังตัวอยู่นิดหน่อยสินะ ม๊า、ก็ควรเป็นอย่างงั้นล่ะเน๊ะ)
การที่เธอถามคำถามด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยน、มันทำให้ดูเหมือนว่าเธอเพียงแค่ต้องการถามคำถามเท่านั้น
ทว่า、สายตาของรินกะไม่พลาดคำเตือนเบื้องหลังนั้น
(แต่ว่า、ทางนี้เองก็เตรียมใจเอาไว้แล้วเน๊ー)
รินกะจงใจทำสีหน้าหม่นหมองลง และพูดตะกุกตะกัก
จากนั้นหลังจากแสดงท่าทางลังเล เธอก็ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งออกไป
「นี่คือ、เหตุผลค่ะ」
「……นี่คือ」
ขณะที่มิโรคุดูเนื้อหาที่เขียนไว้บนกระดาษ สีหน้าของเธอก็ดูเคร่งขรึมมากขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่ออ่านจบ รอยยิ้มของเธอก็หายไป และพูดว่า
「คุณกำลังจะบอกว่าเคย์คุงคือต้นเหตุของความวุ่นวายในสวนสนุกอย่างงั้นเหรอ?」
「ก็แค่มีความเป็นไปได้ค่ะ」
นั่นเป็นส่วนหนึ่งของรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้
นั่นไม่ต่างจากของจริง、ทว่ารินกะได้ปลอมแปลงมันอย่างผิดกฎหมาย
แน่นอนว่าไม่มีทางที่นาตากิ เคย์จะถูกสงสัย แต่ไม่มีทางที่เธอที่อยู่แต่ในห้องผู้ป่วยของโรงพยาบาลจะรู้เรื่องนั้น
「เรื่องแบบนั้น、ไม่มีทางเด็ดขาดแน่นอน!? เคย์คุงน่ะพยายามทำเพื่อพวกฉันมากมายขนาดไหน…… เขายังต่อสู้ โดยที่แม้จะต้องเสียสละร่างกายของตัวเอง!」
เมื่อเห็นมิโรคุทำท่าจะกระโดดเข้ามาหา、รินกะก็รีบพยักหน้า
「ฉันก็คิดว่ามันแปลกเหมือนกันค่ะ ดังนั้นแล้ว、เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาตากิ เคย์、ฉันจึงอยากจะถามเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของเขาค่ะ」
เมื่อพูดแบบนั้นเสร็จ、เธอก็ชี้ไปที่โทรัคซึ่งอยู่ข้าง ๆ แล้วพูดต่อ
「ฉันได้ยินบางส่วนมาจากโทรัคซึ่งเป็นเพื่อนที่ดีกับนาตากิ เคย์ที่โรงเรียนมิคาเงะมาแล้วค่ะ นั่นทำให้คลายความสงสัยบางส่วนไปได้ แต่ฉันอยากได้ยินความคิดเห็นที่ช่วยทำให้เขาบริสุทธิ์โดยสมบูรณ์ ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงอยากได้ยินเกี่ยวกับบุคลิกของนาตากิ เคย์จากผู้หญิงที่อยู่ด้วยกันกับเขาในวันนั้นค่ะ」
เมื่อได้ยินคำพูดของรินกะ、มิโรคุก็ถอนหายใจด้วยความโล่งใจ
「……เป็นอย่างงั้นสินะ」
「ค่ะ ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าข้อสงสัยส่วนใหญ่เกี่ยวกับเขาได้รับความกระจ่างแล้ว ทว่า เนื่องจากเขายังไม่ได้ไร้มลทินโดยสมบูรณ์ ฉันจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องสรุปตามข้อมูลที่ปรากฏบนกระดาษ……ต้องขอโทษด้วยนะคะ、พวกฉันหวังว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง」
พูดจบ รินกะก็ก้มหัวลง
เมื่อเห็นหัวที่ก้มลงต่ำ、มิโรคุก็ส่ายหัวด้วยความตื่นตระหนก
「อะ、อะไรกัน……! เป็นฉันเองที่ต้องขอโทษจ๊ะ ฉันหงุดหงิดไปหน่อย」
ขณะที่ฟังคำพูดของมิโรคุ、รินกะก็พอจะเริ่มเดาได้คร่าว ๆ ถึงตำแหน่งในโรงเรียนสหศึกษา เฟกตอมของนาตากิ เคย์
(ฟุมุ、จากท่าทางหงุดหงิดก่อนหน้าแล้ว ออกจะดูเหมือนกับความรู้สึกสนิทสนมกันอย่างลึกซึ้งมากกว่าเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ โรงเรียนสหศึกษา เฟกตอม ก่อนที่นาตากิ เคย์จะเข้าร่วม เห็นได้ชัดเจนว่ามีกันเพียงแค่สามคน และชุมชนปิดที่สร้างขึ้นในหมู่พวกเขาจึงแข็งแกร่งมาก)
นาตากิ เคย์、เข้าเรียนในโรงเรียนสหศึกษา เฟกตอมในฐานะผู้ชาย
ในมุมมองของรินกะ、มิโรคุเป็นสาวสวยที่หาตัวได้จับยาก
มิฮายะกับโทรัคยังบอกอีกว่า、อีกสองคนก็เป็นสาวสวยเช่นกัน
โดยปกติ แม้ว่าผู้ชายจะเข้าร่วมได้ แต่ก็ไม่มีทางที่เขาจะสามารถเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนดังกล่าวได้อย่างเหมาะสม
(การอุทิศตนเกินกว่าจะวัดได้ของนาตากิ เคย์ อาจเรียกได้ว่าบ้าไปแล้วก็ได้เน๊ะ)
ฉันเข้าใจว่าพฤติกรรมที่โรงเรียนมิคาเงะนั้นแตกต่างโดยสิ้นเชิง
เคยได้ยินมาจากโทรัคด้วยว่า เธอเคยสวมหน้ากากเป็นคนหยิ่งผยอง
(ซ้าซ้า、จากนี้คืองานของฉันเน๊ー)
รินกะพูดด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร
「ถ้าเช่นนั้น、ได้โปรดช่วยเล่าเรื่องเกี่ยวกับเขาในวันนั้นให้เราฟังอีกครั้งด้วยค่ะ」
「อะ、จ๊ะ เอ๋โตะ、ในวันนั้น ฉันรับทำงานพาร์ทไทม์ที่มีคนรู้จักแนะนำมาให้ แล้ว――」
ขณะที่จดบันทึกคำพูดของมิโรคุ、รินกะก็เรียบเรียงข้อมูลทีละรายการ
ฉันเปรียบเทียบคำพูดของเธอเข้ากับภาพจากกล้องวงจรปิดบางตัวที่ยังเหลือรออยู่ แต่ก็ไม่พบความแตกต่างที่สำคัญใด ๆ
(อืมー、เธอไม่ได้มาในฐานะโซลเซียลา แต่ดูเหมือนว่า、แผนการเข้าโจมตีสนธยาสีเงินที่เธอวางไว้、จะซ้อนทับกับคำชวนให้มาทำงานพาร์ทไทม์จากคน ๆ นี้พอดีสินะ เข้าใจแล้วเน๊)
ฉันไม่คิดว่าจะมีอะไรเพิ่มเติมที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นข้อมูลได้
ด้วยเหตุนั้น รินกะจึงย้ายไปยังหัวข้อถัดไป
「……เข้าใจแล้วค่ะ เช่นนั้น、อยากจะถามคุณต่อไปว่าคิดยังไงกับเขาในโรงเรียนสหศึกษา เฟกตอมเหรอคะ」
「การแสดงออกที่โรงเรียนของเคย์คุงสินะ、นั่นสิเน๊……เขาเป็นเด็กดีมากทีเดียว เขาเป็นเด็กดีจนฉันอดรู้สึกขอบคุณมาก ๆ เลยล่ะจ๊ะ」
「เป็นเช่นนั้นจริงเหรอคะ ไม่สิ、มีข่าวลือไม่มีมูลว่าเขาเป็นอันธพาลตอนที่อยู่โรงเรียนของทางนี้ แต่อย่างงั้นสินะ กะแล้วเชียว นั่นเป็นเรื่องโกหกเหรอคะ」
「ไม่ใช่สำหรับเขาแน่นอน」
เมื่อเห็นมิโรคุประกาศอย่างหนักแน่น、รินกะก็รู้สึกอีดอัดเล็กน้อย
(อือ? นี่มัน……)
รินกะชี้ไปทางโทรัค แล้วพูดว่า「ต่อไปเขาจะเป็นคนถามคำถามค่ะ」
「เอ๊ะ、ผมเหรอ?」
「อืม ก็แบบ、สำหรับที่โรงเรียนมิคาเงะ คุณคือคนที่รู้จัก นาตากิ เคย์มากที่สุดแล้วจริงไหมล่ะ โฮร่า」
「เอ๊ะ、เอ๋โตะ、จ๊า……เขาเป็นยังไงบ้างครับ?」
เป็นคุณพ่อรึไงกัน、รินกะพูดในใจ
หลังจากนั้นเธอจึงฝากบทสนทนาไว้กั โทรัค และมุ่งความสนใจไปที่การสังเกตและคิด
「ฟุๆๆๆ、คุณเป็นเพื่อนกับเคย์คุงอย่างงั้นสินะจ๊ะ จ๊า、เคย์คุงสบายดี เขาคอยช่วยเหลือพวกฉันเสมอมาเลย จริง ๆ นะจ๊ะ」
「อย่างงั้นเหรอครับ……โล่งอกไปที」
「เป็นเพื่อนที่ดีเลยเน๊」
「ม๊า、ครับ」
หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง โทรัคก็พยักหน้า
「เขาเป็นคนที่ให้โอกาสผมได้ดำดิ่งลงไปในดันเจี้ยนครับ เขาถือว่าเป็นผู้มีพระคุณของผมเลยล่ะครับ」
นั่นเป็นคำพูดที่ไม่มีการตกแต่งใด ๆ ของโทรัค
เพราะอันที่จริงแล้ว โทรัคไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในดันเจี้ยนด้วยเหตุผลหลายประการ แต่เธอคือคนที่ปล่อยให้เขาเข้าไป แม้ว่ามันจะมีจุดประสงค์เพื่อกลั่นแกล้งก็ตาม
นอกจากนี้、เมื่อรู้ว่าการกลั่นแกล้งนั้นเป็นเพียงการอำพราง、ก็ไม่มีความเกลียดชังต่อนาตากิ เคย์หลงเหลืออยู่อีกแล้ว
「ผม、ไม่สามารถทำอะไรเพื่อเขาได้เลย ไม่แม้แต่จะทันสังเกตเห็นตัวตนที่แท้จริงของเขาได้ด้วยซ้ำ เพราะอย่างงั้นแล้ว ผมจึงหวังว่าหากเขาจะยอมแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาแม้เพียงน้อยนิดก็คงดี」
「……นั่นสิเน๊ะ พวกฉันเองก็หวังแบบนั้นอยู่เช่นกันจ๊ะ」
ขณะฟังบทสนทนาระหว่างทั้งสอง รินกะก็รู้สาเหตุที่ทำให้ตัวเองไม่สบายใจ
(เชื่อใจนาตากิ เคย์กันมากเกินไป)
เธอเชื่อมั่นในตัวนักเรียนชายคนหนึ่งซึ่งย้ายเข้าไปอยู่ที่นั้นได้เพียงประมาณหนึ่งเดือนเท่านั้น
คุณสามารถพูดได้ว่านี่เป็นเรื่องผิดปกติ
(เป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการได้ว่านาตากิ เคย์สามารถเข้าร่วมได้ดีน๊า ในกรณีนั้น……)
เป็นไปได้ว่า、มีบางอย่างเพิ่มคุณค่าในตัวนาตากิ เคย์ให้สูงยิ่งขึ้นสินะ
「อะ、ว่าไปแล้ว、ประธานนักเรียนคนต่อไปของโรงเรียนสหศึกษา เฟกตอมจะเป็นนาตากิ เคย์อย่างงั้นใช่ไหมคะ?」
「เอ๊ะ、รินกะเกิดอะไรขึ้น」
「อิย๊าぁ、เขามีความสามารถค่อนข้างมากและฉันก็สนใจเขาค่ะ หากเป็นเช่นนั้น、การช่วยเขาที่นี่ไม่คิดว่าเป็นการสร้างหนี้บุญคุณที่ดีเลยหรือคะ?」
รินกะพูดล้อเลียนพร้อมยิ้มขี้เล่น พร้อมส่งสัญญาณให้โทรัค
มิโรคุได้ยินอย่างนี้ก็พูดพลางหัวเราะเบา ๆ
「นั่นสิเน๊ ถ้าเขารับตำแหน่งประธานสภานักเรียน ฉันแน่ใจว่าเขาจะเป็นประธานสภานักเรียนที่ดีอย่างแน่นอนจ๊ะ」
「ตอนนี้มิโรคุซังเป็นประธานนักเรียนสินะคะ」
「จ๊ะ ถูกต้องแล้วเน๊ะ ถึงจะเห็นแบบนี้ แต่ฉันก็เป็นประธานนักเรียกล่ะจ๊ะเน๊ー」
พูดจบมิโรคุก็เชิดอก
「โรงเรียนสหศึกษา เฟกตอมใช้ระบบการเสนอชื่ออย่างงั้นเหรอคะ? ให้ประธานสภานักเรียนเสนอชื่อประธานสภานักเรียนคนต่อไป」
「อือー、เนื่องจากเหลือนักเรียนจำนวนไม่มากนัก จึงกลายเป็นวิธีนี้ไปเองโดยธรรมชาติเน๊ะ」
「เช่นนั้นแล้ว、มิโรคุซังเองก็ได้รับการเสนอชื่อโดยประธานนักเรียนคนก่อนเหมือนกันสินะคะ?」
「……เอ๋、ม๊า」
รินกะพูดด้วยรอยยิ้ม และปรบมือให้ทั้งอย่างงั้น
「ประธานสภานักเรียนซังคนนั้นก็คงโล่งใจเช่นกันเน๊ะ หากนาตากิ เคย์ได้เป็นประธานนักเรียนตามรอยมิโรคุซัง โรงเรียนสหศึกษา เฟกตอมเองก็อาจฟื้นกลับมาได้ด้วย」
「นั่นสิเน๊ ……แน่นอนจ๊ะ、ถึงฉันจะจากไป แต่หากเป็นเคย์คุง」
ขณะที่มิโรคุพูดอย่างนั้น เธอก็ลดสายตาลงเล็กน้อย และมือที่จับผ้าปูที่นอนก็ตึงเครียดเล็กน้อย
รินกะไม่คิดที่จะมองข้าม
(อะ、นี่แหละ)
สิ่งต่าง ๆ มากมายเกี่ยวกับอารมณ์ของมนุษย์ถูกฝังเข้ามาในร่างกายของฉันตอนที่อยู่กับสนธยาสีเงิน ซึ่งก็ช่วยทำให้เธอเข้าใจมิโรคุได้
(ยังมีอีก หนึ่งคนที่อยู่ระหว่างความสัมพันธ์แห่งความไว้วางใจของเธอ กับ นาตากิ เคย์ น่าจะเป็นประธานนักเรียนคนก่อน และนาตากิ เคย์กับคน ๆ นี้น่าจะเคยมีความสัมพันธ์ทางอ้อมก่อนที่จะมาพบกับทางนี้)
นี่จึงอธิบายว่าทำไม เธอถึงได้คุ้นเคยกับโรงเรียนสหศึกษา เฟกตอมได้รวดเร็วขนาดนี้
เธอแต่เดิม、มีความเกี่ยวข้องกับโรงเรียนสหศึกษา เฟกตอมอยู่แล้วไงล่ะ
ดังนั้น เมื่อมีการสอบสวนนาตากิ เคย์ ตัวตนใหม่ก็ปรากฏตัวขึ้น
(อดีตประธานนักเรียนของโรงเรียนสหศึกษา เฟกตอมสินะ ……เดาว่าคงต้องลองตามสืบดูแล้วน๊าー)
สาเหตุที่เธอจงใจเข้าเรียนที่โรงเรียนสหศึกษา เฟกตอมยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด
ยังไงก็ตาม、ก็ได้รับเบาะแสมาแล้ว
รินกะสังเกตมิโรคุ ขณะรวบรวมความคิด
(ถึงอย่างนั้น、คนที่ชื่อมิโรคุนี่เองก็ด้วย รอยยิ้มและท่าทางของเธอดูเหมือนเป็นการเสแสร้งเลยไม่ใช่รึไงเน๊ー แทนที่จะเรียกว่าทำโดยตั้งใจ มันเหมือนกับเธออยู่กับมันมานานหลายปีจนฝังแน่นลบไม่ออก……ไม่สิ、บางทีฉันอาจจะเผลอชื่นชมการแสดงของเธอโดยไม่รู้ตัวน๊า ตอนนี้ไม่สำคัญแล้วสินะ)
คร่าว ๆ สำหรับตอนนี้、เธอก็ได้รับข้อมูลมาแล้ว
หากยังคุยกับมิโรคุต่อไปทั้ง ๆ แบบนี้、รินกะน่าจะสามารถดึงข้อมูลออกมาได้ทั้งหมด
แต่、เธอจะไม่ทำแบบนั้น
(ฉันแค่อยากช่วยเคย์ ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่สามารถสร้างปัญหาให้กับคนที่สำคัญสำหรับเธอได้อีกต่อไปเน๊ะ)
เธอบรรลุเป้าหมายแล้ว
รินกะจงใจปิดสมุดจดและก้มหัว
「ขอบคุณมากค่ะ ฉันคิดว่าตอนนี้เขาไม่มีปัญหาแล้ว」
「จริงเหรอจ๊ะ? แบบนั้นก็โล่งอกไปที」
「ค่ะ หลังจากนี้ ที่เหลือก็แค่ถามเขาถึงการกระทำของเขาในวันนั้น อิย๊า โล่งอกแล้วนะคะ เขาดูเป็นคนดี」
「ฟุๆๆๆ、เขาเป็นนักเรียนที่น่าภาคภูมิใจของเราจ๊ะ」
พูดแล้ว、มิโรคุก็หัวเราะ
「เช่นนั้น、ไปกันเถอะ โทรัค」
「อะ、อืม ……ขอบพระคุณมากครั้บ」
「ไม่เลยไม่เลยจ๊ะ、ไม่ต้องเกรงใจหรอก」
ฉันมองดูมิโรคุที่กำลังโบกมือเป็นครั้งสุดท้าย
รินกะก้มหัวให้อีกครั้งหนึ่ง
(คน ๆ นี้……บางทีคงอยากที่จะตาย)
ในที่สุดรินก็ก็ได้คำตอบ สำหรับความรู้สึกอึดอัดใจระหว่างการสนทนาในจุดที่ไม่เกี่ยวข้องกับนาตากิ เคย์
ยังไงก็ตาม、รินกะเป็นคนที่รู้ดีที่สุดว่าตัวเองไม่สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้
(เคย์、เธอวางแผนที่จะช่วยชีวิตคน ๆ นี้ด้วยหรือเปล่า?)
มิโรคุยังคงยิ้มจนประตูปิดลง
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ
{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}
ขอบคุณ MR KRITTAPAS กรุงไทย X-8453มาก ๆ ครับ
ขอบคุณ คุณนิรนามที่ฝากเข้ามาผ่านCDM มาก ๆ ครับ
ขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ
ขอบคุณงับ
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
ไร้สาระ
สองวันมานี้รู้สึกหายใจติดๆขัดๆยังไงไม่รู้น้อ หายใจเข้าก็เหมือนไม่เต็มปอด หายใจออกก็เหมือนมีอะไรกระพือขวางลม
สงสัยโรงเรียนปิดเทอมรอบนี้น่าจะได้เวลาตรวจสุขภาพครั้งใหญ่แล้ว แล้วยังมีจุดปานแดงๆที่นิ้วโป่งเท้าที่ดูยังไงก็เริ่มลามด้วยอีก
สงสัยทำตัวไม่รักชีวิตบ่นอยากตายมากไปหน่อย เลยโดนลงโทษให้มีชีวิตแบบทรมานจัดๆไม่ตายง่ายๆ ฮา……