ตอนที่ 39 สลับฉาก、หรือบางอย่างที่เรียกว่ารายงานการประชุม
ณ ใจกลางของเมืองแห่งโรงเรียน、มีหอคอยนามว่า อาเรียนรอด ซึ่งอนุญาตให้เข้าถึงได้เฉพาะผู้ที่สภา Apis เลือกเท่านั้นตั้งอยู่
นักเรียนทั่วไปไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีอะไรอยู่เหนือชั้น 10 ของหอคอย ซึ่งมีลักษณะคล้ายโครงสร้างเกลียวDNA
ชั้นบนสุดของหอคอยแห่งนี้เป็นสถานที่ที่เหมือนกับท้องฟ้าจำลอง
สิ่งที่ฉายอยู่บนเพดานคือ แสงที่กะพริบซ้ำ ๆ ทว่าไม่สม่ำเสมอ และสว่างไสวยิ่งกว่าดวงดาว
ความจริงแล้วสิ่งเหล่านั้นคือ คอร์ของดันเจี้ยนที่หากสังเกตให้ดีก็จะรู้ว่ายังไม่ปรากฏให้เห็นบนโลก อย่างไรก็ตาม ก็เป็นเรื่องจริงที่ทุกคนในที่แห่งนี้ไม่มีใครสนใจเรื่องนั้นเลย
「――เช่นนั้น、เมื่อสมาชิกทั้งหมดมาอยู่ที่นี่แล้ว ก็มาเริ่มพูดคุยกันเลยเถอะ」
ชายคนหนึ่งพูดขึ้น ขณะที่เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ที่อยู่ลึกเข้าไป และเงยหน้าขึ้นมองกลุ่มคอร์ที่เรืองแสงของดันเจี้ยน
เมื่อเห็นเขาเป็นเช่นนั้น โรคุฮาระก็ขึ้นเสียงด้วยความไม่พอใจ
「ประธานซังโว๊ย、สำหรับข้ามันดูเหมือนจำนวนหัวจะไม่ครบสักนิด」
「อิย๊าー、คือนี่เป็นคำเชิญกะทันหัน เลยมีแค่พวกเธอเท่านั้นที่สามารถมารวมตัวกันได้ โฮร่า เห็นไหมว่าสมาชิกที่ไม่ได้อยู่ที่นี่ตอนนี้มักจะเป็นคนที่ยุ่งอยู่เสมอ」
「กำลังจะบอกว่าพวกข้าว่างมากสิเน๊ー อืมー……หาเรื่องชวนทะเลาะกันรึไงー?」
เขาได้ยินเสียงเรียบสงบเหมือนมาจากไกล ๆ
ชายที่ถูกเรียกว่าประธานตอบโดยไม่หันมามองหน้าเขา
「ไม่มีทางอยู่แล้ว ไม่มีทางที่นักเรียนระดับ S แร๊งค์จะมีเวลาว่างขนาดนั้น นอกจากนี้ยังมีคนที่ทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารด้วย ฉันไม่สามารถเสียเวลาอันมีค่าของพวกเธอไปได้อีก ดังนั้นเรามาต่อกันที่หัวข้อหลักกันเลยดีไหม」
ทันทีที่ประธานพูด ภาพบนเพดานก็เปลี่ยนไป
ทันใดนั้น ภาพของหญิงสาวผมสีฟ้าเงินก็ปรากฏขึ้น
「คงจะรู้จักเธอกันแล้วสิเน๊ะ? เธอคนนี้ก็เป็น S แร๊งค์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่นเดียวกับพวกเธอทุกคน ――โซลเซียลาไงล่ะ」
เมื่อเห็นภาพนั้น、เอย์น่าซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ โรคุฮาระก็กรีดร้องออกมาเป็นคนแรก
「โผล่มาแล้ว……」
「เอย์น่าคุง、ขอบคุณสำหรับรายงานของเมื่อวานนี้。เธอ、เป็นผู้ครอบครองดีมอนเกียร์ซึ่งไม่ควรเป็นไปได้ตั้งแต่แรก」
「อาโนー、ก่อนอื่นเลยนะคะ ฉันไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับดีมอนเกียร์เลยด้วยซ้ำไปค่ะ」
เด็กสาวที่ไร้ลักษณะเด่นยกมืออย่างกล้า ๆ กลัว ๆ เรียกประธาน
「ฉันไม่สามารถบอกรายละเอียดให้แก่ผู้ที่ไม่ใช่ผู้ครอบครองอย่างละเอียดได้ รวมถึงริวโกะคุงด้วย แต่ว่า、จะดีมากหากเธอคิดว่าดีมอนเกียร์เป็นพันธมิตรของมนุษยชาติน่ะ ……ยกเว้นไว้เพียงโซลเซียลาเน๊ะ ม๊า เรื่องนั้นให้เอย์น่าคุงเป็นผู้อธิบายให้ฟังแล้วกัน」
「เอ๋」
เอย์น่ามองไปที่โรคุฮาระทันที
โรคุฮาระแค่พูดว่า「โอร๊า、ให้เร็วเลย」แล้วนั่งเท้าคาง
เมื่อเธอมองไปรอบ ๆ ก็พบว่าเหมือนจะไม่มีใครคิดช่วยเธอเลย ริวโกะที่ถามคำถามก่อนหน้านี้เพียงแต่ยิ้มเล็กน้อย
「จ๊ะ、จ๊า」
เอย์น่ายืนขึ้น กระแอมในลำคอ และเริ่มอธิบาย
「พวกเรา、นั้น、ถูกสร้างขึ้นเพื่อมนุษยชาติ แต่……ไม่มีการรับประกันว่าเราจะอยู่ข้างพวกคุณอย่างสมบูรณ์ ผู้ทำสัญญาอาจไม่ปกติ หรือวงจรเสียหายทำให้พฤติกรรมผิดปกติไปบาง」
ในแง่นั้น、สำหรับเอย์น่าแล้ว เธอพอที่จะสามารถพูดได้ว่าตัวเองโชคดีในแง่ของผู้ครอบครอง
แม้ว่าเขาจะค่อนข้างหยาบเล็กน้อย แต่เขาไม่ใช่ผู้ชายประเภทที่จะกลายเป็นศัตรูของมนุษยชาติ
「เพื่อการนั้นแล้ว、จึงมีสิ่งที่พอจะเรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์นิรภัย ในกรณีที่เราคนใดถูกตัดสินว่าเป็นศัตรูของมนุษยชาติ、หรือเหตุผลภายนอกสักอย่าง มีดีมอนเกียร์ที่จะถูกกระตุ้นให้ตื่นขึ้นมาเมื่อสัมผัสได้ถึงการกระทำอันเป็นกบฏ และนั่นก็คือ、โซลเซียลา」
「จ๊า、แปลว่ามีหนึ่งในดีมอนเกียร์กำลังกลายเป็นศัตรูงั้นเหรอคะ?」
ประธานส่ายหัวเป็นการตอบคำถามของริวโกะ
「ไม่、ขณะนี้พวกเรายังไม่ค้นพบพฤติกรรมใด ๆ ในหมู่มอนเกียร์ที่พอจะสามารถตัดสินได้ว่าเป็นกบฏต่อมนุษยชาติ เช่นเดียวกับบุคคลที่เป็นคู่สัญญา หรือแม้แต่บุคคลรอบข้างที่ไม่ได้มีสัญญา ขอบคุณ เอย์น่าคุง เชิญนั่งลงได้」
「อะ、ค่ะ」
หลังจากยืนยันว่าเอย์น่านั่งลงแล้ว ประธานก็พูดต่อ
「เรายังไม่ทราบสาเหตุในการปรากฎตัวของโซลเซียลา ประการแรกเลย แม้แต่ขณะนี้เอง เราก็ยังไม่ทราบตัวตนของผู้ครอบครองเธอเลยด้วยซ้ำ คราวนี้ เมื่อพิจารณาว่าเธอปรากฏตัวที่ศูนย์ทดลองอูโรโบรอส ก็พอที่จะสามารถสรุปได้ว่าเธอมีเครือข่ายข้อมูลบางอย่างเน๊ะ และอาจเป็นองค์กรที่มีพลังมากพอที่จะซ่อนเธอไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น」
โรคุฮาระยกมือขึ้นอย่างไม่ใส่ใจกับคำพูดของประธาน
「ข้าไม่ชอบเรื่องชวนง่วง แค่บอกมาว่าจะให้พวกข้าทำอะไรก็พอ」
「นั่นสิเน๊ー ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันー ต้องการให้พวกเราทำยังไงกับเด็กคนนี้ แล้วก็ฉันกินเธอได้ไหมー」
「ฮ่าๆๆๆ เหมือนทุกทีเลยเน๊ โรคุฮาระคุงกับทาทาริคุง」
ประธานหัวเราะแล้วเปลี่ยนวิดีโออีกครั้ง
ประธานเปิดปากขณะเงยหน้าขึ้นมองภาพต้นไม้ยักษ์ และโรงเรียนที่ค่อนข้างล้าสมัย
「ฉันต้องการให้จับตัวโซลเซียลา หากเรามองในแง่ของพลัง เธอก็เป็นนักสำรวจอันมีคุณค่า ฉันอยากได้สัตว์เลี้ยงใส่ปลอกคอสำหรับการประชุมคณะกรรมการเน๊ะ」
โรคุฮาระและทาทาริขมวดคิ้วกับคำพูดของประธาน
「อะ? จะให้ข้าไปวิ่งไล่จับหนูงั้นเรอะ?」
「ฉันเอง、ถ้ากินไม่ได้ก็ไม่ชอบใจเลยเน๊ー」
「เอ๊ะ? เอ๊ะ? ……อ้า、ฉันจะทำหากจ่ายเงินให้ฉันมากเท่าที่ฉันต้องการ! ริวโกะ、จะทำให้ดีที่สุด!」
「ริวโกะคุงเป็นเด็กดีเน๊ぇ」
ประธานคิดกับตัวเองว่ายังมีนักเรียนที่เห็นแก่ตัวอีกมาก
「แน่นอน、ทางนี้เองก็จะไม่บอกให้ทำฟรี ๆ หรอกนะ เราได้เตรียมรางวัลที่ดีที่สุดสำหรับพวกเธอไว้แล้ว」
「……งั้นขอฟังหน่อยแล้วกัน」
「อยากรู้เหมือนกันเน๊ー」
ในที่สุดโรคุฮาระและทาทาริก็หันไปมองที่ประธานด้วยความสนใจ
「เรื่องนั้น……อะ、ก่อนหน้านั้น คิดว่าถึงเวลาที่เธอจะต้องปลุกคิริกะคุงแล้วล่ะ ซายากะคุง」
ประธานที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ก็หันไปพูดเรื่องอื่นก่อนอีกครั้ง
เด็กสาวที่ชื่อซายากะพยักหน้าและตบแก้มเด็กสาวที่นอนอยู่ข้าง ๆ เธอ
「เน่ซัง、กรุณาตื่นด้วยค่ะ นี่เป็นหัวข้อหลักแล้วล่ะ」
「อุเนี๊ยะ? ฟู๊……、อรูณสาหวัด」
「ค่ะ、อรุณสวัสดิ์นะคะ ท่านประธาน เน่ซังตื่นขึ้นมาแล้วค่ะ ดังนั้นกรุณาพูดต่อได้เลย」
「อ้า、เห็นแล้วล่ะ」
ประธานพยักหน้า
ดูเหมือนว่าเด็กสาวดวงตาง่วงจะไม่ได้ฟังสิ่งที่พูดกันมาจนถึงตอนนี้เลย แต่นั่นก็เป็นเพียงปัญหาเล็กน้อย
เพราะเขามั่นใจว่าคนส่วนใหญ่ที่นี่จะกระโดดงับรางวัลนี้โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ
「ใครก็ตามที่สามารถจับโซลเซียลาได้――จะได้รับสิทธิ์เป็นผู้พิทักษ์ของต้นไม้แห่งดวงดาวเป็นคนที่สอง」
ทันทีที่คำพูดเหล่านั้นถูกพูด บรรยากาศในพื้นที่ก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
สถานที่ตออยู่ในความระส่ำระสาย บรรยากาศเปลี่ยนไปจนรู้สึกเหมือนเป็นสนามรบซึ่งเต็มไปด้วยความกดดันที่กัดกร่อนผิวหนัง
「ประธานซังォ、คำพูดพวกนั้นไม่ได้โกหกสิเน๊น๊า」
「อ้า、แน่นอน」
「……ข้าปลดปล่อยเอย์น่าได้แค่ไหน」
「อืมー、คิดว่าประมาณ 50% ให้นับตั้งแต่ที่รับคำขอ」
โรคุฮาระ、เมื่อได้ยินดังนั้น เขาก็คว้าคอของเอย์น่าแล้วลุกขึ้นยืน
「เอ๊ะ、ลีดเดอร์?」
「ไปกันเถอะ เอย์น่า ข้าคิดว่าการล่าหนูสักครั้งก็น่าสนุกดี」
「ลีดเดอร์!? ไม่ใช่ว่าฉันบอกว่าครั้งนี้ขอผ่านไม่ใช่เหรอค๊า! โอเน๊ซามะน่ะเลวร้ายของแท้เลยยยยยยย……ครั้งสุดท้ายที่ลูทราเกิดบ้าคลั่ง、เธอก็โดนทุบจมดินในไม่กี่วิเอง ……!」
「ใครสนกัน」
「ม๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย……」
พวกโรคุฮาระก็ออกไปจากห้องพร้อมกับเสียงกรีดร้องอันน่าสงสารของเอย์น่าจนสุดทาง
คนถัดไปที่ลุกจากที่นั่งคือ ทาทาริ เด็กสาวผมสีดำสวย
「เช่นนั้น ฉันเองก็ขอตัวเช่นกันเน๊ー ฉันไม่อยากถูกคนป่าเถื่อนแบบนั้นปล้นชัยชนะไปล่ะー」
หลังจากพูดอย่างนั้น ทาทาริก็หายไปจากห้องในใจกลางของกลุ่มควันสีดำ
「เน๊เน๊ ประธาน จะได้เป็นผู้พิทักษ์จริง ๆ เหรอ!?」
คิริกะวิ่งไปหาประธานแล้วถาม
「แน่นอน」ประธานตอบกลับไปยังเจ้าของดวงตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง ราวกับเด็ก ๆ ก่อนที่จะได้รับของขวัญคริสต์มาส
「อุว๊าว! จ๊า、ฉันจะสู้เคียงข้างคุณครูได้เน๊!」
「……เน๊ซัง、ถ้าเราได้เป็นผู้พิทักษ์ แปลว่าก็จะได้โอกาสต่อสู้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันเลยใช่ไหม」
คิริกะหันกลับไปตามคำพูดของน้องสาว
จากนั้นเธอก็พูดด้วยสายตาที่บริสุทธิ์และไร้เดียงสา
「อืม นั่นเป็นเรื่องที่ดีสุด ๆ ไปเลยเน๊」
「……แฮ่กๆ งั้นพอแค่นี้กันดีกว่า รีบไปกันเลย เนื่องจากนี่เป็นโอกาสที่ดี ลองถามพวกกองกำลังรักษาพระองค์ด้วยเลย」
「อืม!」
เสียงฝีเท้าที่สดใสของวัยเยาว์ และเสียงฝีเท้าที่แผ่วเบาเคลื่อนตัวออกไป
ในที่สุดความเงียบก็ปกคลุมไปทั่วสถานที่
「แล้ว? เธอจะทำยังไงล่ะ、ริวโกะคุง」
ประธานถามเด็กสาวที่ไร้ลักษณะเด่นที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว
「ฉัน、เรื่องนั้น……ฉันไม่รังเกียจเรื่องแบบนั้น ตราบใดที่ฉันได้รับเงินอย่างเหมาะสม」
「……ท้ายที่สุดแล้ว เธอเองก็เป็นอุปกรณ์ระดับ S แร๊งค์เน๊」
ด้วยเหตุนี้ การรวมตัวระหว่างจุดสูงสุดของเมืองแห่งโรงเรียนจึงสิ้นสุดลง
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ
{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}
ขอบคุณ คุณนิรนามที่ฝากเข้ามาผ่านCDM มาก ๆ ครับ
ขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ
ขอบคุณงับ