ตอนที่ 35 หากเป็นสาวสวยย่อมเผชิญหน้าโศกนาฏกรรมได้ทันเวลา
ตอนมาที่รินกะลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง、ที่นั่นก็กลายเป็นนรกแล้ว
เปลวไฟที่ลุกลามไปจนสุดขอบการมองเห็นของเธอ
ซากศพที่ไหม้เกรียมของผู้คน ถูกความร้อนทำให้ร่างกายบิดเบี้ยว จนขดตัวเป็นลูกบอล
มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากอยู่โดยรอบ
『……นี่มัน』
รินกะพยายามขยับร่างกายของตัวเอง
ยังไงก็ตาม สิ่งที่เคลื่อนไหวแทนที่คือ หนวดขนาดมหึมาที่ปรากฏอยู่ที่ขอบเขตการมองเห็น
หากเคลื่อนไหวอย่างไม่ระมัดระวัง จะทำให้อาคารของสวนสนุกพังทลายราบคาบได้
『มะっ、ม๊ายยยยย!』
หนวดได้กวาดทำลายล้างไปทั่วทั้งบริเวณ รวมถึงซากศพมนุษย์ และในที่สุดก็หยุดอยู่ตรงนั้น
เข้าใจได้แทบจะในทันที
นี้คือ、ร่างของอูโรโบรอสที่สร้างโดยสนธยาสีเงิน
ตัวเธอ、กลายเป็นอูโรโบรอส
『อ้า、จำได้แล้ว』
มันเป็นความทรงจำของความพ่ายแพ้
ความมุ่งมั่นของหญิงสาวนั้นไม่มีค่าอะไรเลย
มันเป็นความทรงจำของความสิ้นหวังที่ราวกับว่ากำลังเยาะเย้ยเธอ
『ฉัน、พ่ายแพ้ต่อศาสตราจารย์……จากนั้น……』
เมื่อถูกหญิงสาวลึกลับผลักดัน รินกะจึงกลับไปหาศาสตราจารย์
แม้จะเป็นหนทางที่ผิด แต่เธอก็พร้อมที่จะฆ่าเขา
ทว่า、เรื่องนั่นไม่ได้เกิดขึ้น
สำหรับตัวตนเช่นศาสตราจารย์、การทรยศของรินกะเป็นตัวแปรที่ไร้ค่าที่จะพิจารณา
『ใช่แล้ว、พวกโทรัค!』
เมื่อรินกะเคลื่อนไหว、หนวดก็มีแต่จะทำลายพื้นที่เพิ่มเพียงเท่านั้น
แต่ว่า、ตอนนี้เธอไม่มีเวลาให้กังวลเรื่องนั้นแล้ว
『หากสิ่งที่ศาสตราจารย์พูดเป็นความจริง、พวกโทรัคต้องกำลังไล่ตามฉันมาอยู่ ……เจอแล้ว』
เมื่อมองไปรอบ ๆ ด้วยดวงตาของสัตว์ประหลาด、รินกะก็เจอโทรัคกับมิฮายะในที่สุด
เมื่อมองด้วยมุมมองเช่นนี้พวกเขาตัวเล็กกว่าเธอมาก、พวกเขาอยู่ท่าทางเตรียมอาวุธของตัวเอง
ไม่มีความเมตตาต่อเพื่อนในสายตาของพวกเขา
『……ใช่แล้ว ฉัน、เป็นสัตว์ประหลาดไงล่ะ』
เนื่องจากเธอเป็นสมาชิกขององค์กร จึงสามารถเข้าใจได้อย่างง่ายดายว่าตอนนี้รูปลักษณ์ของตนเองเป็นอย่างไร
ดันเจี้ยนคงจะกลืนร่างมนุษย์ไปแล้วและทำให้เธอกลายเป็นสัตว์ประหลาด
ถึงอย่างงั้นรินกะก็ยังมองไปข้างหน้า
『ฉันอยากจะทำอะไร……!』
เดิมทีอูโรโบรอส、เป็นแผนการนอกเหนือจากแผนการดีมอนสำหรับรับมือต่อภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้น
รินกะรู้ดีว่าร่างกายที่สร้างโดยผู้มีความต้องการที่จะเทียบเคียงพระเจ้านั้นสามารถจัดการได้
ดังนั้น、รินกะจึงไม่ลังเล
『ฉันต้องควบคุมร่างกายนี้、ปล่อยให้ถูกฆ่าโดยไม่สร้างความเสียหายอีกต่อไป!』
ให้พวกโทรัคฆ่าเธอซะ
นั่น คำตอบนั้นน่าสะเทือนใจ และเสียสละเกินกว่าจะเป็นสิ่งที่หญิงสาวคนหนึ่งอยากทำ
ทว่านั่นเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับสถานการณ์นี้
■
『――โทรัค、จู่ ๆ การเคลื่อนไหวของมันก็ช้าลง』
ลูทราที่อยู่ในโหมดอาวุธบอกกับโทรัค
อย่างที่เธอพูด、การเคลื่อนไหวของอูโรโบรอสช้าลงกว่าเดิมมาก
หนวดที่โผล่ออกมาจากเงามืดยังคงเคลื่อนไหวเหมือนมีชีวิตอยู่ แต่อูโรโบรอสซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของมัน ได้หยุดการเคลื่อนไหวแล้วหลังจากเหวี่ยงหนวดขนาดใหญ่ในแนวนอนหนึ่งครั้ง
「น่าสงสัยจริงว่าเกิดอะไรขึ้น」
มิฮายะพูดขณะที่เธอยิงทะลุหนวดที่โผล่ออกมาจากเงามืด
「ไม่รู้เหมือนกัน ทั้งหมดที่พูดได้ก็คือเจ้านี้อยู่ในห้องทดลองใต้ดิน、」
「ศาสตราจารย์คนนั้นควรถูกไล่ล่าและฆ่าไปซะเน๊ะ แต่ดูเหมือนเขาจะรู้ว่ารินกะอยู่ที่ไหน」
มิฮายะ、พวกเขานึกถึงวัยกลางคนที่เรียกตัวเองว่าศาสตราจารย์
เขาแนะนำตัวเองว่าเป็นผู้บริหารขององค์กรสนธยาสีเงิน ทว่าเขาดูน่าสงสัยแปลก ๆ และจากนั้นเขาก็วิ่งหนีไปทั้ง ๆ แบบนั้นราวกับเยาะเย้ยพวกโทรัค
แต่ความจริงที่ว่าเขาสามารถหลบหนีได้สำเร็จต่อหน้าผู้ครอบครองดีมอนเกียร์ก็เป็นการพิสูจน์ความสามารถของเขาได้มากกว่าสิ่งอื่นใด
「รินกะ、ขอให้ปลอดภัยทีเถอะ……!」
หลังจากที่ได้เห็นความหายนะ โทรัคก็ได้แต่หวังเท่านั้น
ศพจำนวนมากนอนอยู่บนพื้น
เขาหวังว่าเพื่อนของตัวเองจะไม่ใช่หนึ่งในนั้น
「สุดท้าย、เธอก็ไม่ได้อยู่ในห้องทดลอง บางทีอาจจะกำลังอพยพออกไปเรียบร้อยแล้ว」
เมื่อสัมผัสได้ถึงความร้อนใจของโทรัค มิฮายะก็ส่งเสียงเรียกไว้
มันเป็นเพียงการปลอบใจ แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย
「……อ้า แน่อน、ใช่แล้ว」
พวกโทรัคแทรกซึมเข้าไปในห้องทดลองใต้ดินเพื่อตามหารินกะ、แต่ในท้ายที่สุดก็อาจกล่าวได้ว่าเป้าหมายของพวกเขาบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว
ทว่ามีอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องกังวล
คือเรื่องที่ว่าพวกเขาไม่รู้ว่าสัตว์ประหลาดตรงหน้าเป็นผลมาจากการลงมือของรินกะหรือเปล่า
「รีบกำจัดสัตว์ประหลาดตัวนี้และตามหารินกะกันเถอะ」
「อ้า ไปกันเถอะ、ลูทรา」
『อืม』
โทรัคกับมิฮายะออกวิ่งอีกครั้งพร้อมกับการโจมตีของหนวด
หลีกเลี่ยงการโจมตีขนาดใหญ่ ตัดผ่านพวกมัน ยิงพวกมันให้ทะลุ
ทั้งนี้แม้การโจมตีปกติจะไม่สามารถเอาชนะความสามารถในการฟื้นฟูที่เหลือเชื่อของมันได้、แต่ด้วยความสามารถของลูทราทำให้สามารถผนึกเอาไว้ได้ชั่วคราว
และยิ่งไปกว่านั้น、การโจมตีของอูโรโบรอสก็ยังค่อนข้างเชื่องช้า
ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงยังมีข้อได้เปรียบ
(แปลกเกินไปแล้ว รู้สึกเหมือนกับว่าการเคลื่อนไหวของมันเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ราวกับว่ากำลังตั้งใจให้พวกเราเข้าไปฆ่าได้……)
มันเป็นความรู้สึกขัดแย้งที่ชัดเจน คล้ายกับตอนที่อาจารย์สอนดาบของเขาจงใจยอมแพ้ให้
มีความไม่สอดคล้องกันระหว่างพฤติกรรมที่แท้จริง กับสิ่งที่เห็นผ่านดวงตาช่างสังเกตที่สามารถมองเห็นความสามารถที่ได้รับจากประสบการณ์ที่ถูกปลูกฝังมา
ยังไงก็ตาม เขาไม่มีเวลาคิดว่ามันคืออะไร
เขารู้แค่ว่ายิ่งลังเลมากเท่าไร ก็จะยิ่งมีความเสียหายเกิดมากขึ้นเท่านั้น
「……ตอนนี้เรามีโอกาสที่จะชนะแล้วสินะ」
『โทรัค、ฉันพร้อมไปได้ตลอดเวลา』
ลูทราขยายพลังเพื่อตอบสนองต่อผู้ครอบครอง
นั่นเป็นแหล่งกำเนิดพลังเวทมนตร์ พลังก่อนที่จะเป็นรูปเป็นร่าง
เรื่องสำคัญคือการตัดสิ่งที่จะขัดขวางทั้งหมดออกไปซะ
「มิฮายะ、จะลุยล่ะนะ」
「เข้าใจแล้ว」
มิฮายะพยักหน้าและกระโดดไปข้างหลังโทรัค
ขณะเดียวกัน โทรัคจับลูทราซึ่งกลายเป็นดาบยาวสีขาวไว้ที่เอวของเขา และทำท่าอิไอ
「ฟู๊ว――――」
เริ่มต้นด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ、ผสานลูทราและจิตสำนึกเข้าด้วยกัน
ในขณะนั้น、ลูทรากับโทรัค เหมือนทั้งโลกเหลือเพียงพวกเขาสองคน เขาฟันดาบออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ
「ッ!」
มันคือดาบอิไอที่เหนือยิ่งกว่าความเร็วของเสียง
ตามทฤษฎีแล้ว นี่เป็นการโจมตีที่ดีที่สุดและเร็วที่สุดที่ผสมผสานแก่นแท้ของทักษะการใช้ดาบที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นและจุดสูงสุดของพลังเหนือธรรมชาติสมัยใหม่ที่เรียกว่าดีมอนเกียร์
เป็นการเฉือนที่ราวกับน้อมรับแนวคิดการตัดทั้งมวลพุ่งออกไปเหมือนลูกศร
การฟันกลายเป็นเส้นแสงสีขาวและมุ่งหน้าไปยังอูโรโบรอส
และราวกับพยายามที่จะสกัดกั้นคมดาบแห่งความตายที่มุ่งหน้าไปยังผู้เป็นนายของพวกมัน หนวดจำนวนมากกระโดดออกมาจากเงามืดและใช้ตัวเองเป็นเกราะป้องกัน แต่พวกมันทั้งหมดก็ถูกฉีกกระชาดเป็นชิ้น ๆ
เพียงไม่ถึงพริบตาการฟันก็กำลังจะเข้าไปถึงร่างหลัก
อูโรโบรอสอยู่ตรงหน้าแล้ว
『ฮ่าๆๆๆ สมกับที่หวังไว้เลยเน๊ะ』
เธอยิ้มอย่างไร้เดียงสาและกางหนวดออกราวกับจะยอมรับมัน
แม้ว่าเธอจะรู้ดีว่าหากถูกฟันด้วยคมดาบนั้น ตัวของเธอจะต้องถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ แต่ถึงอย่างงั้นเธอก็ยังคงไม่ขัดขืน
『ขอบคุณที่ให้ที่อยู่กับฉัน』
รินกะที่สูญเสียร่างกายมนุษย์ไปแล้วไม่สามารถใช้งานภาษามนุษย์ได้อีกแล้ว
แทนที่จะกล่าวคำขอบคุณ กลับกลายเสียงคำรามแหลมสูงก็ดังก้องไปทั่วสวนสาธารณะ
เป็นแค่สัตว์ประหลาดที่สิ้นหวังกับการโจมตีที่กำลังจะเข้ามาถึงตัว
และ
「――ไม่ยอมหรอก」
คมดาบสีชอล์กถูกบดขยี้จากด้านบนโดยตรง
แสงสีเงินส่องลงมาจากท้องฟ้า
ความแวววาวนั้นราวกับดวงดาวที่ตกตกลงสู่พื้นโดยที่แสงแวววาวไม่ยอมดับหายไป
「ッ!? มันเกิดอะไรขึ้นกัน!」
แสงสีเงินล้อมรอบบริเวณนั้น
ต่อมาเมื่อโทรัคลืมตาขึ้นมาได้、ก็พบกับอูโรโบรอสที่ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน
「การฟันของผมกับลูทราถูกป้องกันไว้……?」
『โทรัค、ข้างบน!』
เขาเงยหน้าขึ้นมองราวกับถูกทำให้ตกใจด้วยเสียงที่ตื่นตระหนกของลูทรา
มีหญิงสาวคนหนึ่งอยู่ตรงนั่น
ผมสีฟ้าเงินปลิวไสวตามสายลม เสื้อผ้าที่ดูเหมือนราวกับหลุดจากเทพนิยาย เคียวที่ดำยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดในท้องฟ้ายามค่ำคืนนี้
จากนั้น วงเวทย์ขนาดใหญ่ก็แผ่กระจายออกไปบนท้องฟ้าโดยมีเธออยู่ตรงกลาง
วงเวทย์ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนเปล่งแสงสีม่วงอมฟ้าปกคลุมทั่วทั้งสวนสนุก
「……โซลเซียลา」
มิฮายะที่อยู่ข้าง ๆ เรียกชื่อของเธอ
อ้า、พอลองคิดดูแล้วนั่นคือชื่อที่ใช้เรียกเธอ、ขณะโทรัคคิดอย่างตะลึง
ดาบสีชอล์กกำลังสั่นอยู่ในมือของเขา
『โทรัค、แย่แล้ว รีบหนีกันเถอะ』
「ลูทรา?」
『อย่าต่อสู้กับสิ่งนั้นเด็ดขาด แข็งแกร่งยิ่งกว่าข้อมูลที่มีในตัวฉันมาก นั่นคือ……เน่ซังคือคือศัตรูตามธรรมชาติของพวกเรา』
「เน่ซัง……?」
ก่อนที่โทรัคจะทันถามคำถาม แสงสีเงินก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาพวกเขา
ไม่แม้แต่จะทันได้หลบเลี่ยง และในชั่วพริบตา มันก็ควักพื้นตรงหน้าจนละลายหายไป
ยางมะตอยร้อนแดง เกิดฟองเดือดปุด ๆ ส่งเสียงดัง
โทรัคเข้าใจได้ทันที
หากถูกโจมตี ความตายคงหลีกเลี่ยงไม่ได้
นี่เป็นการเตือนพวกเรา
นั่นเป็นเหตุผลที่、ตั้งใจโจมตีพลาดไป
「――คุณต้องไม่เลือกหนทางที่ผิดพลาด」
เสียงของโซลเซียลาที่พูดเช่นนั้นราวกับเสียงร้องเพลง
จากนั้นเธอก็ชี้ปลายเคียวมาที่โทรัค
「นี่คือ、การเลือกของดวงดาว」
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ
{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}
ขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ
ขอบคุณงับ