[นิยายแปล(WN)] สาวดุ้นตัวร้าย ผมที่กลับชาติมากเกิดใหม่เป็นตัวร้าย ♂ แต่ฉันจะไม่ยอมแพ้กับการTSหรอก 10 บลูสตาร์กับสาวดุ้น

ตอนที่ 10 บลูสตาร์กับสาวดุ้น

ตอนที่ 10 บลูสตาร์กับสาวสวย

 

หนึ่งสัปดาห์

นั่นคือช่วงเวลาที่ฉัน อาโอโฮชิ(บลูสตาร์) มิโรคุ อยู่กับเด็กชายที่ชื่อนาตากิ เคย์

 

ความประทับใจแรกของฉันคือ เขาเป็นคนจริงจังมาก

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการสอบสัมภาษณ์เทียบโอน ฉันพบว่าเขามีบางอย่างซ่อนอยู่เบื้องหลัง

 

『ผมมีภารกิจครับ』

 

ภารกิจ

ฉันเดาว่านั่นอาจเป็นทุกสิ่งสำหรับเขา

เขามีชีวิตอยู่เพื่อจุดประสงค์นั้น และพร้อมจะสละชีวิตเพียงเพื่อจุดประสงค์นั้น

เหมือนคุณครูที่ฉันเคยชื่นชมโหยหา

 

ดังนั้นครั้งต่อไปนี่แหละ

หากเขาสามารถหลีกเลี่ยงความตายได้ ฉันคิดว่าฉันจะสามารถให้อภัยตัวเองที่ยืนนิ่งนับตั้งแต่วันนั้นได้

 

นี่คือการชดใช้ การหลอกลวง และข้ออ้างของฉัน

ฉันพยายามกอบกู้อนาคตของวันนั้นที่ไม่มีวันหวนกลับคืนมาได้ ผ่านเด็กผู้ชายที่ชื่อ นาตากิ เคย์

 

และนั่นเป็นความผิดพลาด

 

 

 

 

「โทอาจัง、เล็งไปที่นั่นไหวไหม」

 

พวกเราไล่ตามเคย์คุง、จนมาถึงดันเจี้ยนสำหรับมือใหม่เพียงแห่งเดียวของโรงเรียนสหศึกษา เฟกตอม 

ไม่สิ มายังสถานที่ทดลองในส่วนที่ลึกที่สุดจะถูกต้องกว่าหรือเปล่านะ

 

ทุกอย่างพังทลายลงมาหมดแล้ว ร่วมทั้งเพดานด้วย

แสงอามิตย์ส่องเข้าไปในห้องที่แต่เดิมมีเพียงแสงสลัวจนสว่างไสว 

 

ภายในมีนักเรียนกำลังต่อสู้กันอยู่

 

คนหนึ่งคือ、นาตากิ เคย์

และส่วนอีกคน

 

「นั่นมัน、หรือว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารคนนั้นงั้นเหรอ!? น่ะ、นั่นเป็นไปไม่ได้ ถ้าแค่ตีกันโดยไม่คิดก็คงจะดี แต่ไม่มีทางที่จะเอาชนะได้หรอก!」

 

โทอาจัง เธอละหน้าออกจากกล้องเล็งของอาวุธของเธอเอง ซึ่งเป็นปืนใหญ่หนักขนาดใหญ่ แล้วส่ายหัวอย่างสิ้นหวัง

 

「ก็นั่นสิเน๊ะ……」

 

อันดับสูงสุดที่มีอยู่เมืองแห่งโรงเรียน

สัญลักษณ์แห่งชัยชนะอันสมบูรณ์แบบ

 

『Sแรงค์』

 

โรคุฮาระเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่มีตำแหน่งนั้น、โรคุฮาระ

 

ฉันรู้ว่าเขาต้องปรากฎตัวออกมา

ไม่สิด ถุงดำไม่ได้เป็นสิที่นักสำรวจสำรวจที่เขามีอีกต่อไป?

ไม่สิ ถ้าเป็น Sแรงค์แล้ว มันหายากกว่าไหมที่จะมีนักสำรวจที่ไม่รู้จักเขา?

 

 

「สงสัยจังว่าเขามาที่นี่ทำไม ในเมื่อก็มีดีมอนเกียร์อยู่แล้วเน๊ะ」

 

ตอนนี้พวกฉันกำลังมองผ่านจากรูบนเพดาน

ห้องที่พวกเขากำลังต่อสู้อยู่ดูเหมือนจะเป็นห้องเดียวกันกับที่มีคนออกไลฟ์สดเมื่อคืนนี้กำลังนอนหลับใหลอยู่

 

หากจะมีความแตกต่างจากในวิดีโอนั้น ก็คือแท็งค์ที่เด็กผู้หญิงนอนอยู่นั้นพังแ、ละไม่มีใครอยู่ข้างใน

 

「มิโรคุจัง、ทำยังไงดี ดูเหมือนมิซุฮิจังเองก็ยื่นมือเข้าไปช่วยไม่ได้เลย ถะ、ถ้าถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปเคย์คุงจะแย่แล้ว!」

 

แล้วพวกเคย์คุงลงเอยด้วยการไปต่อสู้กันในสถานการณ์แบบนี้ได้ยังไงกัน

เรื่องนั้นไม่เข้าใจเลย

 

เกี่ยวข้องกับดีมอนเกียร์ไหมนะ

หรือเพื่อปกป้องมิซุฮิ

 

เคย์คุงทุ่มเทให้กับการหลบหลีกและป้องกันตัว

คงไม่อยาดกระตุ้นโรคุฮาระไปมากกว่านี้ และเพื่อให้ออกห่างจากมิซุฮิฮิให้มากที่สุด

 

แม้ว่าเขาจะเอาแต่หลบหลีกและไม่โต้กลับ แต่การเคลื่อนไหวของเขาก็ซับซ้อนมากจนฉันต้องประหลาดใจ

 

「สุดยอด……เป็นการโจมตีที่แม้แต่ฉันยังแทบจะมองไม่ทันด้วยซ้ำ、แต่เขาก็ยังสามารถหลบหลีกได้ทั้งหมดโดยไม่พลาดเลย」

 

นั่นไม่ใช่ทั้งหมด

เคย์คุงเหมือนกำลังคุยเรื่องอะไรสักอย่างกับโรคุฮาระอยู่

 

จากที่นี่ฉันไม่สามารถรู้ได้

อย่างไรก็ตาม ฉันสามารถบอกได้จากสีหน้าของพวกเขาว่ากำลังคุยเรื่องจริงจังกันอยู่

 

「ช่วยมิซุฮิจังถอยออกมาดีไหม?」

 

โทอาจังกระซิบ

นั่นเองก็เป็นวิธีหนึ่ง

 

สถานการณ์ปัจจุบัน、มิซุฮิไม่ถูกนับว่าเป็นกำลังรบอีกแล้ว

เรื่องนี้ได้รับการพิสูจน์จากวิธีต่อสู้ของเคย์คุง

 

สำหรับตอนนี้ ควรถอยอย่างที่โทอาจังบอกดีไหม

ในตอนที่ฉันเริ่มคิดถึงเรื่องนี้

 

โรคุฮาระหยุดการโจมตีแล้ว

ดูเหมือนเขาจะคุยอะไรบางอย่างกับเคย์คุง พอไม่พอใจนิดหน่อยก็โยนอาวุธทิ้ง

ทันใดนั้นอาวุธที่ถูกขว้างก็เปลี่ยนเป็นเด็กผู้หญิง

 

「「เอ๊!?」」

 

ฉันกับโทอาจังตะโกนด้วยความประหลาดใจพร้อมกัน

จากนั้นพวกเราสองคนก็มองหน้ากัน

 

「โทอาจัง、เห็นเมื่อกี้ใช่ไหม?」

 

「อืม มะ、ไม่มีทาง ข่าวลือเรื่องดีมอนเกียร์บางส่วนเป็นเรื่องจริง……」

 

มีข่าวลือมากมายเริ่มแพร่กระจายในช่วงเวลาเดียวกับที่การมีอยู่ของดีมอนเกียร์กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

หนึ่งในนั้นคือดีมอนเกียร์ที่แปลงร่างเป็นเด็กผู้หญิงได้

 

ฉันก็เคยคิดว่าเด็กผู้หญิงในห้องทดลองนี้มีความสำคัญบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับดีมอนเกียร์ แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น

เพราะตัวเธอคือ、ดีมอนเกียร์

 

「นี่คือ、บางทีพวกเราอาจถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้องมากกว่าที่จะจินตนาการได้เน๊ะ ……」

 

「อู้ぅ」

 

โรคุฮาระสั่งให้เด็กสาวทำอะไรสักอย่างที่อยู่นอกแนวสายตาของพวกฉัน

ดูเหมือนเด็กสาวจะแตะพื้นและทำอะไรบางอย่างที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อย

 

ในตอนนั้นเองที่ฉันคิดว่าการต่อสู้จบลงแล้ว และกำลังจะไปเข้าร่วมกับพวกเขา

 

โรคุฮาระก็ชักอาวุธชิ้นใหม่ออกมา

 

「โทอาจัง」

 

「อืม」

 

ฉันกับโทอาจังเข้าใจพร้อมกัน

ความรู้สึกกดดันแปลก ๆ ที่รายล้อมโรคุฮาระหายไป

หากว่านั่นเป็นเพราะปล่อยดีมอนเกียร์ไปชั่วคราว

 

อาวุธที่โรคุฮาระถืออยู่ตอนนี้เป็นเพียงของที่มาจากไดฟ์เกียร์

ดังนั้นโอกาสแห่งชัยชนะเล็กน้อยจึงเกิดขึ้นในขณะนี้

 

มิซุฮิเองก็ดูจะเข้าใจเหมือนกันสินะ เมื่อเธอหันปากกระบอกปืนทั้งสองกระบอกไปที่โรคุฮาระへと向けている。

 

「กรุณายิงตามสัญญาณของฉันนะ」

 

โรคุฮาระกระโดดออกมาพร้อมดาบของเขา

ระยะห่างระหว่างพวกเขาคือสิบเมตร

 

5、4、3、2――。

 

「ตอนนี้แหละ」

 

ซู่ม เสียงลมดังก้องในหูของฉัน

ในเวลาเดียวกัน ฉันเห็นกระสุนเวทมนตร์ความหนาแน่นสูงถูงยิงจากขอบการมองเห็นของฉันไปยังระหว่างกลางพวกเขา

 

จากนั้นก็ตกลงระหว่างโรคุฮาระกับเคย์คุงพอดี

ขณะนั้นเองที่ความว่างเปล่าเกิดขึ้นในความคิดของทั้งสอง ฉันก็คว้าโทอาจังและลงจอดภายในศูนย์ทดลอง

 

「……เข้าใจล่ะ」

 

โรคุฮาระยืนยันการปรากฏตัวของพวกฉันและพยักหน้าด้วยความเข้าใจ

 

「แยกเอย์น่าไปจากข้า、จำนวนกองทหารยังเพิ่มขึ้นเป็นโบนัส ฮ่าๆๆๆๆ、มีคนบอกไหมว่าแกนี่นิสัยไม่ดีเอาซะเลย」

 

「ที่โรงเรียนเก่าของผม ผมได้ยินเรื่องนี้มากจนเบื่อที่จะได้ยินเลยล่ะ」

 

 

เคย์คุงพูดด้วยท่าทีเยาะเย้ยตัวเอง

เขาดูค่อนข้างเศร้า

 

「โดยปกติฝ่ายตรงข้ามก็คงจะถอยกันจริงไหม、แต่ข้า Sแรงค์? แกรู้ดีใช่ไหมว่าหมายถึงอะไร ถึงมันจะไม่สมเหตุสมผลที่จะฆ่าพวกแกก็ตาม」

 

จิตสังหารอบอวลไปทั่วพื้นที่

เจตนาฆ่าอันเฉียบคมที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากความรู้สึกที่จะบดขยี้ทุกสิ่งเหมือนก่อนหน้านี่

 

ฉันถืออาวุธของตัวเองที่เป็นดาบเล่มบาง และเหลือบตาส่งสัญญาณให้โทอาจัง

โทอาจังพยักหน้าและชี้ปืนใหญ่ไปที่เด็กสาวที่อยู่ห่างจากโรคุฮาระทันที

 

ยังไงก็ตาม  โรคุฮาระยังคงไม่สะทกสะท้าน และในทางกลับกัน เขามองมาที่พวกฉันแล้วพูดอย่างยาะเย้ย

 

「ข้าล้อเล่นหรอก โอ้ย、แกชื่ออะไร」

 

「……นาตากิ เคย์」

 

「งั้นเรอะ เคย์、มันไม่ยุติธรรมเลยจริงไหมถ้ามีแค่แกที่ต้องเปิดจุดอ่อนมากมาย มันไม่น่าสนุกเลยสักนิด……แกยังซ่อนอะไรบางอย่างอยู่ใช่ไหม」

 

เคย์คุงไม่ตอบ

จุดอ่อน……มั่นใจว่าต้องเป็นพวกฉันแน่นอน

 

ถ้าต้องสู้ไปพร้อมกับพวกเราด้วย  เคย์คุงก็จะไม่สามารถเอาจริงได้

ความจริงที่สิ้นหวังเช่นนี้ทำให้ฉันโกรธมาก

 

「เคย์、แกได้เปิดไพ่ทั้งหมดที่ข้ามีตอนนี้แล้ว เป็นผลให้โอกาสในการชนะเพิ่มขึ้นจาก 0% เป็นเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์」

 

โรคุฮาระพูดอย่างนั้นและปรบมืออย่างเย่อหยิ่ง

ยังไงก็ตาม ต่อให้เป็นแค่การเคลื่อนไหวแบบนั้นก็ยังต้องระวังตัวไว้

 

ตอนนี้แม้ว่าจะร่วมมือกันที่นี่ แต่ฉันเข้าใจดีว่าจะต้องพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย

ถึงกระนั้นฉันก็ไม่อยากวิ่งหนี ดังนั้นฉันจึงเตรียมอาวุธให้พร้อม

 

「……ข้าจะยอมรับความกล้าหาญนั่น แล้วตอนนี้จะยอมปล่อยแกไปก่อน」

 

อันที่จริง โรคุฮาระก็เหลือบมองมาที่พวกฉันแล้วพูดแบบนั้น

 

「งั้นเหรอ」

 

เคย์คุงตอบเพียงเท่านั้น

น้ำเสียงของเขาเย็นชาจนทำให้ฉันเย็นไปถึงแก่น เป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดจากคนที่มักจะพูดจาสุภาพและใจดี

 

หรือไม่บางที、ถ้าพวกฉันไม่ได้อยู่ที่นี่เคย์คุงกับโรคุฮาระก็จะ――。

เสียงเขาน่ากลัวมากจนทำให้ฉันคิดอย่างนั้น

 

「ถ้างั้น、เดาว่าคุณน่าจะมีสถานที่ที่ต้องไปแล้วสินะ」

 

เคย์คุงพูดออกมาราวกับแค่พ่นออกมา

โรคุฮาระแค่ยักไหล่และตะโกนเรียกชื่อของเด็กสาว

 

จากนั้นเขาก็พูดว่า「จ๊า、งั้นรีบไปกันได้แล้ว」และจากไป

 

ข้าง ๆ ฉัน、โทอาจังหายใจเข้าลึก ๆ แล้วลดปืนใหญ่ลง

เวลาที่ตึงเครียดสิ้นสุดลงในที่สุด

 

「ฟู๊วぅ」

 

เคย์คุงถอนหายใจ

ในเวลาต่อมา เขาก็กลับมาเป็นเหมือนคนเดิม

 

เด็กผู้ชายธรรมดา ๆ ที่จริงจัง

แต่ว่า、สำหรับพวกฉัน เขาดูแตกต่างไปจากเดิมแล้ว

 

「เคย์、นาย……」

 

มิซุฮิเป็นคนแรกที่พูดขึ้น

เธอเป็นคนที่พยายามเผชิญหน้ากับข้อเท็จจริงตรงหน้าอยู่เสมอ

 

ในฐานะเพื่อนสมัยเด็กของฉัน นี่เป็นคุณธรรมที่ฉันภูมิใจ และเป็นสิ่งหนึ่งที่ฉันเคารพเสมอ

แต่ ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่สิ่งที่น่ายกย่องในตอนนี้

 

「อะ」

 

เสียงเล็ก ๆ

ทั้งมิซุฮิทั้งโทอาจังต่างก็ถูกครอบงำโดยความผิดปกติของเขา และไม่ได้สังเกตเห็น

ฉันเป็นคนเดียวที่ได้ยินเสียงเล็ก ๆ ของเขา

 

ราวกับเด็กน้อยที่ถูกเปิดเผยความลับ

หรือเหมือนช่วงเวลาที่คุณเข้าใจการสูญเสีย

 

นั่นเป็นภาพที่น่าสงสารที่ฉันคุ้นเคยจนทำให้อยากจะร้องไห้

 

「เอ๊ะโตะ、คือ……」

 

เคย์คุงกำลังมองหาคำพูดอย่างสิ้นหวัง

ไม่มีเจตนาฆ่าหรือข่มขู่เหมือนก่อนหน้า

 

ฟังแล้วใครล่ะจะเชื่อว่าเด็กชายคนนี้ เขาเพิ่งต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่เป็นSแรงค์และรอดชีวิตมาโดยไม่ได้รับบาดเจ็บ

 

ดังนั้นก่อนที่ฉันจะรู้ตัวก็พูดแบบนี้ไปแล้ว

 

「กลับกันเลยไหมจ๊ะ」

 

「เอ๊ะ?」

 

เคย์คุงทำเสียงงุนงง

 

ฉันบอกมิซุฮิด้วยสายตาว่าอย่าพูดอะไรอีก แล้วเริ่มเดิน

ฉันแน่ใจว่าพวกเธอจะตามมา

 

「อ้า、กลับกันเลยเถอะ」

 

「มิโรคุจัง!?มิซุฮิจัง!?」

 

ตึกๆๆๆ เสียงฝีเท้าดังก้อง และบรรยากาศที่มีเสียงดังก็แพร่กระจายรอบตัวฉัน

มิซุฮิเข้าใจความรู้สึกของฉัน、โทอาจังตอบสนองและประสานการกระทำให้ฉัน

 

「อาโน๊!」

 

ได้ยินเสียงจากข้างหลัง

 

พวกฉันหยุดและรอให้เขาพูดต่อ

 

「……ตอนนี้ไม่สงสัยผมเลยงั้นเหรอครับ?」

 

เป็นคำพูดที่ไร้เดียงสา

 

「นั่นสิเน๊ แต่ว่า……เธอมาที่นี่ก็เพื่อปกป้องพวกฉันจริงไหมจ๊ะ?」

 

「เรื่องนั้น、ก็ใช่ครับ」

 

「ถ้างั้น、ตอนนี้ก็ดีแล้วล่ะจ๊ะ」

 

ใช่ นั่นคือทั้งหมดก็เพียงพอแล้ว

ช่วยเหลือเพื่อนในโรงเรียนเดียวกัน

นั่นควรจะเป็นจุดสิ้นสุดของเรื่องราว

 

ฉันหันกลับไปมองเคย์คุง

 

ดวงตาสีฟ้า

ดวงตาคู่นั้นที่ดูราวกับก้นมหาสมุทรที่ไร้ที่สิ้นสุด ที่เป็นราวกับตัวแทนแสดงความในใจของเขา

 

หากฉันไม่เอื้อมมือไปหาเขา เขาจะจมลงสู่ก้นทะเลอย่างแน่นอน

น่าแปลกที่ฉันก็มั่นใจแบบนั้น

เพราะแบบนั้นแล้ว

 

「แต่ว่าน่ะ、หากว่าเธอต้องการความช่วยเหลือก็ขอให้รีบบอกน่ะจ๊ะ พวกฉันจะช่วยเป็นกำลังให้เธออย่างแน่นอน」

 

「……ครับ」

 

ฉันสงสัยจังว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ในตอนที่เขาตอบ

ทว่าฉันไม่มีทางรู้ได้ เพราะฉันรู้จักเขามาประมาณหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น

 

แต่ว่านะ ถึงกระนั้นก็มีอยู่สิ่งหนึ่ง 

มีเพียงสิ่งเดียวที่ฉันเข้าใจ

 

ฉันทำผิดพลาดครั้งใหญ่ครั้งหนึ่ง

การแสดงออกที่เหมือนกับเด็กที่ถูกทิ้งและกำลังจะร้องไห้ที่เขาแสดงให้เห็นแวบหนึ่งนั้น

 

นั่นคือฉันเอง

 

วันนั้น ที่ฉันหมดหนทางและถูกคุณครูทิ้งไว้ข้างหลัง

ฉันรู้สึกราวกับล้มเหลวมากจนแค่จะร้องไห้ยังร้องไม่ออก

 

ดังนั้นฉันจึงเข้าใจ

สิ่งที่ฉันเห็นผ่านเขาแท้จริงแล้วคือ

 

สิ่งที่ฉันเห็นไม่ใช่เงาของคุณครู

แต่เป็นฉันเองที่พยายามจะเป็นแบบเธอ พยายามไล่ตามเธอให้ทัน

 

「ฟุๆๆๆ」

 

「……มิโรคุจัง?」

 

「ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะ」

 

ฉันอดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มสมเพชตัวเองออกมา

 

ฉันเข้าใจดี

เขาเองก็ไม่สามารถช่วยคน ๆ นั้นไว้ได้

ความเข้มแข็งนั้นเป็นผลมาจากความเสียใจที่เกิดจากโศกนาฏกรรมครั้งนั้นอย่างแน่นอน

 

เช่นเดียวกับฉัน

เขาและฉันเป็นดั่งกระจกเงา

 

หากเป็นเช่นนั้น ฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับ

 

ฉันพยายามกอบกู้วันนั้นที่ไม่มีวันห้วนกลับคืนมา ผ่านเด็กผู้ชายที่ชื่อนาตากิ เคย์

 

แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป

 

ตัวเขาเองก็ด้วย คนที่ควรได้รับการช่วยเหลือพร้อมกับฉัน

 

ในตอนนี้ ฉันรับรู้ได้ว่าเขากลายเป็นเพื่อนในความหมายที่แท้จริงของคำนี้

 

พวกฉันเป็นคนขี้ขลาดที่สิ้นหวัง

พวกฉันเป็นซากทัพของทหารที่พ่ายแพ้อย่างสิ้นหวัง

พวกฉันถึงอย่างงั้นแล้ว

 

ก็ยังต่อสู้ต่อไปโดยเชื่อว่าสักวันหนึ่งเราจะสามารถช่วยตัวเองเอาไว้ได้

 

จู่ ๆ ฉันก็มองไปที่เคย์คุง

 

มีความรู้สึกอบอุ่นอยู่ในอกของฉันอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

 

「ซ้า、ไปกันเถอะจ๊ะ เคย์คุง」

 

นี่ไม่ใช่สิ่งที่เหมือนกับความรัก

 

นี่เป็นสิ่งที่เป็นพื้นฐานและน่าเศร้ายิ่งกว่า――นั่นคือความผูกพันที่บิดเบี้ยวระหว่างผู้แพ้

 

 

 

ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー

 

คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ 

{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}

 

ขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ

ขอบคุณงับ

 

ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー

โดนฝนมาตลอดสัปดาห์แล้วรู้สึกปวดเมื่อยเจ็บไปทั้งตัวจริงน้อ กินพาราสามเวลาหลังอาหารจนแทบจะกลายเป็นขนมหวนหลังอาหารแล้ว ฮา

[นิยายแปล(WN)] สาวดุ้นตัวร้าย ผมที่กลับชาติมากเกิดใหม่เป็นตัวร้าย ♂ แต่ฉันจะไม่ยอมแพ้กับการTSหรอก

[นิยายแปล(WN)] สาวดุ้นตัวร้าย ผมที่กลับชาติมากเกิดใหม่เป็นตัวร้าย ♂ แต่ฉันจะไม่ยอมแพ้กับการTSหรอก

Score 10
Status: Completed
ถ้าได้เกิดใหม่ ก็ต้องเป็นสาวสวยเท่านั้น! หากได้เกิดใหม่ ก็เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับการกลายเป็นสาวสวย! ชายคนหนึ่งได้ตายลงและกลับชาติมาเกิดใหม่ในโลกของมังงะดันเจี้ยนสมัยใหม่ที่เขาชื่นชอบ แต่ว่า、สถานะที่รอคอยเขาอยู่คือตัวร้าย♂ 「ทำไมถึงไม่ใช่เด็กผู้หญิงล่ะฟ๊ะ……!」 ถ้าฉันได้เกิดใหม่เป็นสาวสวยคงจะดีกว่านี้ ด้วยความจริงที่ชัดเจนในใจเช่นนี้、ชายคนนี้จึงใช้ชีวิตเพื่อจุดประสงค์ของตัวเขาเองในฐานะตัวร้าย♂(ไม่มีบทบาทนี้อีกต่อไป) เป้าหมายคือ การแย่งชิงอีเว้นท์TSที่จะเกิดขึ้นในอีกหนึ่งปีข้างหน้าตามในงานต้นฉบับ และกลายเป็นสาวสวยที่รอคอยมานาน! นี่คือเรื่องราวของนักสำรวจที่อาศัยอยู่ในโลกดันเจี้ยนสมัยใหม่ นี่คือเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่สมองถูกเผาไหม้ด้วยความปรารถนาที่จะTS นอกจากนี้、โดยไม่ได้คำนึงถึงความจริงที่ว่ากองกำลังทั้งหมดในงานต้นฉบับยอมรับว่าเขาเป็นขุมกำลังใหม่ที่ไม่รู้จัก และต้องระวัง จากการกระทำในระหว่างแต่งกายข้ามเพศซึ่งเป็นผลมาจากความปรารถนาที่จะTSของเขา

Options

not work with dark mode
Reset