251 นำของที่ระลึกกลับบ้าน
“แอปเปิล、ส้มตะวันออก、ราสเบอร์รี่、ลูกแพร์、กล้วย、แตงโมคุมะ……ที่เหลือที่ไม่รู้จักสินะ”
“นั้นคือมะม่วงล่ะค่ะ”
“เห้ นี่เองสินะ”
มะม่วงสินะ
ฉันเคยเห็นตอนที่โดนหั่นเป็นของหวานหลังมื้ออาหาร แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นมันในรูปแบบดั้งเดิม
“นอกจากนี้ดูเหมือนว่าจะมีลิ้นจี่ มะละกอ และเบอร์รี่อยู่บ้างค่ะ ไม่ใช่แค่ต้นไม้เท่านั้น ยังมีมีผลไม้เติบโตอยู่พื้นใกล้เท้า แต่หายากเพราะอยู่ในสวนดอกไม้ล่ะนะคะ”
พุ่มไม้ที่กระจัดกระจายไปทั่วสวนดอกไม้นั้นเป็นไม้ผล
หลังจากที่ฉันได้น้ำผึ้งมาขวดหนึ่งจากรังผึ้ง และตัดสินใจเดินดูไปรอบ ๆ บริเวณ
ก็พบกับผลไม้หลายชนิดเติบโตบนพุ่มไม้ที่กระจัดกระจายไปทั่วสวนดอกไม้
จากที่มีผลที่เน่าเสียน้อยมาก บางทีนี่อาจจะเป็นอาหารของพวกลิงนักรบกับหมีนักรบ ก็จริงอยู่ว่าด้วยน้ำผึ้งเพียงอย่างเดียวก็อาจจะมีคุณค่าทางโภชนาการเพียงพอที่จะช่วยให้อยู่รอดได้แล้ว แต่ฉันแน่ใจว่ายังไงก็คงต้องอยากกินอะไรที่อยู่ในรูปของแข็งเช่นกัน
แน่นอนว่าทั้งหมดนี้มีกลิ่นหอมรุนแรง
ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งเหล่านี้เองก็น่าจะเติบโตได้ด้วยพลังของต้นไม้โลก
“รู้ดีจังเลยเน๊”
“แน่นอนสิคะ ถึงมาเวเลียจะค่อนข้างโดดเดี่ยวจากส่วนอื่น ๆ ของโลก แต่ที่อาร์ตัวร์ที่มีอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ที่เจริญรุ่งเรือง ไม่เพียงแต่ผลไม้เท่านั้น แต่ยังมีอาหารหายากอีกมากมายที่ถูกนำเข้ามา และมันก็ปรากฏใน『ทำอาหารกับเจ้าหญิง』ด้วยซ้ำนะคะ”
อะ เข้าใจล่ะ
เธอเคยเห็นในรายการทำอาหารของฮิลเดโทร่าสินะ
“แต่ว่า ดิฉันจำได้ว่าผลไม้แต่ละชนิดจะสุกตามฤดูกาลที่แตกต่างกัน……”
มีเหตุผล
อันที่จริง ฉันรู้สึกว่ามันไร้สาระที่จะหยิบยกสามัญสำนึกขึ้นมาในสถานที่ซึ่งสิ่งที่ดูเหมือนเป็นต้นไม้โลกแห่งนี้ตั้งตระหง่านอยู่เหนือเรา
“นี่จะเป็นของที่ระลึกที่ดีสำหรับพวกเด็ก ๆ กลับกันเถอะ”
“เอ๊ะ? จะเอากลับไปด้วยงั้นเหรอคะ? ……จะกินได้ไหมยังน่าสงสัยอยู่เลยค่ะ……”
“ไม่เป็นไรหรอก ลิงกับหมียังมีชีวิตอยู่จริงไหม ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็คงจะแค่แย่สำหรับพวกนั้นไปแล้ว”
“แค่ ดิฉันไม่คิดว่าแค่นั้นจะเพียงพอให้สรุปได้หรอกนะคะ……”
ขณะที่พูดแบบนั้น ฉันก็ตัดสินใจเก็บผลไม้ที่มักพบเห็นได้ทั่วไปในมาเวเลีย
ฉันมีน้ำผึ้งเป็นของฝากหลักแล้ว ม๊า ค่อยคิดที่เหลือทีหลัง
“……พอมอง ๆ แบบนี้แล้วก็น่ารักดีเน๊ะ”
อืม
――หลังจากเดินดูรอบ ๆ ต้นไม้โลกอย่างรวดเร็ว「ซ้ากลับกันดีกว่า」ฉันพูดแบบนั้นขณะมุ่งหน้าไปที่ม้าจักรกลสี่ล้อ โดยที่มีหมีนักรบกับลิงนักรบติดตามมา
และจากนั้น พวกเขามองดูพวกเราจากอีกฟากของทุ่งดอกไม้ขณะที่ขึ้นขับม้าจักรกล
ในส่วนขององค์ประกอบนั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าการมายืนส่ง
ขอย้ำอีกครั้งว่า ฉันไม่รู้สึกถึงอารมณ์ใด ๆ ไม่ว่าจะโกรธหรืออะไรก็ตาม ดังนั้นฉันจึงไม่คิดว่ามันมีความหมายอะไรอย่าง「ซ้า ๆ รีบ ๆ กลับไปซะ」อะไรทำนอง
“คิดว่าหมายความว่ายังไงคะ?”
“ซ้า……ก็ต้องไว้มาอีกน๊า จริงไหม?”
“แต่ว่าถ้ากลับมาอีกพวกเขาจะไม่ทำหน้ารังเกียจใส่ใช่ไหมคะ?”
“ก็เอาไว้ถึงเวลานั้นก่อนก็แล้วกัน”
……ม๊า ก็อย่างงั้นแหละ ก็ไม่เห็นเป็นไร
“――เพราะฉันจะกลับมาอีกครั้ง”
หลังจากพูดอย่างนั้น สัตว์ร้ายแห่งสวรรค์ยังคงจ้องมองที่หลังของพวกเราต่อไปในขณะที่พวกเราขับม้าจักรกลจากมา
“เนีย! ริโนกิสซังริโนกิสซัง!」
เมื่อพวกเรากลับมาถึงที่ป้อม ก็ได้รับการต้อนรับจากรองผู้บัญชาการอิลก์แบบเดียวกันกับขามาเมื่อวันก่อน หลังจากโดนหนักเมื่อวานนี้ ลิวิเซลดูอาจจะยังไม่กลับมา
“กลับมาแล้ว”
“ไม่ใช่กลับมาแล้วเซ๊! ก็บอกไปแล้วไม่ใช่รึไงว่าต่อจากจุดนี้ไป ห้ามประชาชนเข้าน่ะ!”
“เตรียมอ่างอาบน้ำไว้แล้วรึยัง? แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แค่น้ำก็ได้”
“พร้อมแล้ว! พร้อมให้คุณกลับมาอาบได้ทุกเมื่อนั่นแหละ! ――ริโนกิสซัง、ทำไมถึงไม่หยุดเด็กคนนี้ทั้ง ๆ ที่คุณก็อยู่ด้วยล่ะครับ!”
สมกับเป็นผู้ชายที่มีความสามารถ
เมื่อลิวิเซลไม่อยู่ ก็มีเพียงรองผู้บัญชาการเท่านั้นที่รับผิดชอบ
เมื่อฉันมาฝึกที่นี่ ฉันที่มีนิสัยชอบอาบน้ำหลังการฝึก ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเตรียมไว้ให้ฉันอย่างดี
ขอบใจน๊า
ฉันถูกปกคลุมไปด้วยเหงื่อและฝุ่น และแม้กระทั่งเลือด มันเหนียวและน่าขยะแขยงตลอดเวลา
“ต้องขอโทษด้วยค่ะ ถึงดิฉันจะเป็นอาจารย์ของเนียโอโจ้ซามะ แต่ก็เป็นลูกจ้างด้วย……”
“ความเห็นแก่ตัวที่ใช้ไม่ได้แบบนี้ต้องหยุดอย่างแรงเลยครับ!”
“นั่นสินะคะ ดิฉันเองก็คิดว่านั่นเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุดเลยค่ะ อาจริง ๆ นะ ถ้าใครสักคนยอมฟังที่ดิฉันพูดบ้าง ดิฉันคงไม่ลำบากใจขนาดนี้หรอกค่ะ……”
――ถ้าฉันยังอยู่ที่ต่อไป คงจะโดนบ่นหูชาแน่ ดังนั้นรีบไปอาบน้ำดีกว่า
ฉันอาบน้ำกับริโนกิสซึ่งรีบตามมาทันที ล้างเหงื่อและสิ่งสกปรกออกไป
“รักษาได้จนหมดจริง ๆ ด้วยสิเน๊ะ”
ยืนยันได้ว่าบาดแผลที่เกิดจากลิงและหมีทั้งหมดหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“――มาเก็บเรื่องต้นไม้โลกไว้เป็นความลับกันเถอะ”
และฉันจึงตัดสินใจเก็บเรื่องต้นไม้ใหญ่ทางทิศตะวันออกไว้เป็นความลับ
นั่นจะส่งผลอย่างมากต่ออนาคตของอาณาจักรมาเวเลีย
ขณะนี้ประเทศเพื่อนบ้านให้ความสำคัญกับการพัฒนาตนเองมากกว่าเรื่องสงคราม――แต่เรื่องของสิ่งนั่นอาจทำให้เกิดสงครามได้ นั้นคือขอบเขต
ฉันแน่ใจว่ามันมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคและการบาดเจ็บอย่างแน่นอนจริงไหม ฉันคิดว่ามันต้องกลายเป็นสิ่งที่คนป่วยทั่วโลกปรารถนา
เพียงแค่นั้น ก็มีคนที่ปรารถนาอยากให้ประเทศล่มสลายได้――ผู้ที่มีอำนาจทั้งหลายต้องก้าวเข้ามาอย่างแน่นอน
แล้วก็ เชื้อพระวงศ์อย่างซิลเลนกับลิวิเซลที่จะไปถึงที่นั่นสักวันหนึ่ง ควรจะเป็นผู้ไปค้นพบมันด้วยมือของพวกเขาเอง พวกเขาควรคิดว่าเองว่าจะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศของตนเองได้ยังไง
ม๊า ก็มีโอกาสมากมายที่พวกเขาจะไม่ไปถึงที่นั่น
แถมต่อให้ไปถึงที่นั่นได้จริง ก็ยังมีลิงนักรบกับหมีนักรบอยู่
ตราบใดที่พวกเขายังอยู่ที่นั่น ก็จะไม่มีใครสามารถเข้าไปยังที่นั่นได้เว้นแต่โดยการบุกทะลุจากด้านหน้า อาจมีการโจมตีทางอากาศจากเรือเหาะหรือเปล่า? ไม่สิ การทำลายต้นไม้โลกจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย
แม้ว่าผู้ที่ไม่มีกำลังพอที่จะไปถึงที่นั่นจะได้รู้ถึงเรื่องนี้ ก็จะมีแต่ผู้คนจำนวนมากที่จะเสียชีวิตอย่างเปล่าประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น
นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันจะไม่ให้ข้อมูลใด ๆ แก่พวกเขา
มันทำให้ฉันลำบากใจบ้าง แต่นั่นคือข้อสรุปของฉัน
“นั่นสินะคะ นั่นอาจกลายเป็นความลับของประเทศที่ยิ่งใหญ่กว่าทหารจักรกลได้ ถ้ามาเวเลีย รู้สิ่งที่เรารู้ก็อาจทำให้เกิดปัญหาได้”
อืม เป็นไปได้มาก
ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะไม่พูดถึงสถานที่นั้น
สามสิบปีข้างหน้า ลิวิเซลกับอิลก์ที่ฝึกฝนมาอย่างหนักจะไปถึงต้นไม้โลกได้ในที่สุด
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ
{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}
ขอบพระคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ
ขอบคุณงับ