243 ประชุมครั้งที่สอง
“ซิล”
หลังจากการพูดคุยกับริโนกิสซึ่งคอยกดดันฉันอยู่เงียบ ๆ จบลงแล้ว อาคาชิ ซาคุมะที่ไม่ได้พูดอะไรมานาน ก็ได้เวลาฉากแยกย้าย
ฉันขอให้ซาคุมะกับริโนกิสกลับไปทำงานตามปกติ ส่วนฉันกับจะอาคาชิมุ่งหน้าไปยังโรงงานไฟรซ์ก่อน เพราะมีเรื่องอยากจะถามเขา
“――นี่ทะเลาะกันเหรอ?”
ซิลเลนที่กำลังหยุดพัก น่าจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่น่าอึดอัดใจ……ม๊า ไม่มีทางที่เธอจะไม่รู้สึกถึงเจตนาฆ่าของฉัน
หลังการเรียนรู้「คิ」ความไวในเรื่องนั้นก็เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน
อีสมองมาที่ฉันด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ราวกับว่าเธอจะให้ความช่วยเหลือหากมีปัญหาเกิดขึ้น ช่างเป็นคนที่ชอบการทะเลาะวิวาทเสียจริง
“ใช่ มีปัญหาเกิดขึ้น ฉันอยากจะไปหาคุณพ่อของคุณทันที ช่วยพาไปหาหน่อยได้ไหม?”
“คุณพ่อ เหรอ……พ่อของเรา?”
ฉันพูดไปแบบสบาย ๆ เหมือนอยากเจอพ่อเพื่อน แต่ในฐานะลูกสาว ซิลเลนต้องเข้าใจความหมายและน้ำหนักของคำเหล่านี้ดีกว่าใคร
ใช่แล้ว ฉันอยากพบพระราชา
นี่จะเป็นครั้งที่สองที่พวกเราจะได้พบกัน นับตั้งแต่ที่ฉันซื้อตัวซิลเลนจากเหตุการณ์โจมตีในตอนกลางคืน
“หลังจากนี้ทันทีเหรอ?”
“ใช่ ฉันไม่อยากแจ้งล่วงหน้า แต่ไม่ว่าจะยังไงฉันก็จะไปเจอเขา”
หากซิลเลนไม่ยอมพาฉันไป ฉันจะหาทางไปเองคนเดียว
ในกรณีนั้น จะไม่มีการรับประกันใด ๆ และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเราจะได้พบกันและคุยกัน
ฉันคิดว่ามันเป็นคำขอที่ไม่สมเหตุสมผลเลยที่จะไปพบราชาของประเทศหนึ่งง่าย ๆ ――แต่ซิลเลนก็ไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
“ถ้าเนียต้องการแบบนั้นเราจะทำ เราจะนำทางให้เองได้ใช่ไหม?”
งั้นเหรอ เข้าใจได้เร็วและมีประโยชน์
“แต่ถ้าจะให้เรานำทาง ช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?”
“เอาไว้ฟังพร้อมกับตอนที่ฉันคุยกับราชาได้ไหม ไม่ต้องกังวลไป ฉันอยากจะจัดการเรื่องต่าง ๆ อย่างสันติเหมือนกัน”
――คราวที่แล้วพวกเราอยู่ในตำแหน่งที่ขัดแย้งกันโดยสิ้นเชิง แต่คราวนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวของซิลเลน และลูกศิษย์อย่างลิวิเซล
ฉันอยากจะหลีกเลี่ยงการทำอะไรก็ตามที่จะทำลายบ้านลูกศิษย์ของฉันให้มากที่สุด
“ความสงบของเนีย ความสงบยังไม่พอ”
หืม?
“ยังไงดี……ม๊า ฉันไม่มีความตั้งใจที่จะหยุด แต่ฉันแค่หวังว่าจะไม่ทำให้แย่ลงไปกว่านี้”
……ยังไงดีรู้สึกเหมือนอีสกับซิลเลนไม่เชื่อฉันเลยสักนิด
แม้ว่าฉันจะบอกว่าฉันจะจัดการเรื่องอย่างสันติ
หากการพูคุยกับราชาสามารถทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ ฉันก็ไม่มีความตั้งใจที่จะแตะต้องมันอีกต่อไป
มันขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาของอีกฝ่ายเสมอ แค่นั้นแหละ
ฉันรู้สึกเหมือนกำลังถูกเข้าใจผิด
“――โอโจ้ซาม๊า! ระ ระ เรื่องในครั้งนี้! จริง ๆ นะคร๊าบ……!”
“อ้า ไม่เป็นไรไม่เป็นไร”
เจต・ไฟรช์ เจ้าของโรงงานไฟรซ์กำลังยืนรออยู่ที่หน้าโรงงานไฟรซ์อย่างกระวนกระวายใจ และทันทีที่เขาเห็นฉันที่สุดถนน เขาก็วิ่งเข้ามาหาราวกับใช้แรงผลักดันทั้งหมดที่มี จากนั้นก็ทรุดตัวลงคุกเข่าลงและล้มหน้าคว่ำลงบนทางเท้าหิน
หยุดเลยหยุดเลย อย่ามาทำแบบนี้ตอนที่มีคนอื่นมองอยู่รอบ ๆ สิ มันทำให้ฉันดูแย่
“นอกจากนี้โรงงานเป็นยังไงบ้าง?”
เมื่อฉันถามเขาระหว่างที่กำลังลุกขึ้น เจตก็มีสีหน้าเศร้าหมอง
“ฮะฮ้า……อาคาชิซังพาหมอเวทมนตร์มาดูให้แล้วล่ะครับ ดังนั้นคนงานที่บาดเจ็บก็ดีขึ้นแล้ว แต่……”
“มีอุปกรณ์เสียหายด้วยงั้นเหรอ?”
“ไม่ครับ……ทว่า พวกเขาเอาต้นแบบทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับม้าจักรกลไปครับ……”
งั้นเหรอ
“คงแย่มากเลยสินะ บางทีผลักความเกลียดชังมาที่ฉันก็ได้น่ะ เพราะผลมาจากฉันเอง”
ส่วนตัวแล้ว ฉันคิดว่ามันก็คงจะเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้หากว่าฉันจะถูกด่าสักหน่อย――
“ไม่ครับ นั่นไม่ใช่เลย!”
เจตประกาศด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
“ผมและครอบครัวของผมเชื่อว่าสิ่งประดิษฐ์นั่นจะต้องขายได้อย่างแน่นอน! เหนืออื่นใดผลตอบแทนก็ดี อีกทั้งต้นทุนการพัฒนาก็มีให้มากมาย! คงจะแปลกเกินไปแล้วถ้าจะทำของที่ขายไม่ได้!
โรงงานไฟรซ์ของพวกเราเอาตัวรอดด้วยการผลิตชิ้นส่วนขนาดเล็กจำนวนมากมาตลอด แต่ทันทีตั้งแต่วินาทีแรกที่ถูกทาบทาม ทุกคนก็หมกมุ่นอยู่กับสิ่งประดิษฐ์นั่นกัน! ความหมายของรางวัล!
สิ่งประดิษฐ์ที่เกิดในโรงงานไฟรซ์ซึ่งเป็นโรงงานเล็ก ๆ อันโดดเดี่ยวจะกระจายไปทั่วโลก! และเงินจำนวนมากจะเริ่มไหลเข้ามาแม้จะนอนอยู่ก็ตาม! ผมฝันที่อยากจะมีโรงงานเล็ก ๆ เช่นนั้นมาตลอด!
คนร้ายตามล่าเงินแน่นอน! ถ้าเขามีความแค้นใจ เขาจะเข้าไปยุ่งหรือพัฒนาอะไรแบบนั้นทำไมกัน!
ยังไงก็ตามอีกฝ่ายกับขโมยสิ่งประดิษฐ์ที่โรงงานไฟรซ์ของเราที่พัฒนาขึ้นเพื่อแสดงให้โลกได้เห็นไปอย่างขี้ขลาด! ต้นไม้แห่งเงินทองได้งอกขึ้นในโรงงานไฟรซ์ของเราแล้ว! ไม่ให้อภัยเด็ดขาด!!”
อืม
ฉันก็ไม่ได้เกลือดอะไรแบบนี้หรอกนะ การมีตัวตนที่สามารถพูดเกี่ยวกับเงินได้ถึงขั้นผ่าเผยขนาดนี้
“เข้าใจแล้วเข้าใจแล้ว พอเรื่องนี้คลี่คลายเมื่อไหร่ พวกเราค่อยมาทำสัญญากันอีกครั้ง”
“จริงเหรอครับ!? โอโจ้ซาม๊า คุณช่วยแนะนำบริษัทเซโดนีให้รู้จักได้ไหมครับ!? หวังว่าจะได้ทำธุรกิจร่วมกับคุณในอนาคต!?”
“จะทำให้จะทำให้แล้วกัน ซ้า กลับไปที่โรงงานเถอะ แล้วอย่าพูดเรื่องเงินออกมาดัง ๆ ในที่สาธารณะสิ”
ฉันตัดสินใจเข้าไปดูภายในโรงงานไฟรซ์ ในขณะที่ผลักเจตซึ่งตื่นตาไปกับเงินทองไปซะหมด
――ดูเหมือนว่าหมอเวทมนตร์ที่อาคาชิเรียกมาจะทำงานเสร็จ และกลับไปแล้ว พี่น้องชายสามคน กับพนักงานคนอื่น ๆ ที่ได้ยินว่าได้รับบาดเจ็บ ก็ดูจะกลับมาแข็งแรงกันแล้ว
ทว่า จิ๊ด เอาจริงเลย……ไม่สิ ฉันเดาว่าพวกเขารู้สึกแบบเดียวกันถ้าพูดถึงเรื่องเงิน
ช่างฝีมือค่อนข้างหดหู่ใจเพราะเครื่องจักร เครื่องจักรต้นแบบ และพิมพ์เขียวของพวกเขาถูกยึดไปอย่างกะทันหัน
ลูกชายคนโต ฟูโก้ ซึ่งมีหน้าที่ดูแลโรงงาน และเป็นคนที่หยาบคายที่สุด แต่อย่างใดฉันก็ไม่สามารถเกลียดเขาได้ เขาหรี่ตาลงเมื่อเห็นฉัน
อาร์โก ลูกชายคนที่สอง ผู้ซึ่งให้ความสำคัญกับวิธีการในการทำงานของเขาเป็นพิเศษ นั่งจ้องไปที่จุดหนึ่งบนพื้น และไม่ขยับเลย
แม้แต่ลูกชายคนที่สามจังโก้ ผู้ซึ่งคอยบรรยายเกี่ยวกับข้อดีของรถสี่ล้ออยู่เสมอ ก็ไม่พูดว่า「ฟังซะ」เหมือนปกติ
มันเงียบราวกับโรงตีเหล็กที่ไฟในเตาดับลงแล้ว
นี่คงจะทำให้เขาตกใจมาก เพราะทุกคนอุทิศตนอย่างจริงจังให้กับการพัฒนา
“หัวหน้า”
ฉันคิดที่จะเรียกสามพี่น้อง และเหล่าคนงาน แต่ฉันไม่คิดว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการคือคำพูดปลอบใจ
ยิ่งกว่าคำพูดใด ๆ ทุกคนยกเว้นเจต ตัดสินใจว่าอยากได้เครื่องจักรต้นแบบที่พวกเขาใช้เวลาและความพยายามอย่างมากในการสร้างกลับคืนมา มากกว่าที่จะได้เงินก้อนโต
“ฉันจะนำต้นแบบที่พัฒนาแล้วกลับมาเอง ดังนั้นให้เวลาฉันหน่อยน่ะ――ฝากบอกทุกคนที”
หลังพูดไปแบบนั้น ฉันก็ตัดสินใจไม่เข้าไปในโรงงาน ดึงตัวเองกลับไป
เมื่อฉันกลับมาที่คฤหาสน์ ก็พบกับซิลเลนซึ่งมีเหงื่อออกเล็กน้อย และเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมแล้ว
“จะไปเมื่อไหร่ก็ได้เลย”
อาคาชิที่ฉันไม่พบตัวที่โรงงาน ดูเหมือนว่าจะกลับมาที่นี่ก่อนที่ฉันจะรู้ตัว เธอนั่งอยู่บนที่นั่งคนขับของรถสามล้อ และรอ
“จ๊า งั้นรีบไปกันเลยเถอะ”
ด้วยเหตุนี้เอง ฉันจึงได้เข้าเฝ้า ฮาซาร์・ซิลค์・มาเวเลีย ราชาแห่งอาณาจักรมาเวเลีย และประชุมกันเป็นครั้งที่สอง
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ
{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}
ขอบคุณ คุณนิรนาม กสิกรไทย X-2186 มาก ๆ ครับ
ขอบพระคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ
ขอบคุณงับ