วันนั้น ผมมุ่งหน้าไปยังโคเอนจิซึ่งต่างไปจากสถานีที่ผมใช้อยู่บ่อย ๆ
ใกล้ ๆ สถานี JR โคเอนจิ มีร้านบุฟเฟ่ต์ของหวานอยู่
กลุ่มรุ่นพี่โทวโกะกำลังปรึกษากันเรื่อง ‘งานอีเวนท์ฤดูหนาวของชมรม’ ว่าผู้หญิงจะทำอะไรกันบ้าง
ตอนนี้เป็นช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน
ตั้งแต่บัดนี้ไป คริสต์มาส วันปีใหม่ วันวาเลนไทน์ กับทั้ง ‘ฮ็อตอีเวนท์ฤดูหนาว’ อีกมากมายกำลังรอเราอยู่
ชมรมซึ่งพวกเราซึ่งเป็นสมาชิกนั้น จะมีการวางแผนจัดอีเวนท์ร่วมกันทุกปี
มาสรุปความคิดเห็นเรื่องนั้นของกลุ่มผู้หญิงกันเถอะ ด้วยข้ออ้างที่ว่าจึงพามารวมตัวกัน
ส่วนผม ณ ตรงนั้นก็จัดฉากทำเป็นว่า ‘ผู้ชายคนนึงที่เผอิญมาหากินเค้กพอดี’
ผมสั่งเครื่องดื่มกับเค้กสองอย่างที่ชั้นหนึ่ง จากนั้นก็ถือขึ้นมาชั้นสอง
ทั้งที่เป็นช่วงกลางวันวันธรรมดา แต่กระนั้นที่นั่งกลับเต็มหมด
—— ก่อนอื่นต้องมองหาที่นั่งของกลุ่มรุ่นพี่โทวโกะก่อน แล้วก็ต้องเข้าไปใกล้ ๆ แถวนั้น ——
เมื่อนั้นเองที่กำลังคิดอย่างนั้นแล้วพยายามจะไปข้างหลัง
“อ้าว อิชชิกิคุงนี่นา?”
มีเสียงเรียกลอยมาอย่างนั้น
พอมองเข้าไปกลางกลุ่ม ที่ตรงนั้นมีคุณคาซุมิกำลังโบกมืออยู่
คุณโทวโกะอยู่ด้วยกันกับผู้หญิงในชมรมอีก 4 คน
ผมที่กำลังถือถาดอยู่ ก็เข้าไปหาที่โต๊ะที่พวกเธออยู่
“อิชชิกิคุง มาคนเดียวหรอ?”
คุณคาซุมิเอ่ยถามอย่างเป็นธรรมชาติ
เป็นไปตามที่เตี๊ยมกันไว้
“ครับ มาคนเดียวครับ”
“ถ้าไม่ว่าอะไร มานั่งตรงนี้ได้นะคะ”
คุณคาซุมิชี้ไปตรงที่ข้างเธอ
“ถ้าหากว่ามาอย่างนั้นก็ รบกวนด้วยนะครับ”
ผมดึงเก้าอี้ที่ว่างอยู่ใกล้ ๆ แล้วนั่งรวมโต๊ะกับกลุ่มผู้หญิง
ที่อยู่ด้วยกัน นอกจากรุ่นพี่โทวโกะกับคุณคาซุมิ ก็มีผู้หญิงในชมรมอีก 4 คน
คุณมินะ ชั้นปีสอง กับคุณอายากะ ชั้นปีหนึ่งจากคณะเศรษฐศาสตร์, คุณมานามิ ชั้นปีสองจากคณะอักษรศาสตร์, คุณยูริ ชั้นปีหนึ่งจากคณะพาณิชยศาสตร์
ทั้งสี่คนต่างก็เป็นผู้หญิงคนสำคัญในชมรม
สมกับเป็นรุ่นพี่โทวโกะ เลือกคนมาได้ไม่ขาดตกจริง ๆ
คุณมินะ ชั้นปีสองจากคณะเศรษฐศาสตร์ถามผม
“อิชชิกิคุงเนี่ย รู้จักคาซุมิจากที่ไหนหรอ? คาซุมิเองก็ไม่ได้อยู่ในชมรมของเรานี่นา”
ก่อนที่ผมจะได้ตอบ คุณคาซุมิชิงตอบอย่างไว
“ชั้นก็รู้จักใครผ่านโทวโกะอย่างเดียวแหละ แล้วก็ก่อนหน้านี้ ตอนที่ฉันกำลังหาหนังสือโปรแกรมมิ่งอยู่ที่หอสมุดก็เลยได้เจอกันน่ะ จากนั้นมาก็มีถามเรื่องการบ้านโปรแกรมมิ่งกันบ้างบางครั้งอะนะ”
“อะไรกัน อย่างงั้นเองหรอ? แต่ว่านะคาซุมิ คนนอกอย่าหยอกปีหนึ่งในชมรมของเรานักน้า เพราะอิชชิกิคุงเนี่ยเป็นความหวังของหมู่บ้านคนใหม่เลยนะ”
คุณมินะพูดแล้วหัวเราะ
“ฉันเองจากนี้ไปก็จะเข้าร่วมชมรมนี้แล้วอะนะ คงจะไม่ว่าอะไรแล้วใช่ปะ?”
คุณคาซุมิเองก็พูดหัวเราะกลับบ้าง
“แต่ว่าอิชชิกิคุงเนี่ยคบกับคาเรนอยู่นี่นะ คงช้าไปแล้วมั้ง”
คนที่พูดก็คือคุณมินามิ ชั้นปีสองจากคณะอักษรศาสตร์เหมือนกับคาเรน
“อา นั่นสินะ”
แสร้งตอบไปอย่างกำกวม
“มิตสึโมโตะ คาเรนหรอ ฉันน่ะ ไม่ค่อยชอบเด็กนั่นเท่าไรเลยน้า ถึงจะดูเป็นที่ชอบใจของหนุ่ม ๆ ก็เถอะ”
คุณมินะพูดเหวี่ยง
“เดี๋ยวสิมินะ พูดอย่างนั้นต่อหน้าอิชชิกิคุงไม่ดีนะ”
ถึงคุณมินามิจะพูดปรามอย่างนั้น แต่สีหน้านั่นเหมือนจะยิ้มอยู่เลย
“อา~ นั่นสินะ อิชชิกิคุง ขอโทษนะ ฉัน เป็นคนคิดอะไรก็พูดอย่างนั้นน่ะ อย่าถือสาเลยนะ”
จากนั้นคุณอายากะ ชั้นปีหนึ่งจากคณะเศรษฐศาสตร์ก็เอ่ยปาก
“แต่ว่าฉันเห็นด้วยกับที่คุณมินะพูดนะคะ คาเรนเนี่ยเวลามีกับไม่มีผู้ชายอยู่เนี่ย ทัศนคติต่างกันพอสมควรเลยค่ะ”
“ช่าย ๆ ตอนค่ายฤดูร้อนนี่แย่มากเลยเนอะ ฉันเองก็เจอมาพอตัวเลยค่ะ”
คนที่เห็นด้วยก็คือคุณยูริชั้นปีหนึ่งจากคณะพาณิชยศาสตร์
เรื่องที่คาเรนมีชื่อเสียกับผู้หญิงในชมรม ผมเคยได้ยินจากรุ่นพี่โทวโกะมาก่อนแล้ว
และ บทที่ผมจะพูด ณ จุดนี้ก็คือ…
“แต่ว่าผมเป็นแฟนหนุ่มของคาเรน และเชื่อใจแฟนสาวของผมอยู่นะครับ ลึก ๆ แล้วเธอเป็นคนดีนะครับ”
ให้สนับสนุนเธอ
รุ่นพี่โทวโกะบอกไว้ว่า ‘ถ้าแฟนสาวถูกว่าร้ายใส่ล่ะก็ ให้สนับสนุนเธอ มีแค่เรื่องนั้นที่ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยตามผู้หญิงคนอื่นก็ได้’
กลุ่ม 4 สาว มองหน้ากันอยู่พักหนึ่ง
“ก- ก็นะ อิชชิกิคุงคงเห็นข้อดีของคาเรนอยู่ล่ะนะ กำลังคบกันอยู่ด้วยสิ”
“จริง ๆ แล้ว คาเรนก็น่ารักอยู่อะนะ ทำให้บรรยากาศผ่อนคลายดีด้วยนะ”
“อาจจะเป็นประเภทที่ผู้ชายมองดูแล้วปล่อยให้โดดเดี่ยวไม่ได้ก็ได้นะ อย่าคิดมากเลย”
ทว่า มีแค่คุณมินะเท่านั้น ที่ถึงที่สุดก็ไม่ลืมที่จะพูดเหวี่ยงใส่
“มันก็แค่ว่า ‘เข้าข้างผู้หญิงที่คบกันอยู่ดีกว่า’ นั่นแหละ”
ความจริงผมเอง ก็อยากจะลบล้างอดีตที่เคยคบกันกับคาเรนอะไรนั่นไปซะให้หมด
ที่พูดไปว่า ‘ลึก ๆ เป็นคนดีเนี่ย’ ทำเอาปากแทบเน่า
ใจจริงอยากจะเล่นใหญ่เปิดเผยออกมาให้หมดซะว่า ‘คาเรนน่ะมันผู้หญิงเน่าหนอนมาตั้งแต่กมลสันดานเพศแม่เลยโว้ย!’
ทว่า รุ่นพี่โทวโกะดักเอาไว้ก่อนเลยว่า “ผู้หญิงน่ะ คิดว่า ‘ผู้ชายที่ว่าร้ายแฟนสาวตัวเองน่ะต่ำทรามที่สุด’-
เพราะฉะนั้น ต่อให้คุณคาเรนโดนว่าร้ายมายังไงห้ามตามน้ำไปเด็ดขาด”
แต่ว่า —— จากข้อมูลที่รุ่นพี่โทวโกะเล่าให้ฟังเอง ชื่อเสียงของคาเรนในสายตาของผู้หญิงคนอื่น ๆ ก็แย่อยู่แล้วนี่นะ
ถ้ามีเรื่องนอกใจเข้าไปอีกสักเรื่อง คงจะช็อคกันน่าดู
“อ้า~า รูปเซลฟี่ชั้นตะกี้ ทำไมดูโทรมจัง!”
คุณคาซุมิพูดพลางมองดูมือถือ
คงจะกำลังพยายามจะเบี่ยงประเด็นให้
นอกจากนั้น เป็นการให้สัญญาณผมให้ ‘ตัดเข้าเรื่องแอปเซลฟี่ได้แล้ว’
“เป็นยังไงหรอครับ? ขอดูหน่อยได้มั้ย?”
ผมรีบเอ่ยปากถึงคุณคาซุมิ
“ดูสิ เพิ่งจะถ่ายรูปที่ร้านนี้ตะกี้นี้เอง ทำไมชั้นดูโทรมจังเลยเนี่ย?”
ดูไม่ค่อยจะเป็นธรรมชาติเท่าไรเลย แต่เพราะเป็นการเล่นละครกันเองเลยไม่ค่อยใส่ใจนัก
“งั้นหรอครับ น่าจะเป็นเรื่องการจัดแสงนะครับ เพราะงั้นถ้าลองปรับค่าไวท์บาลานซ์ของสีผิวดูแบบนี้…”
ผมว่าไปแล้วก็จัดการกับมืิอถือของคุณคาซุมิ
“โอ้~ ดูดีขึ้นมาเลย สมกับเป็นอิชชิกิคุง ถ้าไม่ได้ขนาดนี้ ชั้นคงไม่กล้าอัพขึ้นโซเชียลแน่”
คุณคาซุมิพูดเวอร์ ๆ ไว้ก่อน
“อิชชิกิคุงเนี่ย คุ้นเคยกับแอปกล้องพวกนี้หรอ?”
คนที่โยงความสนใจเข้ามาหา เป็นคุณมินะนี่เอง
ผู้หญิงคนอื่นอีกสามคนเองก็มองมาทางผมด้วยความใส่ใจ
“ถึงจะไม่คุ้นเคยขนาดนั้นก็เถอะครับ แต่ก็เคยคิดว่าอยากลองทำขึ้นมาเองดู ก็เลยศึกษามานิดหน่อยน่ะครับ”
นั่นเป็นเรื่องจริง
ผมเคยลองทำแอปถ่ายรูปบน Android ดู กะว่าทำรายได้เก็บเป็นเงินค่าขนมได้
แต่ทว่า จำเป็นต้องสะสมประสบการณ์เรื่อง ‘ทำให้ดูน่ารัก ทำให้ดูสวย’ อยู่ประมาณนึง ระดับแอปที่ผมทำก็เลยวางขายยังไม่ได้
“แล้วถ้างั้น ณ ตอนนี้มีแอปไหนแนะนำบ้างล่ะ?”
เป็นคุณยูริที่เอนตัวมาข้างหน้า
“ช่วงก่อนหน้านี้ หลัก ๆ ก็เป็นแอป K สินะครับ ตอนนี้พวกแอป SO, แอป UL, แอป BP, แอป BP ก็เป็นที่เป็นที่นิยมกันใช่ไหมล่ะครับ? ถ้าต้องการแบบเป็นธรรมชาติก็จะเป็น SO. แต่ถ้าชอบแต่งภาพเนี่ย UL, BP ก็เหมาะดีนะครับ”
“ฉันเองใช้ UL อยู่ แต่ว่าฟังก์ชันมันเยอะจังเลย ก็เลยไม่ค่อยรู้ว่าจะใช้ฟังก์ชันอะไรยังไงดีน่ะ”
คุณมานามิถาม
“ผมว่าที่สุดคงเป็นเรื่องสัมผัสผิวนะครับ ถ้าเป็น UL…”
จากนั้นผมก็สาธยาย ‘คุณสมบัติของแอปเซลฟี่ กับจุดเด่น’ ให้พวกผู้หญิงฟังอยู่พักหนึ่ง
นอกจากนั้นยังเสริมเรื่อง ‘เทคนิคการแต่งรูปสำหรับแต่ละสถานการณ์’ เข้าไปเล็กน้อย
เรื่องพวกนี้เดิมทีเป็นเรื่องที่ฟังมาจากรุ่นพี่โทวโกะหมดเลย
ที่ผมไปศึกษามาก็มีพวกแอปกล้องที่ได้รับความนิยมในช่วงนี้ กับบริการที่ต้องเสียเงินทำนองนั้น
โดยเฉพาะเทคนิคการแต่งรูปอะไรเนี่ย ผมไม่มีทางเข้าใจได้เลย
มันก็แค่การขายเรื่องที่ฟังมาจากเพื่อนโมเดลของรุ่นพี่โทวโกะมาทั้งอย่างนั้น
คุณอายากะพูดอย่างประทับใจ
“สุดยอดเลยอะ อิชชิกิคุง คุ้นเคยกับเรื่องพวกนี้ด้วย”