วันต่อมา วันจันทร์
ผมกับรุ่นพี่โทวโกะ อยู่ที่ร้านกาแฟแถวโอชาโนะมิซึ ต่างจากครั้งก่อน ๆ
แน่นอนว่าเพื่อพูดคุยเรื่องแผนการต่อจากนี้
ไหน ๆ ก็ว่า คาเรนกับคาโมกุระเอง วันนี้ก็เหมือนว่าจะนัดพบกันอีกแล้ว
จริง ๆ เลยเจ้าคาเรนนี่ เดี๋ยวนี้เจอคาโมกุระบ่อยยิ่งกว่าที่เจอเราอีกไม่ใช่รึไง?
กับผมนี่อย่างเก่งก็สัปดาห์ละครั้ง แต่ดูเหมือนว่ากับคาโมกุระนี่จะสัปดาห์ครั้งสองครั้งเลยทีเดียว
เอาเถอะ ถึงจะอย่างนั้น พอรู้เข้าว่าทั้งสองคนนั้นกำลังนอกใจกันอยู่ ทางนี้เองก็จะได้นัดเจอคุยกันกับรุ่นพี่โทวโกะได้อย่างสบายใจ
“ฉันรู้เรื่องวันที่ทั้งสองคนจะไปเที่ยวกันแล้วล่ะ”
รุ่นพี่โทวโกะที่จับจองที่นั่ง ยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วพูดด้วยเสียงเบา
“วันที่ 1 ถึงวันที่ 2 พฤศจิกายน ดูเหมือนว่าจะเที่ยวกันสองวันหนึ่งคืนค่ะ”
“ช่วงงานเทศกาลวิทยาลัยสินะครับ”
คิดว่านั้นแหละน่าจะเป็นที่มา
ช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนและหลังนั้นไม่มีตารางเรียน ดังนั้นถึงออกไปเที่ยวได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ
“แต่ว่าทั้ง ๆ ที่คุยกันว่าชมรมจะออกร้านจำลองกัน ทั้งสองคนก็ยังจะไปเที่ยวกันได้เนอะ แบบนี้ทุกคนในชมรมไม่ลือกันหมดเลยหรอครับ?”
“เทตสึยะอยู่ปีสามแล้วนะ นักศึกษาปีสามที่ไม่มางานเทศกาลก็เยอะอยู่ค่ะ ส่วนคุณคาเรนเองถ้าแค่ช่วงสองวันล่ะก็ จะอ้างว่า ‘ไม่ค่อยสบาย’ ก็ดูไม่ผิดปกติขนาดนั้นจริงไหม”
เป็นงั้นเองหรอ?
“แล้วจุดสำคัญก็คือตั้งแต่ตอนนี้ ฉันบอกเทตสึยะไปแล้วว่า ‘ไปเที่ยวก็ได้’ ดังนั้นใกล้ ๆ นี้คุณคาเรนน่าจะติดต่อมาหาเธอ ถึงตอนนั้นเธอเองก็บอกเธอไปดี ๆ ว่า ‘ไปเที่ยวก็ได้’ นะ อย่าซักอย่าถามเด็ดขาด แน่นอนจะต้องไม่พูดอะไรให้น่าสงสัยเลยนะ”
“ไม่ต้องห่วงครับ เข้าใจแล้วครับ”
“แล้วก็พอถึงวันก่อนที่จะไปเที่ยว ฉันจะพูดว่า ‘อย่าไปเที่ยวนะ!’ ค่ะ จากนั้นเทตสึยะก็คงน่าจะบอกยกเลิกนัดไปเที่ยวแน่นอน”
—— งืม ๆ ——
“จากนั้นคุณคาเรนที่โดนบอกเลิกก่อนนัด คิดว่าน่าจะติดต่อมาหาเธอว่า ‘โดนเพื่อนบอกเลิกก่อนนัดมา เรื่องเที่ยวก็เลยไม่ได้ไปแล้ว’ ล่ะ”
“พอทริปเที่ยวนอกใจโดนเลิกแล้วเนี่ย จะติดต่อผมกลับมาทันทีขนาดนั้นเลยหรอครับ?”
พอผมเอ่ยปากถาม รุ่นพี่โทวโกะก็ตอบอย่างมั่นใจ
“จากการคาดการณ์ของฉันให้ 7 ต่อ 3 เลยว่าจะต้องติดต่อมาค่ะ คงจะอยากให้เธอได้รับฟังความไม่พอใจด้วยความโมโหใส่เทตสึยะน่ะ คุณคาเรนด้วยความที่เทตสึยะไม่ให้ความสำคัญกับเธอ คงจะต้องมีความผิดหวังพอตัวทีเดียว เพราะอย่างนั้นก็จะมีความคิดอยากฟังเสียงของแฟนหนุ่มที่ให้ความสำคัญกับเธอมาโดยตลอดให้สบายใจ อยากให้มาปลอบประโลมให้ตัวเธอเองแน่นอน”
—— เจ็บปวดมาเยอะพอตัวเลยน้า ตัวเรา ——
“จากนั้นพอคุณคาเรนติดต่อมา ก็อยากจะให้ปลอบใจเธออย่างอ่อนโยนนะ ต่อให้ส่งมาเป็นข้อความก็ตาม ให้เธอโทรไปด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน ถ้าทำอย่างนั้นล่ะก็ เธอต้องคิดว่า ‘อันที่จริงในคราวคับขัน คนที่คิดถึงตัวเธอมากที่สุดก็คืออิชชิกิคุงล่ะ'”
“เป็นผู้ชายที่พึ่งได้ไปเลยนะครับ ผมเนี่ย”
“ไม่มีทางเลือกแล้วนี่คะ สำหรับคุณคาเรนที่กำลังนอกใจอยู่ล่ะก็ มีแต่ต้องเลือกว่า ‘จะรักคนที่นอกใจด้วยมากกว่าเธอดี’ หรือ ‘ต้องให้มีผู้ชายหลาย ๆ คนมารักเสมอ ๆ ถึงจะพอใจดี’ เท่านั้นแหละ”
ผมที่เงียบปากไป รุ่นพี่โทวโกะก็เอ่ยต่อ
“แต่อย่างงั้นก็ดี ถ้าคุณคาเรนคิดได้ว่า ‘อิชชิกิคุงเนี่ยที่สุดแล้ว!’ เธอก็จะได้รู้สึกวางใจว่า ‘ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ยังไงก็กลับมาหาอิชชิกิคุงได้อยู่ดี’ อย่างเต็มที่เลยล่ะ”
“รู้สึกวางใจได้อย่างเต็มที่หรอครับ?”
“ใช่ แล้วถ้าตอนสุดท้าย เรื่องนั้นมันพังทลายลงไปจะเป็นยังไง?”
เข้าใจละ ‘ในท้ายที่สุด’ ‘เส้นชีวิต’ ที่มีอยู่มันหายไปเสียละก็
มันคงจะช็อคน่าดูชม
“เข้าใจเนอะ? ใด ๆ ก็ตามตอนนี้มุ่งเรื่อง ‘ทำให้คุณคาเรนตกหลุมรัก’ ซะ เธอนะ ยังไงก็ต้องตั้งใจเป็นถึง ‘ผู้พิทักษ์ของคุณคาเรน’ ให้ได้ค่ะ”
—— ผู้พิทักษ์หรอ จริงจังปะเนี่ย ——
ถ้าเป็นอย่างที่รุ่นพี่โทวโกะพูดมาล่ะก็ ผมคงจะได้มองต่ำใส่คาเรนจากใจได้แน่
รู้ตัวอีกที รุ่นพี่โทวโกะก็จ้องจิกใส่ผม
สีหน้าเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง
ผมเงียบแบบว่า “???” อยู่พักหนึ่ง ในที่สุดก็เอ่ยปาก
“ต่อไป… ตาเธอ…”
“ตาผม… หรอครับ?”
เอะ จะให้ผมพูดเรื่องแผนการอะไรงั้นเรอะ?
“นั่นไง สัญญากันไว้หนิ ค่าตอบแทนของฉันน่ะ…”
อ๋อ เรื่องนั้นเองสินะ?
เพราะเพิ่งจะกำลังคุยกันเรื่องแผนจัดการคาโมกุระกับคาเรนอยู่ เลยปุบปับประติดประต่อกันไม่ค่อยติด
แต่ว่า… ไม่มีเรื่องจะพูดให้พอใจได้เลยนี่สิน้า
“อ่า ครับ เรื่อง ‘เด็กผู้หญิงน่ารัก’ สินะครับ”
รุ่นพี่โทวโกะพยักหน้าขึ้นลง
—— เอาล่ะ เริ่มจากตรงไหนดี ——
ว่าแล้วเชียวกรณีแบบนี้ ถ้าพูดเรื่อง ‘องค์ประกอบภายในของผู้หญิง’ ก็น่าจะน่าพอใจมากกว่าเนอะ
“นั่นสินะครับ ก็คงต้องเป็นผู้หญิง ‘จิตใจอ่อนโยน’ นะครับ”
รุ่นพี่โทวโกะมองมาที่ผม ไม่พูดอะไร
“แล้วก็ต้องเป็นตัวของตัวเองก็ดี หรือจะว่าจิตใจเข้มแข็งก็ได้”
รุ่นพี่โทวโกะยังมองมาที่ผม ไม่พูดอะไร
“แต่ว่าถ้ามีหวานให้กันบ้างเป็นครั้งคราวก็ดีต่อใจอยู่ เป็นคนซึนเดเระบ้าง คูเดเระบ้างน่ะครับ”
รุ่นพี่โทวโกะก็ยังคงมองมาที่ผม ไม่พูดอะไรอยู่ดี
“มีความสง่างามอะไรพวกนี้ ก็ดีนะครับ”
ท- ทำไมมันเงียบหน้ากลัวจังเลยแฮะ
“แล้วก็ แม่ศรีเรือนนี่ก็ฮีลใจดีนะครับ”
ชิบหายแล้ว ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว
“ล- แล้วที่สำคัญที่สุดเลยก็ต้อง ‘ไม่นอกใจ'”
“มันก็แหงอยู่แล้ว”
รุ่นพี่โทวโกะพูดเสียงพึมพำ
ชิบแล้ว เคืองอยู่นี่หว่า?
ที่นึกอยู่ในหัวหลังจากนี้ ก็มีแต่เรื่องเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาอย่างเดียวแล้วสินะ
แต่ ณ ตอนนี้ก็ดีกว่าไม่พูดอะไรเลยเนอะ?
“ภาพลักษณ์ก็ถ้าเป็นคนสวยก็จะดีเนอะครับ”
สายตาของรุ่นพี่โทวโกะดูเหมือนจะเย็นลงแล้วแหะ ——
“แล้วก็ถ้าหน้าอกใหญ่เนี่ย ก็เป็นที่นิยมของผู้ชายอยู่นะครับ”
รุ่นพี่โทวโกะกอดแขนปิดหน้าอก
เวรแล้วเรา เหยียบกับระเบิดเข้าแล้วรึเปล่าเนี่ย?
“ทรงผมก็ดูน่าประทับใจดีนะครัย ผมบลอนด์ทวินเทลอะไรแบบนี้…”
รุ่นพี่โทวโกะมองจิกมาทางผม
สายตานั้นเย็นยิ่งกว่าจุดเยือกแข็ง
“……บ้ารึเปล่า?”
รุ่นพี่โทวโกะพูดด้วยความเคือง
“เหะ?”
หรือว่าตัวเรา ผิดหมดเลย?
รุ่นพี่โทวโกะถอนหายใจยาว ๆ
“พอเถอะค่ะ ฟังต่อไปมากกว่านี้ก็ไม่มีความหมายอะไรหรอกเนอะ”
ผมได้แต่เงียบหมดคำพูด
ชิบเป้งแล้ว
ทำให้รุ่นพี่โทวโกะเกลียดเข้าซะแล้วนะเนี่ย
แต่ถ้าต้องให้เอ่ยปากอะไรไปกว่านี้ คงจะมีแต่อะไรที่อิชิดะบอกมาแน่ ๆ
“‘ใจดี’ ‘เป็นตัวของตัวเอง’ ‘สง่างาม’ อะไรเนี่ย ไม่ได้ช่วยอะไรเลยค่ะ แถมยังพูดออกมาอีกว่า ‘คนสวย’ ‘หน้าอก’ แถมปิดท้ายด้วย ‘ผมบลอนด์ทวินเทล’ ด้วย? ไม่เข้าใจเรื่องที่ฉันอยากรู้เลยสักกะนิดเลยสินะเนี่ย”
ผมจมลงไปในกองคำพูดพวกนั้น
ไม่สิ แต่มันก็ช่วยไม่ได้นี่
‘น่ารัก’ ในนิยามของแต่ละคนมันก็ไม่เหมือนกันด้วยสิ
ท่าทางแบบเดียวกัน ทำกับบางคนก็คงจะน่ารัก แต่กับคนอื่นอาจจะน่ารำคาญก็ได้
“ฉันก็คิดนะว่าเป็นเธอคงจะเข้าใจสิ่งที่ฉันต้องการจะสื่อ แล้วก็ออกความเห็นดี ๆ ได้ แต่ดูเหมือนว่าฉันคาดหวังผิดไปสินะคะ”
กะไว้แล้วเรา ต้องโดนบ่นแบบเคือง ๆ แบบนั้น
ตัวเราเองก็พยายามคิดสุดชีวิตแล้วได้เท่านี้แหละ
แต่คำว่า ‘เด็กน่ารัก’ ที่ตัวผมตอนนี้นึกได้ รู้สึกว่าทุกสิ่งอย่างมันก็โยงเข้าหารุ่นพี่โทวโกะไปหมดซะแล้ว
เพราะอย่างนั้นถึงได้พูดถึงแต่คุณสมบัติของความ ‘น่ารัก’ ที่ผู้ชายทั่ว ๆ ไปเขาคิดกันอย่างเดียวแท้ ๆ …
แต่ก็โดนว่ามาอย่างนี้เนี่ย
แต่ว่าตัวเราจะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ไม่ได้
“เดี๋ยวก่อนนะครับ ผมเองยังไม่ได้พูดเรื่อง ‘คุณสมบัติของเด็กน่ารัก’ จากปากของตัวเองยังไม่ออกเลยนะครับ”
รุ่นพี่โทวโกะมองผมอีกรอบ
“ให้โอกาสผมอีกครั้งได้ไหมครับ? ผมจะบอก ‘คุณสมบัติของเด็กผู้หญิงน่ารัก’ ในความคิดของผมเองจากปากของผมเองเลยครับ ถ้าคำตอบนั้นโน้มน้าวในรุ่นพี่โทวโกะไม่ได้แล้ว ก็คงช่วยไม่ได้ละครับ”
รุ่นพี่โทวโกะยังคงเงียบ
“ขอร้องล่ะครับ ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะครับ”
ผมอ้อนวอนอย่างเงียบ ๆ แต่จริงจัง
รุ่นพี่โทวโกะที่มองผมมาพักหนึ่ง ไม่นานก็เอ่ยปากพลางปล่อยแขน
“ก็ได้ค่ะ ให้โอกาสส่งรายงานซ่อมก็ได้ ครั้งนี้ฉันเองก็เร่งไปหน่อยด้วยสินะ อีกครั้งเดียว เธอลองคิดเองด้วยล่ะ”
“ทราบแล้วครับ ขอบคุณมากครับ”
ผมเตรียมใจสำหรับคำนั้นแล้ว
ถึงรุ่นพี่โทวโกะไม่เอ่ยปากพูดก็ตามที คำตอบนั้นจะเป็นที่พอใจหรือไม่นั้น รู้สึกได้เลยว่ามันคือ ‘เงื่อนไขว่าในวันหลังวันชี้ชะตา จะได้เป็นคู่ที่จะได้นอนด้วยกันกับเธอหรือไม่’
เพราะฉะนั้น ไม่ว่ายังไงก็ตาม เราจะต้องตอบคำถามข้อนี้ให้ถูกต้องให้ได้