ความบ้าคลั่งของเอลฟ์ราวกับไฟป่า มันปลุกความดุร้ายที่หลับใหลในจิตใจของออร์คให้ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง
จากอาการตระหนกในช่วงแรก พวกออร์คกลับฟื้นคืนความกล้า
พวกมันลืมความลังเลทุกอย่างจนหมดสิ้น ดวงตาแดงฉานด้วยความโกรธเกรี้ยว พวกมันฟาดดาบและขวานในมือกระหน่ำเข้าใส่ผู้เล่นอย่างไร้ความปรานี
กระนั้น ความคิดที่หมุนวนในใจของหินเทาและเพื่อนนักรบยังคงเหมือนเดิม
พวกเอลฟ์นี่มันบ้าชัด ๆ!
ทำไมถึงกล้าแลกชีวิตต่อชีวิตกันแบบนี้?
สำหรับหินเทา การกระทำเช่นนี้ดูไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิง
เอลฟ์ไม่ได้เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีจำนวนประชากรมากมาย
อัตราการขยายพันธุ์ก็ต่ำเตี้ย!
แต่ละชีวิตของพวกมันควรมีค่าเกินกว่าจะโยนทิ้งไปง่าย ๆ แบบนี้!
พวกมันไม่ใช่มนุษย์ที่จะมีลูกได้เป็นกองทัพซะหน่อย!
ในเผ่าถ้ำหิน ทุกชีวิตต่างเป็นนักรบ ทุกตัวพร้อมรบจนถึงที่สุด และประชากรทั้งหมดก็มีมากกว่าห้าพันตัว!
หากพวกเอลฟ์คิดจะแลกชีวิตต่อชีวิตกับออร์คจริง ๆ ต่อให้พวกมันกลับไปยังยุคเรืองรองที่เคยรุ่งเรืองที่สุดในอดีต ก็ไม่มีทางแลกได้เกินครึ่งของประชากรในเผ่าถ้ำหิน!
แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าหินเทาในตอนนี้ คือกลุ่มเอลฟ์ที่ไม่น่าจะเกินสองสามร้อยตน
แล้วพวกมันคิดจะทำอะไร?
แลกชีวิตกับพวกเรางั้นหรือ?
“ไม่สิ… ฆ่าเท่าไรก็ไม่หมดจริง ๆ…”
หินเทาเริ่มสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ
เขาไม่อาจนับจำนวนเอลฟ์ที่ตนฆ่าได้เลย ในตอนแรกเขาพยายามนับ ทว่าเมื่อถึงสิบเขาก็ล้มเลิก
จำนวนเอลฟ์ที่เขาสังหารในวันนี้ เกินกว่าจำนวนเอลฟ์ที่เขาเคยจับเป็นในชีวิตเสียอีก
สิ่งที่ทำให้เขาหวาดหวั่นที่สุด คือการที่จำนวนเอลฟ์ในสนามรบดูไม่ลดลงเลย
เมื่อมองไปยังสนามรบ ก็ยังคงเห็นเอลฟ์กรูเข้ามาเป็นกลุ่ม ๆ ราวกับพวกมันผุดขึ้นมาจากเงามืด
“ได้ไงกัน? พวกมันผุดมาจากนรกขุมไหนกัน?”
แทบทุกวินาที จะมีเอลฟ์ไร้อาวุธและเกราะโผล่ออกมาจากแนวหลัง วิ่งกรูเข้าใส่ออร์คพร้อมเสียงร้องที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง การโจมตีที่ไม่สนชีวิตนี้ทำให้ออร์คต้องล้มตายไปจำนวนมหาศาล จากความอับจนที่จะตั้งรับได้อย่างเหมาะสม
หินเทามองดูพื้นสนามรบที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือด รอยเปื้อนจากโลหิตของเอลฟ์และออร์คปะปนกันจนแยกไม่ออก
ความมั่นใจในชัยชนะที่เขาเคยมีเริ่มสั่นคลอน
สิ่งที่ทำให้เขาสับสนที่สุดกลับเป็นความลึกลับของเอลฟ์เหล่านั้น
ทุกครั้งที่พวกมันตาย ไม่ว่าร่างจะถูกฟันจนขาดวิ่นแค่ไหน ร่างกายของพวกมันก็จะสลายกลายเป็นอากาศธาตุในเวลาไม่นาน
หินเทาเริ่มสงสัยในสิ่งที่ตนกำลังเผชิญ
หรือข้าจะโดนเวทมนตร์เข้าให้แล้ว?
นี่เป็นเพียงภาพลวงตาใช่ไหม?
แต่ความรู้สึกที่หินเทาได้รับจากดาบของเขา… ความหนักหน่วงที่เกิดจากการฟันลงบนร่างเนื้อ ความแข็งแกร่งของกระดูกที่แตกหักเป็นเสียงดังกรอบแกรบ รวมถึงเลือดอุ่น ๆ ที่กระเซ็นใส่ใบหน้าของเขา ล้วนเป็นสิ่งที่สมจริงเกินกว่าจะเป็นเพียงภาพลวงตา
ทุกอย่างเหล่านี้บอกเขาอย่างชัดเจน ศัตรูที่เขาต่อสู้อยู่เป็นของจริง!
มันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเอลฟ์เหล่านี้กันแน่?
ความหงุดหงิดค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นในใจหินเทา ราวกับเปลวเพลิงที่กำลังลามเลียขึ้นมาเรื่อย ๆ
เหล่านักรบออร์คที่เคยต่อสู้เคียงข้างเขา ต่างล้มลงทีละคน และถูกแทนที่ด้วยนักรบกลุ่มใหม่
เพื่อนร่วมรบที่เคยบุกเข้าไปในแนวหน้าพร้อมกัน ต่างถูกฆ่าตายด้วยการโจมตีอันบ้าเลือดของเหล่าเอลฟ์
แม้ความโกรธจะแผ่ซ่านอยู่ในหัวใจ แต่ความมั่นใจที่เคยมีกลับเลือนหาย ถูกแทนที่ด้วยความสงสัยที่ลึกล้ำขึ้นทุกขณะ
เพราะมันไม่ใช่แค่เอลฟ์ที่สลายหายไป…
ร่างของพวกออร์คเองก็สลายตัวในแบบที่ไม่ต่างกัน!
ทุกครั้งที่ออร์คถูกฆ่า ร่างของมันจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผิวหนังเหี่ยวย่น ดวงตาขุ่นมัว และในที่สุด ร่างของมันก็จะสลายกลายเป็นเถ้าถ่าน
สนามรบที่เคยเต็มไปด้วยซากศพกลับกลายเป็นเพียงพื้นที่โล่งเปื้อนคราบเลือดและอาวุธที่หล่นกระจัดกระจาย
ความคิดนี้ทำให้หินเทาเข้าใจบางอย่าง
เขาเริ่มตระหนักได้ว่าเหตุใดมหาคีรี หัวหน้านักบวชของเผ่าถ้ำหิน จึงระมัดระวังนัก
เอลฟ์พวกนี้… มีบางอย่างที่ไม่ปกติ!
มันประหลาดเกินไป!
ความคิดของหินเทาถูกตอกย้ำด้วยเสียงก้องกังวานจากมหาคีรีที่ดังสะท้อนมาจากแนวหลัง
“บุกเข้าไป! ทำลายวงเวทเคลื่อนย้ายของพวกมัน! ถ้าไม่ทำ พวกมันจะบุกมาไม่สิ้นสุด!”
วงเวทเคลื่อนย้าย…
พวกมันกำลังถูกส่งตัวมาเรื่อย ๆ!
สิ่งที่เป็นต้นเหตุของความคลุ้มคลั่งได้ถูกเปิดเผยในที่สุด
ในวินาทีนี้ หินเทาได้เข้าใจถึงสาเหตุที่พวกเอลฟ์ดูเหมือนจะไม่มีวันฆ่าหมด
แต่ถึงอย่างนั้น คำถามชุดใหม่กลับผุดขึ้นมาในใจหินเทา
วงเวทนี้เชื่อมต่อกับที่ไหน?
ทำไมถึงได้มีเอลฟ์จำนวนมากขนาดนี้?
พวกมันรวบรวมเอลฟ์จากทั่วทั้งทวีปมาไว้ที่นี่เลยหรือ?
แล้วทำไมศพของพวกมันถึงหายไป…
ทำไมศพของพวกเราเองก็หายไปด้วย?
ขณะที่เขากำลังจมอยู่ในความคิด ภาพที่ทำให้เขาชะงักอีกครั้งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า
เอลฟ์อีกหลายสิบตนพุ่งออกมาจากแนวหลังอีกครั้ง พวกมันไร้อาวุธและเกราะดังเดิม ร่างกายที่แทบเปลือยเปล่าเหล่านั้นพุ่งเข้ามาปะทะ ราวกับไม่สนความตายที่กำลังรออยู่
แต่สิ่งที่ทำให้หินเทารู้สึกเหมือนหัวใจหยุดเต้น คือเอลฟ์ตนหนึ่งที่วิ่งนำหน้าอยู่ในกลุ่มนั้น
“เป็นไปไม่ได้!”
คำพูดนั้นหลุดออกจากปากเขาโดยไม่รู้ตัว
สายตาของเขาจับจ้องไปที่เอลฟ์ตนนั้น ด้วยความตกใจที่ยากจะปิดบัง
เขาจำเอลฟ์ตนนั้นได้อย่างแม่นยำ เอลฟ์ตนหนึ่งที่เขาเคยฆ่าไปแล้ว!
เหยื่อที่เขาเคยสังหารด้วยมือของตนเอง
“นี่มันอะไรกัน? พวกมัน… เป็นอมตะงั้นหรือ?”
ไม่ใช่แค่เพราะตนเป็นผู้สังหาร แต่หินเทายังจำได้ดีถึงการต่อสู้ที่ต้องออกแรงจนถึงขีดสุดในครั้งนั้น
เขาใช้ดาบผ่าร่างของมันจนขาดเป็นสองส่วน เครื่องในร้อนระอุของมันไหลทะลักออกมากองอยู่เบื้องหน้า
สิ่งที่ทำให้ภาพนั้นฝังลึกในความทรงจำของเขา…
ก่อนที่จะสิ้นใจ เอลฟ์ตัวนั้นยังคงยิ้มเยาะ พร้อมกับทำหน้าตาล้อเลียนใส่เขาอย่างท้าทาย!
ไม่เพียงเท่านั้น มันยังลากร่างท่อนบนที่เละเทะของตัวเองขึ้นมา ชูนิ้วกลางใส่เขาด้วยสีหน้าเยาะเย้ย ก่อนจะหมดลมหายใจ!
ถึงแม้หินเทาจะไม่รู้ว่าสัญลักษณ์นั้นหมายถึงอะไร แต่แววตาอันเต็มไปด้วยการเย้ยหยันกลับฝังแน่นอยู่ในจิตใจของเขา
เอลฟ์ตัวนั้นถึงกับล้อเขา ทั้งที่กำลังจะตาย!
และตอนนี้… มันกลับมามีชีวิตอีกครั้ง และยังคงกระโดดโลดเต้นราวกับไม่มีบาดแผลใด ๆ!
“องค์พระบิดา! นี่มันอะไรกันแน่?!”
คำรามแห่งความไม่เข้าใจหลุดออกมาจากปากของเขา
มันตายไปแล้วนี่!
หรือว่าพวกมันเป็นอมตะ?
และหากคำตอบคือใช่…
การต่อสู้ครั้งนี้ของพวกเรามีความหมายอะไรอีกล่ะ?
สีหน้าของหินเทาค่อย ๆ ว่างเปล่าลง ขณะที่ความหวาดกลัวเริ่มแทรกซึมเข้ามา
ตรงกันข้ามกับฝ่ายตรงข้าม… เอลฟ์ที่เขาเคยฆ่าหัวเราะดังลั่น พร้อมส่งเสียงยั่วเย้า
“ฮ่า ๆ คิดไม่ถึงล่ะสิ? พ่อกลับมาเล่นเอ็งแล้วโว้ย!”
มันไม่ได้โจมตีเขาในทันที แต่กลับหันไปตะโกนเรียก
“อัล! ตรงนี้มีนักรบเหล็กขั้นสูงด้วยนะ พี่ขอแรงหน่อย!”
การส่งเสียงตะโกนเช่นนี้ในระหว่างการต่อสู้ ไม่ต่างอะไรกับการเปิดโอกาสให้ศัตรูโจมตี หินเทารู้สึกโกรธจนตัวสั่น
“ตาย!”
เขาตะโกนก้อง พร้อมกับเหวี่ยงดาบลงไปอีกครั้ง
“ในเมื่อครั้งเดียวไม่พอ งั้นข้าจะฆ่าเจ้าอีกครั้ง!”
แต่ก่อนที่ดาบของเขาจะถึงเป้าหมาย เงาร่างหนึ่งพลันปรากฏขึ้นด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง
หินเทารู้สึกถึงความเจ็บปวดแหลมคมที่แล่นผ่านข้อมือ ตามมาด้วยแรงบีบรัดที่หน้าอก
เมื่อเขาก้มมองลงไป มือทั้งสองข้างของเขาถูกฟันขาด ร่วงลงสู่พื้น
รอยแทงลึกอยู่ที่กลางอก เลือดสดพุ่งกระฉูดออกมาไม่หยุด
ความรู้สึกที่พลังชีวิตของเขากำลังรั่วไหลออกจากร่างกาย ทำให้เขาแทบล้มทั้งยืน
ในตอนนั้นเอง เขาได้เห็นใบหน้าของผู้ที่โจมตีเขา
มันคือเอลฟ์หนุ่มร่างผอมบาง ผู้มีเส้นผมสีเงินเป็นประกาย ดวงตาสีฟ้าเยือกเย็น
ใบหน้าของมันแม้จะดูไร้เดียงสา แต่กลับแฝงด้วยความเย็นชาและมุ่งมั่นอย่างน่ากลัว
เด็กหนุ่มเพียงจ้องเขาด้วยสายตาเย็นยะเยือก ก่อนจะหายลับไปในสมรภูมิอย่างไร้ร่องรอย
“ระดับ… เงิน!”
หินเทาพึมพำด้วยเสียงที่สั่นสะท้าน
พวกเอลฟ์เหล่านี้ยังซ่อนนักรบระดับเงินเอาไว้!
พวกมัน… กลายเป็นพวกเจ้าเล่ห์ขนาดนี้ได้ไง?
เขาพยายามจะส่งเสียงตะโกนเตือนเพื่อนร่วมรบ แต่เดมาเซียที่เฝ้าสังเกตอยู่แล้วก็สบโอกาสทันที
นักรบหัวแดงพุ่งตัวเข้ามา คว้าเอาหยิบดาบโค้งของหินเทาที่หล่นอยู่ แล้วฟาดลงไปอย่างสะใจ
ในเสี้ยววินาทีสุดท้าย หินเทารู้สึกได้ถึงโลกรอบตัวที่หมุนคว้าง ก่อนที่ทุกสิ่งจะดับวูบ
ในวินาทีนั้นเอง เขาได้ยินเสียงตะโกนด้วยความตื่นเต้นจากเดมาเซีย
“ฮ่า ๆ ๆ ตูได้ลาสต์มินิบอสตัวแรกโว้ย! วู้ฮูระดับเหล็กขั้นสูง! กำไรชัด ๆ!”
และหลังจากนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็กลายเป็นความมืดมิด…
หินเทาไม่ใช่เหยื่อรายแรกของความบ้าคลั่งนี้…
“อย่าแตกทัพ! อย่าถอย! จงยืนหยัดไว้!”
เสียงตะโกนอันกึกก้องของมหาคีรีสะท้อนผ่านความโกลาหลในสมรภูมิ ราวกับคำสั่งสุดท้ายที่เขาหวังให้ปลุกเร้าขวัญกำลังใจของเหล่านักรบ แต่กลับไร้ผลใด ๆ
ความหวาดกลัวที่เกาะกินหัวใจของออร์ค ทำให้พวกมันโยนอาวุธและเกราะทิ้งไว้เบื้องหลัง ทั้งที่เมื่อครู่พวกมันยังตะลุยเข้าใส่ศัตรูอย่างไม่ลดละ
แต่ความน่าสะพรึงกลัวของศัตรูที่ไม่มีวันตายกลับเปลี่ยนพวกมันให้เป็นกองทัพที่แตกกระจาย
ในอีกฟากหนึ่ง เสียงหัวเราะและตะโกนอันฮึกเหิมของเหล่าผู้เล่นดังขึ้นแทนที่
“อูลาาาา!”
“ลุยเลย!”
“เก็บมันให้หมด!”
พวกเขากู่ร้องด้วยความกระหาย ราวกับนักล่าที่ไล่ต้อนเหยื่อของตนให้จนมุม
การไล่ล่าดำเนินไปดั่งพายุโหมกระหน่ำ
ออร์คอีกนับสิบถูกสังหารอย่างไร้ความปรานี เลือดของพวกมันสาดกระเซ็นย้อมดินแดนแห่งสงครามให้กลายเป็นสีแดงฉาน
จนในที่สุด พวกออร์คที่เหลือรอดต่างล่าถอยจนถึงเขตหมู่บ้านของตน
ทางฝั่งเอลฟ์กระหายเลือด เมื่อเห็นว่าออร์คถอยจนถึงจุดตั้งมั่นของพวกมัน พวกเขาก็หยุดการไล่ล่าไว้ชั่วคราว
“พอแค่นี้ก่อนครับ! ถ้าดันลึกเกินไปก็เสี่ยงตายกันเปล่า ๆ!”
คำพูดของเอลฟ์ตนหนึ่งทำให้กองทัพหยุดนิ่ง
บนเนินเขาที่เคยดำสนิท บัดนี้ถูกย้อมด้วยสีแดงคล้ำของเลือดที่แผ่ขยายไปทั่ว
ผลจากการต่อสู้ครั้งนี้ ออร์คกว่าสองร้อยตัวได้ล้มตายไป ในขณะที่ฝั่งผู้เล่นเองก็เสียหายหนักไม่แพ้กัน
เมื่อพิจารณาในเชิงผลประโยชน์ การต่อสู้นี้ยังถือว่าขาดทุน
แม้พวกเขาจะได้เปรียบอย่างชัดเจน และมีอัลคอยสนับสนุนจากแนวหลัง แต่ผู้เล่นแต่ละคนโดยเฉลี่ยต้องแลกชีวิตของตนเองถึงสามครั้งเพื่อสังหารออร์คหนึ่งตัว
แต่ถึงอย่างนั้น…
ความสูญเสียไม่ได้ดับไฟในหัวใจของพวกเขา
สายตาของผู้เล่นทุกคนจับจ้องไปยังสิ่งที่เหลืออยู่บนสนามรบ
อาวุธและเกราะของออร์คที่หล่นกระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น
สิ่งเหล่านี้มีคุณค่าเกินกว่าจะปล่อยทิ้งไป!
“หยิบก่อนได้ก่อนเว้ย!”
เสียงตะโกนอันตื่นเต้นทำให้ผู้เล่นทุกคนพุ่งตัวเข้ากอบโกยสิ่งที่หาได้ ราวกับฝูงตั๊กแตนที่บุกโจมตีไร่นา
พวกเขาค้นหาทุกซอกทุกมุม เก็บทุกสิ่งที่สามารถสร้างประโยชน์ได้อย่างไม่ลังเล
จากเบื้องล่างเนินเขา มหาคีรีผู้เป็นหัวหน้านักบวชของออร์คเฝ้ามองทุกสิ่งด้วยความเงียบงัน
ในแววตาของเขามีเพียงความเหน็ดเหนื่อยและสิ้นหวังสะท้อนออกมา
หัวหน้านักบวชชรา ไม่กล่าวอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว…
…
…
~~ ~~ ❀ ~~ ~~
T/N: หินเทาน่าจะมีเรื่องในใจอยากพูดเยอะแยะ แต่ไม่มีโอกาสพูด ส่วนมหาคีรีเองเงียบเพราะ… พูดไปก็ไม่ช่วยอะไรแล้วค่ะ (…)
…
การแปลพาร์ทสงครามนี่ เข้มข้นจนลุกไม่ขึ้นจริง ๆ ค่ะ คาดว่าน่าจะใช้เวลาอีก 2-3 วันในการแปลให้จบ แล้วเจอกันในตอนถัดไปนะคะ! ?✨
…
หลังจากผ่านมาเกือบสิบตอน โนเอลเริ่มจับทางได้แล้วค่ะ เทคนิคที่ใช้ตอนนี้คือ:
1. สแกนเนื้อหาทั้งตอน ทำความเข้าใจโทนและข้อมูล เช็ค factsheet และกำหนดชื่อเฉพาะ (ถ้ามีชื่อใหม่)
2. แปลเอาเนื้อหาก่อน (แบบตั้งใจเก็บให้ครบที่สุด ไม่ตัด ไม่เติม ไม่ข้าม ไม่เรียงใหม่)
3. ตรวจทานและแก้ไขข้อมูล
4. ปรับภาษาและประโยคให้สอดคล้องกับบริบท (ปรับและเติมประมาณนึง เรียงใหม่ลำดับบรรทัดใหม่ ถ้าจำเป็น)
กระบวนการนี้ช่วยลดจุดผิดพลาดลงไปได้เยอะมาก และช่วยปรับรูปแบบภาษาให้มีความต่อเนื่อง ต่างจาก 9 ตอนที่แล้วของโนเอลอย่างชัดเจนค่ะ!
…
ระยะเวลาแปลต่อตอน กี่สิบนาทีเหรอคะ?
ความ~ ลับ~ ?
…
อ่านแปลไทยได้ที่ https://www.nekopost.net/novel/12413
ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ
Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432
~~ ~~ ❀ ~~ ~~