[นิยายแปล] Game of the World Tree 107 บุตรแห่งเทพของอูลร์

ตอนที่ 107 บุตรแห่งเทพของอูลร์

     โบราณสถานแห่งใหม่ – ริเวนเดลล์!!

     แม้เหล่าผู้เล่นจะไม่ได้รับภารกิจหลักใด ๆ ที่เกี่ยวกับโบราณสถานแห่งนี้ แต่เพียงแค่ข้อมูลจากคำบอกเล่าของการ์ลุส ก็มากพอที่จะทำให้พวกเขาเข้าสู่ยุคสมัยแห่งนักสำรวจ…

     และยิ่งเหล่าผู้เล่นสนทนากับ NPC มากขึ้นเท่าไร ข้อมูลเกี่ยวกับริเวนเดลล์ก็ถูกเผยออกมามากยิ่งขึ้นเท่านั้น

     นครแห่งปาฏิหาริย์ สายแร่ที่ใหญ่ที่สุดในซากัส เมืองหลวงแห่งงานฝีมือในตำนาน…

     สถานะของริเวนเดลล์นั้น จะพิจารณาอย่างไรก็ไม่มีทางยิ่งหย่อนไปกว่านครศักดิ์สิทธิ์ ฟลอเรนซ์!

     ซึ่งแท้จริงแล้ว ริเวนเดลล์ ฟลอเรนซ์ และเมืองหลวงของเอลฟ์ คือเมืองที่มีชื่อเสียงที่สุดทั้งสาม ในอาณาจักรเอลฟ์ 

     ซึ่งผู้เล่นทุกคนล้วนทราบดี ว่าข้อมูลใด ๆ ก็ตามที่ถูกใส่ไว้ในเกม ย่อมมีประโยชน์ และมีวัตถุประสงค์บางอย่างอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน!

     เหล่าผู้เล่นต่างเชื่ออย่างสุดใจ ว่าข้อมูลเกี่ยวกับริเวนเดลล์เหล่านี้ ต้องนำไปสู่ภารกิจลับชิ้นใหม่!

     หรือถ้าโชคดี นี่อาจจะเกี่ยวโยงกับภารกิจหลักบทหน้า!

     ผู้เล่นจำนวนมหาศาลทะยอยสร้างทีมสำรวจขึ้นมา ไม่ว่าจะด้วยความสมัครใจของตน หรือการได้รับคำสั่งจากสมาคมก็ตาม พวกเขาต่างพร้อมใจกันออกเดินทางตามหาสถานที่แห่งนี้

     เพราะโบราณสถานในพจนานุกรมของผู้เล่น มีความหมายเดียวกับคำว่าขุมทรัพย์!

     ซากปรักหักพังของริเวนเดลล์ ยังเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างทวีปซากัสและโลกใต้พิภพ อันอุดมไปด้วยกลุ่มก้อนค่าประสบการณ์เดินได้จำนวนมหาศาล!

     และถ้ากล่าวถึงความคาดหวังของเกมเมอร์ อะไรคือสิ่งที่พวกเขาต้องการจากเกมมากที่สุด?

     แน่นอนว่าคำตอบต้องเป็น การผจญภัย!

     การเคลื่อนไหวของผู้เล่น ส่งผลไปถึงเหล่า NPC

     เอลฟ์หนุ่มสาวจำนวนมากจากเผ่าเฟลมต่างสนใจในเมืองนี้เช่นเดียวกับเหล่าผู้ถูกเลือก เอลฟ์บางตนถึงกับต้องการร่วมเดินทางไปกับผู้เล่น ซึ่งแน่นอนว่าผู้เฒ่าต้องไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง…

     แถมเหล่าเอลฟ์วัยคะนองเหล่านั้นยังถูกดุอีกขนานใหญ่

     “ริเวนเดลล์มันมีปีศาจยั้วเยี้ยไปหมด! พวกผู้ถูกเลือกน่ะเป็นอมตะ แล้วเจ้าล่ะ?!

     “อายุปาเข้าไปจะ 200 ขวบแล้ว หัดทำตัวเป็นผู้ใหญ่หน่อยได้ไหม?!”

     “โตแต่ตัวรึไงฮึ สมองของเจ้าหายไปไหนกันหมด หืม? คิดว่าตัวเองยังเป็นเด็กอายุไม่ถึงร้อยปีหรือไง?!”

     “หัดดูท่านบุตรแห่งเทพเป็นตัวอย่างเสียบ้าง! ท่านอัลเพิ่งจะแค่ 80 ขวบ แต่มีไหวพริบขนาดนั้น แถมยังเป็นผู้ที่พระมารดาทรงโปรด! แล้วเจ้าล่ะเอาแต่ทำอะไรอยู่?!”

     “ถ้ายังขืนทำตัวแบบนี้อีก ข้าจะส่งเจ้าไปเป็นศิษย์ของการ์ลุส!”

     สุดท้ายแล้ว บรรดาหนุ่มสาวช่างฝันเหล่านั้นจึงจำยอมถอดใจ และช่วยผู้ใหญ่ซ่อมแซมบ้านเรือนในฟลอเรนซ์ต่อไปอย่างหดหู่…

     การเคลื่อนไหวของเหล่าผู้เล่น ยังดึงดูดความสนใจของอีฟเช่นกัน

     ระบบประมวลผลอันเป็นเอกลักษณ์ของเทพธิดา มอบข้อมูลปัจจุบันให้อีฟอย่างทะลุปรุโปร่งในเวลาเพียงเสี้ยววินาที 

     “ริเวนเดลล์?”

     ความตื่นเต้นผุดขึ้นมาในหัวใจของเธอ

     “เมืองที่ถูกทิ้งร้าง”

     ในความทรงจำที่อีฟได้รับมาจากต้นไม้โลกนั้น มีข้อมูลเกี่ยวกับเมืองแห่งนี้อยู่ประมาณหนึ่ง

     ภาพที่ปรากฏขึ้นในความคิดของเธอ คือภาพเมืองขนาดใหญ่ที่ถูกคลื่นพลังขนาดยักษ์ผ่ากลาง ด้วยคมดาบของเทพในยุคสงคราม

     การลงดาบของเทพครั้งนั้น ทำให้เกิดหุบเหวลึกที่แยกระหว่างเทือกเขาทมิฬและป่าเอลฟ์ขึ้นมา

     “แค่มีพวกตำรากับสมบัติก็นับเป็นโชคแล้ว แต่ถ้ามันเชื่อมกับโลกใต้พิภพจริง ๆ เค้าก็น่าจะได้แมพแจ่ม ๆ แมพใหม่มาใส่ในเกมด้วยล่ะ…”

     “และจากข้อมูลที่เค้าได้รับเมื่อกี้ โลกใต้พิภพมันห่างไกลจากคำว่าโซนสงบ ถ้าจะให้ผู้เล่นไปอาละวาดกันตามใจก็ดูเหมาะดี”

     อีฟสนใจพื้นที่ดังกล่าวขึ้นมา

     แต่แทนที่จะสร้างภารกิจที่เกี่ยวข้อง เธอกลับเลือกจับประเด็นนี้ไปใส่ไว้ในหมวด ‘รับรู้แล้ว’ และเลิกใส่ใจสถานการณ์ในฝั่งผู้เล่นทันที

     เพราะสิ่งที่เธอต้องมุ่งเน้นในปัจจุบัน ยังคงเป็นการจัดการพวกออร์ค และการฟื้นฟูนครศักดิ์สิทธิ์ ฟลอเรนซ์

     ดังนั้น ฐานที่มั่นของพวกออร์คในบริเวณป่าเอลฟ์ จะต้องถูกถอนรากถอนโคนโดยเร็วที่สุด!

     ~ ❀ ~

     ด้วยพระบัญชาจากเทพธิดา บุตรแห่งเทพอัล โอ๊กการ์ดเบอร์เซิร์กเกอร์ และนักบุญแห่งธรรมขาติอลิซ จึงสร้างภารกิจตามหาฐานที่มั่นของเหล่าออร์คขึ้นมา

     เอลฟ์จากเผ่าเฟลมพอจะทราบตำแหน่งคร่าว ๆ ของฐานที่มั่น แต่ไม่สามารถระบุพิกัดให้ชัดเจนได้ 

     ส่วนมังกรดำไมเรลน่าจะทราบตำแหน่งที่แน่ชัด แต่มันไม่ยอมให้ความร่วมมือ

     อีฟหลีกเลี่ยงการใช้กำลังบังคับขู่เข็ญมัน เพราะจุดประสงค์ขอเธอคือการเอาชนะใจมังกรดำให้เร็วที่สุด

     อย่างไรก็ตาม เธอคาดว่าผู้เล่นน่าจะพบฐานที่มั่นของออร์คในเวลาไม่นาน เพราะบริเวณดังกล่าวมีพื้นที่ไม่มากนัก 

     ส่วนทางฝั่งริเวนเดลล์…

     ภูมิประเทศรอบข้างหุบเหวนรกมีความสลับซับซ้อนและทุรกันดารเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ บริเวณดังกล่าวยังเต็มไปด้วยสัตว์อสูรระดับสูงจำนวนมาก 

     อีฟประมาณไว้ว่าถ้าเหล่าผู้เล่นเริ่มค้นหาตั้งแต่วันนี้ ถ้าหากโชคเข้าข้าง พวกเขาก็อาจจะพบโบราณสถานเมืองริเวนเดลล์ได้ภายในหนึ่งเดือน

     เพราะถึงอย่างไร อัตราส่วนของผู้เล่นที่เข้าร่วมปฏิบัติการค้นหาเมืองใหม่ก็ยังเป็นส่วนน้อย ซ้ำร้ายในจำนวนนั้น ยังมีผู้ที่เข้าร่วมภารกิจค้นหาด้วยอารมณ์ชั่ววูบมากกว่าครึ่ง แน่นอนว่าผู้เล่นเหล่านั้นต่างล้มเลิกความตั้งใจไปในเวลาอันสั้น

     “ยังไง ๆ เรื่องหลักตอนนี้ก็คงไม่พ้นปัญหาจากออร์ค กับการซ่อมเมืองฟลอเรนซ์ อืม… ยังไงก็ต้องรีบจัดการเรื่องเผ่าเฟลมให้เรียบร้อยก่อน งั้นเรื่องริเวนเดลล์ก็ไว้ก่อนดีกว่า…”

     “สมมติว่าถ้าผู้เล่นมีดวงจะเจอริเวนเดลล์ขึ้นมาจริง ๆ เค้าก็ค่อยเนียนว่ามันเป็นเควสลับแล้วกันเนอะ”

     ~~ ❀ ~~

     เผ่าถ้ำหิน บริเวณเทือกเขาทมิฬ

     มหาคีรี หัวหน้านักบวชเผ่าออร์คกำลังพบกับมรสุมชีวิต 

     มันนอนไม่หลับมาร่วมสามวันสามคืนเต็ม ๆ 

     สาเหตุเดียวของเรื่องนี้ คือการที่กลุ่มยอดฝีมือประจำเผ่า ผู้มุ่งหน้าไปจัดการพวกเอลฟ์ตามคำสั่งของมัน ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย…

     ทหารกล้าเผ่าถ้ำหินกว่า 300 นายได้กรีฑาทัพออกไป แต่กลับไม่มีพลทหารหน้าไหนหวนกลับเผ่ามาแม้แต่ตัวเดียว!

     การหายตัวไปเป็นหมู่นี้สร้างความไม่พอใจ และความตื่นตระหนกต่อสมาชิกบางส่วนในเผ่าถ้ำหิน

     นอกจากนั้น มังกรดำไมเรลที่ร่วมเดินทัพไปกับเหล่านักรบ ก็ยังหายตัวไปเช่นกัน…

     มหาคีรีได้ลองส่งลูกสมุนไปดูลาดเลาที่ซากปรักหักพังบนยอดเขา และพบว่าเวทมนตร์คุ้มกันที่ไมเรลทิ้งไว้เพื่อป้องกันรังยังคงมีผลอยู่

     แถมบรรดาเพชรพลอยและทองคำกองพะเนินของมังกรดำ ก็ยังคงสะท้อนแสงตะวัน เปล่งประกายระยิบระยับออกมาผ่านหน้าต่างของปราสาท…

     มังกรทุกตัวล้วนคลั่งไคล้ขุมทรัพย์ หากพวกมันตัดสินใจย้ายรังขึ้นมา สมบัติทั้งหลายก็ต้องถูกเคลื่อนย้ายไปด้วย!

     ทุก ๆ ปัจจัยต่างชี้ชัดว่าไมเรลก็คงพบเข้ากับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน ส่งผลให้มันไม่สามารถกลับมาที่รังได้…

     หรือในกรณีที่เลวร้ายที่สุด มังกรดำอาจจะถูกสังหารไปแล้ว

     เค้าลางแห่งหายนะเหล่านี้ ก่อพายุความหวาดวิตกลูกใหญ่ขึ้นมาในหัวใจของหัวหน้านักบวชชรา

     กำลังรบที่เผ่าออร์คได้ส่งไป ประกอบด้วยทหารกล้าจำนวนมากกว่าสามร้อยนาย และมังกรดำระดับเงินอีกหนึ่งตัว…

     พวกเขาทั้งหมดล้วนหายตัวไป ราวกับระเหิดไปในอากาศ!

     มหาคีรีได้ส่งม้าเร็วไปสืบข่าว แต่ข้อมูลที่มันได้รับ กลับมีเพียงแค่ร่องรอยของการต่อสู้ในบริเวณชายป่าเอลฟ์ กับคราบเลือดในบริเวณดังกล่าวเท่านั้น

     หน่วยสืบข่าวของมัน ไม่พบร่างของผู้เสียชีวิตแม้แต่รายเดียว…

     หากบรรยายตามเนื้อความที่หัวหน้านักบวชชราได้รับนั้น อย่าว่าแต่ร่างของนักรบเลย เพราะแค่พยานหลักฐานที่น่าจะหลงเหลืออยู่อย่างซากอาวุธและชุดเกราะ ก็ยังไม่ปรากฏให้เห็นแม้แต่ชิ้นเดียว!

     มหาคีรีหวั่นใจเป็นอย่างยิ่ง มันไม่รู้ว่าอะไรคือต้นเหตุที่ทำให้เหล่านักรบหายตัวไป

     มันทั้งหวาดหวั่นทั้งสงสัย ว่าสิ่งใดในป่าเอลฟ์ที่สามารถสร้างความเสียหายให้กับเผ่าของมันได้ถึงขนาดนี้…

     ยิ่งมันพยายามเค้นสมองหาคำตอบมากเท่าไร มันก็ยิ่งรู้สึกหวาดกลัวมากยิ่งขึ้นเท่านั้น

     สำหรับมหาคีรี ป่าเอลฟ์ในยามนี้ไม่ต่างอะไรกับอสูรกายขนาดมโหฬารที่น่าสยดสยอง ที่รอกลืนกินเหยื่อผู้โชคร้ายผู้ย่างกรายเข้าไปในป่า

     “ข้าไม่เข้าใจ… มันเป็นปีศาจจากนรกขุมไหนกัน? หรือว่า… มันจะเป็นยอดฝีมือระดับวีรชนที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าเอลฟ์?”

     “ดีไม่ดีมันอาจจะเป็นบุตรแห่งเทพของเทพีแห่งความตาย…”

     หัวหน้านักบวชเผ่าออร์คพลันรู้สึกขึ้นมา ว่าภัยคุกคามอันใหญ่หลวงกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้หมู่บ้านของเผ่าถ้ำหิน หัวใจของหัวหน้านักบวชชรากำลังร้องเตือน ว่ามันอาจจะต้องพาเผ่าของตนอพยพออกจากพื้นที่นี้โดยเร็ว

     ขุมสมบัติที่มังกรดำไมเรลรวบรวมไว้ในปราสาท น่าจะเพียงพอต่อการใช้เป็นเงินทุน เพื่อให้เหล่าสมาชิกเผ่าถ้ำหินอพยพย้ายถิ่นไปสู่สถานที่อื่นได้

     แน่นอนว่าถ้าไมเรลยังอยู่ในปราสาทหลังนั้น มหาคีรีก็คงไม่กล้าแตะต้องสมบัติของมังกรดำ

     แต่ในปัจจุบัน มหาคีรีค่อนข้างมั่นใจ ว่ามังกรดำคงพบเข้ากับเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่าง 

     อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่เผ่าถ้ำหินได้ลงหลักปักฐานกันในบริเวณนี้ตั้งแต่ในอดีต มาจากความประสงค์ของอูลร์ เทพแห่งเหมันตฤดูและการล่า

     ดังนั้น ถ้ามหาคีรีไม่ได้รับวิวรณ์จากอูลร์ มันก็คงไม่กล้าตัดสินใจอพยพเผ่าของตนออกไปได้ง่าย ๆ …

     ด้วยเหตุนี้ มหาคีรีจึงพร่ำภาวนาต่อเทพประจำเผ่า หวังว่าสักวันจะได้รับอนุญาต ให้พาเผ่าถ้ำหินอพยพออกไปให้ไกลจากป่าเอลฟ์ แต่นับเป็นโชคร้ายที่มันไม่ได้รับการตอบรับใด ๆ จากเทพแห่งเหมันตฤดูและการล่าเลยแม้แต่ครั้งเดียว

     “เหตุใด… พระบิดา… ถึงไม่ตอบรับคำภาวนาของข้า?”

     ภัยคุกคามจากป่าเอลฟ์ และการถูกเพิกเฉยจากเทพที่ตนนับถือ ทำให้มหาคีรีรู้สึกหวาดวิตกมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ

     ความเครียดและแรงกดดัน ทำให้มหาคีรีเกิดความลังเลว่าตนควรจะลองเสี่ยงวาดวงเวทสังเวยขึ้นมา เพื่อใช้ติดต่อพระบิดาดีหรือไม่ 

     ทว่า ในระหว่างที่มันกำลังไคร่ครวญอยู่นั้น นักบวชออร์คตัวหนึ่งก็วิ่งถลาเข้ามาในถ้ำบรรพชนพร้อมกับเสียงตะโกนด้วยความตระหนก

     “ท่านหัวหน้านักบวช! ท่านมหาคีรี!”

     มันเรียกหามหาคีรีด้วยน้ำเสียงที่ขาดช่วงด้วยความเหน็ดเหนื่อย

     มหาคีรีขมวดคิ้ว

     “เกิดอะไรขึ้น?”

     นักบวชออร์คตัวนั้นโค้งคำนับครั้งหนึ่ง ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยเสียงที่ยังคงแฝงความเหน็ดเหนื่อย

     “มียอดฝีมือระดับสูง มาเยือนเผ่าของเราขอรับ!”

     ยอดฝีมือระดับสูง?

     ดวงตาของมหาคีรีหรี่ลงเล็กน้อย

     “ท่านผู้นั้น บอกว่าเขาคือบุตรแห่งเทพขององค์พระบิดา!”

     เสียงของออร์คตัวนั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

     …

     …

~~ ~~ ❀ ~~ ~~

     T/N: ตอนนี้จะเริ่มปูโทนซีเรียสขึ้นอีกนิด หลังจากชิลมาเป็นปีค่ะ (อ่าว เพราะถั่วดองเหรอ ท่ดๆ)

     ออร์คระเหิด x 

     ออร์คโดนอีฟเขมือบ /

     ภาพลักษณ์ของออร์คในเรื่องนี้ ขอแจ้งไว้อีกทีว่าประมาณออร์คจาก Warcraft III ค่ะ แนวเท่ ๆ กล้ามเบิ้ม ๆ แล้วก็มีศักดิ์ศรี มีเกียรติ อยู่กันเป็นเผ่า ถ้าไม่นับศิลาที่ไปทางโจรนะคะ 

     ดังนั้น นักรบประจำเผ่าเลยเป็นทรัพยากรที่มีค่ามาก ๆ ประมาณว่า elite unit กลุ่มใหญ่+มินิบอส (หินดำ) …ถ้าหายไปทั้งกองขนาดนี้ก็เหมือนกับการเสียความมั่นคงของเผ่าไปเลย

     …

     อ่านแปลไทยได้ที่ https://www.nekopost.net/novel/12413  

     ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ 

     Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432  

~~ ~~ ❀ ~~ ~~

[นิยายแปล] Game of the World Tree

[นิยายแปล] Game of the World Tree

Score 10
Status: Completed
สงครามแห่งเทพเมื่อ 1,000 ปีก่อนก่อให้เกิดการจุดสิ้นสุดของยุคแห่งองค์มหาพฤกษาโลกาอันเป็นต้นกำเนิดและศูนย์รวมของเหล่าเอลฟ์ นำไปสู่การล่มสลายของอารยธรรมเอลฟ์ภายหลังจากเหตุการณ์นั้น ... ผ่านไปกว่า 10 ศตวรรษ ต้นไม้โลกต้นใหม่ถือกำเนิดขึ้น อีฟ อึกก์ดราซิลล์ ผู้เป็นดั่งมารดาแห่งสรรพสิ่ง มาพร้อมกับความสามารถในการเข้าถึงเครือข่ายอินเตอร์เน็ตบนดาวเคราะห์สีคราม อีฟได้เริ่มแผนการดึงตัวเหล่าผู้เล่นจากดาวแห่งนั้นมาช่วยในการฟื้นฟูอารยธรรม เพื่อพาตนผองเผ่ากลับไปสู่ความเกรียงไกรเช่นในอดีต

Options

not work with dark mode
Reset