[นิยายแปล]โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” 171 บทที่ 8 28

ตอนที่ 171 บทที่ 8 ตอนที่ 28

บทที่ 8 ตอนที่ 28

ชั้นเรียนในตอนเช้าจบลงแล้ว ณ ตอนนี้ในชั้นปีสาม ที่บริเวณหลังห้องเรียนมีบรรยากาศเศร้าๆ

 

 

 

「ไอ หมายความว่ายังไง?」

 

 

 

ในห้องเรียนที่ควรจะผ่อนคลายและไร้ซึ่งความตึงเครียด ในมุมห้องแห่งหนึ่งกับมีเสียงดังก้องดังขึ้น

 

เจ้าของเสียงคนนั้นก็คือ ทิม่า ไลม์

 

บรรยากาศที่อ่อนโยนและเงียบสงบตามปกติหายไป และดวงตาของเธอนั้นเต็มไปด้วยความโกรธ

 

 

 

「ก็อย่างที่บอกไปไงคะ ว่าหลังจากนี้ฉันคงจะยุ่งไปอีกสักพัก」

 

 

 

ด้วยความเยือกเย็นราวกับจิตใจที่ถูกแช่แข็ง ไอริสตอบอย่างไม่ใส่ใจ

 

ไม่มีแม้แต่อารมณ์ในน้ำเสียงของเธอ

 

สีหน้าเย็นชาของเพื่อนสนิททำให้ทิม่ากำลังมองดูตุ๊กตาที่งดงามไร้ซึ่งสีหน้าใดๆ และเธอที่ทนไม่ได้ก็รู้สึกได้ถึงความโกรธที่ปะทุขึ้นภายใน

 

ในทางกลับกันไอริสพยายามหันออกจากห้องเรียนโดยหันหลังให้กับเพื่อนสนิท

 

 

 

「เดี๋ยวสิ ไอ รอก่อนสิคะ!」

 

 

 

「ขอโทษด้วยนะ แต่ฉันมีธุระที่ต้องทำ ไม่มีเวลามายุ่งเรื่องของเธอ แล้วเจอกัน……」

 

 

 

โดยไม่รอคำตอบของทิม่าไอริสออกจากห้องเรียน

 

และในวันนั้นเธอก็ไม่กลับมาที่ห้องเรียนอีกเลย

 

★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

 

หลังเลิกเรียนโนโซมุโดนอันริพาไปร้านช่างฝีมือ

 

เพื่อแลกกับงานทำความสะอาดและช่วยชั้นเรียนในอีครอส เธอสัญญาว่าจะแนะนำสถานที่ๆให้ยืมเตาเผาเพื่อหลอมกระดิ่งขึ้นมา

 

อย่างไรก็ตามสีหน้าของโนโซมุนั้นแย่มากในตอนนี้

 

 

 

“ลืมไปซะเถอะ”

 

 

 

คำพูดของไอริสทิ่มแทงหัวใจเขา

 

อันริที่มีท่าทีสงสัยก็ได้ถามต่อโนโซมุ

 

 

 

「โนโซมุคุงงงงง เป็นอะไรไป~」

 

 

 

「อันที่จริงไอริสบอกผมว่าเธอไม่ต้องการกระดิ่งแล้วครับ……」

 

 

 

โนโซมุลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะอธิบายสถานการณ์ให้ฟัง

 

ในเทศกาลเปิดสถาบันไอริสได้ขอให้เขาทำกระดิ่งให้ แต่เธอก็มาบอกเอาวันนี้ว่าไม่ต้องการมันอีกแล้ว และบอกให้ผมควรอยู่ห่างจากเธอสักพัก

 

ในความเป็นจริงแล้วไอริสมักจะเข้าหาโนโซมุในตอนกลางวัน และหลังเลิกเรียน

 

แต่ว่าทิม่าบอกมาว่าเธอออกชั้นเรียนไปตั้งแต่จบคาบเช้า

 

ทิม่าเองก็พยายามจะหยุดเธอเอาไว้แต่ไอริสไม่ฟังเลย

 

เมื่อได้ยินแบบนั้นโนโซมุก็รู้สึกปวดใจ

 

 

 

「อึก……」

 

 

 

「ทำไมถึงต้องหยุดด้วยล่ะ?」

 

 

 

ด้วยความเป็นห่วงโนโซมุ อันริจ้องมองโนโซมุ

 

เมื่อเธอถามโนโซมุก็เงียบ

 

 

 

「…………」

 

 

 

ความเจ็บปวดในหน้าอกยิ่งกระตุ้นความหงุดหงิดในตัวมากขึ้น

 

ไอริสไม่ใช่ปัญหาเดียวที่เขาเผชิญอยู่ในตอนนี้

 

ตอนนี้เขาไม่มีความรู้สึกที่ว่าจะคุมตนเองได้ ความจริงที่ว่าเขาหันคมดาบใส่เพื่อนๆถึงสองครั้งยังไม่จางหายไป

 

 

 

「……ไม่หรอก ยังไงผมก็จะทำมันออก แม้ว่าเธอจะบอกว่าไม่ต้องการ แต่ผมก็อยากจะทำและส่งมอบให้เธอจริงๆ」

 

 

 

ถึงแม้จะเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความหงุดหงิดโนโซมุก็ยืนกรานว่าจะทำต่อไป

 

แน่นอนว่าไอริสบอกว่าไม่ต้องการ แต่โนโซมุก็อยากจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้

 

นี่คือความเห็นแก่ตัว และความภาคภูมิใจของโนโซมุ เมื่อเขาให้สัญญาแล้ว เขาก็จะทำมัน

 

แน่นอนว่ามันอาจจะมีความเศร้าที่มากัดกินจิตใจที่ถูกปฏิเสธอยู่บ้าง

 

แต่โนโซมุในตอนนี้ไม่เหมือนกับอดีตที่ผ่านมา เขาเข้าใจดีว่าที่ไอริสปฏิเสธไม่อยากให้เขาเข้าหาเพราะไม่อยากลากเขาเข้าไปเกี่ยวข้อง

 

เพราะแบบนั้นโนโซมุในตอนนี้จะไม่ล้มเลิกความตั้งใจและสั่นคลอนต่อคำพูดของเธอ

 

 

 

“หากอยากจะสร้างความมั่นใจให้กับผู้หญิง ก็ควรจะอยู่เคียงข้างเธอ”

 

 

 

ในใจของเขายังจำคำพูดของเธอคนนั้นที่สอนเขาให้เป็นสุภาพบุรุษที่ดี

 

โนโซมุและไอริสทั้งสองอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังทั้งคู่ แต่ความสิ้นหวังเหล่านี้จะเป็นแรงผลักดันที่ช่วยเหลือกันและกันของทั้งสอง

 

 

 

(ถ้าเป็นอาจารย์อันริคงจะยอมอภัยให้กับผม……)

 

 

 

โนโซมุหันไปมองหน้าของอาจารย์อันริด้วยรอยยิ้ม

 

อันริคิดว่าเขาจะยอมแพ้และจมปลักอยู่กับเรื่องแค่นี้

 

อันริรู้สถานการณ์ส่วนใหญ่แล้วและรู้ฐานะของโนโซมุดี ในฐานะอาจารย์ประจำชั้นไม่มีทางที่เธอจะไม่รู้

 

ตามปกติ จิฮัดจะบอกให้เธอกีดกันโนโซมุออกจากตระกูลฟรานซิส

 

แต่อันริก็ไม่ได้ยอมแพ้และยังช่วยเขาในการทำกระดิ่งด้วยซ้ำ

 

จิฮัดอาจจะลงโทษต่อการกระทำของอันริก็ได้

 

แม้ว่าจะรู้สึกสงสารโนโซมุ แต่ในขณะเดียวกันเธอก็ช่วยอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้

 

 

 

「เอาล่ะ เด็กดีๆ~」

 

 

 

อันริไม่ปล่อยให้เขาต้องทุกข์ทรมานอีกต่อไปในทางตรงกันข้ามเธอลูบหัวเขาอย่างอ่อนโยนราวกับชื่นชมในการกระทำของเขา

 

โนโซมุตกใจเล็กน้อยกับการกระทำของเธอ แต่เขาก็ต้องอายกับการกระทำที่ได้รับ

 

 

 

「อาจารย์อันริ หยุดเถอะครับ」

 

 

 

「โยชิ โยชิ~~~」

 

 

 

「อ๊าาาา……」

 

 

 

โนโซมุพยายามจะสลัดมืออันริให้หลุด แต่มือของอันริก็จับไว้แน่นและไม่ยอมปล่อย

 

โนโซมุที่พยายามขอให้เธอหยุดด้วยความเขินอาย แต่ไม่มีวี่แววว่ามันจะจบลงเลย

 

แม้ว่าจะเห็นสายตาอันอบอุ่นจากรอบข้าง แต่โนโซมุก็ทำได้แค่ปล่อยให้เธอทำตามใจ

 

 

 

「โนโซมุคุง ตอนเทศกาลเปิดสถาบันคิดว่าไงบ้างล่ะ~」

 

 

 

「มันค่อนข้างจะเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับผม บอกตามตรงว่าผมก็แค่ถูกสถานการณ์ต่างๆพาไป……แต่ก็ไม่ได้คาดคิดว่าตระกูลวาจาร์ตจะออกมา นอกจากนี้……」

 

 

 

「ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ใช่แบบนั้นซะหน่อยนะ หมายถึงการที่สามารถพูดคุยกับคนภายนอกได้ต่างหากล่ะ~โนโซมุคุงเองก็อยู่ปีสามแล้ว~ได้พบกับเส้นทางแห่งอนาคตบ้างแล้วสินะ~เพราะงั้นคงมีสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ~?」

 

 

 

เมื่อการโอ๋จบลงอันริก็ถามว่าผมรู้สึกยังไงกับพิธีเปิดสถาบัน

 

น่าแปลกที่ความกังวลของอันริไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่เขาเป็นดราก้อนสเลเยอร์หรือปัญหาระหว่างตระกูลฟรานซิสกับวาจาร์ต แต่เกี่ยวกับอนาคตของเขาเท่านั้น

 

 

 

「……ตามปกติก็ไม่แน่ใจหรอกครับ ผมเคยสนิทกับลิซ่ามาก่อน แต่เมื่อมีคนถามผมว่าอยากทำอะไรในอนาคต

 

ผมเองก็ได้รับการติดต่อจากหลายๆประเทศ แต่ผมก็ไม่อยากจะรับใช้ประเทศไหนเป็นการส่วนตัวเลยครับ……」

 

 

 

โนโซมุได้สะสางเรื่องในอดีตไปเรียบร้อยแล้ว แต่เขายังไม่แน่ใจว่าในอนาคตต้องการทำอะไร

 

เหนือสิ่งอื่นใดปัญหาของเทียแมตทำให้เขาไม่มีเวลากังวลเรื่องอนาคตเลย

 

 

 

「ทำไมอันริถึงได้ตัดสินใจเป็นอาจารย์งั้นเหรอครับ?」

 

 

 

โนโซมุถามอันริว่าทำไมถึงได้มาเป็นอาจารย์ของสถาบันโซลมินาติ

 

เป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการจากพฤติกรรมของเธอที่ทำให้เหล่านักเรียนต้องใจเต้นอยู่หลายครั้ง แต่เธอก็มีความสามารถอยู่ในแรงค์ A  

 

ถ้าหากเธอเลือกเดินทางอื่นก็จะมีความสำเร็จมากมายรออยู่

 

 

 

「อืมมม~ตอนที่เค้าเห็นเด็กๆที่พยายามอย่างหนัก เค้าก็คิดว่าจะทำอะไรเพื่อช่วยเด็กๆได้บ้างน้า~」

 

 

 

เธอชี้แก้มของเธอขณะตอบคำถามด้วยท่าทางน่ารัก

 

เธอบอกว่าที่เธอมาเป็นครูเพราะอยากเห็นเด็กๆที่มีความพยายามอย่างหนักประสบความสำเร็จ

 

 

 

「เค้าน่ะชอบ~ชอบนักเรียนทุกคนที่เปล่งประกายมากกว่าการที่พวกเขาได้สู้กับสัตว์อสูร~พวกเขาเหมือนกับดวงดาวระยิบระยับบนท้องนภาเลยล่ะ」

 

 

 

「ระยิบระยับงั้นเหรอครับ?」

 

 

 

อันริกางแขวนกว้างอย่างภาคภูมิใจ

 

ขณะที่อันริกางมือออกฝูงชนที่สัญจรไปมาก็มองมาที่พวกเขาด้วยท่าทางแปลกๆ

 

ผู้ชายบางคนก็จ้องมองหน้าอกอันอุดมสมบูรณ์ในขณะที่พยายามเอาเสื้อแจ็คเก็ตปิดเป้ากางเกง

 

แต่อันริไม่ได้สนใจสายตาเหล่านั้น ตัวเธอนั้นเปล่งประกาย

 

ไม่ว่าจะมีข่าวลือหรืออะไรก็ตาม อันริไม่เคยได้สนใจสิ่งเหล่านั้นและแสดงความจริงใจออกมาอย่างตรงไปตรงมา

 

 

 

「แต่พ่อแม่ของฉันดันต่อต้านสิ่งที่ฉันอยากจะทำ~เขาบอกว่าลูกคิดอะไรอยู่?~ไม่มีทางที่ผู้หญิงจะทำแล้วประสบความสำเร็จหรอกนะ」

 

 

 

「งั้นเหรอครับ?」

 

 

 

「ใช่ แต่ฉันบอกว่ามันไม่ได้สลักสำคัญอะไรเลยและหนีออกจากบ้านมาน่ะ~」

 

 

 

โนโซมุตกใจเล็กน้อยกับความจริงที่ว่า แต่เขาก็ยิ้มอย่างชื่นชมกับความไร้เดียงสาของเธอ

 

บางทีเธออาจจะมาจากตระกูลที่ร่ำรวย

 

ในขณะที่โนโซมุคิดเรื่องแบบนั้น อันริก็เอาหน้าเข้ามาใกล้เขาอีกครั้ง

 

 

 

「นี่ โนโซมุคุง ไม่มีความคิดที่อยากจะเป็นอาจารย์สอนนักเรียนอยู่ที่สถาบันโซลมินาติเหรอ?」

 

 

 

「……เอ๊ะ?」

 

 

 

ข้อเสนออย่างกะทันหันทำให้โนโซมุพูดอะไรไม่ออก

 

 

 

「ไม่มีคนสอนวิชาดาบสไตล์นี้ที่สถาบันแห่งนี้เลยน้า~สไตล์ดาบมิคางุระโนโซมุจะได้ประกาศตน ณ ที่นี่~และเค้าก็อยากให้โนโซมุคุงมาเป็นอาจารย์ด้วยกันกับเค้านะ」

 

 

 

ในความเป็นจริง สไตล์ดาบของโนโซมุกำลังเป็นที่จับตามองของสถาบันแห่งนี้และหาผู้ฝึกสอนได้ยากมากๆ

 

มีเพียงไม่กี่คนที่เชี่ยวชาญวิชาดาบฝั่งตะวันออก

 

เขาได้เรียนรู้ว่าแม้แต่จะมีพลังอันน้อยนิดก็สามารถจะใช้วิชาดาบอันทรงพลังได้

 

หากเขาสามารถถ่ายทอดการสอนวิชาดาบนี้ให้คนรุ่นหลังได้ก็จะเป็นสิ่งที่ดีในการช่วยกำจัดสัตว์อสูร

 

เนื่องจากโนโซมุนั้นผ่านการฝึกฝนด้วยร่างกายเป็นหลัก จึงไม่ได้เรียนรู้ถึงวิธีการสอนผู้คนในการใช้วิชาดาบ แต่เมื่อพวกเขาได้รับประสบการณ์จะต้องพัฒนาขึ้นตามธรรมชาติแวดล้อม

 

อันที่จริงอันริได้ยินมาว่าการเคลื่อนไหวทางกายภาพที่โนโซมุเป็นคนสอนทำให้พวกชั้นปี 1 มีแต่คนเก่งขึ้นมาก

 

การศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญและนำไปใช้ได้หลายปีหลายทศวรรษ

 

จากมุมมองของอันริเองก็เชื่อในพรสวรรค์ของโนโซมุ

 

 

 

「……ขอโทษด้วยจริงๆครับ」

 

 

 

「ไม่เอาน่าาาาา~แต่ก็ช่างเถอะถ้ามีอะไรที่อยากทำอยู่แล้วเค้าก็ไม่ห้ามหรอกนะ ทำในสิ่งที่อยากทำเถอะอาจารย์จะสนับสนุนเอง~」

 

 

 

แต่คำตอบของโนโซมุทำให้อันริเศร้าเล็กน้อย

 

เธอเองเข้าใจว่าโนโซมุตอนนี้ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้

 

สถานการณ์รอบตัวเขาซับซ้อนเกินไปและคาดเดาไม่ได้

 

 

 

「โนโซมุคุง เค้าคิดว่าเธอมีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้เมื่อเวลานั้นมาถึงน้า~」

 

 

 

「แต่ผมมีปัญหารายล้อมมากมายเลยนะครับ……」

 

 

 

เมื่อนึกถึงสถานการณ์ของเขา สีหน้าของโนโซมุก็หมองลง

 

พลังอันล้นเหลือที่อยู่ภายในร่างถูกเฝ้าระวังโดยมังกรขาวและมันสร้างบรรยากาศอึดอัดและปฏิเสธคนรอบตัว

 

ความรู้สึกที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังจากสภาพแวดล้อมที่แปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วทำให้โนโซมุทำอะไรไม่ถูก

 

 

 

「บอกตามตรงว่าเค้าเองก็ไม่ได้คิดว่าภาระที่โนโซมุแบกไว้มันจะเยอะสักแค่ไหน ในฐานะอาจารย์อาจจะไม่มีอะไรที่ช่วยได้มากนัก……」

 

 

 

สีหน้าของอันรินั้นค่อนข้างมืดลงเล็กน้อย

 

ตอนจบอันแสนยืดเยื้อสุดท้ายก็เป็นจุดตัดกันของความเศร้า

 

เธอที่เป็นอาจารย์ซึ่งใฝ่ฝันอยากจะช่วยนักเรียน ในขณะเดียวกันเธอก็เข้าใจสภาพของโนโซมุ

 

มันยากเกินกว่าจะบีบคั้นคนสิ้นหวังให้ลุกขึ้นยืนอย่างภาคภูมิใจ

 

การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของคนรอบข้างที่ทิ้งตัวเขาไว้เบื้องหลังราวกับจะกลืนกินเขาเข้าไปมันได้กลายเป็นภาระผลักดันตัวเขาอย่างหนักหน่วง

 

ยิ่งไปกว่านั้นอันริยังไม่สามารถช่วยอะไรได้ เมื่อพูดถึงเรื่องของเทียแมต เธอไม่มีสิทธิ์จะเข้าไปยุ่งได้เลยเพราะเธอไม่มีความรู้เกี่ยวกับเวทย์วิญญาณ และปัญหาหลายอย่างก็แก้ไขไม่ได้ในฐานะอาจารย์

 

 

 

「นั่นคือสิ่งที่ทั้งหมดที่เค้าพูดได้ มันไม่เกี่ยวกับสิ่งที่เธอจะทำ แต่เป็นสิ่งที่เธออยากจะทำมากกว่า」

 

 

 

เธอบอกว่าเหล่านักเรียนไม่ควรมองข้ามเจตจำนงของตัวเอง

 

เมื่อเห็นการกระทำของอันริตาของโนโซมุก็เบิกกว้าง

 

โนโซมุจริงๆแล้วต้องการอะไร อันริเองก็ไม่ทราบ

 

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความรู้สึกอันแรงกล้า เด็กชายคนนี้ต้องทุ่มเทฝึกฝนเสี่ยงตายและโดนกล่าวหามาตลอดสองปีเต็มๆ เพื่อแก้ไขความเข้าใจผิดระหว่างเพื่อนสมัยเด็กของเขา นั่นเป็นข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้

 

 

 

「บางทีโนโซมุคุงอาจจะมีคำตอบอยู่แล้วก็ได้น้าา ขนาดเค้ายังมีเลย เค้าจึงอยู่ที่สถาบันแห่งนี้พยายามอย่างเต็มที่ เพียงแต่ตอนนี้คำตอบนั้นมันอาจจะเลือนลางจนเห็นยากไปสักหน่อยก็ตาม……」

 

 

 

อันริเอามือออกจากแก้มของโนโซมุและทุบไปที่อกของโนโซมุเบาๆ ราวกับแสดงให้เห็นว่าคำตอบมันอยู่ตรงนี้

 

และเธอก็เริ่มเดินออกนำทางอีกครั้ง

 

 

 

「ไปกันเถอะ สำหรับตอนนี้ก็ไปทำสิ่งที่โนโซมุคุงอยากจะทำกันดีกว่า」

 

 

 

เมื่อเธอหันกลับมาด้วยสีหน้าไร้เดียงสาตามปกติเธอก็ไม่หลงเหลือร่องรอยความเป็นผู้ใหญ่และกลับมาเป็นอาจารย์จอมซนคนเดิม

★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

 

โนโซมุถูกอันริพาไปยังร้านตีเหล็กบนถนนเล็กๆในย่านการค้า

 

จากด้านหลังของกระท่อมที่ทำหน้าที่เป็นร้านค้าและเวิร์คช็อป เกร๊ง เกร๊ง !  มีเสียงตีเหล็กดังก้อง

 

บางทีเพื่อให้ความร้อนจากเตาเผาถูกระบายออกประตูถูกเปิดออกเอาไว้ และมีความร้อนที่ร้อนจนแสบผิวหนัง

 

 

 

「ที่นี่เหรอครับ?」

 

 

 

「อุมุ ที่นี่คือร้านตีเหล็กที่สมัยที่เค้ายืมตั้งแต่เป็นนักเรียนเลยล่ะ วัลโด้ซัง อยู่ไหมคะ~~?」

 

 

 

ราวกับไปเยี่ยมญาติละแวกใกล้เคียงอันริเดินเข้าไปในร้านพร้อมกับส่งเสียง

 

โนโซมุเดินตามเธอไป แต่ทันทีที่ก้าวเข้าไปก็มีคำด่าสาปแช่งออกมาจากในร้าน

 

 

 

「ไอ้บ้าเอ้ย ! ทำพังอีกแล้วงั้นเรอะ!」

 

 

 

「ขอโทษค่าาาาาาาาาาาาา~!」

 

 

 

ระดับเสียงนั้นดังมากจนโนโซมุเอามือปิดหู

 

เมื่อหันไปหาทิศทางของเสียงก็เจอกับคนแคระตัวเล็กๆที่มีเคราสีน้ำตาลเข้มข้นพร้อมผ้ากันเปื้อนหนาๆ พร้อมกับค้อนในมือที่กำลังหน้าแดงด้วยความโกรธ

 

ดวอร์ฟ

 

มนุษย์แคระประเภทหนึ่งที่มีทักษะในการตีเหล็กและอาศัยอยู่ในถ้ำเป็นหลัก

 

ถูกบังคับไล่ออกมาจากบ้านเกิดในอาณาจักรใต้ดินเนื่องจากการรุกรานครั้งใหญ่ และตอนนี้ก็อยู่ร่วมกับสมาพันธ์สุมายา

 

แต่สิ่งที่ทำให้โนโซมุประหลาดใจที่สุดคือหญิงสาวผมแดงที่ยืนอยู่ตรงหน้าคนแคระ

 

 

 

「……ลิซ่า?」

 

 

 

「อะ โนโซมุ!」

 

 

 

คนที่ก้มศีรษะต่อดวอร์ฟไม่ใช่ใครอื่นนอกจากลิซ่าเพื่อนสมัยเด็กของเขา

 

เมื่อเธอหันไปเห็นอันริกับโนโซมุเธอก็ลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้นและตบชายกระโปรงของเธอเพื่อหลบเขม่าควัน

 

 

 

「เอ่อ ทำให้เห็นด้านแปลกๆแล้วสินะคะ……」

 

 

 

ลิซ่าหน้าแดงขณะแวกว่ายสายตาไปในอากาศด้วยความเขินอาย

 

ในทางกลับกันดวอร์ฟที่กำลังดุเธอกำลังจ้องมองลิซ่าที่จู่ๆก็ลุกขึ้นมาและเริ่มดูแลตัวเอง

 

สนับสนุนผู้แปลได้ที่ QR Code ข้างล่าง หรือเลขบัญชี108-0-77984-1 กรุงไทย ครับ

 

ลงให้อ่านแค่สองที่เท่านั้นคือ Goshujin.tk กับ Nekopost อ่านจากที่อื่นไม่มีภาพประกอบเพราะโดดดูดไปลงนั่นเอง

[นิยายแปล]โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

[นิยายแปล]โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

Score 10
Status: Completed
สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

Options

not work with dark mode
Reset