[นิยายแปล] ฮีลเลอร์สุดเมพโดนไล่ออกจากตี้ (สุดกาก) ผันตัวมาเป็น ดาร์กฮีลเอร์ 106 -111

ตอนที่ 106 -111

ตอนที่ 106 ความคิดของแต่ละคน

 

วันรุ่งขึ้น ณ ยามเช้าตรู่ ท้องฟ้านั้นมืดครึ้มแต่เช้า

 

ลิลลี่ที่นั่งอยู่หน้าแผนกต้อนรับเอามือเท้าคางมองท้องฟ้าที่มืดมัว

 

 

 

「นี่ คุณเซนอสสงสัยไหมคะว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกโซเฟียซัง?」  

 

 

 

เซนอสเงยหน้าจากหนังสือแพทย์เล่มเก่าๆที่เขาได้รับมาจากแบล็ค มาร์เก็ต

 

 

 

「พูดอะไรน่ะ?」

 

「พวกเธอไม่มานี่หนึ่งสัปดาห์แล้วนะคะ เรื่องแบบนี้ไม่ค่อยมีให้เห็นหรอกค่ะ……」

 

「นั่นสินะช่วงนี้ก็เงียบสงบจนหน้าใจหาย」

 

「อืมก็เงียบสงบดีหรอกค่ะ แต่ไม่กังวลบ้างเหรอคะคุณเซนอส?」

 

「นั่นสินะ……」

 

 

 

เซนอสปิดหนังสือและตอบลิลลี่ที่กังวล

 

 

 

「แต่ว่ามันก็ไม่น่าจะเกิดอะไรร้ายแรงถึงขั้นต้องกังวลเลยนี่」

 

「ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงจะดีสิคะ……」

 

 

 

ลิลลี่ถอนหายใจ

 

 

 

「พี่ลิซเองก็อยู่ในช่วงยากลำบากในการฟื้นความทรงจำแม้ว่าจะจำเหตุการณ์ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าได้ดีก็เถอะ」

 

 

 

ตอนนี้ลิซออกไปซื้อของ

 

เซนอสจ้องมองหนังสือแพทย์บนโต๊ะอย่างเหนื่อยหน่าย

 

 

 

「เอาล่ะ…บางทีพี่ลิซอาจจะ……」

 

 

 

ตอนที่กำลังจะพูดแบบนั้นลิลลี่ก็หันกลับมา

 

 

 

「อาจจะ?」

 

「เปล่า ไม่มีอะไร」

 

 

 

เซนอสยืนขึ้นข้างๆลิลลี่และมองออกไปนอกหน้าต่าง

 

 

 

「วันนี้อาจจะมีฝนตกก็ได้นะ」

 

 

 

 +++

 

 

 

เมฆสีเทาหนาทีบกระจายไปทั่วทั้งสลัม

 

ในที่กบดานของมนุษย์หมาป่า ริงก้ากำลังนั่งคุกเข่าและมองขึ้นไปบนเพดานด้วยท่าทีมึนงง

 

 

 

「หัวหน้า สีหน้าดูไม่ดีเลยเป็นอะไรไปครับ?」

 

 

 

ลูกน้องต่างกังวลและเรียก

 

ริงก้าตอบอย่างไม่ใส่ใจขณะนั่งกอดเข่า

 

 

 

「……ริงก้าไม่ได้ทำสักหน่อย」

 

「เกิดอะไรขึ้นครับ?」

 

「……ริงก้าไม่ได้ใส่เข็มลงไปในเนื้อปลาจริงๆ」

 

「พูดถึงอะไรครับเนี่ย?」  

 

「ไม่มีอะไร……」

 

 

 

เธอถอนหายใจแล้วกลิ้งไปบนพื้น

 

 

 

「นี่ เกิดอะไรขึ้นกับหัวหน้าเรากันแน่?」

 

「ไม่รู้สิ……」

 

「เกิดอะไรขึ้นกันแน่」

 

 

 

ในขณะที่เหล่าลูกน้องกำลังพูดด้วยท่าทางกังวล มนุษย์หมาป่าคนหนึ่งก็เข้ามารายงาน

 

พวกเขารีบกระซิบกระซาบข้างหูหัวหน้าของเขา จากนั้นริงก้าก็เบิกตากว้าง

 

 

 

「……อืม เข้าใจแล้ว เป็นงั้นเองเหรอออออออออออ」

 

 

 

 +++

 

 

 

ในเวลานั้นแถวเหมืองที่เป็นแหล่งกบดานของเหล่าออร์ค ลีฟกำลังจ้องมองไปในอากาศอย่างว่างเปล่า

 

แก้มของเธอยุบลงเล็กน้อย และใบหน้านั้นไร้ซึ่งสีสัน

 

 

 

「หัวหน้าทำตัวแปลกๆนะช่วงนี้?」

 

 

 

พวกลูกน้องต่างมองดูด้วยความกังวล

 

ลีฟเคลื่อนไหวช้าๆและหันไปมองเหล่าลูกน้อง

 

 

 

「เฮ้อ ทำอะไรไม่ได้เลยสินะ」

 

「เอ่อ มันน่าแปลกเกินไปแล้วหัวหน้าอดอาหารมาเกินหนึ่งสัปดาห์แล้วนะ แถมข้าวปั้นที่ชอบที่สุดก็ไม่ยอมทานด้วย」

 

「……ข้ากำลังไดเอท」

 

「ไดเอท? หัวหน้าเนี่ยนะ?」  

 

 

 

มีเสียงมากมายกระซิบบอกต่อกัน

 

 

 

「มันดูแย่งั้นเหรอ ข้าตั้งเป้าจะเป็นสาวน้อยผู้อ่อนแอ」

 

「แย่สิครับ ผู้นำที่อ่อนแอก็ไม่ใช่ผู้นำอีกแล้ว」

 

 

 

ลีฟตกใจเล็กน้อยกับคำแนะนำที่ตรงไปตรงมา

 

 

 

「นั่นมันแย่มากเลยนะ ยังไงก็ตาม ตอนนี้ข้าทั้งหิวและโกรธมาก」

 

「เอ่อ ขอโทษครับ」

 

 

 

เมื่อลูกน้องของเธอหันกลับไปอย่างเร่งรีบ ลูกน้องอีกคนก็เข้ามากระซิบพูดกับเธอ

 

แสงจางๆปรากฏขึ้นในดวงตาของลีฟ

 

 

 

「……งั้นเหรอ ข้าโดนหลอกเหรอเนี่ย」

 

 

 

 +++

 

 

 

ในเวลาเดียวกันที่ซ่อนของลิซาร์ดแมน โซเฟียกำลังครุ่นคิดถึงอะไรบางอย่างโดยนั่งไขว้ห้าง

 

 

 

「มีอะไรผิดปกติงั้นเหรอพี่สาว?」

 

「อากลับมาแล้วงั้นเหรอซอนเด้」

 

 

 

เมื่อมองไปที่น้องชายของเธอ โซเฟียหรี่ตาลง

 

ถามแบบนั้นพลางใช้นิ้วชี้แตะแขนตัวเอง

 

 

 

「นี่ ซอนเด้ ฉันมีบางอย่างอยากจะถาม」

 

「อะไรเหรอครับ?」

 

「นายเชื่อใจเพื่อนของนายรึเปล่า?」

 

「แน่นอนสิพี่สาว พวกเราอยู่ด้วยกันตลอดเวลาเลย」

 

「แล้วมนุษย์หมาป่ากับออร์คล่ะ?」

 

「……」

 

 

 

หลังจากเงียบไปสักพัก ซอนเด้ก็พูดต่อ

 

 

 

「เมื่อก่อนก็คิดได้ว่าเป็นแค่ศัตรู แต่ตอนนี้ผมว่ามันต่างออกไปแล้ว และจะไม่ลืมเลยว่าริงก้าและลีฟอุ้มผมไปหาอาจารย์ตอนที่บาดเจ็บสาหัสด้วย」

 

「……」

 

「มีอะไรผิดปกติงั้นเหรอครับพี่」

 

「ไม่ ฉันมีเรื่องที่ต้องคิดนิดหน่อย มากกว่านั้น――」

 

 

 

ดวงตาของโซเฟียจ้องมองตรงไปยังน้องชายของเธอ

 

 

 

「แล้วรู้ไหมว่ากรณีแบบนี้มันคืออะไร?」

 

「เอ่อ บางที……」

 

 

 

หลังจากได้ยินเรื่องราวของซอนเด้ โวเฟียก็ค่อยๆลุกขึ้นและคว้าเสื้อแจ็กเก็ตของเธอ

 

 

 

「เข้าใจแล้ว ฉันเดาไว้แล้วว่าคงจะเป็นแบบนั้น เดี๋ยวฉันกลับมา」

 

「เอ๊ะ จะไปไหนเหรอพี่?」

 

 

 

โซเฟียมองกลับไปหาน้องชายพร้อมกับพูดว่า

 

 

 

「ก็ตัดสินใจแล้วน่ะสิ? ทีนี้ก็ไปหาอาจารย์กัน」

 

 

 

 +++

 

 

 

ในเวลาเดียวกันในตรอกด้านหลังของเมืองที่ล่มสลาย ลิซที่กำลังชอปปิ้งก็กำลังแลกเปลี่ยนข้อมูลกับลูกน้องใต้บังคับบัญชาของเธอในเงามืด

 

 

 

「แล้วเบื้องบนว่าไง?」

 

「สั่งว่าให้รีบลงมือ ไม่ว่ายังไงก็อยากเร่งให้ด่วนที่สุด」

 

「อืม นิสัยเหมือนเดิมไม่สนใจสิ่งรอบข้าง」

 

 

 

เมื่อลิซแสดงสีหน้าขมขื่น ไกล์ออนก็พูดอย่างกังวล

 

 

 

「คุณหนูลิซ โอเคไหมครับ? สีหน้าไม่สู้ดีเลย」

 

「……ช่วงนี้ฉันค่อนข้างฝันร้ายน่ะ ต้องขอบคุณสิ่งนั้นจริงๆ โต้รุ่งทุกวันเลย」

 

 

 

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉันฝันเจอผีผู้หญิงหัวขาดปรากฏในความฝันอยู่ตลอดเวลา จนฉันเริ่มไม่ได้นอนมากขึ้นเรื่อยๆ

 

ฉันอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องปกปิดรอยคล้ำใต้ตาด้วยการแต่งหน้า ถึงแม้ตอนนี้จะไม่ต้องเร่งรีบ แต่ถ้ายังดำเนินต่อไปเรื่อยๆก็คงไม่รอดแน่ๆ

 

 

 

「แล้วทางโน้นล่ะครับเป็นไงบ้าง」

 

「สิ่งต่างๆเป็นไปได้ด้วยดีถึงขั้นกั้นไม่ให้พวกกึ่งมนุษย์ออกมา แต่ก็มีเอลฟ์มาสร้างปัญหาให้ด้วยเล็กน้อย」

 

「แล้วจะเอายังไง?」

 

「แน่นอนคิดวางแผนเอาไว้แล้ว แผนการที่จะทำให้สะเทือนวงการ」

 

「สมแล้วที่เป็นคุณหนูลิซ」

 

 

 

เมื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่ดูเหมือนหมอกดำ ลิซก็ยิ้มบางๆ

 

 

 

「จะรีบตัดสินผลแพ้ชนะในเร็ววันนี้ ท้ายที่สุดแล้วมันจะกลายเป็นวันที่สมบูรณ์แบบที่สุดในการสารภาพรัก」

 

 

 

ปฏิบัติการแทรกซึมได้ดำเนินเข้าสู่ช่วงไคล์แม็กซ์

 

 

 

 +++

 

 

 

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ภายใต้ท้องฟ้าสีเทา มีร่างของชายและหญิงเดินไปตามถนนในเมืองล่มสลาย

 

นั่นคือลิซและเซนอส

 

 

 

「ขอโทษนะเซนอสจัง จู่ๆฉันก็อยากออกมาเดินเล่นน่ะ」

 

 

 

ลิซหันไปหาเซนอสที่อยู่ข้างๆเธอทำท่าทางขอโทษ

 

เธอดูเหมือนจะจำอะไรบางอย่างได้ก็เลยนึกพาเซนอสออกมาเดินเล่น โดยตั้งเป้าช่วงเวลาที่เอลฟ์สาวตัวน้อยออกไปทำธุระ

 

 

 

「อืม แล้วพี่จำอะไรได้บ้าง?」

 

「ยังไม่ถึงขนาดนั้น…แต่ว่ามีความรู้สึกแปลกๆล่ะ……」

 

 

 

ลิซหรี่ตามองดูอาคารที่ผุพัง

 

ลมที่พัดกระทบแก้มนั้นอุ่น อากาศเองก็ชุ่มชื้น

 

มีเสียงดังมาจากบ้านร้างที่เพิ่งเดินผ่านมา

 

 

 

「ว้ายยยยยยยย」

 

 

 

ลิซเข้าไปกอดเซนอส

 

 

 

「พี่ลิซมันก็แค่แมวนะครับ」

 

 

 

แมวร้องเหมียวแล้ววิ่งไปตามถนน

 

 

 

「เอ๊ะ อะงั้นเหรอเนี่ยพี่เนี่ยละก็โถ่ว」

 

 

 

ลิซถอนหายใจด้วยความโล่งอกและค่อยๆถอยห่างจากเซนอส

 

 

 

「เซนอสจัง โตขึ้นมากเลยน้า แต่ก่อนตัวเล็กนิดเดียวเอง」

 

「เอ่อ…ก็ตามกาลเวลา」

 

 

 

บทสนทนาธรรมดาที่เต็มไปด้วยเรื่องราว

 

พวกเขาทั้งสองต่างรู้ว่ามีเด็กจำนวนมากในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ต้องตายจากไปก่อนที่จะได้เติบโต

 

 

 

「ตอนเด็กๆเซนอสจังชอบมากอดพี่บ่อยมากเลยนะรู้ไหม」

 

「เป็นแบบนั้นเหรอครับ?」

 

「ใช่ เช่นตอนที่ร้องไห้ตอนกลางคืนไง」

 

「เอ๋ผมไม่เคยร้องไห้ตอนกลางคืนนะครับ」

 

「ไม่หรอก บางครั้ง เธอก็ทำ」

 

「เอ่อนั่นเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนเลย」

 

「แถมเธอน่ะก็เป็นพวกดื้อรั้นซะด้วยสิ」

 

 

 

หลังจากวนรอบเมืองที่ล่มสลาย ทั้งสองก็กลับไปที่คลินิก

 

 

 

「แล้วพี่จำอะไรได้บ้างไหม?」

 

「อืม พอมาไกลขนาดนี้แล้วพี่ก็รู้สึกว่ามันใกล้จะถึงเวลาแล้วล่ะ」

 

 

 

ลิซยกมือทั้งสองข้างขึ้นแล้วพูดช้าๆ

 

 

 

「นี่ เซนอสจัง มีอีกที่หนึ่งที่ฉันอยากจะไปพร้อมกับเธอนะ?」

 

「อีกที่เหรอครับ……?」

 

 

 

หลังจากมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เซนอสก็หันไปทางคลินิก

 

 

 

「แต่ว่าฝนใกล้จะตกแล้ว ลิลลี่อาจจะกังวลด้วยถ้าเรากลับกันช้า」

 

「ขอร้องล่ะ เซนอสจัง ถ้าฉันพลาดช่วงเวลานี้ไป ฉันอาจจะจำอะไรไม่ได้อีกเลย」

 

 

 

เซนอสหันไปจ้องมองลิซอย่างจริงจังและพยักหน้า

 

 

 

「……เข้าใจแล้ว ถ้างั้นจะไปที่ไหนครับ?」

 

 

 

ลิซกระแอมในลำคอและประกาศจุดหมายปลายทางของเธอ

 

 

 

「――สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าคาริ ที่พวกเราเริ่มต้นเจอกัน」

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 107 เริ่มการโต้กลับ

「คุณเซนอสกลับมาช้าจังเลยนะคะ」

 

 

 

ที่คลินิกลิลลี่นั่งอยู่แผนกต้อนรับและมองไปที่นาฬิกาแขวน

 

เมื่อกลับมาจากการซื้อของ มีข้อความทิ้งไว้บอกฉันว่ากำลังออกไปเดินเล่นกับลิซซัง

 

 

 

「อืมมมมมม……」

 

 

 

เพื่อสมัยเด็กที่ความจำเสื่อมสนิทกับคุณเซนอสมาก

 

 

 

「ลิลลี่ กังวลจัง……」

 

 

 

ฉันถอนหายใจออกช้าๆ

 

ฉันรู้สึกเหมือนว่าอยากจะไปตามเขากลับมา แต่ไม่รู้ว่าไปที่ไหนกัน

 

 

 

「เอ่อพวกเขาประสบอุบัติเหตุอะไรหรือเปล่านะคามิลล่าซัง」

 

「เอ่อหมอนั่นไม่ใช่พวกที่ตายเพราะอุบัติเหตุหรอกเน้อ」

 

 

 

คามิลล่าซังซึ่งนั่งอยู่บนเตียงตอบอย่างใจเย็นกับลิลลี่ที่กังวล

 

คามิลล่ามองดูท้องฟ้าที่มีเมฆหนาและขมวดคิ้วเล็กน้อย

 

 

 

「อืม…..แ่ตถ้าให้ข้าเดาละก็ยัยเพื่อนสมัยเด็กนั่นคิดจะเผด็จศึกเจ้าเซนอสวันนี้สินะ ยัยนั่นอาจจะเป็นคนอยู่เบื้องหลัง」

 

「พูดถึงเรื่องอะไรคะเนี่ย?」

 

「อืม ข้าจะเล่าทุกอย่างให้ฟัง……」

 

 

 

คามิลล่าพึมพำหลังจากหายไปชั่วครู่

 

 

 

「ตอนแรกข้าก็ปล่อยเอาไว้เพราะน่าสนใจ แต่ข้าว่าถึงเวลาที่ต้องโต้กลับแล้ว แต่การเข้าไปมีส่วนร่วมมากเกินไปกับโลกคนเป็นก็ขัดหลักของข้า……」

 

「ก่อนหน้านั้นช่วยอธิบายด้วยค่ะว่าพูดถึงอะไรคามิลล่าซัง?」

 

「อ่า นั่นสินะ……」

 

 

 

ในขณะนั้นประตูก็เปิดออก

 

 

 

「คุณเซนอส?」

 

 

 

เมื่อลิลลี่ยืนขึ้นสิ่งที่เธอเห็นก็คือมนุษย์หมาป่าที่หูสั่น

 

 

 

「อา ริงก้าซัง」

 

「ท่านเซนอสอยู่ที่ไหน?」

 

 

 

ริงก้ากล่าวด้วยความเร่งรีบ

 

 

 

「เอ่อตอนนี้ออกไปข้างนอกค่ะ」

 

「อืมเข้าใจแล้ว แล้วยัยผู้หญิงคนนั้นล่ะ?」

 

「เอ่อหมายถึงลิซซังเหรอคะ? ไปกับคุณเซนอสค่ะ」

 

「แย่แล้ว แย่แล้ว ยัยนั่นพาท่านเซนอสไปที่ไหน?」

 

「เอ่อไปแถวเมืองล่มสลาย แต่หมายความว่ายังไงคะ?」

 

 

 

เมื่อริงก้ากำลังจะออกไปด้วยความตื่นตระหนก เงาขนาดใหญ่ก็ขวางประตู

 

 

 

「เซนอสอยู่รึเปล่า?」

 

「อ้าว ลีฟซัง ดูเหมือนจะน้ำหนักลดนะคะเนี่ย?」  

 

「ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ ดูเหมือนจะผอมลงนะ?」

 

「เรื่องนั้นช่างมันเถอะน่า……」

 

「ยังไม่เข้าใจงั้นเหรอ……」

 

 

 

หลังจากรู้สึกหดหู่เพราะท่าทีอันเคร่งเครียดของทั้งสองลีฟก็เอ่ยถาม

 

 

 

「แล้วเซนอสอยู่ไหน?」

 

「ออกไปข้างนอกกับลิซซัง」

 

「อะไรนะ แย่แล้วไง」

 

「เอ๊ะ อะไรเหรอคะ?」

 

 

 

เมื่อริงก้าและลีฟกำลังจะออกไปก็มีอีกคนตามมา

 

 

 

「อาจารย์คะ!」

 

「โซเฟียซังเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอคะ?」

 

「ริงก้าคิดว่าคงจะโดนเหมือนกันสินะ」

 

「หนีไปซะโซเฟียพวกเรากำลังรีบ」

 

「อะไรกันลีฟ หะเธอก็ด้วยเหรอ? ตอนนี้ฉันมีธุระกับอาจารย์」

 

 

 

ที่คลินิกเกิดความโกลาหลขนาดหนักจนคามิลล่าหัวเราะออกมา

 

 

 

「คุคุคุ….จังหวะดีเสียจริง ดูเหมือนว่าข้าจะไม่ต้องช่วยแล้วสินะ ใจเย็นๆก่อนพวกเจ้าทั้งหลาย」

 

 

 

เธอลอยขึ้นแล้วบอกกับทุกคน

 

 

 

「ตอนนี้เหล่านักแสดงมาพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้วสินะ」

 

 

 

 +++

 

 

 

คามคำแนะนำของคามิลล่า ทุกคนจึงตัดสินใจนั่งล้อมโต๊ะเพื่อพูดคุยกัน

 

 

 

「ฉันคิดว่ามันแปลกๆนะ」

 

 

 

โซเฟียพูดอย่างรวดเร็วว่าทำไมเธอถึงมาที่นี่

 

 

 

「ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยการโจมตีจากกิลด์ใต้ดินในช่วงงานเทศกาล จากจุดเริ่มต้นนั้น พวกเราก็คอยระวังพวกนั้นมาตลอด」

 

「ริงก้าคิดว่าด้วยการที่เราจัดการในตอนนั้นได้ ทำให้พวกมันเริ่มดำเนินแผนการบางอย่าง」

 

 

 

ริงก้าเสริม

 

 

 

「ริงก้าและคนอื่นๆต่างออกไปลาดตระเวน แต่คราวนี้เกิดเหตุการณ์ประหลาดที่ลูกน้องของริงก้าหมดสติไป」

 

「ท่ามกลางเหตุการณ์นี้ทั้งหมด จู่ๆก็มีเพื่อนสมัยเด็กของเซนอสที่อ้างว่าสูญเสียความทรงจำปรากฏตัวขึ้น」

 

 

 

คราวนี้ลีฟเสริม

 

 

 

「การโจมตีในงานเทศกาล ลูกน้องของฉันเองก็หมดสติไป พวกเขาต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าต่างโดนผู้หญิงลึกลับเข้าโจมตีและเกิดเหตุการณ์แปลกๆขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งมีโอกาสสูงที่แฝงตัวอยู่เบื้องหลัง」  

 

 

 

จากนั้นโซเฟียก็พยักหน้า

 

 

 

「นั่นเป็นเหตุผลที่ให้ซอนเด้น้องชายฉันแอบสืบสวนผู้หญิงคนนั้นและกิลด์ใต้ดิน」

 

「ริงก้าเองก็เช่นกัน」

 

「อืม ข้าเองก็ด้วย……」

 

 

 

ทั้งสามต่างมองหน้ากัน

 

คามิลล่ากอดอกและยกมุมปากขึ้น

 

 

 

「เข้าใจแล้ว ไม่ใช่แค่กิลด์ดใต้ดินเท่านั้นที่ทำอะไรเบื้องหลัง เหตุการณ์ที่ทุกคนไม่โผล่มาหนึ่งสัปดาห์เองก็เพราะรอผลการสอบสวนอยู่」

 

 

 

โซเฟียพยักหน้าเห็นด้วย

 

ลมชื้นๆที่พัดผ่านถนนทำให้กรอบหน้าต่างของคลินิกสั่นสะเทือน

 

 

 

「ถ้าลงมือไม่ดีก็อาจจะกลายเป็นว่าโดนจับได้」

 

「นั่นคือเหตุผลที่ริงก้าซ่อนตัวอยู่ในที่กบดานตลอดเวลา」

 

「มันเป็นเวลาที่เหมาะสมในการลดน้ำหนักด้วย」

 

「แล้วค้นพบอะไรล่ะ?」

 

 

 

พวกกึ่งมนุษย์ต่างพลัดกันตอบคำถามคามิลล่า

 

 

 

「เป็นไปไม่ได้ที่จะเปิดเผยทุกอย่างเกี่ยวกับกิลด์ใต้ดินภายในหนึ่งสัปดาห์แต่ว่าผู้หญิงผมม่วงนั่นเป็นหนึ่งในสมาชิกที่เริ่มเคลื่อนไหวเหตุการณ์ในครั้งนี้」

 

「ริงก้าได้ยินมาว่าเธอเก่งมากในการโปรยเสน่ห์ใส่ผู้ชาย」

 

「นอกจากนี้ได้ยินมาว่าเธอมีพลังพิเศษที่ทำให้ควบคุมอีกฝ่ายได้」

 

「คุคุคุ….เข้าใจแล้ว ดูเหมือนว่าพวกเธอเองก็ไม่ใช่พวกที่จะยอมถอยห่างไปแต่โดยดีสินะเนี่ย」  

 

 

 

ริงก้าตะคอกใส่

 

 

 

「ท้ายที่สุดแล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็ใช้มารยาบางอย่างที่ทำให้ท่านเซนอสเกลียดริงก้า ตอนนั้นฉันตกใจมากเมื่อได้ยินว่ามีเข็มหลุดเข้าไปในเนื้อปลา ริงก้าก็คิดว่ามันไม่น่าจะใช่ความจริงอย่างแน่นอน และท่านเซนอสก็ไม่น่าจะเกลียดริงก้าด้วย」

 

「มั่นใจมากเลยนะ」

 

 

 

ลีฟพยักหน้าเห็นด้วยกับโซเฟีย

 

 

 

「อืมผู้หญิงคนนั้นบอกกับข้าว่าเซนอสชอบผู้หญิงอ่อนแอและผอมเพรียว หากคิดแบบนั้นได้ก็น่าจะโกหกเช่นกัน」  

 

「ไม่หรอกนั่นอาจจะเป็นเรื่องจริง?」

 

「ไม่มีทางน่า ข้ากับเซนอสรักกันมาก ความรักน่ะไม่เกี่ยงเกี่ยวกับสภาพหุ่นหรอกนะ」

 

「แล้วทำไมถึงไดเอทล่ะ?」

 

「อืม…เอาจริงๆข้าก็กังวลนิดหน่อย……」

 

「คุคุคุ….ช่างเป็นสาวที่แปลกประหลาดเสียจริง」

 

 

 

ริงก้าและลีฟถามคำถามกับโซเฟียต่อ

 

 

 

「แล้วโซเฟียเจ้าโดนปั่นหัวเรื่องอะไรล่ะ?」

 

「……」

 

 

 

หลังจากเงียบไปเล็กน้อยโซเฟียก็ยักไหล่ของเธอเบาๆ

 

 

 

「มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรแต่ก็เป็นเรื่องง่ายๆที่บอกได้ว่ามันเป็นเรื่องโกหกอย่างแน่นอน」

 

 

 

ขณะที่คามิลล่ากำลังยิ้ม ลิลลี่ที่ถูกทิ้งจนตามบทสนทนาไม่ทันก็งง

 

 

 

「เอ่อ…หมายถึงอะไรเหรอคะ?」

 

「กล่าวอีกนัยหนึ่ง เพื่อนสมัยเด็กคนนี้ของอาจารย์พยายามเข้าหาอาจารย์ด้วยเหตุผลบางอย่างแอบแฝงอยู่」

 

「งั้นเหรอคะ?」  

 

「พอมาคิดถึงเรื่องหลังจากงานโจมตีงานเทศกาลแล้ว ริงก้าคิดว่ายัยนั่นเป็นระดับแนวหน้าเลยล่ะ」

 

「เป็นเรื่องจริงที่เซนอสเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความสามัคคีในหมู่เฮา ถ้ายัยนั่นเอาชนะใจเซนอสและควบคุมเขาได้ ก็เท่ากับควบคุมสลัมแห่งนี้」

 

 

 

เมื่อริงก้าและลีฟพูดลิลลี่ก็สับสน

 

 

 

「เอ๊ะ…?แล้วเรื่องความจำเสื่อมล่ะคะ?」

 

「โกหกทั้งเพ ผู้หญิงคนนั้นจงใจเข้าหาข้าตั้งแต่แรก」

 

「เออออออออออออออออออออออออ๋!」

 

 

 

หลังจากขึ้นเสียงโดยไม่ได้ตั้งใจ ลิลลี่ก็รู้สึกโล่งอกเล็กน้อย

 

 

 

「……เฮ้อ…ค่อยโล่งอกหน่อย」

 

「เอ่อ หมายความว่ายังไง」

 

「ริงก้าคิดว่ามันไม่ดีซะอีก」

 

「จนถึงตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นปฏิบัติกับหนูดีมาตลอดค่ะ」

 

 

 

ลิลลี่ตอบด้วยความตื่นตระหนกเมื่อพวกเธอเข้ามาหา

 

 

 

「ใช่แล้ว แต่ลิลลี่สนุกสนานมากเลยตั้งแต่ได้พบกับคุณเซนอสและทุกคน คงเป็นเรื่องยากมากหากความทรงจำเหล่านี้หายไป……」

 

「……」

 

 

 

หลังจากนั้นเหล่ากึ่งมนุษย์ต่างพูดอะไรไม่ออก พวกเขาต่างมองหน้ากันและหัวเราะออกมา

 

 

 

「เข้าใจแล้ว」

 

「ริงก้าก็คิดว่าลิลลี่เป็นพวกรักความสงบเสียอีก」

 

「อา มีความทรงจำมากมายเลยที่พวกเราได้รับมาถ้าเสียไปมันคงน่าเศร้า」

 

「ขอโทษด้วยนะ」

 

 

 

โซเฟียและคนอื่นๆต่างยิ้มขอโทษลิลลี่

 

 

 

「ก็ไม่เป็นไร ที่นี่เป็นสถานที่แห่งความทรงจำสำหรับทุกคน」

 

「ริงก้าคิดว่าลิลลี่ควรจะเป็นตัวเองน่ะดีที่สุดแล้ว」

 

「อืม ไม่อยากให้เสียความทรงจำหลังจากได้พบกับเซนอสหรอก」

 

 

 

โซเฟียยืนขึ้นและดีดนิ้วของเธอ

 

 

 

「เอาล่ะ มาเริ่มแผนการโต้กลับกันดีกว่า」

 

 

 

คามิลล่าตะโกนเรียกกึ่งมนุษย์ที่กำลังจะออกไปด้านนอก

 

 

 

「รอก่อนจะไปที่ไหนกันน้อ?」

 

「หะ? ก็ต้องออกไปตามหาอาจารย์อยู่แล้วไม่ใช่เหรอไงคะ?」

 

「เอ่อ ข้าคิดว่าหมอนั่นคงไม่ได้อยู่ที่นี่อีกแล้ว」  

 

 

 

คามิลล่าพูดแบบนั้นด้วยความภาคภูมิใจขณะที่พวกเธอต่างจ้องมองคามิลล่าด้วยสีหน้าสงสัย

 

 

 

「ถ้าให้ข้าเดาล่ะก็ หลังจากที่เดินไปรอบๆเมืองที่ล่มสลายแล้ว มันก็เป็นเพียงข้ออ้างในการพาเซนอสออกไป และเป็นเรื่งยากที่จะจินตนาการว่าจะเกิดเหตุการณ์ในสถานที่แถวนี้」

 

「ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้……」

 

「หากเธอคิดจะเผด็จศึกกับเซนอสล่ะก็ จุดหมายปลายทางก็จะเป็นสถานที่ๆทั้งสอนคนใกล้ชิดมากที่สุด」

 

「ใกล้ชิดมากที่สุด……」

 

 

 

ลิลลี่พึมพำและเงยหน้าขึ้นมอง

 

 

 

「หรือว่าจะเป็นสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า……?」

 

 

 

เมื่อคามิลล่าพยักหน้าให้กับคำพูดของลิลลี่ พวกกึ่งมนุษย์ต่างมองหน้ากัน

 

 

 

「ลิลลี่รู้ไหมว่าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่อาจารย์เคยอาศัยอยู่ที่ไหน?」

 

「อืม ก็พอได้ยินมาอยู่บ้าง อาจจะอยู่ทางภูเขาทางทิศตะวันตก……」

 

「โอเค เราไปเริ่มค้นหากันดีกว่า」

 

 

 

ลิลลี่ กึ่งมนุษย์ และคนอื่นๆรีบวิ่งออกไปข้างนอกโดยที่ฝนเริ่มตกเล็กน้อย

 

สาวๆวิ่งฝ่าฝนไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า

 

คามิลล่าที่อยู่ชั้นสองมองออกไปนอกหน้าต่าง

 

 

 

「คุคุคุ…ในที่สุดศึกแห่งการแย่งชิงเซนอสก็มาถึงจุดไคล์แม็กซ์ นี่แหละน้าวัยหนุ่มสาว」

 

 

 

เมื่อมองดูแผ่นหลังของพวกเธอที่จากไปคามิลล่าก็ยิ้มเล็กน้อย

 

 

 

「……ให้ตายสิ นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ข้ารู้สึกอิจฉาพวกที่ยังมีชีวิตอยู่เป็นครั้งแรก」

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 108 สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าคาริ

 

หยดน้ำที่ตกลงมาจากท้องฟ้าถูกกิ่งไม้และใบไม้หนาทึบกั้นไว้ทำใจเกิดเสียงกระเพื่อมเบาๆ

 

เซนอสและลิซก้าวขึ้นไปบนภูเขาที่สูงตระหง่านทางขอบตะวันตกของสลัม

 

 

 

「เป็นเวลานานแล้วนะที่ไม่ได้มาที่นี่」

 

 

 

เซนอสพูดขณะเหยียบบันไดหินที่ปกคลุมไปด้วยคะไคร่น้ำ

 

ทุกครั้งที่ชั้นปีนขึ้นไปหนึ่งก้าว ความรู้สึกที่แตกต่างไปจากความคิดถึงผุดขึ้นมาในตัว

 

 

 

「ขอโทษนะที่ต้องให้มาไกลขนาดนี้เซนอสจัง」

 

「ไม่หรอก หวังว่ามันจะช่วยฟื้นความทรงจำของพี่ได้นะ」

 

 

 

เซนอสหันไปหาลิซแล้วพูดขอโทษ

 

 

 

「ยังไงก็ตามพี่ลิซ สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าคาริ……」

 

「ใช่ ฉันจำเรื่องนั้นได้ แต่ว่ามันคงจะดีกว่าถ้าฉันไปเห็นกับตาตัวเอง」

 

「ถ้าแบบนั้นก็ดีนะครับ……」

 

 

 

สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าคาริตั้งอยู่ครึ่งทางบนภูเขานี้ โดยจงใจไม่ให้ปรากฏให้เห็นแก่สาธารณชน

 

โดยปกติแล้วไม่มีสถานบันเทิงอยู่ใกล้ๆ มีเพียงต้นไม้ที่ตั้งตระหง่าน

 

พวกเขาทั้งสองเดินอย่างเงียบๆผ่านภูเขาที่ยังคงมืดแม้ในตอนกลางวัน

 

 

 

「อ่านี่」

 

 

 

เซนอสนั่งลงและหยิบอะไรบางอย่างจากพื้น

 

สิ่งที่ชั้นหยิบได้เหมือนกับหินสีแดงดำ

 

 

 

「โอ้ อันนั้นฉันจำได้ล่ะ ผลไม้ฮากุรุนี่」

 

 

 

 一ดูเหมือนหินแต่มันไม่ใช่ มันคือผลไม้ที่มีชื่อว่าฮากุรุ

 

 

 

「ชอบกินมากเลยนะตอนที่ท้องว่าง」

 

「อืม ตอนนั้นมันช่วงประทังชีวิตได้ดีเลย」

 

 

 

หากอมเป็นเวลานานจะได้ลิ้มรสความหวานเล็กน้อย

 

เด็กๆที่หิวตลอดเวลามักจะเก็บสิ่งนี้ไว้ในกระเป๋า

 

เซนอสก้มลงหยิบผลไม้ขึ้นมา

 

 

 

「อ่ะนี่ ส่วนของพี่」

 

「เอ๊ะ ให้พี่เหรอ คือว่าพี่……」

 

「เจ้านี่มันช่วยชีวิตผมไว้เลยนะในอดีต ดังนั้นหากพี่กินมันเข้าไปอาจจะจำได้ก็ได้」

 

「อืม ขอบคุณนะ」  

 

 

 

ลิซจ้องไปที่ฮากุรุในมือแล้วเก็บมันไว้ในกระเป๋าของเธอ

 

เมื่อเดินขึ้นไปอีกสักหน่อยก็จะเห็นประตูขึ้นสนิม

 

ทั้งสองหยุดลงจากนั้นค่อยๆเดินไปข้างหน้าอีกครั้ง

 

หลังจากผ่านประตูเหล็กมาแล้ว ก็จะพบกับพื้นที่เปิดโล่งเล็กน้อย

 

 

 

「อ่า ที่นี่มัน……」  

 

「อืม แต่ว่า――」

 

「ใช่แล้ว」

 

 

 

สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในอดีตไม่เหลือเค้าโครงเดิมอยู่เลย

 

 

 

มีเสาและหลังคาเพียงไม่กี่ต้นเหลืออยู่ และนอกเหนือจากนั้นมีเพียงเศษซากที่ไหม้เกรียมกระจัดกระจายอยู่ตรงนี้และตรงนั้น

 

ท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก ทั้งสองคนก็แลกเปลี่ยนคำพูดกัน

 

 

 

「พี่ลิซจำวันนั้นได้ไหม?」

 

「อืม มันมีไฟไหม้ แล้วที่นี่ก็ถูกเผา」

 

「ตอนนั้นเองที่พวกเราทุกคนต่างกระจัดกระจายกันไป」

 

 

 

สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เหมือนคุกชั่วนิรันดร์ พังทลายลงหลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้เพียงครั้งเดียว

 

พวกอาจารย์พยายามดับไฟอย่างเต็มที่ ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของใครบางคนและเสียงตะโกนของเด็กๆที่กำลังวิ่งหนีเพื่อไม่ให้ถูกพวกผู้ใหญ่จับได้ ตอนนี้ไม่ทราบที่อยู่ของแต่ละคนเลย

 

 

 

「ตอนนั้นผมเห็นพี่ลิซพาซีน่าออกมาจากควันไฟ ผมก็เลยคิดว่าเธอยังคงอยู่กับพี่」

 

「ซีน่าน่ะ――」

 

「จำได้ไหม?」

 

 

 

ลิซวางมือลงบนหน้าผากและหลับตาลงด้วยความเจ็บปวด

 

 

 

「ก็พอจำได้แบบเลือนลางแต่ไม่ชัดเจน」

 

「งั้นเหรอ พวกเรามาได้ไกลขนาดนี้แล้วสินะ อย่ากังวล มาคุยเรื่องในอดีตกันดีกว่า」

 

「อืม ขอร้องล่ะ」

 

 

 

เซนอสและลิซย้ายเข้าไปอยู่ใต้ชายคาเล็กๆเพื่อหลบฝน

 

 

 

「ว่าแต่ตอนนั้นเซนอสจังคิดยังไงกับพี่เหรอ?」

 

「อืมหมายถึงอะไรครับ ผมเดาว่าพี่ลิซก็เหมือนกับพี่สาวสำหรับทุกคน」

 

「พี่สาวของทุกคน……?」

 

「พี่ทั้งใจดีและพึ่มพาได้ แม้ว่าบางครั้งจะน่ากลัวเวลาโกรธ แต่ผมคิดว่าทุกคนน่าจะชอบพี่กันหมด」

 

「เซนอสจังก็เช่นกันเหรอ?」

 

「อืม」

 

 

 

เซนอสเกาหัวแก้เขิน

 

 

 

「จำได้ดีเลยล่ะตอนเหตุการณ์ที่ตู้เซฟของผู้อำนวยการไม่มีข้าวของเหลืออยู่เลย」

 

「อ่า ตอนนั้นเองเหรอ」

 

「มีคนบอกว่าผมเป็นคนขโมยไป และผมก็เกือบซวย」

 

 

 

เพราะแบบนั้นมันเลยน่ากลัวหากเกิดการขโมยของ

 

เพราะผู้อำนวยการที่แห่งนี้เป็นคนซาดิสม์และจำได้ว่าไม่ใช่เพียงแค่เด็กๆแม้แต่เหล่าอาจารย์ก็ยังประหม่า

 

ไม่มีทางที่จะปล่อยให้หลุดรอดไปได้ง่ายๆ ในเมื่อเงินในตู้นั้นหายไป ถ้าความผิดเป็นเรื่องจริง ต่อให้ต้องขายอวัยวะแลกเงินก็ต้องทำ

 

 

 

「แต่พี่ลิซก็ปกป้องผมในตอนนั้นด้วย ผมขอบคุณจริงๆ」

 

「ลองคิดดูสิ ถ้าตอนนั้นพี่ไม่อยู่ จะเกิดอะไรขึ้น……」  

 

 

 

ฝนเริ่มตกหนักลงเรื่อยๆ ดังนั้นเลยไม่ได้ยินเสียงครึ่งหลังของพี่ลิซ

 

หยดน้ำกระเซ็นอย่างแรงบนวัชพืซ

 

ลิซหายใจเข้าลึกๆแล้วจู่ๆก็ยื่นมือออกมากอดเซนอส

 

 

 

「เอ่อเป็นอะไรไปพี่ลิซ?」

 

 

 

เมื่อชั้นหันไปมองพี่ลิซเธอก็มองมาทางนี้ด้วยแววตาหลงใหล

 

 

 

「นี่ เซนอสจังไปฐานทับลัพ ของสองเราเถอะ?」

 

 

 

 +++

 

 

 

กึ่งมนุษย์ทั้งสามคนและเอลฟ์กำลังวิ่งไปบนถนนท่ามกลางสายฝน

 

เพื่อที่จะหยุดแผนร้ายของลิซ พวกเธอจึงรีบอย่างมาก

 

 

 

「เอาล่ะ รีบไปให้ไวเลย」

 

「ริงก้ารีบอยู่แล้วแม้จะไม่ต้องบอกก็เถอะ」

 

「แต่ว่า ลิลลี่ค่อนข้างหมดแรงแล้ว」

 

 

 

เมื่อโซเฟียหันกลับไปมองก็เจอลิลลี่ที่โซเซ

 

เธอโบกแขนให้แรงที่สุดแต่ดูเหมือนจะหายใจไม่ออกและระยะห่างก็เพิ่มากขึ้น

 

 

 

「ลิลลี่จะตามไม่ทันแล้ว ทำยังไงดี?」

 

「ริงก้าคิดว่ามันช่วยไม่ได้」

 

「อ่า นั่นสินะ」

 

 

 

พวกเธอทั้งสามพยักหน้าพร้อมกันและหยุดอยู่กับที่

 

จากนั้นก็วิ่งกลับไปหาลิลลี่และลีฟก็อุ้มลิลลี่เอาไว้บนไหล่ของเธอ

 

 

 

「ข้าจะอุ้มลิลลี่ไปเอง」

 

「อะ ขอโทษด้วยนะคะลีฟซัง」

 

「ไม่ต้องห่วงหรอกน่า น้ำหนักขนาดนี้กำลังดีเลยเหมาะแก่การฟื้นฟูกล้ามเนื้อ」

 

 

 

ริงก้าที่วิ่งอยู่รอบๆก็พูด

 

 

 

「ริงก้าจะไม่ยอมให้ใครพรากท่านเซนอสและยึดครองสลัมแห่งนี้ได้」

 

 

 

โวเฟียพยักหน้าพร้อมกับจ้องมองไปยังภูเขา

 

 

 

「ฉันเองก็ด้วยค่ะ อย่างที่บอกไว้ศัตรูเป็นสมาชิกกิลด์ใต้ดิน อย่าลดการป้องกันลงเด็ดขาด」

 

 

 

ฝนเริ่มตกหนักมากขึ้นฟ้าร้องคำรามลึกลงในเมฆที่มืดครึ้ม

 

การต่อสู้ระหว่างผู้หญิงที่เป็นจุดเริ่มต้นของหายนะ

 

 

 

 

 

ตอนที่ 109 จุดเปลี่ยน

 

「ลิลลี่ ภูเขาลูกนี้เหรอ?」

 

「อืม ภูเขาลูกนี้แหละค่ะ」

 

 

 

ในที่สุดพวกเราก็มาถึงภูเขาที่เซนอสและลิซอยู่ ลิลลี่ก้าวขึ้นไปบนภูเขาที่อยู่ชานเมืองสลัม

 

 

 

「ที่นี่…ไม่เคยคิดเลยว่าท่านเซนอสจะมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าดาริ?」

 

「รู้อะไรงั้นเหรอริงก้า」

 

 

 

ริงก้าและลีฟคุยกันระหว่างวิ่ง

 

 

 

「สถานที่นี้ชื่อเสียงค่อนข้างแย่เลยล่ะ ยังไงก็ตามไม่สถานรับเลี้ยงไหนแย่เท่าที่นี่อีกแล้ว」

 

 

 

ทุกคนต่างวิ่งผ่านตะไคร่น้ำ

 

ฝนเริ่มแรงขึ้นทำให้ทั่วทั้งภูเขาเปียกโชก

 

 

 

「อาจารย์จะสบายดีไหมนะ?」  

 

「ริงก้าเองก็อยากจะบอกว่าไม่เป็นไรอยู่หรอก แต่คราวนี้รู้สึกแย่ชะมัด」

 

「เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนั้นใช้พลังแปลกๆเพื่อทำให้พวกผู้ชายหลงใหล」

 

「พลังประหลาดงั้นเหรอ……」

 

 

 

โซเฟียเหลือบมองลิลลี่ที่กังวลอยู่แล้วพูดขึ้น

 

 

 

「บางทีผู้หญิงคนนั้นอาจจะเป็น【ลูกครึ่ง】ก็ได้นะ」

 

「【ลูกครึ่ง】?」

 

「ก็ลืมชื่ออย่างเป็นทางการไปน่ะ แต่นั่นคือสิ่งที่พวกเราเรียกกันในเหล่ามนุษย์ผู้แสนหายากที่ใช้พลังของปีศาจได้ สาเหตุกล่าวกันว่าเกิดจากการไปสัมผัสพลังเวทย์จำนวนมาก หรือร่างกายเกิดมามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว」  

 

 

 

ว่ากันว่าปีศาจที่ถูกนำโดยจอมมารถูกทำลายไปแล้วในเหตุการณ์มหาสงครามระหว่างมนุษย์และปีศาจเมื่อ 300 ปีก่อน

 

อย่างไรก็ตามแก่นแท้ของเวทมนตร์ยังคงหลงเหลืออยู่ทั่วโลก ทำให้กำเนิดสัตว์อสูรและพวกปีศาจ

 

 

 

「ลิลลี่ ไม่รู้เลยคะ……」

 

「ในตอนแรกริงก้าเคยได้ยินมาว่าพวก【ลูกครึ่ง】มีน้อยมาก และพวกนั้นมักจะใช้ชีวิตหลบๆซ่อนๆเพราะจะกลายเป็นเป้าหมายในการล่าแม่มด ดูเหมือนว่ามันจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนพวกเขาหดหายไป แต่ว่าเร็วๆนี้ก็ไม่ค่อยได้เห็นอีกแล้ว」  

 

「อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าจะมีคนแบบนี้ไม่น้อยในกิลด์ใต้ดิน」

 

 

 

ริงก้าและลีฟให้ข้อมูลเพิ่มเติม

 

 

 

「การจะทำให้ผู้ชายหลงใหล นั่นหมายความว่าเธอคนนั้นจะต้องใช้พลังของซัคคิวบัสแน่ๆ」

 

「โซเฟียซัง จริงเหรอ……?」

 

「ปีศาจที่ปรากฏขึ้นในฝันและล่อลวงผู้ชาย ดูเหมือนว่าพลังและอำนาจของเธอจะขึ้นอยู่กับว่าเข้ากันได้ดีกับเป้าหมายแค่――」

 

 

 

โซเฟียคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดต่อ

 

 

 

「อย่างน้อยที่สุดชายที่ถูกซัคคิวบัสดูดกลืนพลังงานก็ไม่ต่างอะไรกับหุ่นเชิดนั่นเอง」

 

「อึก」

 

「ริงก้าไม่ยอมแน่นอน ริงก้าต่างหากที่จะเป็นคนพรากพรหรมจรรย์ของท่านเซนอส」

 

「หยุดเลยนั่นหน้าที่ของข้าต่างหาก」

 

「ลิลลี่ต่างหาก! ……เอ๊ะ?」

 

 

 

ขณะที่ลิลลี่หน้าแดงกับคำพูดของเธอ ก็มีเสียงดังมาจากด้านข้าง

 

ท่อนไม้ขนาดมหึมากำลังเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็วและหมุนเร็วมาก

 

 

 

「อะหวาาาาาาาาาาาาาาา」

 

「ดูเหมือนจะไม่ง่ายสินะ」

 

 

 

โซเฟียเลียริมฝีปากแล้วกระโดดข้ามท่อนไม้

 

 

 

「ฮ๊าาาาาาาาาาาห์」

 

 

 

ลีฟที่แบกลิลลี่ไว้บนไหล่ต่อยท่อนซุงด้วยหมัดเดียว

 

ท่อนซุงกลิ้งไปบนฟ้าและลอยเข้าไปในป่า

 

 

 

「ฮ่าฮ่า เอาจนได้นะ」

 

 

 

เมื่อมองไปข้างหน้าก็เห็นชายร่างใหญ่ผิวสีเขียวยืนอยู่กลางบันไดหิน

 

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีพรรคพวกอยู่แถวตามต้นไม้

 

โซเฟียจ้องมองชายร่างใหญ่

 

 

 

「แกมันคนที่บุกเข้ามาในงานเทศกาล ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็ถอยไปจะได้ไหม?」

 

「ฮ่าฮ่าฮ่า คิดว่าข้าคนนี้จะตอบตกลงงั้นรึ? ก็อย่างที่คุณหนูลิซบอกกำชับข้ามาว่า อย่าให้พวกแมลงวันเข้ามากวนท่านเด็ดขาด」

 

 

 

พวกนั้นวิ่งลงบันไดหินมาพร้อมกัน

 

 

 

「ชิ โดนแน่ไอเวร」

 

「ดูเหมือนว่าริงก้าจะไม่ต้องออมมือแล้วนะ」

 

「ลิลลี่จับข้าไว้แน่นๆล่ะ」

 

「อะ อื้อ」

 

 

 

ขั้วอำนาจระหว่างกิลด์ใต้ดินและผู้ปกครองแดนสลัมเข้าห่ำหั่นกัน

 

เสียงของเนื้อและกระดูกที่ถูกบดดังก้องไปทั่วป่า

 

ความสามารถทางกายภาพของฝั่งกึ่งมนุษย์นั้นเหนือเกว่า

 

พวกเธอต่างหลบการโจมตีที่พุ่งเข้ามาราวกับหิมะถล่มได้อย่างแม่นยำ

 

อย่างไรก็ตามไม่ว่าพวกผู้ชายพวกนั้นจะโดนโจมตีมากเท่าไรก็ลุกขึ้นมาไม่ถอย

 

เหมือนไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดกับความกลัว

 

ฝนที่ตกลงมาทำให้สูญเสียความเร่าร้อนในร่างกายและพละกำลังก็เริ่มถดถอย

 

 

 

「ไอ้พวกนี้……」

 

「ริงก้าคิดว่าพวกนี้ก็คงโดนเวทย์นั่น」

 

「กองทัพหุ่นเชิดพวกนี้ของยัยนั่น ข้าไม่น่าไดเอทเลยไม่มีแรงแล้ว」

 

 

 

ทั้งสามมองหน้ากันพร้อมหอบหายใจโรยริน

 

 

 

「หากเป็นแบบนี้ก็คงเข้าใจแล้วสินะ」

 

「ช่วยไม่ได้จริงๆ ริงก้าคิดว่าจะปล่อยให้ทุกคนมาติดแหง็กที่นี่ไม่ได้」

 

「เอาล่ะ ตกลงกันแล้วนะ」

 

 

 

ลิลลี่ต่างงงว่าทั้งสามพูดอะไร

 

 

 

「เอิ่มแล้วทุกคนล่ะ เอ๊ะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ?」

 

 

 

ก่อนที่เธอจะพูดจบก็จับคอเสื้อของลิลลี่และเหวี่ยงเธอไปรอบๆ

 

 

 

「เอ๊ะ เอ๋ ลีฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟซังงงงงงงงงงง」

 

「ขอโทษด้วยนะ ลิลลี่」

 

「อุหวาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาーーーっ」

 

 

 

ลีฟเหวี่ยงแขนอย่างสุดกำลังและร่างของลิลลี่ก็ลอยเคว้งคว้างไปในอากาศท่ามกลางสายฝน

 

 

 

「อุเหววววววววววววววววววววววววววววววว―――!」

 

 

 

ร่างเล็กๆบินไปไกลเหนือหัวของชายเหล่านั้นและตกลงอยู่เกือบชั้นบนสุดของบันไดหิน

 

 

 

「เอ่อ อ่าา หวาาาา……」

 

 

 

หลังจากเด้งไปบนดินสองสามครั้งลิลลี่ก็ลุกขึ้นยืน

 

 

 

「ชิ มีตัวหลุดรอดไปงั้นเหรอเนี่ย」

 

 

 

ขณะที่ชายร่างใหญ่พยายามตามเข้าไป ไม้ซุงก็บินเข้าชนตรงหน้าและจมูกของเขา

 

ขณะที่ชายคนนั้นหันกลับมา สิ่งที่เข้ามาในขอบเขตการมองเห็นก็คือลีฟที่กำลังส่ายหัว

 

 

 

「มีเวลาเหลือเฟือที่จะหันหลังใส่ศัตรูยังงั้นเหรอ?」

 

「ชิ」

 

「นี่ ทุกคน……」

 

 

 

เมื่อมองไปที่ฉากอันแสนตึงเครียด ลิลลี่ก็ตระหนักได้และรีบออกวิ่งไป

 

ทุกคนถ่วงเวลาให้เรา

 

ไม่มีทางที่ฉันจะมาหยุดอยู่แค่นี้

 

 

 

สิ่งที่เห็นตรงหน้าคือประตูโลหะขึ้นสนิท

 

สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าน่าจะอยู่ข้างใน

 

สายฝนนั้นบดบังทัศนวิสัย

 

ลิลลี่วิ่งไปให้เร็วที่สุดพร้อมกับเช็ดหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

ขณะที่ฉันพูดชื่อของชายที่ช่วยชีวิตฉันจากพ่อค้าทาส ผู้ชายที่อาศัยอยู่ร่วมกันกับฉันภายใต้คลินิกของเขา ชายที่ปฏิบัติกับฉันเหมือนคนในครอบครัว

 

 

 

「เซนอสสสสสส……」

 

 

 

 

 

 +++

 

 

 

ฝนยังคงตกอย่างต่อเนื่อง

 

หัวใจของฉันเริ่มเต้นแรง และปอดก็เริ่มหายใจไม่ออก ขณะเกิดความเจ็บปวดรุนแรงในลำคอ

 

แต่ลิลลี่ก็ไม่หยุด

 

ไม่สามารถจะหยุดได้

 

เพื่อไม่ให้การเสียสละของทุกคนต้องสูญเปล่า

 

 

 

ในขณะที่มุ่งหน้าต่อไป มือสังหารจากกิลด์ใต้ดิน ลิซกำลังเข้าใกล้เซนอส

 

ฉันวิ่งผ่านประตูสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เปิดอยู่และมองหาจนทั่ว

 

 

 

「นี่คือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เซนอสเคยอาศัยอยู่……?」

 

 

 

สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือซากปรักหักพังสีดำคล้ำซึ่งกลายเป็นตอตะโก้

 

มันอาจจะถูกไฟไหม้มานานแล้ว และเค้าโครงเดิมไม่เหลืออีกต่อไป

 

 

 

「อยู่ที่ไหน……?」

 

 

 

ไม่เจอเซนอสเลย

 

ขณะที่มองใต้หลังคาเดียวที่สามารถหลบฝนได้ แต่ก็ไม่เจอ

 

 

 

「เซนอส อยู่ที่ไหน……!」

 

 

 

ไม่มีการตอบสนองแม้ว่าฉันตะโกนดังแค่ไหน

 

หัวใจของฉันเริ่มเต้นเร็วขึ้นในความหมายที่แตกต่างจากแต่ก่อน

 

เป็นไปได้ไหมว่าฉันจะมาผิดที่แต่แรก

 

ลิลลี่ส่ายหัวทันที

 

 

 

「ไม่ คามิลล่าซังบอกว่าอยู่ที่นี่ ฉันแน่ใจว่าต้องอยู่ที่นี่แน่ๆ……!」

 

 

 

นอกจากนี้ยังมีการซุ่มโจมตีนั่นคือหลักฐานชัดเจนเลยนะ

 

 อยู่ที่ไหนกัน――

 

 ――หากผู้หญิงคนนั้นต้องการเผด็จศึก เธอคงจะมุ่งหน้าไปยังสถานที่ซึ่งเก็บอารมณ์ร่วมกันของทั้งคู่เอาไว้

 

คำพูดของคามิลล่าลอยเข้ามาในใจฉัน

 

 

 

「ฐานทัพลับ……」

 

 

 

แล้วมันอยู่ไหนล่ะ

 

ทั้งสองเคยพูดถึงฐานทัพลับบนภูเขา

 

หากพูดถึงสถานที่พิเศษจะต้องเป็นที่นั่นแน่

 

 

 

「แต่มันอยู่ที่ไหน……」

 

 

 

ลิลลี่มองไปรอบๆด้วยความตื่นตระหนก

 

ถ้าฉันจำไม่ผิด พวกเขาบอกว่ามีบ่อน้ำพุใกล้ฐานทัพลับ

 

อย่างไรก็ตามฉันไม่เห็นอะไรแบบนั้นจากที่นี่เลย

 

อาจจะอยู่ห่างจากที่นี่จนพวกผู้ใหญ่หาไม่เจอ

 

 

 

「จะทำยังไงดี…….ฉันควรทำไงดี……」

 

 

 

ลิลลี่นั่งก้มศีรษะของเธอด้วยความกังวล

 

อย่ายอมแพ้นะ ทุกคนอุตสาห์ซื้อเวลาให้เราแล้ว ต้องมีอะไรที่ฉันทำได้

 

นั่นคือสิ่งที่ฉันพยายามบอกตัวเอง และเมื่อมองไปรอบๆอย่างระมัดระวังก็สังเกตเห็นเหมือนรอยเท้าของทั้งสองคนในโคลน

 

 

 

「นั่นอาจจะเป็น?」

 

 

 

ลิลลี่กระโดดลุกขึ้นยืนและตัดสินใจตามรอยเท้านั้นไป

 

ดูเหมือนว่าจะนำไปสู่ประตูหลังของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อฉันออกไปจากประตูหลัง หญ้าที่เติบโตขึ้นปกคลุมโคลนรอบๆและรอยเท้าก็จบลงที่แห่งนั้น

 

 

 

「บ้าเอ้ย……」

 

 

 

คราวนี้มีเส้นบางๆสามเส้นที่เรียกได้ว่าเป็นทางเดินของเหล่าสัตว์ แต่ละทางเดินแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

 

ฉันแน่ใจว่าต้องมีสักรอยหนึ่งที่นำพาไปหาเซนอส

 

ลิลลี่ยืนอยู่ตรงนั้นสักพัก

 

ฉันค่อยๆหลับตาฟังเสียงฝน

 

 

 

「เซนอส……」

 

 

 

หลังเปลือกตาของฉัน ฉันจำวันที่ฉันได้พบเจอกับเขาได้

 

ที่ช่วยฉันออกจากการถูกพ่อค้าทาสนั่น

 

เขาโกหกฉันเพื่อให้ฉันได้กินอื่มและนอนหลับทั้งที่ตัวเขาเหลือเงินเพียงน้อยนิด

 

เราทั้งสองเปิดคลินิกด้วยกันและทำความสะอาดพื้นที่ๆมีเขม่าปกคลุม

 

สงครามของกี่งมนุษย์เกิดขึ้นและโคลอสเซียมของก็เป็นลานประลอง

 

พวกเขาต่างต่อสู้เพื่อห่ำหั่นกันเองสุดท้ายก็กลายเป็นเซนอสที่คอยช่วยเหลือ

 

พวกเราไปเที่ยวบ่อน้ำพุร้อนด้วยกัน

 

กินสตูว์ในหอพักของโรงพยาบาลหลวง

 

เขาบอกฉันว่าอาหารของฉันที่เย็นชืดนั้นอร่อย――

 

 

 

「ยังมีอีกมาก มากมายเป็นหลายล้านอย่างที่อยากจะพูด……」

 

 

 

ความทรงจำยังคงเอ่อล้นออกมาและไม่เคยหยุดนิ่ง

 

ระยะเวลาที่ฉันใช้ชีวิตกับเขาแม้จะสั่นแต่ก็เป็นสิ่งล้ำค่า เมื่อเทียบกับลิซแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม ฉันไม่เคยลืมความรู้สึกทุกช่วงเวลาที่ได้ใช้มันไปกับเขา

 

ในที่สุดลิลลี่ก็เปิดเปลือกตาและมุ่งหน้าไปยังเส้นทางตรงกลาง

 

 

 

「เซนอสอยู่ตรงหน้าแล้ว ฉันมั่นใจ」

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 110 สถานที่แห่งการสารภาพรัก

 

เวลานั้นเซนอสที่อยู่กับลิซนั้นอยู่บนไหล่เขา

 

มีน้ำพุเล็กๆผุดขึ้นที่ปลายสุดของเส้นทางเดินสัตว์ป่า และมีถ้ำที่มีแสงสลัวๆอยู่ข้างๆ

 

 

 

「ว้าวนั่นชวนให้คิดถึงเลย ฐานทัพลับ」

 

 

 

เซนอสพูดด้วยอารมณ์ลึกซึ้งขณะก้าวเข้าไปข้างใน

 

เสียงสะท้อนจากผนังและเสียงฝนสามารถได้ยินไกลออกไปเล็กน้อย

 

 

 

「ยังมีรอยสัญลักษณ์ของพวกเราอยู่」

 

 

 

ตอนเลิกงานช่วงกลางวันพวกเราก็มักจะมาที่สถานที่นี้เป็นประจำ

 

พวกเราต่างระงับความหิวด้วยฮารุรุและล้างร่างกายภายใต้น้ำพุเล็กๆที่ผุดตามธรรมชาติ

 

เราไปยังหินไฟที่ทำด้วยหินเวทย์และพูดคุยเกี่ยวกับความฝันและอดีตเก่าๆ

 

ตอนนั้นเองที่พวกเราต่างอยู่ด้วยกันสองต่อสอง

 

 

 

「พี่ลิซถอดเสื้อทำไมครับเนี่ย?」

 

「เอ๋?」

 

 

 

เมื่อชั้นหันกลับไป ชั้นเห็นว่าลิซถอดเสื้อแจ็กเก็ตออกและเหลือเพียงผ้าผืนบางๆเท่านั้น

 

 

 

「ก็เสื้อผ้ามันเปียกพี่ก็เลยต้องถอด……」

 

「ถึงจะแบบนั้นก็เถอะครับ」

 

「ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ตอนเด็กๆเราก็แก้ผ้าเล่นน้ำด้วยกัน」

 

「แต่นั่นมันตอนเด็กนะครับ……?」

 

 

 

เซนอสถามขณะเอามือเท้าเอว

 

 

 

「แล้วเรื่องความทรงจำของพี่ล่ะ?」

 

「อืม มันคลุมเครือ แต่ก็เริ่มจำได้แล้ว」

 

 

 

หลังจากเงียบไปสักพักลิซก็มองตรงไปที่เซนอส

 

 

 

「เซนอสน่ะสำหรับพี่แล้วเธอเป็นคนที่แสนวิเศษสำหรับพี่มากเลยนะ」

 

「……เอ๋?」

 

「ว๊ายยย」

 

「เออออออออ๋」

 

 

 

ลิซที่สะดุดล้มขณะพยายามเดินออกไป ปีนขึ้นไปบนร่างของเซนอสโดยเกือบที่จะเปลือยครึ่งตัว

 

 

 

「ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ」

 

「อืม」

 

 

 

ผิวชุ่มชื้นและเปียกโชน กลิ่นหอมหวานแปลกๆเข้ามาในจมูกของชั้น

 

ลิซที่ขึ้นคร่อมเซนอสคว้าไหล่ทั้งสองข้างของเซนอสแล้วพูด

 

 

 

「นี่ เซนอสจัง ช่วยอยู่เคียงข้างพี่ตลอดไปนะ?」

 

 

 

 +++

 

 

 

「ใกล้จะถึงแล้ว……」

 

 

 

ท่ามกลางสายฝนโปรยปรายลิลลี่กำลังเคลื่อนตัวไปตามเส้นทางที่ไร้ทางเดิน

 

เท้าของฉันเต็มไปด้วยโคลน และผิวหนังที่เปลือยเปล่าของฉันก็มีรอยขีดข่วนเต็มไปหมด

 

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมากังวลเรื่องแบบนี้

 

ฉันยกขาอันหนักอึ้ง จับกิ่งไม้และใบไม้ แล้วผลักร่างเล็กๆของฉันไปข้างหน้าอย่างสิ้นหวัง

 

ในที่สุดเราก็มาถึงพื้นที่โล่งเล็กน้อย

 

 

 

「มีจริงๆ……」

 

 

 

เบื้องหน้าของฉันคือน้ำพุที่เปลี่ยนเป็นสีเขียวพร้อมสาหร่ายในถ้ำเล็กๆ

 

ฝนกระเซ็นบนผิวน้ำทำให้เกิดระลอกคลื่นมากมาย

 

ลิลลี่เดินโซเซเข้าใกล้ถ้ำมากขึ้น หายใจแรงๆ จากนั้นเพียงก้าวเดียวจากทางเข้าฉันก็หยุด

 

 

 

「นี่ เซนอสจัง ช่วยอยู่เคียงข้างพี่ตลอดไปนะ?」

 

 

 

เพราะเสียงสะท้อนนั้นดังมาจากในถ้ำ

 

เมื่อฉันมองเข้าไปข้างในอย่างเขินอาย ฉันเห็นลิซที่เปลือยครึ่งตัวกำลังนอนโอบกอดเซนอสอยู่

 

 

 

 ――ว้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

 

 

ลิลลี่ปิดปากของเธอแล้วรีบหันหลังกลับทันที

 

หัวใจฉันเต้นแรง

 

ฉันต้องรีบเข้าไปแล้ว

 

แม้ว่าจะรู้อยู่เต็มอก แต่ขาของฉันกลับแข็งจนก้าวไม่ออก

 

หากลิซพยายามยั่วเซนอสอยู่ฝ่ายเดียวฉันก็ควรจะหยุด

 

แต่หากทั้งสองคนมีใจให้กันล่ะ

 

ลิซเองก็สวยมาก เธอทั้งพูดเพราะและทำงานบ้านเก่ง นอกจากนี้ยังมีสายสัมพันธ์ตั้งแต่สมัยเด็ก เมื่อพวกเขาได้ใช้ชีวิตผ่านสภาพแวดล้อมอันเลวร้ายของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วยกัน

 

 

 

 ――เซนอส……คุณเซนอสน่ะ……。

 

 

 

ขาของฉันสั่นและเริ่มจะเวียนหัว

 

ลิซยังคงพูดต่อไป

 

 

 

「เมื่อฉันได้พบกับเซนอสจังอีกครั้ง ก็โหยหาเธอมาตลอด เธอไม่เปลี่ยนไปเลยแม้จะผ่านมาหลายปี――」

 

 

 

หลังจากนั่งลงบนตัวของเซนอส เซนอสเงียบไปสักพักแล้วเริ่มพูด

 

 

 

「ถึงพี่จะขอให้ผมอยู่ด้วย ตอนนี้พวกเราก็อยู่ด้วยกันแล้วไม่ใช่เหรอครับ」

 

「มันไม่ใช่แบบนั้นสิ แค่เราเพียงสองคนเท่านั้น ที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ที่แห่งนี้」

 

 

 

เสียงคล้ายกระดิ่งอันแสนหอมหวาน โซเฟียบอกว่าลิซสามารถใช้พลังของซัคคิวบัสได้ แต่บางทีอาจจะเพราะพลังเวทย์นั่น บางอย่างที่เหมือนฟีโรโมนกระตุ้นอารมณ์ทางเพศอบอวลไปเต็มถ้ำ และแม้แต่ลิลลี่ยังรู้สึกได้

 

เสียงของลิซ พฤติกรรม ลมหายใจ สิ่งเหล่านี้กระตุ้นประสาทสัมผัสของการได้ยิน การมองเห็น และการดมกลิ่น และแม้แต่ในฐานะผู้หญิง สมองของฉันก็รู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในทะเลแห่งความสุข

 

แล้วลิซก็พูดว่า

 

 

 

「พี่คิดว่าพี่สามารถทำให้เซนอสมีความสุขได้ยิ่งกว่านี้」

 

 

 

ภายในอกของฉันที่ฉันกดไว้สั่นเทาและเจ็บปวด

 

 

 

「พี่ทำอาหารอร่อยๆดูแลความต้องการของเธอได้ และทำทุกอย่างนอกเหนือจากนั้น เซนอสจังอยากได้อะไรพี่ก็ทำให้ได้

 

ฉันจะทำให้ทุกอย่างเป็นจริง ดังนั้นกับพี่แล้ว――」

 

 

 

ใบหน้าของลิซค่อยๆเข้าใกล้เซนอส

 

กลิ่นหอมอันน่าตื่นตา กลิ่นของน้ำผึ้งสุกล้นออกมาจากภายใน ถ้ำที่เป็นใจให้กับบรรยากาศดังกล่าว

 

ฉันควรจะเข้าไปขัดจังหวะในตอนนี้ อย่างไรก็ตาม ฉันไม่สามารถขยับขาได้

 

 

 

 ――ทำไมล่ะ ? ทั้งๆที่ฉัน――

 

 

 

เสียงเช่นนี้ดังไปถึงหูของลิลลี่ที่ขัดแย้งกัน

 

 

 

「พี่ลิซ จะทำแบบนั้นไม่ได้นะครับ」

 

「……เอ๊ะ?」

 

 

 

ลิลลี่ที่อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงออกมาราวกับว่าเธอตื่นจากความฝันในทันที

 

อากาศเย็นจากภายนอกเข้าสู่ถ้ำและค่อยๆระงับกลิ่นนั่น

 

ฉันได้ยินคำพูดที่สับสนของลิซมาจากข้างใน

 

 

 

「……ทำไมล่ะ?」

 

「ก่อนหน้านั้น มันมีกลิ่นหอมที่ทำให้เวียนหัว พี่ลิซนี่น่ะเป็นน้ำหอมที่พี่ใช้จริงๆเหรอ」

 

「ไม่หรอกนี่คือพลังของซัคคิวบัส……」

 

「เอ๊ะ?」

 

「เปล่าไม่มีอะไร」

 

 

 

เซนอสยังคงถูกตรึงอยู่ข้างล่าง คิ้วของเขาขมวดเล็กน้อย

 

 

 

「ขอโทษ เกือบจะหมดสติไปแล้ว ดังนั้นก็เลยใช้เวทย์เสริมความสามารถเพิ่มเพิ่มความเจ็บปวดให้แก่ร่างกาย ผมต้องทนกัดลิ้นตัวเองและรักษามันหลายต่อหลายครั้งเพื่อทำให้ไม่หมดสติ」

 

「เอ๊ะ….อะไรละนั่น? พี่ดีใจนะที่เซนอสจังมีสติ……!」

 

「เอ๊ะ……?ดูเหมือนมันจะมีเรื่องสำคัญบางอย่างที่สำคัญที่สุดในชีวิต ผมต้องเสียใจภายหลังแน่ ถ้าเกิดผมหมดสติไป」

 

「……」

 

 

 

ขณะที่ลิซพูดไม่ออกเซนอสก็ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา

 

 

 

「ขอบคุณนะพี่ลิซ ที่พูดคุยเรื่องราวแสนมีความสุขให้ผมฟัง พี่ได้สร้างสถานที่แห่งความทรงจำดีๆให้กับทุกคน ไม่ใช่แค่ผมเพียงคนเดียว แต่ทั้งกลุ่มของเรา หลังจากที่เราแยกกันผมก็มีปัญหากับปาร์ตี้นักผจญภัย แต่ก็ต้องขอบคุณวิชาที่พี่ลิซและอาจารย์ของผมได้สอนเอาไว้ถึงได้รอดมาทุกวันนี้」

 

 

 

จู่ๆลิซก็เอนตัวไปข้างหน้า

 

 

 

「ใช่แล้วว」

 

「อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ผมถูกไล่ออกจากปาร์ตี้ ผมก็ได้พบกับลิลลี่ และเราเปิดคลินิกด้วยกัน และผมวางแผนที่จะทำอะไรหลายๆอย่าง เพื่อใช้ชีวิตอันแสนสงบสุข」  

 

 

 

คำพูดของเซนอสที่ไม่สนใจสิ่งใดกำลังมลายหายไปกับสายฝน

 

 

 

「อย่างไรก็ตาม ผมพูดได้เต็มปากว่ามันเป็นสถานที่รวมคนเพี้ยน สติเฟื่อน ซึ่งรวมถึงผมด้วย」  

 

「นั่นแหละ แต่ว่า」

 

 

 

เซนอสพูดด้วยน้ำเสียงสงบ

 

 

 

「เช่นเดียวกับพี่ลิซที่พยายามทำเพื่อทุกคนในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า」  

 

「……」

 

 

 

เซนอสพูดด้วยใจจริงขณะที่ลิซปิดปากของเธอ

 

 

 

「ผมมีประสบการณ์มากมายทั้งพบเจอและลาจาก อาจจะมีมากขึ้นอีกในอนาคต แต่อย่างน้อยตอนนี้ ผมจะปกป้องที่แห่งนั้น และบ้านของทุกคน นั่นเป็นเหตุผลที่ผมไม่สามารถจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับพี่ลิซได้」

 

 

 

ลิซที่ได้ยินเช่นนั้นก็พูด

 

 

 

「ฉัน……」

 

「เป็นอะไรรึเปล่าพี่?」

 

「……เอ๊ะ?」

 

「อาจจะนะ แต่ผมสงสัยมาตั้งนานแล้วล่ะว่าเรื่องที่พี่ความจำเสื่อมนั้นเป็นเพียงข้อแก้ตัวหรือเปล่า」

 

「……!」

 

 

 

ลิซถอนหายใจแล้วลุกขึ้นนั่ง

 

 

 

「ทำไมกัน?」

 

「ผมพอจะเดาออก เพราะการทำอาหารของพี่มันติดหรูจนผมกังวลเลยไงล่ะ」

 

「แค่ทำอาหารเนี่ยนะ……?」

 

「ท้ายที่สุดแล้วตอนที่ผมอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า มันไม่มีอุปกรณ์และไม่มีโอกาสทำอะไรแบบนั้น ผมคิดว่าพี่น่าจะได้เรียนรู้มันหลังจากออกจากสถานเลี้ยงเด็กกพร้า พอเดาได้เช่นนั้น ก็คิดได้ว่าพี่กำลังโกหกผมอยู่แค่นั้นเอง」

 

「……」

 

 

 

หลังจากเงียบไปสักคร่หนึ่ง ลิซก็พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

 

 

 

「……แต่แล้วทำไมล่ะ?」

 

「ผมคิดว่ามันต้องมีเหตุผลลึกๆที่พี่โกหกผม บางอย่างที่ทำให้พี่ต้องทำแบบนี้ ดังนั้นผมไม่อยากจะเชื่อเลยที่ผ่านมามันจะเป็นแค่เรื่องตลกร้ายที่พี่สร้างมันขึ้นมา ดังนั้นผมจึงวางแผนที่จะเล่นไปตามเกมของพี่」

 

「……」

 

 

 

ความเงียบปกคลุมมีเพียงเสียงฝนที่ดังก้องไปทั่ว

 

 

 

 ――เกิดอะไรขึ้น……?

 

 

 

ลิลลี่แอบมองเข้าไปในถ้ำอย่างเงียบๆ ลิซก็นั่งลงราวกับหมดแรง

 

ในที่สุดไหล่อันแสนบอบบางของเธอก็เริ่มสั่นเล็กน้อย

 

ดูเหมือนว่าเธอจะยิ้ม

 

เสียงหัวเราะเริ่มดังก้องไปทั่วและดังขึ้นเรื่อยๆ

 

หลังจากหัวเราะสักพัก ลิซก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่

 

 

 

「อะไร…อาโม่ววววววววว ล้มเหลวงั้นเหรอเนี่ย หากทำความเสียหายให้เธอไม่ได้ฉันก็แพ้ราบคาบสิ ถึงแม้จะใช้เล่ห์กล มารยา คำโกหก ฉันก็ทำอะไรไม่ได้เลย แข็งแกร่งเสียเหลือเกินนะเซนอส」

 

「พี่ลิซ……?」

 

「เซนอสจัง ฉันกลับก่อนนะ」

 

「พี่ลิซ รอก่อนสิครับ」

 

 

 

ลิซยืนขึ้นและเดินเข้ามาใกล้ไม่ในดีกับคำพูดของเซนอสอีกต่อไป

 

ขณะที่เธอกำลังจะออกมา ดูเหมือนจะสังเกตเห็นลิลลี่และดวงตาก็เบิกกว้างไปชั่วครู่หนึ่ง

 

อย่างไรก็ตามเธอก้าวออกไปท่ามกลางสายฝนโดยไม่พูดอะไร

 

 

 

「เอ่อ ลิซซัง」

 

 

 

เมื่อฉันหยุดเธอโดยไม่ได้คิดอะไร อีกฝ่ายก็ค่อยๆกลับมา

 

 

 

「……อะไร? ก็เห็นทั้งหมดแล้วนี่? ทำไมถึงไม่ยอมมาหยุดให้เร็วกว่านี้ล่ะ?」

 

「ตอนแรกนั้นฉันก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของทั้งสองคน แต่ว่า」

 

 

 

ลิลลี่หยุดแล้วพูดต่อ

 

 

 

「ลิซซังน่ะ ดูจริงจังกับคุณเซนอสมากเลยนะคะ……」

 

「……อืมเรื่องนั้นไม่จริงหรอก ฉันก็แค่คิดจะหลอกใช้เขาเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองก็เท่านั้น」

 

「แต่ว่าน้ำตานั่น……」

 

 

 

ลิซหรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วเช็ดแก้มของเธอ

 

 

 

「……นี่มันก็แค่ฝน」

 

 

 

หลังจากพูดอย่างนั้น เธอก็หายตัวไปในทิวทัศน์ของหมอกน้ำ

 

 

 

「……ชั้นไม่เข้าใจเลยจริงๆ สุดท้ายเกิดอะไรขึ้นกับพี่ลิซ แล้วมากกว่านั้นทำไมลิลลี่อยู่นี่?」

 

 

 

เซนอสปรากฏตัวจากด้านในและพูดด้วยท่าทางแปลกประหลาดใจ

 

ลิลลี่จ้องมองไปยังเขา

 

 

 

「เอ่อพวกเราทุกคนมารับคุณเซนอส」  

 

「มารับชั้นเหรอ? ตลอดทางนี้มีแต่ท่ามกลางสายฝน?」

 

 

 

ขณะที่มองไปรอบๆเซนอสมีสีหน้าสับสนบนใบหน้าของเขา

 

ถึงแม้จะเพิ่งคุยกันเมื่อเช้า แต่ก็รู้สึกเหมือนไม่ได้เจอกันนาน

 

อย่างไรก็ตาม สีหน้าสับสนของเซนอสไม่เปลี่ยนแปลง

 

มันไม่ได้เปลี่ยนไปเลย

 

เมื่อดูท่าทางของเขา ลิลลี่ก็พยักหน้าช้าๆ

 

 

 

「ใช่แล้วค่ะ ฉันมาที่นี่ท่ามกลางสายฝนเพื่อไปมารับ」

 

 

 

แม้ว่าร่างกายของฉันจะเปียกปอนไปด้วยสายฝน แต่ฉันรู้สึกได้ถึงความร้อนอันอ่อนโยนที่หน้าอก

 

ระงับความรู้สึกส่วนตัวที่อยากจะร้องไห้ ลิลลี่ยื่นมือออกไปพร้อมรอยยิ้มอันสดใส

 

 

 

「กลับบ้านด้วยกันนะคะคุณเซนอส เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอกค่ะ」

 

「เอ่อ ผมไม่เป็นไรหรอก ลิลลี่ต่างหากน่าจะเป็นหวัดนะ……?」

 

 

 

หลังจากที่เซนอสพูดอย่างนั้นและจ้องไปที่ลิลลี่สักพัก รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเขา และเขาก็จับมือของเธอ

 

 

 

「อืมนั่นสินะ พวกเรากลับบ้านกันเถอะ? สู่คลินิกของพวกเรา」

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 111 คนจากกิลด์ใต้ดิน

 

วันรุ่งขึ้น ท้องฟ้าสีฟ้าสดใสดูเหมือนกลับประชดฝนที่ตกลงเมื่อวาน

 

ที่โต๊ะรับประทานอาหารในคลินิกรักษารายล้อมไปด้วยกึ่งมนุษย์ เซนอสมีสีหน้าลึกลับบนใบหน้าของเขา

 

 

 

「พี่ลิซเป็นนักฆ่าจากกิลด์ใต้ดิน……?」

 

 

 

โซเฟียซึ่งนั่งอยู่ข้างหน้าพยักหน้าเสียงดัง

 

 

 

「ไม่ต้องสงสัยเลย การจู่โจมในเทศกาล การปรากฏตัวของผู้หญิงคนนั้น เหตุการณ์ที่สัญจรผ่านไปมา และเหตุการณ์ต่อเนื่องต่างๆล้วนเชื่อมโยงกัน」

 

「……」

 

 

 

เซนอสกอดอกโดยไม่พูดอะไร

 

สุดท้ายลิซก็กลับลงภูเขาไปก่อน ไม่ได้อยู่ที่คลินิกรักษา

 

วันรุ่งขึ้นเธอยังไม่ปรากฏตัวและไม่ทราบที่อยู่ของเธอ

 

 

 

「ยิง่ไปกว่านั้นในความเห็นของริงก้าเธอคือ【ลูกครึ่ง】ซึ่งเกี่ยวข้องกับซัคคิวบัส」

 

「ตอนที่เราไปหาเซนอส พวกคนบงการก็มาขวางทางเรา ไม่ต้องสงสัยเลยล่ะ」

 

 

 

เซนอสขมวดคิ้วและพึมพำกับคำพูดของริงก้าและลีฟ

 

 

 

「พี่ลิซน่ะเหรอเป็น【ลูกครึ่ง】……」

 

 

 

พอได้ยินเช่นนั้นชั้นก็จำได้ว่าความรู้สึกวิงเวียนที่ได้รับขณะที่เธอสารภาพรักกับชั้น

 

 

 

【ลูกครึ่ง】มนุษย์ที่จู่ๆก็สามารถใช้พลังของปีศาจได้

 

ดูเหมือนลิซจะไม่รู้เรื่องนี้ ตอนที่เธออยู่ในสภานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่ถ้าถามผม แม้แต่ผู้ใหญ่ที่โกรธเกรี้ยวก็มักจะปรับทัศนคติทันทีที่ได้คุยกับพี่ลิซ บางทีเธออาจจะใช้พลังโดยไม่รู้ตัว

 

 

 

หลังจากออกจากสถานการณ์เลี้ยงเด็กกำพร้า ลิซคงได้ตระหนักถึงพลังของเธอ

 

จากนั้นเธอเลือกจะใช้ชีวิตอยู่ในกิลด์ใต้ดิน

 

 

 

「อาจารย์อาจจะ แต่ฉันคิดว่าผู้หญิงคนนั้นอยากจะควบคุมอาจารย์และยึดครองสลัมแห่งนี้」

 

「หาาาาาาาา……」

 

「และดูเหมือนว่าจะทำไม่สำเร็จ」

 

「หมายความว่ายังไง?」

 

 

 

เมื่อชั้นถาม โซเฟียก็โน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า

 

 

 

「อันที่จริงลูกน้องของฉันหลายคนหายไปตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้」

 

「หายไปเหรอ?」

 

「ริงก้าคิดว่าน่าจะโดนคนใต้ดินลักพาตัวไป ฉันก็เคยบอกแล้วว่าอย่าออกไปข้างนอกคนเดียวแบบนั้น」

 

「พวกนั้นอาจจะโดนล่อลวงด้วยเสน่ห์ แต่สุดท้ายก็ต้องมานั่งสำนึกผิด」

 

 

 

ผู้นำกึ่งมนุษย์ต่างเฉยเมย แต่สีหน้าของพวกเขาดูขุ่นมัวอาจเป็นเพราะพวกเขากังวลเกี่ยวกับผู้ใต้บังคับบัญชา

 

 

 

「นี่เริ่มฟังดูแปลกๆแล้วนะ」

 

 

 

คามิลล่าจิบชา

 

 

 

「การแสดงเลิฟคอมได้ถูกตัดสินแล้ว ไม่เป็นไรใช่ไหม?」

 

「การแสดงเลิฟคอมอะไรล่ะนั่น?」

 

「คุคุคุ นี่ข้ากำลังพูดอยู่นี่ไง」

 

 

 

คามิลล่าพูดอะไรชวนสงสัย ริงก้ากำหมัดแน่นและอ้าปาก

 

 

 

「ฉันกังวลเกี่ยวกับลูกน้องของฉัน แต่เราจับตัวประกันไว้ที่นี่ ดังนั้นจึงอยู่ในกรณีเดียวกัน」

 

「จุ๊ๆพวกงี่เง่าอย่าเพิ่งพูดสิ ริงก้า」

 

「อะ หายไปอีกแล้ว」

 

「มันหมายความว่าอะไรละเนี่ยยยยยยยยยยย?」

 

 

 

โซเฟียตอบขอโทษเล็กน้อยกับเซนอสที่ทำหน้าสงสัย

 

 

 

「ไม่ อันที่จริง เมื่อวานบนภูเขา จับชายตัวโตมาได้เหมือนกับเป็นผู้นำ ความอยู่รอดของสลัมเป็นเดิมพัน ฉันเลยจับมันเอาไว้ค่ะ」

 

 

 

ลีฟพยักหน้า

 

 

 

「พวกนั้นไม่คณามือเธอสินะ แต่พวกเธอคงไม่ได้ไปฆ่าใครตายหรอกใช่ไหม」

 

「เอ่อ อาจารย์ ฉันจะไม่ได้ฆ่าพวกเขาเลยนะจริงๆ」

 

 

 

เซนอสพูดพร้อมกับถอนหายใจขณะที่โซเฟียโบกมือราวกับขอโทษ

 

 

 

「แล้วได้เรื่องอะไรมาไหม?」

 

「แน่นอนฉันจะไม่ได้เอาถึงตาย แต่มันไม่ใช่ประเภทที่จะเปิดปากหลังจากโดนทรมานเล็กน้อย」  

 

「ถ้าริงก้าปล่อยไว้เป็นหน้าที่ของข้า ฉันคงทำให้หมอนั่นมันคายข้อมูลออกมาแน่」

 

「เห้ยอย่าเกินไปสิเฟ้ย ยัยบ๊องพวกนี้ คู่ต่อสู้คือบุคคลจากกิลด์ใต้ดิน ชั้นไม่เคยคิดว่ามันจะง่ายที่จะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ คงจะดีถ้าใช้เป็นชิปต่อรองได้」

 

「เซนอส……」

 

 

 

ลิลลี่ถือถาดและมองเซนอสอย่างกังวล

 

 

 

「อืม…ในขณะที่ชั้นเหม่อลอย มีหลายอย่างเกิดขึ้นเบื้องหลังมันแย่มากนะทุกคนถ้าเกิดชั้นไม่เอะใจล่ะก็」

 

 

 

ทุกคนต่างส่ายหัว

 

 

 

「กลยุทธ์ของศัตรูมันแยบยลมาก ดังนั้นช่วงไม่ได้เพราะงั้นช่วยเตรียมตัวให้พร้อมเช่นกันอาจารย์」

 

「ริงก้าได้ยินมาว่ากิลด์ใต้ดินนั้นมีเส้นสาย แต่ละฝ่ายก็เคลื่อนไหวด้วยตัวเอง」

 

「อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่มีการควบคุม จึงเป็นเรื่องยากที่จะอ่านการกระทำของพวกเขา」

 

「มันค่อนข้างซับซ้อนเลยล่ะ」

 

 

 

เซนอสพึมพำขณะได้ยินการสนทนาระหว่างกึ่งมนุษย์กับคามิลล่า

 

 

 

「ถูกต้อง เพียงแค่นั้นชั้น――」

 

 

 

หลังจากจ้องมองไปที่ความว่างเปล่าชั่วขณะหนึ่ง เซนอสก็ค่อยๆปล่อยแขนของเขา

 

 

 

「ตอนนี้ขอชั้นไปคุยกับชายร่างใหญ่คนนั้นหน่อยได้ไหม?」

 

 

 

 +++

 

 

 

ลึกเข้าไปในสลัม

 

เสียงของชายคนหนึ่งดังก้องอยู่ที่มุมหนึ่งของทางน้ำใต้ดินซึ่งมีงูจำนวนนับไม่ถ้วนพันกันอย่างประณีต

 

 

 

「ฉันผิดหวังในตัวเธอมากเลยลิซ」

 

 

 

น้ำเสียงของเขาหนักแน่นและเยือกเย็น

 

 

 

「ฉันได้รับคำสั่งมาให้รอจนกว่าเธอจะสามารถจัดการเจ้านั่นได้ ฉันก็เลยรอ นั่นไม่ใช่ความล้มเหลว กำลังพยายามอย่างแรงกล้าเพื่อตอบแทนความเมตตาให้ฉันใช่ไหม」

 

 

 

ลิซยืนอยู่ต่อหน้าความมืดคุกเข่าและก้มศีรษะลง

 

 

 

「……ขอโทษค่ะ」

 

「ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่ใช่ผู้ครองดินแดน เขาเป็นเพียงฮีลเลอร์ มันน่าขำจริงๆเลย」

 

「……」

 

「ในกรณีนี้ ไว้ฉันจะพิจารณาการลงโทษของเธอ」

 

 

 

เมื่อใบหน้าของเธอหันหน้าไปทางพื้นลิซก็ตัวสั่นเทา

 

 

 

「ยังไงก็เถอะ ฉันจะให้โอกาสเธออีกครั้งเดียว」

 

 

 

สายตาที่เฉียบแหลมมุ่งหน้ามาที่เธอ

 

 

 

「……อืมก็ได้ เพราะฉันใจดีกับเธอยังไงล่ะ ฉันจะให้โอกาสเธอได้แก้ตัวอีกครั้ง」

 

「โอ้ว ขอบคุณมากค่ะ」

 

「แต่ไม่มีครั้งต่อไป」

 

「ค่ะ」

 

 

 

ในความมืดชายคนนั้นนั่งไขว้ห้าง แสงริบหรี่คือมีดที่เขาควงเล่นอยู่ในมือ

 

 

 

「ขณะนี้ กึ่งมนุษย์บางส่วนจากสลัมถูกขังไว้ในดันเจี้ยน จงไปคุมพวกนั้นด้วยพลังของเธอซะ」

 

「คุณกำลังจับกึ่งมนุษย์ใช่ไหม?……?」  

 

「เป็นการะประกันในกรณีที่เธอล้มเหลวไงล่ะ ฉันพร้อมเสมอ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันขึ้นเป็นหัวหน้าบริหารในกิลด์ใต้ดินในเวลาไม่กี่ปี」

 

「……」  

 

 

 

ลิซก้มศีรษะนิ่งเงียบ

 

 

 

「ถ้างั้นฉันควรจะทำยังไงดีคะ……?」

 

「ลูกน้องที่ไร้ประโยชน์ของเธออาจจะโดนจับพร้อมกับผู้นำกึ่งมนุษย์ในตอนนี้」

 

「ค่ะ……」

 

「ฉันเสนอที่จะแลกเปลี่ยนตัวประกันระหว่างคนเหล่านั้นกับพวกที่ฉันจับได้」

 

「จะช่วยไกล์ออนงั้นเหรอคะ」

 

「งี่เง่าน่า ไม่มีประโยชน์สำหรับพวกที่ทำผิดพลาดหรอก」

 

 

 

ลิซพูดหลังจากเม้มปากแน่น

 

 

 

「แล้วมันจะมีไว้เพื่ออะไรล่ะ?」

 

「การแลกเปลี่ยนตัวประกันเป็นเพียงข้ออ้างเพื่อดึงพวกนั้นออกมา จากนั้นพวกเราจะให้พวกมันกิน【หินระเบิด】แล้วก็ปล่อยให้พวกมันกลับไปตายที่รัง」

 

 

 

ชายคนนั้นวางแผนเช่นนั้น โดยคิดจะฝังพวกกึ่งมนุษย์ในคราวเดียว

 

 

 

「แบบนั้นเหรอ……」

 

 

 

ลิซหมดคำจะพูด

 

 

 

「แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะควบคุมสลัมเหรอ?」

 

「เนื่องจากไม่มีผู้ปกครองเจาะจงเพราะงั้นพวกเราก็เลยคิดจะเคลียร์พวกมันทิ้งทั้งหมดไม่ต้องเหลือมหาอำนาจอะไรอีก แล้วเราจะขึ้นไปครองมันเอง」

 

「จนถึงขณะนี้ใต้ดินและสลัมแยกออกจากกันไม่ได้ แต่ตอนนี้ก็เพิ่งได้แยกกัน?」  

 

「ไม่จำเป็น ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะต้องรู้」

 

 

 

ลิซถามอย่างลังเล และชายคนนั้นก็ค่อยๆลุกขึ้นยืน

 

 

 

「อย่างไรก็ตาม หากเป็นไปได้ด้วยดี ก็จะเป็นไปตามเงื่อนไข แล้วก็คุณพี่สาวกรุณาปฏิบัติงานให้สำเร็จด้วยล่ะ」

 

 

 

ลิซก้มศีรษะขณะแสดงความเคารพพร้อมกับหน้าซีด

 

 

 

「เข้าใจแล้วคะ ท่านหัวหน้า คาริ」

 

 

 

ชายคนหนึ่งซึ่งเคยเป็นผู้อำนวยการสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าและตอนนี้เป็นหนึ่งในผู้บริหารของกิลด์ใต้ดินได้ยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย

 

 

 

ยาวๆจุกๆไปครับ

 

บริจาคค่าชานมได้ที่ 097-005-6950 ภารดร บุญมา พร้อมเพย์/ทรูวอลเล็ต

[นิยายแปล] ฮีลเลอร์สุดเมพโดนไล่ออกจากตี้ (สุดกาก) ผันตัวมาเป็น ดาร์กฮีลเอร์

[นิยายแปล] ฮีลเลอร์สุดเมพโดนไล่ออกจากตี้ (สุดกาก) ผันตัวมาเป็น ดาร์กฮีลเอร์

Score 10
Status: Completed
เรื่องย่อ 「แกไม่ได้ทำอะไรเลยเมื่อเร็วๆ พวกเราไม่ต้องการแกแล้ว」 วันหนึ่งเซนอส โดนหัวหน้าปาร์ตี้แอสตรอนบอกแบบนั้น เซนอสที่เป็นฮีลเลอร์จากบ้านนอกและไม่มีใบอนุญาติอย่างเป็นทางการ ถึงกระนั้นก็ฝึกหนักอย่างเต็มที่เพื่อตอบแทนปาร์ตี้ที่มาดูแลชั้น    ด้วยเหตุนี้ หากเพื่อนได้รับบาดแผลเล็กน้อยก็รักษาให้ในทันที และใช้เวทย์ป้องกัน ใช้ฟื้นฟูอัตโนมัติ และเสริมพลังกาย ที่มันใช้ได้ยากและว่ากันว่าปาร์ตี้ของเซนอสนี่เป็นอมตะกันเลยทีเดียว   อย่างไรก็ตาม พวกนั้นก็เข้าใจผิดว่าปาร์ตี้ของตนเองเก่งขึ้นและไม่จำเป็นต้องพึ่งเซนอสอีกแล้วและใช้เซนอสเป็นคนแบกสัมภาระ และเริ่มคิดว่าเซนอสเป็นตัวถ่วง หลังจากโดนไล่ออกจากปาร์ตี้ เซนอสได้ช่วยชีวิตทาสเอลฟ์สาวที่ได้รับบาดเจ็บโดยบังเอิญ 「ดิฉัน ยังมีชีวิตอยู่เหรอคะ……? ฉันคิดว่าฉันตายแล้วซะอีก」 「ฮะฮะฮะ รอยขีดข่วนแค่นี้จิ๊บจ๊อยน่า」 「……สุดยอดไปเลยค่ะ」 หลังจากช่วยเอลฟ์สาวแล้ว เซนอสเองก็ตัดสินใจเปิดศูนย์รักษาแห่งความมืดที่มุมมถนน เนื่องจากเขาไม่มีใบอนุญาติ การรักษาจึงเป็นแบบปากต่อปาก แต่ข่าวลือของดาร์กฮีลเลอร์นั่นแพร่กระฉ่อนไปทั่วทุกสารทิศที่ช่วยเหลือผู้อ่อนแอและทำเงินได้เป็นจำนวนมาก จนในที่สุดก็ดังไปถึงพระราชวัง ในทางกลับกันอดีตปาร์ตี้ของเซนอสก็บาดเจ็บกันหนักมากเพราะเสียฮีลเลอร์สุดเมพไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ถึงถูกบอกให้พากลับมาตอนนี้ แต่ว่าได้เงินมากมายขนาดนี้ ใครจะกลับฟะ?

Options

not work with dark mode
Reset