[นิยายแปล] ร้านป้ายแดงของสาวนักแปรธาตุมือใหม่ 99 [3] ผู้มาเยือนที่น่าตกใจ [Part 3]

ตอนที่ 99 [3] ผู้มาเยือนที่น่าตกใจ [Part 3]

 

“แล้วนี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่น่ะคะท่านพ่อ? ไม่ใช่ว่าเราตกลงกันแล้วเหรอคะว่าให้ฉันกับเคทออกไปหาเงินเพื่อชดใช้หนี้กันน่ะ?”

 

แบบนี้เอง นี่สินะ เหตุผลที่ผู้หญิงอายุน้อยอย่างคุณไอริสกับคุณเคทต้องออกมาทำงานเป็นนักเก็บสะสมกันเอง 2 คนน่ะ

 

“…หืม? อาเระ? เดี๋ยวก่อนนะคะ นี่คุณไอริสยังติดหนี้คนอื่นอยู่นอกจากฉันอีกหรอกเหรอคะ?”
“อึก! ค- คือมันก็ ใช่ค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ!”
“จริงๆ ก็ไม่ใช่ของไอริสหรอกค่ะ แต่จะเป็นของ [ตระกูลไอริส] มากกว่า”

 

คุณเคทแทรกขึ้นมาเสริมให้ พอเห็นว่าคุณไอริสเงียบไปซะดื้อๆ

ฉันเลื่อนสายตาไปหาท่านอาเดลเบิร์ท ท่านก็พยักหน้า สีหน้าดูเจ็บปวดไม่น้อยเลย

 

“เป็นเรื่องจริง ช่างน่าละอายยิ่งนักแต่ก็-”
“มันช่วยไม่ได้นี่คะ! นั่นมันเพราะทุพภิกขภัยต่างหาก!”
“อย่าพูดแบบนั้น การขาดการเตรียมพร้อมอย่างเหมาะสมนั้นมันแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอในฐานะเจ้าผู้ครองที่ต่างหาก”

 

คุณไอริสพูดสวนขึ้นอย่างเดือดดาลเพื่อจะปกป้อง แต่ท่านอาเดลเบิร์ทก็ส่ายหัว

—ว่าแต่ว่า จริงสินะ ทุพภิกขภัยงั้นเหรอ

การตอบโต้กับภาวะข้าวยากหมากแพงนี่มันขึ้นอยู่กับเจ้าผู้ครองที่มากเลยล่ะนะ

มีทั้งเจ้าผู้ครองที่ที่ใจไม้ไส้ระกำ ขนาดชาวบ้านอดอยากแทบไม่มีอะไรจะกินอยู่แล้วก็ยังเก็บภาษีเท่าเดิมเหมือนตามปกติ

เจ้าผู้ครองที่ที่ช่วยลดการเก็บภาษีเพื่อแบ่งเบาภาระจากบรรดาชาวบ้านชาวเมือง

แล้วก็ยังมีเจ้าผู้ครองที่ที่ยังช่วยซื้ออาหารและให้ความช่วยเหลือกับชาวเมืองด้วยเหมือนกัน

 

จากที่ได้ฟังรวมๆ มานี่ ท่านอาเดลเบิร์ทจะต้องให้ความช่วยเหลือลงไปในพื้นที่ของท่านแน่

ต่อให้ท่านอาเดลเบิร์ทจะเป็นอัศวินชั้นผู้น้อย ฉันก็ไม่คิดว่าพวกเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ตกยากถึงขนาดจำเป็นต้องหยิบยืมเงินมาเพื่อกินเพื่อใช้หรอก แถมถ้าตัดสินเอาใจนิสัยของคุณไอริสกับคุณเคทที่ฉันเห็นมา พวกเธอก็ดูไม่ได้เป็นคนใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายจนเงินหมดตัวเลยด้วย

 

“แสดงว่า พวกคุณไอริสก็เลยออกมาทำงานเป็นนักเก็บสะสมกันเพื่อจะพยายามใช้หนี้ที่ติดค้างอยู่ แม้จะเล็กน้อยก็ยังดีสินะคะ?”
“คร่าวๆ ก็ประมาณนั้นค่ะ พวกเรายังอ่อนประสบการณ์ แต่ก็คิดว่ามันอาจช่วยอะไรได้บ้างเล็กๆ น้อยๆ”
“ถ้าเราทิ้งเอาไว้แบบนั้นเลย หนี้มันก็จะไม่ลดลงอยู่ดี”
“ถ้าเป็นขุนนางด้วย… ก็จริงนะคะ”

 

แหล่งรายได้หลักของขุนนางจะมาจากบำนาญจากภาครัฐและส่วยที่เก็บจากพลเมืองที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ปกครองของตัวเอง

บำนาญจะขึ้นกับระดับชั้นยศ และแทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่

ถ้ามีตำแหน่งสูงประมาณนึง เงินที่ได้เพิ่มเติมพิเศษก็อาจจะมีบ้าง แต่สำหรับอัศวิน โดยเฉพาะขุนนางที่มีที่ดินในปกครองอยู่แล้วด้วยนี่ โอกาสแบบนั้นถือว่าหายากเลย

ส่วนเรื่องส่วยก็จะเพิ่มขึ้นตามการพัฒนาพื้นที่ในปกครองของเจ้าตัว แต่ว่า… ไม่มีทางที่อาณาเขตที่มีหมู่บ้านแค่ 2 แห่งจะพัฒนาขึ้นมาได้ง่ายๆ อยู่แล้ว ถ้าหนี้มันก้อนใหญ่มาก ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายเองก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ลำบากแน่แล้วล่ะ

ขุนนางบางคนก็สามารถหารายได้เพิ่มผ่านทางธุรกิจอื่นๆ ควบคู่ไปกับการบริหารอาณาเขตได้นั่นแหละ แต่จะสำเร็จได้ก็จำเป็นต้องอาศัยพรสวรรค์ ส่วนมากก็มักจะล้มเหลวแล้วไปเพิ่มหนี้ที่มีอยู่แล้วให้เพิ่มไปอีกซะมากกว่า

เทียบกันแล้วนี่ ให้พวกคุณไอริสออกไปทำงานหาเงินอาจจะทำเงินได้น้ำได้เนื้อกว่าอีก

 

“จะว่าไป ขอถามหน่อยได้มั้ยคะว่าพวกคุณติดหนี้กันอยู่เท่าไหร่?”
“ในเมื่อนายท่านผู้จัดการเป็นคนให้เงินเราด้วย ฉันคิดว่าคุณก็มีสิทธิ์ถามนะคะ คิดว่าน่าจะประมาณ 65 ล้านแรร์―――ใช่หรือเปล่าคะท่านพ่อ?”
“อ่า ต้องขอบใจพวกเจ้าด้วย หนี้จึงลดลงมาบ้างเล็กน้อย แม้ว่าเราจะยังไม่ถึง 64 ล้านแรร์เลยก็ตามที”

 

ท่านอาเดลเบิร์ทพยักหน้าหงึกๆ แต่—

 

“ว่าแต่ หนี้มัน ไม่เยอะไปหน่อยเหรอคะ? หมู่บ้านแค่ 2 หมู่บ้านเองนี่นา?”

 

ครอบครัวตามปกติจะมีประชากรอาศัยอยู่โดยเฉลี่ยประมาณ 6 คนต่อครัวเรือน ถ้าไม่ได้ไปใช้จ่ายเกินตัวอะไร ปีๆ นึงก็คงใช้เงินราวๆ 100,000 แรร์

ต่อให้จะเป็นช่วงข้าวยากหมากแพง พวกเขาก็ไม่ได้ต้องรับภาระหนักหนาอะไรขนาดนั้นนี่นา ในความเป็นจริง พวกเขาไม่จำเป็นต้องใช้เงินถึง 100,000 แรร์จริงๆ หรอก แต่ถึงจะคำนวณตัวเลขหนี้ด้วยเงินขนาดนั้น นี่ก็เกือบ 650 หลังคาเรือนเลยนะ

ต่อให้จะมีดอกเบี้ยรวมอยู่ด้วย มันก็เป็นหนี้ที่เยอะเกินไปสำหรับอาณาเขตปกครองที่มีหมู่บ้านแค่ 2 แห่งอยู่ดี

 

“นั่นเป็นเพราะเมื่อข่าวว่าตระกูลของเราได้ให้การช่วยเหลือ เหล่าผู้อพยพก็ได้โยกย้ายเข้ามา… เราจึงจำเป็นต้องใช้เงินเพื่อรับมือช่วยเหลือในส่วนนี้ด้วยเช่นกัน”
“แบบนี้เอง ผู้อพยพสินะคะ…”

 

กรณีที่ไม่ใช่ปัญหาร้ายแรงจากการปกครอง ถ้าเกิดอาณาเขตปกครองของท่านอาเดลเบิร์ทประสบกับปัญหาข้าวยากหมากแพง บริเวณใกล้เคียงเองก็ต้องเผชิญกับวิกฤติแบบเดียวกันนั่นแหละ

สมมุติว่าพวกเขาอยู่ติดกับพื้นที่ที่ปกครองอย่างโหดร้ายกดขี่ ก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วที่ผู้อพยพจะเลือกย้ายเข้ามาในพื้นที่ของท่านอาเดลเบิร์ทที่ให้ความคุ้มครองอย่างเอื้อเฟื้อ

เพื่อรับมือกับเรื่องนี้ ก็ไม่ใช่แค่อาหารการกินแล้ว แต่ยังจำเป็นต้องมีเรื่องของที่อยู่อาศัยและสิ่งจำเป็นอื่นๆ ด้วย

 

“แล้วมันก็ยังมีดอกเบี้ยด้วย เพราะหลังจากที่เราได้ยืมเงินมา เราไม่สามารถจ่ายคืนได้มาพักหนึ่งแล้ว หนี้ที่ติดค้างอยู่ในขณะนี้จึงเพิ่มขึ้นมากกว่าจำนวนเงินเดิมที่เราได้ยืมมาในตอนแรก”
“ค่อนข้างสาหัสเลยล่ะค่ะ…”

 

หลังจากที่คุณคาตารินาพูดเสริมให้ ท่านอาเดลเบิร์ทก็ได้ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เน้นย้ำถึงน้ำหนักคำพูดนั้นขึ้นไปอีก

ดูเหมือนปัญหาหลักๆ มันจะเกี่ยวอยู่กับผู้อพยพสินะ แม้ว่าประชากรในพื้นที่สามารถกลับไปทำมาหากินได้ตามปกติเมื่อสภาพอากาศดีขึ้นแล้ว แต่ผู้อพยพน่ะ พวกเขาไม่มีความสามารถในการทำมาหาเลี้ยงชีพ

ในการจะจัดการกับปัญหานี้อย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องใช้ทุนทรัพย์ลงไปอยู่เรื่อยๆ จนนำไปสู่ปัญหาการชดใช้หนี้ที่หยุดชะงักไป

ผลลัพธ์ก็คือ หนี้มันก็จะเพิ่มขึ้นจากดอกเบี้ย

2-3 ปีต่อมา ในที่สุดสถานการณ์ก็สงบลง และท่านอาเดลเบิร์ทก็เริ่มจ่ายหนี้คืน แต่ว่า ด้วยหนี้ที่เพิ่มพูนขึ้นมา โดยเฉพาะจากดอกเบี้ยที่เพิ่มเอาๆ นี่แหละ ทำให้แม้ว่าท่านจะชดใช้หนี้นั้นด้วยส่วยที่เก็บจากพื้นที่ การจะลดก้อนเงินต้นอย่างมีนัยสำคัญมันก็ลำบากเลย

 

“ก็ต้องขอบคุณพวกไอริสด้วยล่ะนะ หนี้ก้อนนั้นถึงได้เริ่มลดลงมาบ้างแล้วในระยะหลังนี้ แต่…”
“ตอนนั้น ตั้งแต่ที่ฉันได้รับบาดเจ็บไป…”
“เพราะเรื่องชดใช้หนี้ให้คุณผู้จัดการต้องมาก่อนสิคะ”

 

ดูเหมือนการต้องใช้หนี้ให้กับฉันที่ให้ยืมเงินมาไม่ได้มีสิ่งค้ำประกันหรือสัญญาจะสำคัญกว่าสินะ พอเป็นแบบนั้น ระยะหลังนี้ เงินที่พวกเธอส่งกลับไปให้ทางบ้านเลยแทบจะเป็นศูนย์เลย

 

“มโนธรรมสูงมากเลยนะคะ ในเมื่อทางฉันไม่ได้มีดอกเบี้ยอะไร ตามปกติก็น่าจะเอาเรื่องจ่ายหนี้ให้ฉันเอาไว้ก่อนนะคะ”
“ไม่มีทางหรอกค่ะ! คติของตระกูลเรานั้นจะต้องตอบแทนความเมตตาที่ได้รับมาเสมอ! เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วค่ะที่จะต้องให้ความสำคัญกับนายท่านผู้จัดการก่อน!—ใช่ไหมคะท่านพ่อ?”
“อึม แน่นอนอยู่แล้วสิ”

 

พอคุณไอริสได้พูดออกมาอย่างหนักแน่น แล้วหันไปถามขอการยืนยันจากท่านอาเดลเบิร์ท ท่านก็พยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งนั้น

แต่สีหน้าของเขาก็กลับมาเคร่งเครียดทันทีเลย ตอนที่คุณเคทเริ่มพูด

 

“แล้วทำไมถึงต้องการให้พวกเรากลับไปด้วยล่ะคะ? เรายังใช้คืนหนี้ของคุณผู้จัดการไม่เรียบร้อยเลย”
“…สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว”
“เราถูกขอให้ชดใช้หนี้ทั้งหมดทั้งต้นและดอกในคราเดียวน่ะสิ”
“เรื่องนั้นมัน―――!”

 

หลังจากได้ยินคุณคาตารินาบอกแบบนั้น ทั้งคุณไอริสทั้งคุณเคทก็พูดอะไรไม่ออกเลย

 

“จากที่ท่านอาเดลเบิร์ทเป็นขุนนางด้วย แสดงว่าเจ้าหนี้เองก็เป็นขุนนางเหมือนกันสินะคะ?”
“ถูกต้องแล้ว เราได้ยืมเงินมาจากไวเคานต์โยโกว เคิร์ก ที่เป็นผู้ปกครองดินแดนในแถบนี้—เมืองเซาว์ท สแตรกและหมู่บ้านแห่งนี้นี่แหละ”
“เขตปกครองของตระกูลเราอยู่ติดกับเขตปกครองของไวเคานต์เคิร์กเลยค่ะ ถึงจะเป็นแค่พื้นที่เล็กๆ ก็ตามที”

 

ท่านอาเดลเบิร์ทพยักหน้าตอบคำถามของฉัน แล้วคุณไอริสก็พูดเสริมข้อมูลให้กระจ่างอีกเล็กน้อย

แต่ว่า เข้าใจแล้วล่ะ

ไม่เคยสังเกตถึงความเกี่ยวข้องกันนี้มาก่อนเลย แต่ดูเหมือนคุณไอริสกับคุณเคทจะมีปัญหาความตึงเครียดบางอย่างกับเจ้าผู้ครองที่ของหมู่บ้านแห่งนี้ด้วย…

ไม่สิ ดูจากวิธีที่เขาดูแลหมู่บ้านนี้ตลอดมา จะเจอกับความขัดแย้งแบบนั้นฉันก็ไม่แปลกใจเลยนะ

นอกจากจะไม่ช่วยอะไรแล้ว ยังจะให้จ่ายภาษีเพิ่มอีกต่างหาก

 

“เจ้าไวเคานต์เคิร์กนั่นน่ะดูถูกพวกเรามาตลอด แถมยังคิดดอกเบี้ยสูงด้วย มาคราวนี้ยังต้องการจะให้ชดใช้เงินต้นพร้อมดอกทั้งหมดในคราเดียวอีกเนี่ยนะ!”

 

ในขณะที่คุณไอริสตะโกนเสียงดังอย่างหงุดหงิด ท่านอาเดลเบิร์ทกลับส่งเสียงต่ำๆ ออกมาจากในลำคอ ก่อนที่จะส่ายหัว

 

“กำหนดการชำระหนี้นั้นน่ะได้ผ่านไปแล้ว คงบ่นอะไรไม่ได้หรอก ฉันพยายามอย่างเต็มที่แล้วเพื่อที่จะหาเงินจากแหล่งอื่นๆ มา แต่ด้วยขนาดพื้นที่ของเรา กับเงินก้อนขนาดนั้น…”

 

เงินมากกว่า 60 ล้านแรร์เลยนะ ไม่มีใครจะยอมให้ยืมเงินก้อนใหญ่ขนาดนั้นกับอัศวินที่มีหมู่บ้านแค่ 2 แห่งในปกครองหรอก

คงจะเป็นแบบนั้นแน่

 

“มีเพียงคนเดียวที่ตกลงยินยอมจะให้เรายืมเงินได้ แต่…”

 

พอเห็นสีหน้าหลบเลี่ยงของคุณคาตารินา คุณไอริสก็ถอนหายใจ ดูจะยอมรับกับสถานการณ์ดังกล่าวปนไปกับความรู้สึกยอมจำนน

 

“ในสถานการณ์แบบนี้ ที่ท่านพ่อขอให้ฉันกลับไป… เงื่อนไขในการยินยอมให้ยืมเงินคงจะเป็นให้ฉันต้องไปแต่งงานด้วยสินะคะ?”

 

ท่านอาเดลเบิร์ทกับคุณคาตารินาต่างพยักหน้าให้กับที่คุณไอริสพูดกันเงียบๆ

 

 

TN: เฮ้อ… เรื่องเงินนี่มันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ…

ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r

[นิยายแปล] ร้านป้ายแดงของสาวนักแปรธาตุมือใหม่

[นิยายแปล] ร้านป้ายแดงของสาวนักแปรธาตุมือใหม่

Score 10
Status: Completed
แทบจะเป็นหนทางเลี้ยงชีพทางเดียวเลยที่จะเจริญขึ้นมาได้สำหรับเด็กกำพร้าตัวคนเดียว นั่นคือการเอาหนังสือรับรองการเล่นแร่แปรธาตุแห่งชาติมาให้ได้! ซาราสะ เด็กสาวที่จบจากวิทยาลัยหลวงฝึกสอนนักเล่นแร่แปรธาตุ สถานที่ที่ไม่ต้องการอะไรอื่นนอกจากความสามารถของผู้เรียน ได้รับการเสนอร้านแห่งนึงมาจากอาจารย์ของเธอ เธอเริ่มออกเดินทางภายใต้การมองส่งของอาจารย์ผู้ใจกว้าง เฝ้าฝันถึงชีวิตที่สวยงามกว่าทั่วๆ ไปในฐานะนักเล่นแร่แปรธาตุ แต่ว่า ในสถานที่แบบนี้ ถ้าเธอไม่เปิดร้านล่ะก็ ชีวิตแบบนั้นก็ไม่มีวันมาถึงแน่―― เธอที่รายล้อมด้วยพนักงานทำงานพิเศษที่น่ารัก กับชาวบ้านที่เป็นมิตร เป้าหมายอยู่ที่การเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุของประเทศอย่างเต็มตัวให้ได้! ชีวิตทำงานอันสโลว์ไลฟ์เริ่มเปิดให้บริการแล้ว! (เรื่องนี้แปลจากฉบับ LN ภาษาญี่ปุ่น)

Recommended Series

Options

not work with dark mode
Reset