“แล้วในสถานการณ์แบบนั้น ทำไมถึงได้แต่งงานล่ะคะ?”
ถ้าคุณไมเคิลเป็นคนขอหมั้น ก็อาจจะควรถามคุณอิสึนะว่าทำไมเธอถึงตอบตกลง―――
“เขาเป็นคนที่ฉันต้องช่วยเหลือเจือจุนกันน่ะ ไม่ยังงั้น เขาคงได้ทรุดลงไปไม่ฟื้นแน่ๆ…”
““โห…””
ได้ยินคำพูดของคุณอิสึที่ถึงจะพูดด้วยสีหน้าเหนื่อยอ่อน แต่ก็แฝงไปด้วยความดีใจแล้ว ทั้งฉันทั้งโลเรียจังก็พูดขึ้นมาพร้อมกันเลย ถึงจะอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่ก็ยังมีความสุขดีอยู่สินะ
แบบนี้มันไม่ได้แล้วนะ! ภรรยาที่ยอมเสียสละคอยช่วยสนับสนุนฝ่ายชายโหลยโท่ยพึ่งพาไม่ได้แบบนี้น่ะ
มองผ่านๆ ก็ดูเป็นเรื่องที่สวยงามนะ แต่แบบนี้ก็ไม่มีใครที่ได้มีความสุขจริงๆ เลยซักคนน่ะสิ!
ดูเหมือนคุณกัตส์เองก็จะรู้สึกเหมือนกัน เขาถึงได้ถอนหายใจซะเฮือกใหญ่อย่างเหนื่อยหน่ายเลย
“เป็นแบบนั้นเลยใช่มั้ยล่ะ? เพราะปล่อยเอาไว้ไม่ได้ ข้าถึงได้ไปขอให้คุณเอรินช่วยไงเล่า”
ตอนที่คุณกัตส์ลำบากวิ่งวุ่นเรื่องของน้องชายของเขา เขาก็ได้ยินเรื่องที่คุณเอรินกำลังมองหาคนมาทำงานในสวนสมุนไพรเข้าพอดี พอเห็นแบบนั้น เขาก็รีบเข้าไปหาคุณเอริน ก้มหัวขอร้อง ก่อนจะเรียกตัวคุณไมเคิลกับภรรยาของเขากลับมา
ตามปกติแล้ว ถ้าอยากจะไถปลูกใหม่หมดเลย ก็ต้องแบกรับต้นทุนที่จำเป็นเอาไว้เองทั้งหมด แล้วไหนจะค่ากินค่าอยู่ในชีวิตประจำวันที่ต้องยังมีใช้จนกว่าจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้อีก
แต่ครั้งนี้น่ะ สวนนี้ถูกทำขึ้นเพื่อเป็นรางวัลตอบแทนให้ฉัน เพราะฉะนั้น ค่าใช้จ่ายทั้งหมดก็เลยได้ทางหมู่บ้านช่วยจัดการให้
แถมดูเหมือนจะมีเงินสำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้ด้วย… ถึงจะไม่ได้เป็นไร่ของตัวเองก็ตาม แต่เงื่อนไขนี้ก็ยังยอดเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
“คุณพี่ชาย… เป็นคนดีสุดๆ ไปเลยนะเนี่ย…”
ถึงจะยังถอนหายใจเฮือกใหญ่ แต่คุณกัตส์ก็มองดูน้องชายกับน้องสะใภ้ของเขาด้วยสายตาอ่อนโยน เห็นแล้วฉันก็งึมงำออกมาเงียบๆ
แน่นอนล่ะว่า ครอบครัวที่ไม่ได้แยแสเลยว่าพี่น้องที่ออกจากบ้านไปจะเป็นตายร้ายดียังไงบ้างมันก็มี เผลอๆ อาจจะอยากให้หายไปซะให้พ้นๆ เลยด้วยซ้ำ แต่คุณกัตส์น่ะ เขากลับยินดีวิ่งเต้นหาทางช่วยเหลือพวกน้องๆ ของเขาเลย
“เฮ่อ มันก็ไม่ใช่อะไรแบบนั้นหรอก เจ้าน้องชายนี่ก็ว่าไปอย่าง แต่จะปล่อยให้น้องสะใภ้ต้องตกระกำลำบากนี่มันก็ใช่เรื่องนี่จริงมั้ย? ข้าอาจจะไม่มีเงินเท่าไหร่ก็จริง แต่ข้าก็อยากจะหาทางจะช่วยเท่าที่ข้าจะทำได้ล่ะนะ”
คุณกัตส์บอกมาพลางเกาจมูกอย่างเขินๆ นิดหน่อย แต่เขาก็ถึงขนาดมาช่วยไถพรวนดินในสวนสมุนไพรนี้หลังจากจัดการกับไร่ของตัวเองเสร็จไปแล้วด้วย
ทำไร่ในหน้าร้อนแบบนี้น่ะงานหนักจะตายไป
“ขอบคุณสำหรับความลำบากด้วยนะคะ ในอากาศที่ร้อนขนาดนี้ด้วย”
“ก็ช่วยไม่ได้นี่ ก็นี่มันหน้าร้อนนี่นา แต่รู้มั้ย? จริงๆ ปีนี้ถือว่าดีกว่าเยอะเลยนะ ต้องขอบคุณหมวกเย็นฉ่ำของซาราสะจังด้วย ถ้าไม่มี ป่านนี้ก็คงหน้ามืดไปนานแล้วล่ะ!”
คุณกัตส์ว่าแบบนั้น ก่อนจะสะกิดเรียกคุณไมเคิล
คุณไมเคิลที่โดนสะกิดก็ยิ้มแหยๆ ออกมา ดูเหมือนเขาจะเข้าใจสถานการณ์ของตัวเองเหมือนกัน ก่อนที่เขาจะพยักหน้า
“ครับ ช่วยได้มากเลย―――หมวกนี้ยืมมาใช้นะครับ”
“ถ้าไม่มีนี่ฉันมาทำงานกลางสวนกลางไร่ในหน้าร้อนแบบนี้ไม่ได้แน่… ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีอาร์ติแฟกต์แบบนี้อยู่ในที่ที่ไกลปืนเที่ยงแบบนี้ด้วย―――อ๊ะ! ข- ขอโทษนะ!”
คุณอิสึเผลอหลุดปากพูดเรื่องข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ ก็ตกใจจนรีบเอามือขึ้นมาปิดปากพลางขอโทษขอโพย แต่โลเรียจังกับคุณกัตส์ก็ดูจะไม่ได้ติดใจอะไรเป็นพิเศษ พร้อมกับส่ายหน้า
“ยังไงที่นี่ก็เป็นหมู่บ้านในชนบทนี่คะ ถึงตั้งแต่ที่คุณซาราสะก็จะพัฒนาขึ้นมาแล้วก็ตามที แต่ก็…”
“นั่นสินะ ขนาดหมวกเย็นฉ่ำนี่ เราก็ต้องขอบคุณซาราสะจังเลย พวกนาย 2 คนก็สำนึกเรื่องนี้ของซาราสะจังเอาไว้ซะด้วยล่ะ”
“แน่อยู่แล้ว”
“อือ ได้ยินแล้วล่ะ―――เออ คุณซาราสะ เอาหมวกมาใช้แบบนี้ไม่เป็นไรใช่มั้ย?”
“ค่ะ จะใครในหมู่บ้านก็ใช้ได้เลย พวกคุณวางแผนจะย้ายมาที่นี่เลยหรือเปล่าคะ?”
“แน่นอนค่ะ… เยี่ยมเลย ได้หมวกเย็นฉ่ำสวยๆ มาใช้ด้วย”
คุณอิสึพยักหน้าตอบ ก่อนจะพึมพำอย่างดีใจหลังจากได้ยินคำตอบนั้นของฉัน
หมวกฟางแบบที่เธอใช้อยู่ตอนนี้เป็นแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากเหล่าชาวนาชาวไร่ในหมู่บ้านนี้เลย แต่กับคุณอิสึที่อยู่ในตัวเมืองแล้ว นี่อาจจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ
ถ้าคุณอิสึที่ดูจะมีเซนส์เรื่องแฟชั่นดีเอาหมวกสวยๆ เข้ามาซักหน่อย ตัวสินค้าจะได้มีความหลากหลายเพิ่มขึ้นด้วย เป็นแบบนั้นก็คงดีมากเลยล่ะ
ฉันคงไม่คาดหวังให้ชาวบ้านมาซื้อกันหรอก แต่คุณเกรทส์อาจจะซื้อไปก็ได้
“จะว่าไป ฉันให้คุณไมเคิลกับภรรยาเป็นคนจัดการสวนนี้ได้เลยใช่มั้ยคะ?”
“ครับ พี่แค่มาช่วยจัดการให้ที่นี่เป็น [สวน] พร้อมเท่านั้นเอง ต้องขอโทษด้วยนะครับถ้าทำให้ต้องลำบาก แล้วก็ขอฝากตัวด้วยนะครับ”
“ฉันเองก็จะพยายามเต็มที่เหมือนกันค่ะ ถึงนี่จะเป็นการมาทำงานในไร่ครั้งแรกของฉันเลยก็เถอะ!”
คุณไมเคิลโค้งหัวให้ ส่วนคุณอิสึก็กำมือทั้ง 2 ข้างแน่น เตรียมตัวพร้อม และเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นเลย
ทั้งสีหน้าท่าทางก็ทำให้ฉันเข้าใจได้แล้วนะ แต่ว่า…
“คุณอิสึ ดูเหมือนจะไม่ได้มาจากแถบชนบทใช่มั้ยคะ?”
“อื้ม ฉันเกิดที่เมืองเซาท์ สแตรก แล้วก็โตมาจากที่นั่นเลยน่ะ นี่ก็ครั้งแรกเลยที่ฉันมาอยู่ในย่านชนบทแบบนี้”
“ว่าแล้วเชียว แล้วคุณไมเคิล พอจะมีประสบการณ์ทำไร่มาบ้าง ใช่มั้ยคะ…?”
เพราะเขาเป็นน้องชายของคุณกัตส์ อย่างน้อยตอนยังเด็ก เขาก็ต้องเคยช่วยงานในบ้านมาบ้างแหละ
แต่ก็นะ ผิวเขาไม่ได้โดนแดดเผาขนาดนั้น ร่างกายก็ดูไม่เหมือนกับจะเป็นคนที่ทำงานเกษตรเลยด้วย
ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าเขาไปทำงานอะไรที่เซาท์ สแตรก แต่เทียบกับพี่ชายของเขาแล้ว เขาดูจะขาดพละกำลังไปอยู่ นี่แหละที่ทำให้ความน่ากังวลเพิ่มขึ้นมา
ฉันสามารถแนะนำพวกเรื่องอย่างวิธีการปลูกให้พวกเขาได้นะ แต่ฉันไม่ได้เป็นเกษตรกรมืออาชีพ แล้วการเพาะสมุนไพรวัตถุดิบเล่นแร่แปรธาตุขนาดเล็กๆ กับการเพาะปลูกขนาดใหญ่นี่ก็มีจุดแตกต่างหลายจุดเลยด้วย
คุณกัตส์คงรู้สึกได้ เขาเลยเปิดปากพูดอย่างลำบากใจเล็กน้อย
“อ่า~ หมอนี่น่ะออกไปจากหมู่บ้านตั้งแต่ที่เป็นผู้ใหญ่เลย… แต่ตรงเรื่องพวกนั้น เดี๋ยวข้าจะช่วยเอง ถึงจะซุ่มซ่ามไปบ้าง แต่หมอนี่ก็ขยันขยับร่างกายดีเลยล่ะ ขอโทษที่ต้องขอนะซาราสะจัง แต่พอจะช่วยดูแลเจ้านี่แบบยาวๆ ให้ทีได้มั้ย?”
“อ่า ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา… แต่ว่า คุณไมเคิลกับภรรยาจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ?”
เพราะงานหลักของฉันก็คือนักเล่นแร่แปรธาตุ ถ้าการเพาะปลูกสมุนไพรที่นี่ล้มเหลวขึ้นมาก็ไม่ได้กระทบกับฉันหนักขนาดนั้น แถมฉันก็ยังซื้อสมุนไพรจากนักเก็บสะสมได้อยู่ถ้าจำเป็น มันเลยไม่ได้เป็นปัญหากับฉันขนาดนั้น
แต่ว่ากับคุณไมเคิลกับภรรยาที่ต้องหาเลี้ยงกับเรื่องนี้เลยเนี่ย…
“ถ้าเกิดล้มเหลวขึ้นมา ค่ากิน ค่าอยู่ของพวกเขา…”
“ผมอยู่กับพี่อยู่แล้วล่ะครับ สำหรับตอนนี้ เรายังได้ค่าจ้างจากคุณเอรินอยู่ หวังว่าจะผ่านช่วงนี้ไปได้นะครับ…”
“ต่อไปก็อยากจะให้สร้างบ้านใหม่ไว้แถวๆ นี้อยู่หรอก แต่นั่นก็ขึ้นกับว่าพวกนี้น่ะทำงานกันหนักแค่ไหน จะไปพักอยู่บ้านคนอื่นทั้งๆ ที่มีลูกด้วยมันก็ไม่เหมาะหรอก”
คุณกัตส์ว่าพลางชี้ไปตรงที่ดินตรงข้ามบ้านของฉัน
แต่เพราะบ้านฉันก็ตั้งอยู่ตรงชายขอบหมู่บ้านอยู่แล้ว ถ้าคุณไมเคิลมาสร้างบ้านไว้ตรงนั่นด้วยล่ะก็ แบบคุณเอรินเคยพูดเรื่องว่านั้นก็แปลว่าหมู่บ้านนี้จะขยายขึ้นอีกนิดนึงสินะ?
คุณเอรินเคยพูดเรื่องว่า ‘ถ้าไปได้สวย ก็อยากจะขยายไร่สมุนไพรให้ใหญ่ขึ้นอีก’ อาจจะเพราะปัจจัยเรื่องการเพิ่มจำนวนประชากรในหมู่บ้านด้วยหรือเปล่านะ?
“อึม เป็นความรับผิดชอบใหญ่หลวงน่าดูเลยนะคะ”
“ไม่ต้องกังวลอะไรเลยนี่? ซาราสะจังแค่ดูแลเรื่องงานปลูกก็พอนี่จริงมั้ย? ถ้ามีอะไรพลาด ความรับผิดชอบก็ตกอยู่กับไมเคิล เพราะงั้น จนกว่าการงานจะมั่นคง ห้ามมีลูก เข้าใจมั้ย?”
“พ- พี่ครับ!”
คุณไมเคิลร้องตอบการตบบ่าแบบหยอกๆ ของคุณกัตส์เสียงหลงเลย คุณอิสึเองก็หน้าแดงขึ้นมานิดๆ เหมือนกัน
จริงด้วยสินะ ในเมื่อพวกเขาแต่งงานกัน จะมีลูกกันก็เป็นไปได้นี่นา
“ถ้าอย่างนั้นอาจจะเป็นของขวัญแต่งงานที่แปลกซักหน่อย แต่ฉันจะใช้เวทมนตร์ช่วยซักหน่อยแล้วกันค่ะ”
เห็นผลลัพธ์ยิ่งเร็วก็ยิ่งดีนะ ฉันว่า จะให้คู่ใหม่ปลามันต้องรอกว่าอะไรๆ มันจะคืบหน้านานเกินไปนี่ก็ดูไม่ดีเท่าไหร่หรอก ถึงฉันจะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องนั้นเท่าไหร่ก็เถอะ
ก็ฉัน ไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลยนี่นา!
“ถ้าจัดการเรื่องพรวนดินเรียบร้อยแล้ว งานก็จะง่ายขึ้นใช่มั้ยคะ?”
งานที่ยากที่สุดในการทำเกษตรก็คือทุบดินแข็งๆ ให้แตกร่วนนี่นา ไหนจะเรื่องที่ต้องเอารากไม้ เอาหิน หรือนู่นนี่นั่นออกไปอีก
โชคดีที่แถวๆ นี้ไม่มีไม้สูงงอกอยู่เลย มีก็แต่พวกไม้พุ่ม แต่ดินที่โดนหญ้าหยั่งรากลงไปลึกนี่ก็ต้องอาศัยความพยายามในการขุดถอนรากถอนโคนอยู่พอสมควรเลยอยู่ดี
ถ้าฉันช่วยให้ดินมันนุ่มลง งานนี้ก็จะง่ายขึ้นบ้างล่ะนะ
“เรื่องนั้น ต้องขอบคุณมากเลย… แต่มันเป็นไปได้ด้วยเหรอนั่น?”
“แน่นอนค่ะ”
ฉันตอบ พร้อมกับพยักหน้าให้ความมั่นใจกับคุณกัตส์ที่จ้องมาด้วยสายตาที่ดูจะงงๆ นิดหน่อย
“งั้นก็ มาเริ่มกัน―――”
ตอนที่ฉันกำลังจะร่ายเวทมนตร์ โลเรียจังก็มาจับมือฉันไว้ บอกให้ฉันรอก่อน
“คุณซาราสะคะ? ต่อให้จะใช้เวทมนตร์จัดการพวกพุ่มไม้กอหญ้าออกไป แต่แบบนั้น ถ้าเป่าหน้าดินออกไปด้วย การทำไร่จะไม่ลำบากเอาเหรอคะ?”
“…โลเรียจัง นี่เธอคิดว่าฉันเป็นคนยังไงกันเนี่ย?”
นี่ฉันถูกมองเป็นคนที่จะแค่พูดว่า ‘ยุ่งยากจริงๆ ระเบิดมันทิ้งไปโล้ด’ หรืออะไรแบบนั้นหรือไงนะ?
ฉันทำสีหน้าต่อต้านนิดหน่อย แต่โลเรียจังก็จ้องกลับมาด้วยสีหน้าแบบเดียวกัน
“หลังจากคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นตรงนั้นแล้ว ช่วยพูดซ้ำอีกทีด้วยนะคะ”
โลเรียจังชี้นิ้วไปตรงป่าที่ยื่นต่อไปจากสวนหลังบ้านเรา―――ไม่สิ ส่วนที่เคยเป็นป่าสินะ?
ตอนนี้น่ะ ต้นไม้ตรงนั้นไม่มีเหลือ พื้นดินก็เปิดโล่งจนโล้น ทำเอามันกลายเป็นลานฝึกในอุดมคติไปเลย
ฉันเดาได้ว่าสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงนั่นมันมาจากไหน แล้วฉันก็เผลอหลบสายตาจากโลเรียจังมาแบบไม่ทันตั้งใจเลย
“น- นั่นน่ะ คือ เพราะฉันฝึกเวทมนตร์สำหรับโจมตีน่ะนะ”
“…ที่คุณจะใช้ครั้งนี้ไม่เหมือนกันเหรอคะ?”
“ก็ประมาณนั้นนะ ――― อ- เอาน่า! คอยดูแล้วกัน! ฉันจะลองให้ดูตรงแถวนี้นี่แหละ!”
TN: ซาราสะเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุมือใหม่ที่เก่งมากเลยนะ ทำไม่ได้แค่ชนะโลเรียจังเท่านั้นเอง 555
ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r