“เอาล่ะๆ จะทำอะไรดีนะวันนี้?”
หลังจากมองส่งคุณไอริสกับคุณเคทออกไปทำงานแล้ว ฉันก็กลับมาทำงานของตัวเอง
ถึงฉันจะทำกำไรได้จากการเก็งกำไรกับการลงทุนก็จริง แต่ก่อนอื่น การให้ความสำคัญกับความคืบหน้าในฐานะนักเล่นแร่แปรธาตุก็สำคัญกว่าล่ะนะ
ก่อนหน้านี้ ฉันค่อยๆ ก้าวไปทีละนิดทีละหน่อย จนตอนนี้เหลืออีกนิดเดียวฉันก็จะจบสารานุกรมแปรธาตุเล่ม 4 แล้ว
ใกล้จะขึ้นเล่ม 5 แล้วสินะ แต่อาจารย์บอกเอาไว้ว่า ‘จากจุดนี้ไป จะเริ่มยากแล้วนะ’ นี่นา
ถึงจะบอกว่าเป็นเรื่องยาก ถ้าคอยพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด ปัญหาที่จะเข้ามาก่อนก็จะเป็นเรื่องของเงินมากกว่าเรื่องของความสามารถนะ
การจะเพิ่มระดับของตัวเองขึ้นมาให้ได้ ต่อให้จะไม่มีคนซื้อ ก็ต้องสร้างของชิ้นนั้นขึ้นมาอยู่ดี
ถ้าเงินทุนที่มีอยู่ไม่พอล่ะก็ การจะจัดการกับของขนาดนั้น มันก็ ออกจะยากนะ
ถ้านึกภาพไม่ออกว่ามันยากขนาดไหนล่ะก็… อย่างโพชั่น (ยาแปรธาตุ) ที่ใช้รักษาคุณไอริสตอนเกือบจะตายแล้วตอนนั้นนั่นแหละ
จริงๆ แล้วสูตรของโพชั่นอันนั้นก็อยู่ในสารานุกรมแปรธาตุเล่มที่ 4 นะ
ดูจากที่ทั้ง 2 คนยังลำบากในการจ่ายค่าโพชั่นจนถึงตอนนี้เป็นหลักฐานได้เลย วัตถุดิบในการสร้างก็ต้องราคาแพงเหมือนกัน แพงถึงขนาดที่ว่าเมื่อตอนที่ฉันยังเงินหนาๆ อยู่ ยังลังเลที่จะซื้อเลย
ด้วยเงินที่ฉันมีอยู่ตอนนี้เนี่ย… เกือบพอ? ไม่พอ? รู้สึกว่าจะเป็นแบบนั้นนะ
จากสภาพการเงินตอนนี้ ถ้าฝืนลองทำ เลยเกิดพลาดล่ะก็ ล้มละลายได้เลยล่ะ
ต่อให้จะทำสำเร็จ ไม่มีคนซื้อ เงินทุนทำธุรกิจก็หมด ล้มละลายเหมือนกัน
ตั้งแต่เล่ม 4 ไป ก็จะมีพวกโพชั่นกับอาร์ติแฟกต์ (อุปกรณ์แปรธาตุ) คล้ายๆ แบบนี้อีกนะ
มันก็เหมาะแล้วล่ะที่อาจารย์จะบอกว่า ‘มันยากนะ’
อย่างของฉันเอง ถ้าไม่ได้วัตถุดิบที่อาจารย์ให้เอาไว้เป็นของขวัญอำลาล่ะก็ คงต้องใช้เวลาเยอะกว่านี้แล้ว
แต่ว่า วัตถุดิบพวกนั้นก็เหลืออยู่นิดเดียวเอง
จากนี้ไป ฉันต้องหาเงินเอง แล้วหาวัตถุดิบคุณภาพสูงพวกนั้นมาให้ได้เลย
“เอาล่ะ สำหรับเล่ม 4 ตอนนี้ก็ไม่มีปัญหาแล้ว ซื้อทุกอย่างมาครบเรียบร้อย”
หลังจากนั้น ฉันก็ค่อยๆ สร้างไปทีละชิ้นๆ
“วันนี้… ลองทำโฟลทติ้งเต็นท์ก็แล้วกันเนอะ?”
อย่างที่ชื่อบอกนั่นแหละ มันคือเต็นท์พักแรมที่สามารถลอยอยู่ในอากาศได้
ฟังจากชื่อเฉยๆ ก็ดูสุดยอดเลยนะ แต่ความจริงแล้ว มันลอยอยู่เหนือพื้นแค่ประมาณ 10 เซนติเมตรเท่านั้นเอง หน้าตาของมันก็เลยดูธรรมดาสุดๆ
แต่ว่า อย่าสบประมาณมันเชียว การลอยอยู่ในอากาศจะช่วยกันได้ทั้งพื้นดินขรุขระไม่สม่ำเสมอ ความชื้นแฉะ ความหนาวเย็น หรือการมีแมลงไต่เข้ามาได้หมด รับประกันการนอนหลับอย่างสบายได้แน่นอนเลยล่ะ
สำหรับนักเก็บสะสมที่ออกเดินทางไกล ไม่ใช่แค่วันสองวันล่ะก็ นี่เป็นอาร์ติแฟกต์ที่ควรจะมีเอาไว้ใช้ให้ได้แบบไม่ต้องสงสัยเลยล่ะ
“ขนาดนี่… เอาให้ได้ซัก 4-5 คนก็แล้วกัน?”
ถ้าฉันแค่สร้างๆ มันเฉยๆ เนี่ย เต็นท์ขนาดนอนคนเดียวก็ได้แหละ แต่มันจะกลายเป็นสินค้าบกพร่องส่วนเกินไปน่ะสิ
อย่างน้อย ถ้าฉันจะออกไปเก็บวัตถุดิบกับคุณไอริสกับคุณเคท ขนาดของเต็นท์ก็ต้องใหญ่ให้ 3 คนนอนได้อยู่ดี
ยังไม่รู้หรอกว่าจะมีโอกาสได้ใช้มั้ย แต่สร้างเผื่อเอาไว้ก่อนก็ไม่เสียหายอะไรหรอก
“ขั้นแรกก็ ตัดหนังก่อน…”
สิ่งแรกสุดที่ต้องทำก็คือต้องสร้างเต็นท์ขึ้นมาก่อน ตัวเต็นท์ก็เป็นแค่เต็นท์ธรรมดาๆ ทั่วๆ ไปนี่แหละ แค่เอาหนังที่ตัดออกมาเย็บเข้าด้วยกันไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ เท่านั้นเอง
ติดแค่ว่า มันยากเอาการเลยล่ะ
ก็เพราะ มันเป็นการเย็บหนังเลยนะ เข้าใจมั้ยล่ะ?
เทียบกับช่างเย็บหนังในโลกแล้ว ฉันก็ยังทำงานได้ง่ายกว่าอยู่นะ ต้องขอบคุณการเสริมแกร่งร่างกายด้วยเวทมนตร์เลย แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ยังต้องใช้เวลานานอยู่ดี
เต็นท์ขนาดที่สามารถนอนได้ 4-5 คน บริเวณที่ต้องเย็บมันก็จะกว้างตามไปด้วยล่ะนะ
ถ้าจะให้ดี ฉันก็อยากจะจ้างช่างเย็บหนังให้ช่วยทำเต็นท์ให้อยู่หรอก แต่ก็นะ ในหมู่บ้านนี้ไม่มีช่างเย็บหนังอยู่ซักคนเลยนี่นา
“จะมีอาร์ติแฟกต์ไหนช่วยให้เย็บหนังได้ง่ายๆ หรือเปล่าน้า?”
ฉันเย็บหนังไป บ่นระบายความหงุดหงิดของตัวเองไปอยู่แบบนั้น หลังจากการทำงานมาหลายวัน ในที่สุดเต็นท์ก็เสร็จจนได้
ทีนี้ ก็วาดวงเวทเอาไว้ที่ส่วนพื้นเต็นท์ ต่อด้วยเอาแผ่นหนังหนาๆ อีกผืนนึงเข้ามาเย็บเข้าไปอีกชั้น กว่าจะเสร็จนี่คงเป็นงานยุ่งยากน่าดูเลย
“แต่เอาเถอะ ในเมื่อทำมาขนาดนี้แล้ว เติมอะไรเข้าไปอีกซักนิดก็เป็นโอกาสดีๆ เลยนะ ถึงยังไง ฉันก็ไม่ได้เอาไปขายอยู่แล้วนี่นา”
เอาไว้ใช้งานเองอยู่แล้ว ไม่ต้องสนใจเรื่องต้นทุนการสร้างหรอก
แค่ลอยได้เฉยๆ เองเนี่ยเสียของออกนะ ว่ามั้ยล่ะ?
“ฉันน่าจะเพิ่มผ้าปรับอากาศเข้าไปด้วย แล้วก็… ระบบไล่แมลงด้วยก็ดีนะ? อย่างอื่นก็…”
แน่นอนว่าการทำแบบนี้ ระดับความยากก็จะสูงกว่าการสร้างตามปกตินะ
ถึงมันอาจจะไม่ได้เป็นของดีอะไร แต่การแต่งเสริมเพิ่มเติมการทำงานของเต็นท์เข้าไปแบบนี้ก็เป็นทั้งการฝึก แล้วก็เป็นการเพิ่มประโยชน์ใช้สอยได้ด้วย ทำแบบนี้ก็ไม่เสียหายอะไรหรอก
ถึงการกินพลังเวทระหว่างใช้งาน หรือปริมาณศิลาเวทที่ต้องใช้จะเพิ่มขึ้นด้วยล่ะนะ มันก็ไม่ได้มีแต่ข้อดีอย่างเดียวหรอก แต่ว่า… ในเมื่อเราทำมันมาใช้เอง จะหรูซักหน่อยก็ไม่เป็นไรนี่
“เยี่ยมเลย ที่เหลือก็…”
เพื่อซ่อนวงเวทที่ฉันวาดอย่างลำบากลำบนเอาไว้ ฉันก็เลยเย็บหนังเข้าไป ตามด้วยการเอาเต็นท์ใส่เข้าไปในหม้อเล่นแร่
เทน้ำ ใส่วัตถุดิบนู่นนี่นั่นลงไป แล้วก็จุดเตาให้ความร้อนต่อเลย
“เอ้า โค~นแล้วก็คน ว่าแล้วเชียว เวลาจะทำของอะไรที่ชิ้นใหญ่ๆ การมีหม้อใบใหญ่ๆ นี่มันสำคัญจริงๆ เลย”
นอกจากโพชั่นที่ใช้หม้อเล่นแร่ใบเล็กปรุงเอาก็ได้แล้วเนี่ย มันก็มีอาร์ติแฟกต์อยู่มากเลย อย่างเช่นเต็นท์หรือม้วนผ้า ที่จะไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้เลยถ้าไม่มีหม้อใบใหญ่ๆ น่ะ
แต่หม้อเล่นแร่ใบใหญ่ ราคาก็ค่อนข้างสูงเลย
ถึงอย่างนั้น ถ้าไม่ยอมซื้อมาใช้ซักใบ ก็เพิ่มระดับของตัวเองไม่ได้หรอก การเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุเนี่ยใช้เงินมากจริงๆ เลยน้า ภาพฝันหวานที่ฉันวาดเอาไว้ก่อนจะได้มาเป็นจริงๆ อย่าง ‘ไว้ได้หนังสือรับรองมาเมื่อไหร่ ฉันก็จะหาเงินได้สบายๆ แล้ว!’ เนี่ย ถูกทำลายไม่เหลือชิ้นดีเลย
แน่นอนล่ะว่ามันเป็นหนทางที่ยากลำบาก แต่ก็ยังทำเงินได้ดีกว่าคนทั่วๆ ไปอยู่ดีนั่นแหละนะ
“เอาล่ะ เท่านี้ใช้ได้หรือยังนะ?”
ฉันเอาหม้อเล่นแร่ออกมาจากเตาเวทมนตร์ แล้วก็เอาเต็นท์ที่เพิ่งเอาขึ้นมาจากน้ำออกมาล้างให้ทั่ว
พอมันแห้งแล้ว…
“สำ・เร็จ! เรียบร้อยแล้ว… มาลองดูดีกว่าว่าทำงานได้ดีมั้ย?”
ฉันแบกเต็นท์ที่พับอยู่ มองออกไปที่ส่วนหน้าร้าน ก็เห็นโลเรียจังกำลังนั่งเท้าศอกอยู่ที่เคาน์เตอร์ กำลังตาลอยๆ เลย ดูเหมือนจะง่วงอยู่นิดๆ นะเนี่ย
เทียบกับก่อนหน้านี้ ชาวบ้านที่มาที่ร้านของฉันก็มีเพิ่มขึ้นนะ แต่ในช่วงบ่ายๆ แบบนี้ ทุกคนก็กำลังทำงานของตัวเองกันอยู่ เวลาแบบนี้พวกเราก็เลยแทบจะไม่มีลูกค้าเลย
“โลเรียจัง เหนื่อยหน่อยนะ”
“อ๊ะ คุณซาราสะ งานเล่นแร่แปรธาตุวันนี้เสร็จแล้วเหรอคะ? เอาชามั้ยคะ?”
ตอนที่ฉันถามเธอว่าเธอมีความสุขกับงานที่ทำอยู่นี่หรือเปล่า เธอก็ลุกขึ้นยืนเลย ฉันก็เลยชี้มาที่เต็นท์ที่ฉันแบกอยู่
“ถามว่าเสร็จหรือยังนี่? ก็เสร็จแล้วนะ ฉันกำลังจะทดสอบของที่ทำเสร็จนี่อยู่พอดีเลย”
“ทดสอบ… ฉันขอไปดูด้วยคนได้หรือเปล่าคะ?”
“อื้ม ได้สิ เดี๋ยวฉันเอาไปกางที่สวนนะ ถ้างั้นก็ไปกันเถอะ”
ที่สวนเล็กๆ ตรงหน้าร้านของฉัน พอฉันวางเต็นท์ลงแล้วเติมพลังเวทเข้าไป เต็นท์ก็กางออกโดยอัตโนมัติอย่างลื่นไหล แล้วก็ลอยขึ้นมาจากพื้นอย่างนิ่มนวล
“ว้าว! ลอยอยู่ด้วย… ไม่จำเป็นต้องมีเสาค้ำเลยเหรอคะ?”
“ใช่แล้ว เพราะแบบนั้นมันก็เลยแบกไปได้ง่ายด้วย สะดวกดีเลยล่ะว่ามั้ย?”
“สะดวกจริงๆ ค่ะ! ยอดไปเลย!”
แต่ว่า มันก็เป็นเครื่องหนังที่ค่อนข้างใหญ่ใช้ได้เลยนะ ยิ่งกว่านั้น มันยังถูกสร้างด้วยหนังที่ทั้งหนาทั้งทนเลย
น่าเสียดายนะที่มันก็ไม่ได้เบาขนาดที่จะยกไปไหนมาไหนได้แบบสบายๆ เพราะน้ำหนักของมันที่มากประมาณนึงเลยนะ
“ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ลองเข้ามาดูข้างในสิ จะได้เข้าใจคุณสมบัติของเต็นท์หลังนี้ด้วย มาสิๆ”
“ได้ค่ะ รบกวนหน่อยนะคะ… อ๊ะ! เย็นดีจัง! นุ่มด้วย! สบายจังเลย!”
“ฮุฮุฮุ ลองหลับดูก็ได้เลยนะ”
“ว้าว! นี่มัน นุ่มกว่านอนบนเตียงอีกนะคะเนี่ย! สุดยอดเลย! อะฮ่าฮ่า!”
โลเรียจังลงไปนอนอย่างว่าง่าย ก่อนจะกลิ้งไปกลิ้งมา หัวเราะร่าอย่างร่าเริงเลย
ก็นะ เต็นท์นี้จะให้ความรู้สึกในการหลับอย่างสบายเหมือนกับลอยอยู่ในอากาศเลยนี่นา
หรืออันที่จริง มันก็ลอยอยู่ในอากาศจริงๆ เลยนี่นะ
แถมเพราะว่ามีระบบปรับอากาศอยู่ดี รับประกันการนอนหลับอย่างสบายได้แน่นอน
มันดีพอที่จะใช้แทนเตียงได้เลยล่ะ―――ถ้าไม่เอาเรื่องราคามาคิดล่ะก็นะ
“คุณซาราสะคะ เจ้านี่ราคาเท่าไหร่เหรอคะ? จะเอามาขายที่ร้านหรือเปล่า?”
“ราคาก็ขึ้นกับขนาดนะ แต่ก็เกิน 100,000 แรร์แน่ๆ เพราะแบบนั้นแหละ ฉันเลยคิดว่ามันคงขายไม่ออกหรอก ต่อให้จะตั้งเอาไว้ที่ร้านก็เถอะ โดยเฉพาะในหมู่บ้านนี้แล้วด้วย”
พอฉันบอกโลเรียจังไปว่าคนทั่วๆ ไปก็ไม่จำเป็นต้องใช้ นักเก็บสะสมในหมู่บ้านนี้เองก็ไม่ค่อยได้มาซื้ออาร์ติแฟกต์ราคาแพงกันอยู่แล้ว โลเรียจังนิ่งคิดอยู่พักนึง ก่อนจะส่ายหน้าตอบฉันกลับมา
“ไม่หรอกค่ะ ไม่แน่ อาจจะขายออกก็ได้นะคะ? ระหว่างที่ฉันรับลูกค้า ฉันเห็นว่านักเก็บสะสมเขาไม่รู้เรื่องอาร์ติแฟกต์ที่มีอยู่กันเลย ฉันคิดว่าถ้าเราเอาของมาตั้งไว้ตรงนี้ แล้วก็ให้คนอื่นๆ ได้เห็นความสะดวกสบายของมันดู ก็อาจจะมีคนสนใจก็ได้ คิดว่างั้นมั้ยคะ? ช่วงนี้ หลายๆ คนก็มีเงินในกระเป๋ากันพอดูเลย ฉันคิดว่าน่าลองดูเหมือนกันนะคะ”
“…แบบนี้เอง จุดนั้นก็จริงนะ”
พูดแบบนี้อาจจะไม่ดีเท่าไหร่ แต่นักเก็บสะสมก็ไม่ค่อยมีการศึกษามากนัก
พวกเขาไม่รู้ว่ามีอาร์ติแฟกต์แบบไหนอยู่บ้าง น่าตกใจกว่าอีกด้วยซ้ำที่มีบางคนพยายามหาหนทางเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานหรือซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับทางที่ว่านั่นมาใช้น่ะ
ตอนที่เราได้รับคำร้องแบบว่า ‘ของชิ้นนั้นที่นักเก็บสะสมคนอื่นๆ ใช้กัน แล้วดูมีประโยชน์น่ะ’[/i] นี่ก็หายากมากๆ นานๆ ทีถึงจะมี แต่คำร้องขออย่าง [i]‘มีอาร์ติแฟกต์แบบนี้หรือเปล่า?’ นี่ไม่เคยมีมาเลยซักครั้งเลย
เพราะแบบนั้นแหละ ป้ายที่ฉันอุตส่าห์พยายามทำขึ้นมาที่บอกว่า [รับทำตามสั่ง] เนี่ยฝุ่นเกาะหมดแล้ว
อ๊ะ ไม่ใช่นะ พวกเราทำความสะอาดทุกอย่างในร้านเป็นอย่างดีเลย ฉันแค่อุปมาอุปไมยเฉยๆ นะ เข้าใจตรงกันเนอะ?
“อีกอย่าง ถ้าแค่เย็บตัวเต็นท์เฉยๆ ฉันเองก็ช่วยได้นี่คะ? ระหว่างที่เฝ้าร้านอยู่ ฉันก็มีเวลาว่างเยอะเลย เพราะงั้น ถ้ามีคำสั่งซื้อเข้ามา ฉันเองก็ จะพยายามเต็มที่เลยค่ะ!”
โลเรียจังกำมือ 2 ข้าง มองมาที่ฉันด้วยสายตากระตือรือร้นเลย แต่ว่า…
“ฉันก็ดีใจนะ แต่ว่า รู้ใช่มั้ย? เย็บหนังมันยากนะ”
กรณีของฉัน ฉันใช้การเสริมแกร่งร่างกาย แล้วก็ใช้แรงเย็บมันลงไปตรงๆ เลย
แต่ว่า สำหรับคนทั่วๆ ไปน่ะ เรื่องนี้มันเป็นไปไม่ได้เลย ขั้นแรกต้องใช้เหล็กปลายแหลมเจาะรูที่แผ่นหนัง แล้วสอดด้ายเข้าไปด้วยเข็มเย็บ ซึ่งสิ่งที่รออยู่นั่นน่ะ ก็คืองานที่ทั้งต้องอดทนทั้งลำบากเลย
ความพยายามที่ต้องใช่นี่มันมากประมาณนึงเลย จะให้โลเรียจังทำ ฉันก็รู้สึกสงสารเธอเลยล่ะ
“ไม่หรอกค่ะ กลับกันเลย ให้ฉันทำเถอะนะคะ ฉันมีเวลาว่างเยอะเกินไปด้วย พอได้ค่าจ้างมาแบบนี้ มันรู้สึกผิดเหมือนกันน่ะค่ะ… เพราะงั้น ถ้ามีอะไรที่ฉันช่วยได้ บอกฉันเลยนะคะ นะคะ?”
“งั้นเหรอ? จากมุมมองของฉันน่ะ แค่ทำอาหารให้ฉัน ฉันก็ดีใจแล้วล่ะ แต่ เข้าใจแล้ว ถ้ามีอะไรที่ขอให้เธอช่วยได้ ฉันจะเรียกนะ”
“ค่ะ รบกวนด้วยนะคะ แล้วเดี๋ยวฉันจะคอยจับตาดูเต็นท์ให้ดี ไม่ให้มีใครมาขโมยไปได้แน่นอนค่ะ!”
“อื้อ แต่ว่า ที่นี่ก็มีระบบรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นมากก็ได้นะ”
แทนที่จะเป็นห่วงเรื่องพวกโจรมาขโมยเต็นท์เนี่ย ฉันกลัวว่าโลเรียจังอาจจะโดนพวกโจรที่โมโหพวกนั้นมาทำร้ายมากกว่าอีกนะ
อีกอย่าง ในเต็นท์หลังนี้ก็มี ‘ระบบยับยั้งการถูกบุกรุกยามค่ำคืน’ ที่ค่อนข้างจะสำคัญสำหรับใช้ในการค้างแรมติดตั้งเอาไว้ด้วย
มาปรับการตั้งค่าซักหน่อยดีกว่า ให้มันทำงานตอนที่มีคนพยายามจะเอาเต็นท์นี้ออกไปจากสวนก็แล้วกัน
มันสามารถถึงตายได้เลยล่ะนะ แต่ว่า… ถ้าต้องจัดการกับพวกโจรแล้วเนี่ย แค่นี้ไม่เป็นไรหรอกเนอะ?
TN: คงคอนเซ็ปต์ [ไร้เมตตา ต่อพวกโจร] เหมือนเดิมเลยนะ
ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r