หลังจากที่ฉันคุยกับพวกคุณไอริส นี่ก็ผ่านมาได้ 10 วันแล้ว
ก็มีคนร่างอ้วนใหญ่แวะเข้ามาที่ร้านของฉัน
“ยินดีต้อนรับค่ะ อาเระ? ถ้าจำไม่ผิด คุณโย้คสินะ วันนี้มีธุระอะไรอย่างนั้นเหรอคะ?”
ใช่แล้ว พ่อค้าคนนั้นนั่นแหละ
―――ถึงฉันจะพูดออกไปแบบนั้น แต่จริงๆ ฉันรู้อยู่ก่อนแล้วล่ะว่าเขาจะมาที่ร้านนี้แน่
ฉันมีคอนเนกชั่นข้อมูลที่เชื่อถือได้จากเหล่าบรรดานักเก็บสะสมล่ะนะ
เพราะแบบนั้นแหละ ฉันถึงได้มาอยู่เฝ้าหน้าร้านแทนโลเรียจัง
“สวัสดีครับ คุณซาราสะ อ่า ฉันอยากจะมาถามเรื่องสถานะปริมาณเขี้ยวค้างคาวเขี้ยวน้ำแข็งที่คุณมีอยู่ซักหน่อยน่ะ ถ้าเห็นว่าเริ่มจะไม่พอแล้วนี่ก็―――”
“อ้อ เรื่องนั้นนี่เอง ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วงนะคะ แต่ว่าไม่เป็นไรค่ะ ฉันติดต่อกับเพื่อนของฉันเรียบร้อย ก็เลยได้ซื้อมาในราคาที่ถูกกว่าตลาดด้วยค่ะ”
แวบแรก โย้คก็บอกข้อเสนอมาพร้อมกับที่ยิ้มแย้มไปด้วยอยู่นะ ฉันเองก็ยิ้มตอบไปเหมือนกัน
แล้วรอยยิ้มของเขามันก็จางหายไปทันทีเลย
“…หรือว่า จะได้ของจากเซาว์ท สแตรก?”
“ค่ะ ก็เป็นเมืองที่ใกล้สุดแล้วนี่คะ ถ้าฉันต้องหาซื้อวัตถุดิบ ก็ต้องเป็นที่นั่นอยู่แล้ว จริงมั้ยคะ?”
“อึก… ต- แต่ว่า ถ้าซื้อจากที่นั่น มันก็ต้องมีเรื่องขนส่งด้วยไม่ใช่เหรอ? ถ้าเป็นฉันล่ะก็ ฉันช่วยคุณเรื่องนี้ได้นะ?”
“ไม่ล่ะค่ะ เขี้ยวของค้างคาวเขี้ยวน้ำแข็งน่ะไม่ใช่วัตถุดิบที่ฉันจำเป็นต้องใช้แค่อย่างเดียวที่มีแหล่งผลิตอยู่ในเซาว์ท สแตรกนะคะ โชคดีที่เขี้ยวไม่ได้กินพื้นที่จัดเก็บอะไรขนาดนั้น แล้วเราก็ไม่จำเป็นต้องใช้พวกมันในปริมาณที่มากมายเท่าไหร่ด้วย แค่ซื้อพวกมันเอาไว้ตามฤดูกาลก็พอ นั่นคือสำหรับที่ร้านของฉันนะคะ”
“ย- ยังงั้นเหรอ…”
“ค่ะ”
พอฉันตอบเขากลับไปอย่างชัดเจน สีหน้าของโย้คก็ดูจะซึดขึ้นมาเลย
อืมๆ ใกล้ถึงขีดจำกัดแล้วสิน้า~
ฉันได้ยินมาจากคุณเลโอโนร่าว่า ถ้าวันนี้หรือพรุ่งนี้ เขาหาเงินมาใช้ไม่ได้ล่ะก็ เขาจะอยู่ในสถานการณ์ที่ตกที่นั่งลำบากสุดๆ ไปเลยล่ะ
…ว่าแต่ เธอไปหาข้อมูลพวกนี้มาจากที่ไหนกันนะ?
ดูเหมือนเธอจะหาข้อมูลที่ถูกซ่อนไว้จากหน้าฉากได้ประมาณนึงเลยด้วยนะเนี่ย
“อันที่จริง ฉันว่ากำลังจะออกจากหมู่บ้านนี้แล้วล่ะ”
“อย่างนั้นเหรอคะ พวกเราต้องคิดถึงคุณแน่เลย เพราะพวกคุณโย้คเลยนะคะ หมู่บ้านนี้เลยดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาด้วย”
“ฮะฮะฮะ… ฉันเองก็ทำธุรกิจนะ”
อาจจะเพราะแบบนี้ล่ะมั้ง เขาถึงอยากจะขาดทุนให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้… แต่คงสายไปหน่อยแล้วล่ะมั้ง?
“ถ้างั้น ขอถามหน่อยสิ คุณพอจะช่วยเหมาซื้อเขี้ยวของค้างคาวเขี้ยวน้ำแข็งของพวกเราหน่อยจะได้มั้ย?”
มาไม้นี้สินะ
ฉันพยายามเต็มที่เลยล่ะสำหรับเรื่องนี้ ทั้งฉันทั้งคุณเลโอโนร่าเลย
“ตอนนี้ ฉันไม่อยากได้เขี้ยวของค้างคาวเขี้ยวน้ำแข็งหรอกค่ะ…”
“อย่าว่ายังงั้นเลย ช่วยทำอะไรหน่อยสิ!”
โย้คพูดออกมาด้วยอารมณ์ร้อนรนแล้ว ส่วนทางฉันก็กอดอกส่งเสียงครางในลำคอ
“อื~ม นั่นสิน้า… เอาเป็นว่าตอนนี้ ช่วยเอามาให้ฉันดูหน่อยได้มั้ยคะ?”
“ได้เลย!”
พอฉันแสดงท่าทาง [ลังเล] ออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน พร้อมกับพยักหน้าตอบรับ โย้คที่เหมือนจะกระตุ้นก็วางกระเป๋าหนังของเขาลงบนเคาน์เตอร์เสียงดัง *ตุบ* เลย
ฉันหยิบเขี้ยวจากในนั้นออกมาจากกระเป๋าหนังกำมือนึง วางเรียงบนเคาน์เตอร์ แล้วก็ตรวจสอบพวกมันโดยละเอียดทีละชิ้นๆ
ยิ่งเวลาผ่านไปๆ เหมือนกับเป็นการแกล้งโย้ค ที่ตอนนี้กำลังร้อนรนจนนิ้วเท้าเคาะอยู่กับพื้นร้านอย่างไม่เป็นสุข การตรวจสอบก็ดำเนินไปอย่างเชื่องช้า
และแล้ว หลังจากรอคอยมาอย่างยาวนาน ฉันถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย
“อื~ม สภาพไม่ค่อยดีเลยนะคะ”
“ว- ว่าไงนะ!? เขี้ยวของค้างคาวเขี้ยวน้ำแข็งน่ะ เป็นวัตถุดิบที่ไม่ว่าจะเก็บรักษายังไงก็ไม่มีทางเสื่อมสลายไม่ใช่หรือไง!”
ฉันโก่งตัว แอ่นหนีจากโย้คที่พุ่งตัวโน้มเข้ามาหาฉันพร้อมกับสีหน้าที่ทั้งตกใจ ทั้งสับสน ทั้งโมโห ออกมาพร้อมๆ กันเลย นี่ยังไม่นับเหงื่อที่ไหลทะลักออกมาจากหน้าผากของเขาอีกนะ
“ไม่ค่ะๆ นี่คือเรื่องจริง เขี้ยวของค้างคาวเขี้ยวน้ำแข็งน่ะไม่เสื่อมสภาพง่ายๆ จริงค่ะ”
“แล้ว!!”
“แต่ นั่นคือต่อเมื่อเป็นกรณีที่นักเก็บสะสมไปล่าค้างคาวเขี้ยวน้ำแข็งมา แล้วนำมันมาที่ร้านเล่นแร่ค่ะ ถ้าแค่ปล่อยทิ้งเอาไว้เฉยๆ มันก็จะเสื่อมสภาพไปเรื่อยๆ กล่าวคือ มูลค่าของมันถึงได้ตกลงไปเรื่อยๆ นั่นเองค่ะ”
เรื่องนี้น่ะ แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องโกหก แต่ว่า สำหรับกระบวนการปกติ มันก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรขนาดนั้น ในการตรวจสอบโดยละเอียดจึงค่อนข้างเป็นเรื่องยาก ทางเราก็เลยรับซื้อมันมาในราคาโดยคร่าว
ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่นักเล่นแร่แปรธาตุอย่างโลเรียจังคอยดูแลร้านอยู่ก็คงจะตรวจไม่ได้หรอก
“ง- งั้นนี่ก็…?”
“สภาพไม่ค่อยดีเลยค่ะ แถม ด้วยปริมาณขนาดนี้แค่อย่างเดียว ก็ต้องใช้เวลาอีกพักหนึ่งเลยค่ะในการตรวจสอบ ว่ากันตามตรง ดูแล้วของพวกนี้หลายๆ ชิ้นน่าจะไม่มีมูลค่าแล้วล่ะค่ะ”
―――นอกเสียจากว่าจะทำอะไรกับพวกมันซักอย่าง ล่ะนะ
“น- นั่นมัน…”
สีหน้าที่ซับซ้อนของโย้คถอดสีจนซีดเผือด เหงื่อมันแผล็บไหลย้อยจากหน้าผากของเขาจนเริ่มหยดลงมาจากปลายคางแล้ว
คุฮุฮุ เป็นอะไรมั้ยคะนั่นน่ะ?
แต่ว่า คนที่เริ่มทำเรื่องไม่เป็นเรื่องนี้ขึ้นมาก็คือคุณเองนั่นแหละ ว่ามั้ย?
“ก็นะ ฉันเองก็จะใช้อีกนิดหน่อยเหมือนกัน งั้นฉันจะซื้อไว้ซัก 10 ซี่ก็ได้นะคะ…”
“น- ในนี้มันมีมากกว่าหมื่นซี่เลยนะ!?”
“จริงด้วยสิ คุณเก็บรวบรวมมาได้เยอะเลยนะคะ”
อืม ล่ามาได้เยอะเหมือนกันนะเนี่ย…
ถึงขนาดที่อดมองกลับไปไม่ได้เลยล่ะ
“ย- อย่าพูดมาบ้าๆ น่า!”
“อย่าสิคะ ต่อให้มาตะโกนใส่ฉันก็ไม่ช่วยแก้อะไรหรอกนะ… แน่นอนว่าคุณจะเอาไปขายที่เมืองอื่นก็ได้เหมือนกันนะคะ แต่ถ้าคุณภาพเป็นซะแบบนี้ คนที่จะมารับซื้อไปก็คงมีไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ อีกอย่าง ในระหว่างนี้ มูลค่าของมันก็จะตกลงไปเรื่อยๆ ด้วย… คิดว่าสุดท้าย มูลค่าจะเหลือซักเท่าไหร่กันล่ะคะ”
ก็เป็นการบอกเป็นนัยว่ามูลค่าของมันจะลดลงไปอีกต่อให้จะอยู่ในช่วงที่ขนส่งก็ตามยังไงล่ะ
ที่จริง มันเหมือนกับว่า ‘แค่ข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ เอง~’ แต่เรื่องที่ว่าอาจจะไม่มีใครรับซื้อไปเลยมันก็ยังเป็นเรื่องจริงอยู่ดีนะ
“กรอด…”
“ถ้าคุณต้องการจริงๆ ล่ะก็ ฉันช่วยรับซื้อไว้หมดเลยก็ได้นะคะ…”
“จ- จริงเหรอ!?”
หลังจากที่ฉันใส่ไข่ลงไปในคำพูดของตัวเองนิดหน่อย โย้คก็มีสีหน้าเบิกบานขึ้นมาทันทีเลย
แต่ คิดว่าฉันจะช่วยงั้นเหรอ? ฉันโดนพวกโจรดักปล้นมานะ
“ค่ะ แต่ว่า ด้วยปริมาณขนาดนี้ คงจะใช้ให้หมดด้วยวิธีการปกติไม่ได้หรอกค่ะ แสดงว่าเราจำเป็นต้องใช้วิธีการที่ได้มูลค่าต่ำลงไปซักหน่อย ฉันรับซื้อในราคาสูงไม่ได้หรอกนะคะ”
“อึก ม- ไม่เป็นไร ฉันไม่ว่าอะไรหรอก ซื้อไปเถอะ!”
“เข้าใจแล้วค่ะ ถ้าอย่างนั้น ฉันจะทำการประเมินมูลค่าพวกมันก่อน… ขอให้กลับมาในอีก 4 วันนะคะ”
“…ฮะ? อีก 4 วัน? แบบนั้นไม่ไหวหรอก!”
สีหน้าของโย้คปั่นป่วนไปหมดเลย จากหน้าซีดๆ ตอนนี้ก็กลายเป็นแดงก่ำแล้ว
“แต่ว่า ถึงคุณจะพูดแบบนั้นก็เถอะ คิดว่าเขี้ยวปริมาณขนาดนี้มันจะตรวจสอบคุณภาพกันได้ง่ายๆ อย่างนั้นเหรอคะ? ใช้สามัญสำนึกหน่อยสิ”
“อึกกก…!”
ต่อให้ใช้เวลาแค่ประมาณ 10 วินาทีในการตรวจสอบเขี้ยว 1 ซี่ก็เถอะ คิดว่า 10,000 ซี่นี่ต้องใช้เวลากี่วันกันล่ะ
ถ้าใช้แค่ช่วงเวลางานในการตรวจสอบ ยังไงอย่างต่ำๆ ก็ต้องใช้เวลา 3 วันเลยไม่ใช่หรือไง?
ถ้าฉันบอกเขาเรื่องนี้ไปเพื่อโน้มน้าว โย้คก็คงปฏิเสธไม่ได้หรอก
สุดท้าย ทั้งหมดที่เขาทำได้ก็มีแต่ร้อง [i]‘อืม อา’[/i] เท่านั้นแหละ
“ถ้าคุณรีบมากขนาดนั้นจริงๆ เนี่ย ฉันยอมจ่ายเป็นเงินสดให้เลยก็-”
“ฝ- ฝากด้วยนะ!”
“ค่ะ แต่ว่า ทราบแล้วใช่มั้ยคะว่ามูลค่าที่ไม่ได้รับการประเมินจะตกลงอย่างมากเลยน่ะ? ในการรับซื้อไปโดยไม่รับรู้ถึงสภาพคุณลักษณะของมันด้วย”
“กรอดดด! ฉ- ฉันไม่สน! ซื้อๆ ไปเถอะน้า!”
“เข้าใจแล้วค่ะ ช่วยรอซักครู่นะคะ”
ฉันกัดฟันกรอดๆ แน่นจนฟันแทบจะแตก พลางพยักหน้ารับคำของโย้คที่พูดออกมา ด้วยความพยายามสุดฤทธิ์ ก่อนจะเริ่มนับเขี้ยวของค้างคาวเขี้ยวน้ำแข็งไปเรื่อยๆ ก่อนจะโยนมันลงไปในกล่องไม้
แล้วก็ ด้วยการคำนวณง่ายๆ ‘ก็ราวๆ นี้แหละ’ แล้วฉันก็เรียงเหรียญเอาไว้บนโต๊ะ
พอเห็นว่าเหรียญที่มันน้อยนิดว่าเรียงอยู่บนเคาน์เตอร์ โย้คก็ตาเบิกกว้างอ้าปากค้างไปเลย แต่พอฉันยิ้มให้เขานิดๆ โย้คก็กำหมัดแน่นจนตัวสั่น แล้วก็พยักหน้าอย่างหัวเสีย
“เท่านี้ก็ ปิดการขายได้ค่า”
“บ้าเอ้ย!”
ในตอนที่สบถออกมาแบบนั้น โย้คก็คว้าเงินไป แล้วก็ยัดพวกมันใส่กระเป๋าของตัวเอง
สภาพของเขาตอนนี้เนี่ย ไม่มีเค้าลางของตอนแรกที่เขาเข้ามาที่ร้านนี้เลยซักนิดเดียว
ก็น้า~ มีคนรอเขาอยู่ที่เซาว์ท สแตรกอีกเพียบเลยนี่นา
“ขอบพระคุณมากค่า~ แล้วมาอุดหนุนใหม่นะคะ~”
“ฝันไปเถอะว่าจะกลับมาเหยียบที่นี่อีก!!”
ฉันโบกมือส่งให้พร้อมกับรอยยิ้มแล้วนะ แต่สิ่งที่ได้กลับมากับเป็นคำก่นด่า
เป็นคนไม่ดีจริงๆ เลยน้า ว่ามั้ย?
TN: ทำด้วยสวย~! สุดยอดเลยจ้า ซาราสะจัง~ ^^
(พวกคุณคิดว่า จะขายได้เงินซักเท่าไหร่กันครับ 555)
ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r