“โอ้! ซาราสะจัง รวมมาเรียบร้อยแล้วนะ!”
“…? รวมอะไรเหรอคะ?”
ตอนที่ฉันมาถึง ฉันก็เอียงคอให้คุณอังเดรที่พูดแบบนั้น
“ถุงมือไงล่ะ ไม่ใช่ว่าหนูบอกไว้เหรอว่าถ้าไปรวมรายชื่อมา จะได้ส่วนลดด้วยน่ะ?”
“…อ๋า! เอ๊ะ? ไปรวมมาเรียบร้อยแล้วเหรอคะ? ยังเหลืออยู่อีกหลายวันเลยนี่นา?”
“อ่า ตอนที่ข้าไปเล่าเรื่องความสะดวกสบายของถุงมือนั่น กับเรื่องค้างคาวเขี้ยวน้ำแข็งให้เจ้าพวกนั้นฟังแล้วเนี่ย พวกนั้นก็เริ่มเอาด้วยๆ กันหมดเลยน่ะสิ”
พอเทียบระหว่างความคุ้มค่าของเงินที่จะได้จากค้างคาวเขี้ยวน้ำแข็งกับอันตรายที่เกี่ยวข้องแล้วนี่ คนที่ได้คุยกับคุณอังเดรก็สั่งซื้อถุงมือกันแทบทุกคนเลย
“ก็จริงอยู่นะคะที่มีไว้ใช้ซักคู่มันก็ดี แต่มีรายการสั่งซื้อมากขนาดนี้ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้สินค้าของจริงเลยเนี่ย… คุณอังเดรต้องได้รับการเชื่อถือมากขนาดไหนกันนะคะเนี่ย?”
“ไม่หรอก ถึงข้าจะเป็นพวกมือเก๋าที่พอจะมีหน้ามีตาอยู่บ้างก็จริงนะ แต่ข้าว่าหลักๆ เนี่ย มันมาจากที่ทุกคนเชื่อใจในซาราสะจังมากกว่า”
“เอ๊ะ? ฉันเหรอคะ…?”
ฉันไปทำอะไรมาล่ะเนี่ย?
ระหว่างที่ยังงงๆ ก็เลยถามคุณอังเดรเพิ่มเพื่อเรียบเรียงข้อมูลซักหน่อย
“ถ้าขนาดซาราสะจังที่เก่งขนาดนั้นก็ยังใช้ ต่อให้มันจะเป็นอะไรที่ซาราสะจังสร้างขึ้นมาเองก็ตาม ซาราสะจังก็จะต้องซื้อมันเอาไว้ใช้ด้วยแน่นอน พอเอาทุกอย่างนั้นมาคิดรวมกันแล้ว ทุกคนก็เลยเชื่อใจยังไงล่ะ”
ความทนทานของถุงมือยืดหยุ่นเนี่ย ฉันรับรองเองกับมือเลยล่ะนะ
แถมฉันยังกำชับไปด้วยว่ามันมีความเสี่ยงที่จะต้องเสียนิ้วไปได้เลยหากเกิดข้อผิดพลาดอะไรขึ้นมา
แล้วฉันก็รับซื้อเขี้ยวของค้างคาวเขี้ยวน้ำแข็งที่ไปเก็บรวบรวมมาในราคาเต็มด้วย
สถานการณ์แบบนั้นแล้วเนี่ย ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ซื้อถุงมือยืดหยุ่นเลยเนอะ
“ถ้างั้นก็… ขอบคุณที่เหนื่อยค่ะ ถ้าเกิดถูกนักเก็บสะสมตัดขาดแล้วเนี่ย ต่อให้เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุก็อยู่รอดไม่ได้หรอกนะคะ”
นักเล่นแร่แปรธาตุน่ะ มีหน้าที่ในการรับซื้อวัตถุดิบที่นักเก็บสะสมหารวบรวมมาอยู่แล้ว
โดยเฉพาะกรณีที่เป็นร้านในหมู่บ้านแบบนี้ด้วยแล้วเนี่ย กำไรส่วนใหญ่ของร้านก็มาจากการเอาวัตถุดิบไปขายให้กับร้านเล่นแร่ในเมืองมากกว่า กำไรที่ได้จากการขายโพชั่น (ยาแปรธาตุ) กับอาร์ติแฟกต์ (อุปกรณ์แปรธาตุ) เนี่ยไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่หรอก
แต่ถ้าเป็นร้านในเมืองเนี่ย สถานการณ์จะกลับกันเลย จะบริหารจัดการร้านไปโดยไม่ต้องติดต่อธุระอะไรกับนักเก็บสะสมเลยก็สามารถทำได้นะ แต่ถ้าเกิดไปทำให้พวกเขาไม่ชอบหน้าขึ้นมา เกิดตอนที่เราหาวัตถุดิบมาไม่ได้จริงๆ จะไปขอให้พวกเขาช่วยก็ทำไม่ได้ สุดท้ายคนที่เดือดร้อนก็จะเป็นพวกเราเองอยู่ดี
“แล้ว พอจะลดได้ซักเท่าไหร่เนี่ย?”
“ขอดูก่อนนะคะ… จากที่คุณอังเดรไปรวมรายชื่อมาแบบนี้เนี่ย ลดจากคู่ละ 3,800 แรร์เหลือคู่ละ 3,500 แรร์เป็นยังไงคะ?”
“จะดีเหรอ? ข้าว่า ต่อให้ขายราคาเดิมไปก็ยังเกินคุ้มอยู่แล้วนะ”
เรื่องส่วนลดนี่น่ะเหรอ ฉันพยักหน้าตอบรับคุณอังเดรที่กำลังมีสีหน้าตกใจอยู่
“ไม่มีปัญหาเลยค่ะ ฉันเองก็ยังทำกำไรได้อยู่”
เพราะฉันไปซื้อวัตถุดิบจากที่เซาว์ท สแตรกเองแล้วไงล่ะ
ถ้าสั่งซื้อวัตถุดิบให้มาส่งเนี่ย ก็คงจะเป็นไปไม่ได้หรอก บัญชีติดตัวแดงแน่นอน
“ถ้างั้น ถือว่าเป็นอันตกลงแล้วนะ”
“ค่ะ วางใจได้เลย สำหรับฉันแล้ว การที่นักเก็บสะสมปลอดภัยแล้วเอาวัตถุดิบกลับมาได้มากขึ้นเนี่ยทำกำไรให้ฉันได้มากกว่านะคะ… แต่แบบนั้นโพชั่นก็คงจะขายไม่ออกใช่มั้ยคะเนี่ย?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! แบบนี้ พวกข้าก็คงต้องพยายามกันให้เต็มที่กันแล้วสินะ!”
ฉันหัวเราะคิกคักอย่างมีเลศนัย ส่วนคุณอังเดรเองก็หัวเราะจนปากอ้ากว้างเลยเหมือนกัน
การสร้างถุงมือยืดหยุ่นไม่ได้ยากอะไรขนาดนั้นหรอก
รวมวัตถุดิบที่จำเป็นมาให้เรียบร้อย โยนทุกอย่างลงไปในหม้อเล่นแร่ แล้วก็คนมันไปเรื่อยๆ พลางใส่พลังเวทลงไปด้วยอีกซักพักนึง
วัตถุดิบทั้งหมดจะหลอมรวมกันเป็นของเหลวสีน้ำตาลเนื้อหนา
อย่างต่อมาที่จำเป็นต้องมีก็คือแบบพิมพ์ของถุงมือ
ฉันทำแบบพิมพ์ไม้ของมือขวากับมือซ้ายที่ทำเลียนแบบรูปร่างของแขนยาวไปจนถึงปลายศอก พร้อมกับนิ้ว 5 นิ้วที่กางออกจากกันเอาไว้แล้ว
แต่ก็ไม่จำเป็นต้องทำให้ฟิตพอดีมือก็ได้นะ เพราะรูปร่างมันสามารถยืดหยุ่นใส่ได้พอดีอยู่แล้ว
อีกอย่าง ถึงฉันจะบอกว่ามันเป็นมือซ้ายกับมือขวา แต่จะว่ามันเหมือนกันมากจนแยกไม่ออกเลยนี่ก็ไม่ผิดหรอกนะ
หลังจากที่จุ่มแบบพิมพ์ไม้ลงไปในของเหลวนั้นให้ท่วมถึงข้อมือเรียบร้อย เราก็ดึงขึ้นมา แล้วก็ปล่อยเอาไว้ให้แห้งอยู่ซักพักนึง
ทำแบบนี้ซ้ำไปอีกประมาณ 10 ครั้ง ก็ได้ส่วนฐานของถุงมือมาแล้วเรียบร้อย
เพื่อไม่ให้เสียเวลาในการรอให้ถุงมือแห้ง ฉันก็เลยเตรียมแบบพิมพ์ไม้เอาไว้ 2 ชุด รวม 6 คู่เลย
ใช้เจ้าพวกนี้ทำถุงมือทีเดียวให้ได้เยอะๆ เลยล่ะ
ฝั่งละ 10 ครั้ง, คู่ละ 20 ครั้ง, 10 คู่ก็ 200 ครั้ง
ฉันแค่ทำงานง่ายๆ นี่ซ้ำไปซ้ำมาแบบไม่คิดอะไรแล้ว
“คุณซาราสะคะ ได้เวลามื้อเที่ยงแล้―――อุหวา นั่นอะไรเหรอคะ?”
ในตอนที่ฉันคิดอะไรไร้สาระเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยอย่างการบรรลุถึงสัจธรรม โลเรียจังที่เข้ามาในห้องทำงานก็มองดูที่โต๊ะแล้วร้องอุทานออกมาเลย
“นี่เหรอ? แบบพิมพ์ถุงมือไงล่ะ”
อืม มันก็ออกจะขนลุกอยู่เหมือนกันนะ
ยังกับว่ามีแขนคนงอกออกมาจากโต๊ะยังไงยังงั้นแหละ
“อ- อา เป็นแบบพิมพ์ไม้สินะคะ… เห ทำแบบนี้เองเหรอคะเนี่ย”
“อื้ม รออีกแป๊บนึงได้หรือเปล่า? ถ้าฉันหยุดเว้นช่วงไปตอนนี้ มันจะเสียของไปแบบเปล่าประโยชน์เลยน่ะ”
ของเหลวที่เป็นวัตถุดิบสำหรับทำถุงมือเนี่ย ถ้าเกิดปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้ให้ความใส่ใจล่ะก็ มันจะแข็งตัวทันทีเลยน่ะสิ
โดยเฉพาะเรื่องที่ว่าจะต้องเอาวางมือเอาไว้บนหม้อเล่นแร่ตลอด แล้วคอยใส่พลังเวทลงไปตลอดเวลาด้วย
ถ้าเกิดการจ่ายพลังเวทขาดช่วงไป หรือถ้าเกิดฉันปล่อยมือออกล่ะก็ วัตถุดิบในหม้อก็จะเสียไปทันที ณ ตอนนั้นเลย เพราะงั้นก็จำเป็นต้องวางแผนเรื่องของปริมาณพลังเวทของเราและความเร็วในการทำงานของตัวเองให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจว่าเราจะสร้างถุงมือออกมามากแค่ไหน
“แบบนี้เองสินะคะ มีอะไรที่ฉันพอจะช่วยได้หรือเปล่าคะ คุณซาราสะ?”
“อื~ม นี่น่ะ มันดูเหมือนจะเป็นแค่การจุ่มลงไปเฉยๆ แต่อันที่จริงมันมีเทคนิคอยู่นะ…”
ด้วยการส่งพลังเวทนิดๆ ไปตามแบบพิมพ์ไม้ พลังเวทและของเหลวในหม้อก็จะรวมเข้าด้วยกันและเคลือบไปรอบตัวมันเป็นชั้นบางๆ
ถ้าเกิดว่าเรามีพลังงานไม่พอล่ะก็ ชั้นที่เคลือบนั่นก็จะบางเกินไป แต่ถ้าใส่พลังเวทลงไปมากเกินไป มันก็จะหนาเกินไปแทน
หรือก็หมายความว่า คุณภาพของมันจะด้อยลงไปนั่นแหละ
ก่อนอื่นเลยเนี่ย โลเรียจังก็ควบคุมเวทมนตร์ไม่ได้อยู่แล้วล่ะ…
“อะ จริงสิ พวกถุงมือที่กองๆ อยู่ตรงนั้นน่ะ ช่วยกระจายมันออกแล้วเรียงมันไว้บนโต๊ะตรงนั้นหน่อยได้หรือเปล่า?”
“เข้าใจแล้วค่ะ!”
ด้วยความช่วยเหลือเล็กๆ ของโลเรียจัง ฉันก็ใช้ของเหลวที่เหลือในหม้อจนหมด แล้วก็ออกมาทานมื้อกลางวันกัน
เพลิดเพลินไปกับมื้ออาหารที่อร่อยอยู่เสมอฝีมือโลเรียจัง แล้วก็พักซักหน่อยหลังทานกันเสร็จ
พอถุงมือแห้งแล้วเรียบร้อย ฉันก็โยนพวกมันทั้งหมดลงไปในหม้อเล่นแร่เพื่อจัดการขั้นตอนสุดท้าย
ท้ายสุด หลังจากล้างน้ำแล้วผึ่งตากแดดเอาไว้ ถุงมือยืดหยุ่น
“…แต่ว่า งานตากแห้งนี่ก็คงลำบากเหมือนกันแฮะ ทำเอาไว้กี่คู่กันล่ะเนี่ย?”
ตอนที่ฉันนับถุงมือยืดหยุ่นที่ทำ พลางหมุนหัวไหล่ของตัวเองไปด้วย ก็นับได้ 62 คู่
หรือก็คือ ฉันทำเจ้างานขั้นตอนนั้นซ้ำไปซ้ำมาเกินพันครั้งซะอีก
“งื~อ ปวดไหล่จังเลย”
พอคิดถึงเรื่องความคงทนที่ว่ามันคงจะไม่พังง่ายๆ อยู่แล้ว ความต้องการซื้อถุงมือเพื่อเปลี่ยนไปใช้นี่ก็คงคาดหวังอะไรไม่ได้หรอกมั้ง… บางทีฉันอาจจะทำมาเยอะเกินไปหน่อยก็ได้นะเนี่ย?
“ช่างมันเถอะ จากคำสั่งซื้อของคุณอังเดรนี่ก็ถอนต้นทุนค่าวัตถุดิบคืนได้แล้วล่ะ”
คู่ที่เหลือนี่ก็วางขายไว้ในร้านแบบราคาเต็มก็แล้วกัน
อาจจะมีนักเก็บสะสมหน้าใหม่ๆ แวะเวียนมาก็ได้
“แต่ก่อนหน้านั้นเนี่ย ต้องเอาไปตากให้แห้งแล้วสิ”
ฉันโยนถุงมือยืดหยุ่นที่เสร็จเรียบร้อยลงในตะกร้า แล้วก็เดินไปที่สวนหลังบ้าน
ยืดเส้นเชือกออกไปรอบๆ แล้วก็ค่อยๆ ห้อยตากพวกมันทีละข้าง ทีละข้าง
62 คู่ ก็รวม 124 ข้าง ถึงจะปวดไหล่ก็เถอะ คงต้องทนเจ็บพอควรซักหน่อยสินะ
แต่ว่า โลเรียจังก็เฝ้าร้านอยู่ด้วย
จะให้ไปขอให้เธอมาช่วยได้ยังไงล่ะ
“นี่ก็… อันสุดท้าย! ฟู่ว~”
ภาพของถุงมือเยอะแยะขนาดนี้โบกไหวไปมาบนเชือกตากผ้านี่มัน…
“อืม มันดูออกจะ น่าขนลุกอยู่เหมือนกันแฮะ”
ไม่ได้มีเศษเสี้ยวของความรู้สึกชวนให้สดชื่นแบบตอนที่เอาผ้าปรับอากาศมาตากเลยซักนิดเดียวนะเนี่ย
สีของตัวถุงมือนี่ก็เป็นสีน้ำตาลอ่อนด้วย
“แต่ ยังไงก็ต้องตากพวกมันล่ะนะ ยังไงถ้าเอาไว้ที่สวนหลังบ้านแบบนี้ ก็ไม่มีใครมาเห็นอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาอะไรหรอก”
รั้วบ้านเองก็ซ่อมเสร็จเรียบร้อยแล้วด้วย เพราะงั้น เวลาฉันตากอะไรเอาไว้ที่สวนหลังบ้านเนี่ย มองจากข้างนอกก็ไม่เห็นอยู่แล้วล่ะ
ไม่ได้มีอะไรชวนให้เข้าใจผิดอยู่แล้วล่ะนะ
ปลอดภัยแน่นอน
―――แต่ว่า เย็นวันนั้น เสียงกรี๊ดของคุณไอริสกับคุณเคทก็ดังลั่นเลย ตอนพวกเธอกลับมาถึงบ้าน แล้วเห็น (ถุง) มือเป็นร้อยๆ ข้างโบกไปโบกมาอยู่ภายใต้แสงสลัวๆ น่ะ
TN: เอาอีกแล้ว คู่หูคู่ฮา 555