[นิยายแปล] ร้านป้ายแดงของสาวนักแปรธาตุมือใหม่ [2] สินค้าใหม่และคู่แข่งทางการค้า? [Part 6]

ตอนที่ [2] สินค้าใหม่และคู่แข่งทางการค้า? [Part 6]

 

ในช่วงนี้ ที่ฤดูร้อนจริงๆ ก้าวเข้ามาแล้ว [แผนการสินค้าพิเศษ หมวกเย็นฉ่ำ] ก็ไปได้สวยเลย

ทุกอย่างที่คุณดาร์นาเอาไปขายที่เซาว์ท สแตรกถูกจัดการเรียบร้อย แล้วเงินที่ติดค้างอยู่ของคุณเกรทส์ก็ถูกเก็บมาครบถ้วนเรียบร้อยแล้วเหมือนกัน

ตั้งแต่ตอนนั้นมา เขาก็แวะมาซื้ออีก 2-3 ครั้งเลยนะ แสดงว่าการค้าขายต้องเป็นไปได้ด้วยดีแน่นอน

ส่วนกระชอน―――หรืออันที่จริง คือหมวกพิเศษของโลเรียจังน่ะ ได้รับความนิยมในหมู่นักเก็บสะสมยิ่งกว่าที่เธอคิดเอาไว้ซะอีก

หมวกซักใต้หมวกเกราะใส่ได้สบายมากๆ แถมขายดีด้วยนะ

แล้วก็นะ กำไรของฉันเพิ่มขึ้นมาเพราะมีตัวเลือกมากขึ้นมาอย่างเสริมความคงทนกับกันน้ำก็ทำให้ฉันดีใจนิดนึงเหมือนกัน

ฉันคิดว่าโลเรียจังทำเงินได้เยอะเลยล่ะ แต่อันที่จริง เป็นคุณทวดของโลเรียจังต่างหากที่เป็นคนทำหมวกส่วนใหญ่นี่น่ะ

ถ้าไม่นับเรื่องที่ท่านเกษียณแล้ว กับมีเวลาว่างเยอะเลย ความเร็วในการสานฟางของท่านก็ไม่เร็วเท่าโลเรียจังล่ะนะ

ตอนที่โลเรียจังได้เงินค่าขนมเพิ่มอีกเยอะเลยนอกเหนือจากค่าจ้าง เธอกลับมีสีหน้าซับซ้อน ผสมระหว่างสีหน้าดีใจกับสีหน้าผิดหวัง

ก็ จนกระทั้งมันไปถึงเหล่านักเก็บสะสมที่สวมหมวกเกราะน่ะ

ธุรกิจก็ดำเนินไปได้ตามปกติ มาได้อีกซักพักใหญ่เลยล่ะ

ถ้าไม่ใช่ของปลอมเลียนแบบ พวกนักเก็บสะสมจากเมืองอื่นอาจจะมาที่หมู่บ้านนี้เพื่อทำหมวกด้วยล่ะ แต่ก็จะยากซักหน่อย

ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เม็ดเงินก็เริ่มไหลเข้ามาในหมู่บ้านนี้ทีละนิดๆ อย่างไม่ต้องสงสัยเลย

ถึงจะยังห่างไกลจากคำว่า [หมู่บ้านที่ร่ำรวย] อยู่อีกไกลก็เถอะ ต้องทุกอย่างก็ต้องมีก้าวแรกสิว่ามั้ย?

แล้วก็ คุณเกรทส์ที่เป็นกึ่งๆ ชาวบ้านของหมู่บ้านนี้เองก็อู้ฟู่ขึ้นมาเหมือนกันนะ

 

วันนึง คุณเกรทส์ก็เอาเรื่องๆ นึงมาปรึกษากับฉัน

 

“คุณอยากจะให้อะไรซักอย่าง ตอบแทนพวกคุณเอลลิส งั้นเหรอคะ?”
“ครับ เพราะผมออกจากหมู่บ้านไป พ่อแม่เองก็เลยต้องลำบากกัน…”

 

พอได้ยินคำพูดที่เป็นลางดีแบบนั้น โลเรียจังที่นั่งฟังอยู่ข้างๆ ก็ตาโตขึ้นมาเลย

 

“ลูกชายไม่เอาถ่านทำตัวสำมะเลเทเมาที่ชื่อเสียแพร่สะพัดคนนั้น จะตอบแทนบุญคุณด้วย!”
“เอ๋!? นี่ผม! โดนเอาไปลือกันแบบนั้นเหรอ!?”

 

อาจจะเป็นครั้งแรกเลยที่ได้ยินคำว่า ‘ทำตัวสำมะเลเทเมา’ ก็ได้นะเนี่ย แต่พอคุณเกรทส์หลุดร้องซะเสียงหลงแบบนั้น โลเรียจังก็พยักหน้าตอบอย่างหนักแน่นเลย

 

“อื้อ  ก็ถึงยังไง ขนาดพี่เขาโตมาในหมู่บ้านนี้แท้ๆ เขาก็ออกจากหมู่บ้านไปแล้วก็ไม่เคยกลับมาเลย แถมเงินก็เหมือนจะไม่มีส่งกลับมาเลยด้วย เป็นที่รู้กันในหมู่บ้านเลยล่ะค่ะว่า ‘คนไม่เอาถ่าน ทำตัวสำมะเลเทเมา อย่าไปแต่งงานกับคนแบบนี้เด็ดขาด’ น่าจะแบบนั้นนะคะ?”
“อึ~~~ก! ตอนที่ผมไปตระเวนขอให้ทำหมวกให้ที ผมรู้สึกได้ว่าสายตาที่ทุกคนมองมากันมันดูอบอุ่น อ่อนโยนอยู่หน่อยๆ ด้วย นี่หรือว่า…”
“อาจจะคิดประมาณว่า ในเมื่อเด็กไม่เอาอ่าวคนนั้นก็พยายามเต็มที่แบบนี้เล้ว ช่วยซักหน่อยก็แล้วกันก็ได้นะคะ?”
“น- นึกว่าผมจะทำการเจรจาได้เป็นอย่างดีแล้วแท้ๆ…”

 

พอคุณเกรทส์เจอความจริงที่คาดไม่ถึงจากโลเรียจังซัดเข้าเต็มๆ หน้า ก็ทำเอาเขาคอตกเลย

แต่ เขาก็ได้มาเยอะอยู่เหมือนกันนะ

ถึงเขาจะเป็นลูกชายของคุณเอลลิส กับเรื่องที่เขาจ่ายเงินให้ล่วงหน้าเลย เขาก็ยังมีความสามารถในการได้รับความเห็นใจแบบนี้ด้วยนะ… ใช่ ถึงบางที เขาอาจจะไม่ดีใจกับเรื่องนี้เท่าไหร่ก็เถอะ

ด้วยปัจจัยที่จำกัดแค่ของในหมู่บ้านนี้น่ะ ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ในการค้าขายหรอก

ยิ่งกว่านั้น ถ้าหากว่ามันมีอะไรผิดพลาดแล้วล่ะก็ ความเห็นใจพวกนั้นอาจจะไม่ได้มีให้คุณเกรทส์ แต่อาจจะมีให้คุณเอลลิสกับคุณแจสเปอร์ก็ได้นะ ทึ่พวกเขามีลูกชายแบบนี้…?

ขนาดตอนที่ฉันย้อนนึกถึงเหตุบุกรุกเมื่อวันก่อนขึ้นมา คุณแจสเปอร์ก็เป็นคนที่มีส่วนร่วมหลักคนนึงเลยด้วย

แต่ก็นะ ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรแบบนั้นออกมาซักหน่อย

 

“เอาน่าๆ สุดท้ายก็ดีแล้วนี่คะ นี่ก็เป็นหนทางทำเงินที่ปลอดภัยดีด้วย คนที่หาเงินได้น่ะใช้ได้แล้วล่ะค่ะ ในด้านนึง นี่ก็เป็นข้อเท็จจริงเลยไม่ใช่เหรอคะ?”
“น- นั่นสินะครับ! เรื่องเงินเอง ผมก็หาได้ดีเลยด้วย ผมเองก็เป็นคนประสบความสำเร็จเหมือนกันนะ!”

 

พอฟังตามคำพูดของฉัน คุณเกรทส์เขาก็ดีขึ้นมาหน่อย

แต่ก็น้า ที่นี่มีคนพร้อมจะสาดน้ำเย็นซ้ำใส่เขาอยู่ด้วยเนี่ยสิ

 

“ทั้งหมดนั่นน่ะ ต้องขอบคุณคุณเอลลิสกับความเมตตาจากคุณซาราสะด้วย ไม่ใช่หรือไงน้า~”
“อู่ววว…”
“โลเรียจัง…”

 

กับคุณเกรทส์นี้ โลเรียจังดูจะใจร้ายด้วยอยู่หน่อยๆ แฮะ

ทิ้งหมู่บ้านนี้ไป―――ในอีกแง่นึง คุณเกรทส์ก็คงจะรู้สึกละอายอยู่หน่อยๆ เหมือนกัน

อ๊ะ ไม่แน่นะว่า โลเรียจังอาจจะแอบชอบพี่ชายที่เป็นเพื่อนในละแวกบ้านอย่างคุณเกรทส์อยู่เล็กๆ ก็ได้นะเนี่ย?

ชอบแบบนี้ก็ออกจะเกินไปหน่อยนะ หรือว่า…?

 

“…? อะไรเหรอคะ คุณซาราสะ?”
“ฮะ อือๆ ไม่มีอะไรหรอก”

 

อื้อ ไม่ใช่หรอก

สายตาที่โลเรียจังมองคุณเกรทส์นี่ ไม่มีสีสันอยู่ในนั่นเลยซักนิดเดียว

หรือที่จริง ก็รู้สึกเหมือนกำลังมองคนเป็นลูกชายที่หาประโยชน์ไม่ได้นั่นแหละ

 

“แล้วก็ เรื่องให้ของตอบแทนสินะคะ นั่นสิน้า ของที่ฉันแนะนำก็คือเครื่องจักรผลิตปุ๋ย [ฮาเวสเตอร์] นะคะ”
“เครื่องจักรผลิตปุ๋ยงั้นเหรอครับ? คุณพ่อคุณแม่ไม่ค่อยมีงานทำในไร่เท่าไหร่นะครับ แต่…”
“ไม่เลยค่ะ ไม่เลย สิ่งที่สำคัญในครั้งนี้คือวัตถุดิบที่จะใส่เข้าไปในฮาเวสเตอร์ต่างหาก”

 

ฮาเวสเตอร์เป็นอาร์ติแฟกต์ (อุปกรณ์แปรธาตุ) ที่สามารถแปรสภาพสิ่งใดก็ตามที่ใส่เข้าไปให้กลายเป็นปุ๋ยได้

จะใบไม้แห้ง, ซากต้นไม้ หรือเศษขยะ ก็ใช้เป็นวัตถุดิบในการสร้างเป็นปุ๋ยประสิทธิภาพสูงได้

แล้ว คุณแจสเปอร์ก็เป็นนายพรานด้วย

หลังจากที่ชำแหละเหยื่อที่ล่ามาแล้ว ส่วนที่ไม่จำเป็นก็จะมีเหลือทิ้งอยู่เยอะอย่างช่วยไม่ได้เลย

กระบวนการจัดการชิ้นส่วนพวกนั้นน่ะยุ่งยากจนน่าเหลือเชื่อเลย

ถ้าปล่อยทิ้งเอาไว้ มันก็จะเน่าด้วย เพราะงั้น ถ้าไม่ขุดหลุมฝังมันซะ ก็ต้องเอาไปทิ้งที่ไหนไกลๆ ให้พ้นนั่นแหละ

ในจุดนี้ ถ้าเกิดมีฮาเวสเตอร์อยู่ ก็แค่โยนมันเข้าไปในเครื่องนี้ก็พอ

ปุ๋ยที่ได้ออกมาเรียบร้อยแล้วก็เอาไปขาย ทำเงินเล็กๆ น้อยๆ ได้อีกต่อนึงด้วย

ถ้าจะพูดถึงข้อเสียล่ะก็ มันจำเป็นต้องใช้พลังเวทอีกซักหน่อยถึงจะใช้งานได้ แต่บ้านคุณแจสเปอร์ก็อยู่ข้างๆ นี่เอง เพราะงั้น ถ้าพวกเขามีพลังเวทไม่พอ ฉันก็ไปช่วยได้อยู่

 

“ถ้าเกิดเป็นพรานล่ะก็ นี่ก็เป็นอาร์ติแฟกต์ที่คุ้มค่าที่จะมีเลยค่ะ”

 

―――ในสถานการณ์แบบนี้น่ะ ฉันไม่เคยมีความคิดเรื่องที่จะขายอาร์ติแฟกต์ที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้หรอก

คุณเกรทส์พยักหน้าหงึกๆ ให้ฉันตอนที่กำลังอธิบาย เพราะอย่างนั้นก็ไม่มีปัญหา

 

“เข้าใจแล้วครับ แบบนี้ก็ยอดไปเลย สมัยก่อน ผมเคยช่วยจัดการพวกตับไตไส้พุงอยู่เหมือนกัน นั่นก็เป็นเหตุผลส่วนนึงครับที่ผมเริ่มจะถอยห่างจากงานนายพราน…”
“อ่า ถ้าเกิดต้องมาตั้งแต่ยังเด็กเลยนี่มันก็… เข้าใจแล้วค่ะ”

 

ของอย่างหัวพวกสัตว์ที่ถูกตัดออกมาหรือเครื่องในสัตว์ที่โชกเลือดที่ฉันเห็นตอนเด็กๆ นี่ก็ติดตามากๆ เลยนะ

พวกคนที่ชินได้ พวกเขาก็คงจะชินกันได้ แต่กลับกัน ฉันคิดว่าคนที่ทำยังไงก็ชินไม่ลงมันก็มีเหมือนกันนั่นแหละ

คุณเกรทส์อาจจะเป็นคนๆ นึงที่ทำใจชินไม่ได้ก็ได้นะ เขาก็เลยเลือกเส้นทางอาชีพพ่อค้าเร่แทน

 

“แล้ว ฮาเวสเตอร์นี่ ราคาเท่าไหร่เหรอครับ?”
“ก็ขึ้นอยู่กับขนาดและประสิทธิภาพนะคะ ถ้าปริมาณที่จัดการได้มากหน่อย แล้วสามารถทำงานได้ด้วยพลังเวทปริมาณที่ลดลง ราคาก็จะแพงซักหน่อยค่ะ อย่างน้อยๆ ก็ 120,000 แรร์นะคะ”
“…สุดๆ ไปเลยนะครับนั่นน่ะ?”
“ก็มันคืออาร์ติแฟกต์นี่นา แต่คุณหาเงินได้พอใช่มั้ยคะ?”
“ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้หรอกครับ แต่ถ้าเกิดผมทำแบบนั้น เงินทุนค้าขายของผมมันจะ… ผมจะทำงานให้หนักขึ้น เก็บเงินให้มากกว่านี้ซักหน่อย เพราะงั้น คุณซาราสะ ผมจองเอาไว้ก่อนได้หรือเปล่าครับ?”
“ได้ค่ะ ตกลงรับข้อเสนอ ฉันจะเตรียมวัตถุดิบที่จำเป็นเอาไว้นะคะ”

 

ฉันวางแผนจะสร้างขึ้นมาชิ้นนึงอยู่แล้วล่ะ เพราะอย่างนั้น ฉันก็มีวัตถุดิบส่วนใหญ่อยู่แล้ว แต่เป็นขนาดแบบพอใช้ในครัวเรือนสำหรับฉันเอาไว้ใช้น่ะ

มันออกจะเล็กเกินไปหน่อยสำหรับคุณแจสเปอร์ล่ะนะ ถ้าเกิดเขาล่าสัตว์ตัวใหญ่ๆ ได้

อย่างน้อยที่สุดเนี่ย รวบรวมวัตถุดิบเอาไว้ให้พอจะจัดการกับของขนาดประมาณหมีซักตัวก็แล้วกัน

 

“พี่เกรทส์เป็นเด็กกตัญญูด้วย… ฉันเองก็ควรจะทำอะไรด้วยดีกว่าสินะคะ?”
“ไม่หรอก ผมน่ะ แก่กว่าโลเรียจังเกือบ 2 เท่าเลยไม่ใช่เหรอ?”

 

คุณเกรทส์ยิ้มออกมานิดหน่อยอย่างประหลาดใจเลย พอเขาเห็นโลเรียจังเริ่มกำลังคิดเรื่องพวกนี้อย่างจริงจัง

 

“แต่ว่า พอมาจาก ‘คนทำตัวสำมะเลเทเมา’ แล้วนี่มันก็”
“อยากจะปัดการประเมินนั่นให้มันพ้นๆ ไปซักทีจัง! ไม่ว่ายังไง ผมก็ต้องส่งฮาเวสเตอร์ไปให้พวกคุณพ่อให้ได้เลย ถ้าแจกจ่ายปุ๋ยพวกนั้นได้ การประเมินตัวผมจะต้อง…”

 

มันฝังอยู่ในคนรุ่นของโลเรียจังได้เป็นอย่างดีเลยนะ หรืออันที่จริง ฉันว่ามันฝังรากลงไปค่อนข้างจะลึกเลยด้วยซ้ำไป

ก็นะ ถ้าเกิดคุณแจสเปอร์เริ่มขายปุ๋ย เรื่องที่ว่าลูกชายอย่างคุณเกรทส์ยกเครื่องฮาเวสเตอร์ให้ก็จะกระจายออกไป แบบนี้ เขาต้องยกระดับการประเมินของตัวเองได้แน่นอนเลยล่ะ

แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าการทำแค่นั้นจะหลบภาพของ ‘คนทำตัวสำมะเลเทเมา’ ออกไปได้หรือเปล่านะ

 

“เด็กกตัญญูเหรอ… ถ้าวัยแค่โลเรียจังเนี่ย ฉันว่าไม่จำเป็นต้องคิดมากเรื่องนั้นก็ได้นะ แต่ฉันเองก็ไม่รู้เรื่องนั้นเท่าไหร่เหมือนกัน…”

 

ตอนฉันอายุเท่าโลเรียจังเนี่ย คุณพ่อคุณแม่ฉันก็เสียกันไปทั้งคู่แล้วล่ะ

ตอนที่ยังทำได้ จะทำก็ไม่เสียหายหรอก―――ไม่สิ ควรทำเลยล่ะถ้ายังมีโอกาสอยู่

 

“คุณซาราสะคะ คุณพ่อคุณม―――อ๊ะ ขอโทษค่ะ…”
“ไม่ต้องคิดมากหรอกนะ แต่ว่า ฉันได้ยินว่าตอนที่เธอเริ่มได้ค่าจ้าง เธอก็ให้ของขวัญแล้วนี่นา?”

 

โลเรียจังชะงักหยุดพูดไปก่อนจะก้มหน้าหนี แต่ฉันก็ส่ายหน้าให้ไม่ได้ว่าอะไร

ถึงจะแทนคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้ แต่ฉันก็ส่งเงินกลับไปที่บ้านเด็กกำพร้าอยู่นะ

อะ ไหนๆ ก็พูดถึงแล้ว ฉันส่งจดหมายไปหาอาจารย์ว่า ‘ช่วยส่งของไปที่บ้านเด็กกำพร้า พอจะให้พวกเขาอยู่กันได้อย่างสบายด้วยนะคะ’ แล้วล่ะ เมื่อวันก่อน หลังจากที่ฉันกลับมาบ้านจากเซาว์ท สแตรก

ปริมาณเงินที่ฉันหาได้ก็ยังน้อยอยู่ แต่ถ้าฝากให้อาจารย์ที่มีประสบการณ์เป็นคนจัดการล่ะก็ปลอดภัยแน่นอน

 

“ถามเผื่อไว้ก่อนแล้วกันนะครับ มีอาร์ติแฟกต์อะไรแนะนำสำหรับคุณดาร์นาหรือเปล่า?”
“มีของแบบนั้นหรือเปล่าคะ?”
“เออ ก็ มีอาร์ติแฟกต์ที่ชื่อ [โคโระโคโระ] นะ”
“―――คะ?”

 

TN: ตัดตรงนี้แหละ 555
เดากันได้เลยครับว่ามันคืออะไรกันนะ? ^^

[นิยายแปล] ร้านป้ายแดงของสาวนักแปรธาตุมือใหม่

[นิยายแปล] ร้านป้ายแดงของสาวนักแปรธาตุมือใหม่

Score 10
Status: Completed
แทบจะเป็นหนทางเลี้ยงชีพทางเดียวเลยที่จะเจริญขึ้นมาได้สำหรับเด็กกำพร้าตัวคนเดียว นั่นคือการเอาหนังสือรับรองการเล่นแร่แปรธาตุแห่งชาติมาให้ได้! ซาราสะ เด็กสาวที่จบจากวิทยาลัยหลวงฝึกสอนนักเล่นแร่แปรธาตุ สถานที่ที่ไม่ต้องการอะไรอื่นนอกจากความสามารถของผู้เรียน ได้รับการเสนอร้านแห่งนึงมาจากอาจารย์ของเธอ เธอเริ่มออกเดินทางภายใต้การมองส่งของอาจารย์ผู้ใจกว้าง เฝ้าฝันถึงชีวิตที่สวยงามกว่าทั่วๆ ไปในฐานะนักเล่นแร่แปรธาตุ แต่ว่า ในสถานที่แบบนี้ ถ้าเธอไม่เปิดร้านล่ะก็ ชีวิตแบบนั้นก็ไม่มีวันมาถึงแน่―― เธอที่รายล้อมด้วยพนักงานทำงานพิเศษที่น่ารัก กับชาวบ้านที่เป็นมิตร เป้าหมายอยู่ที่การเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุของประเทศอย่างเต็มตัวให้ได้! ชีวิตทำงานอันสโลว์ไลฟ์เริ่มเปิดให้บริการแล้ว! (เรื่องนี้แปลจากฉบับ LN ภาษาญี่ปุ่น)

Options

not work with dark mode
Reset