[นิยายแปล] ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง 79 ไฟล์ 9 : ตัวตนของยามาโนเกะ [6.1]

ตอนที่ 79 ไฟล์ 9 : ตัวตนของยามาโนเกะ [6.1]

“ขอโทษนะ โซราโอะ ฉันไม่ทันสังเกตเลยว่าเวลาผ่านมาขนาดไหนแล้ว”
“ไม่หรอก… มันไม่น่าจะมืดเร็วขนาดนี้ด้วย ต่อให้เราเอาเวลาที่สำรวจในหอชมวิวกับกินข้าวเที่ยงกันมารวมด้วยแล้วเนี่ย เวลามันก็ไม่ควรจะถึงชั่วโมงนึงด้วยซ้ำนะ”

 

จนถึงตอนนี้ ฉันคิดว่าเวลาที่เดินไประหว่างโลกเบื้องหน้ากับโลกเบื้องหลังน่ะไม่ต่างกัน แต่บางที ฉันอาจจะเข้าใจผิดไปเองก็ได้นะ ในป่าแบบนี้ มันมืดจนมองไม่เห็นเลยว่าข้างหน้ามีอะไรอยู่กันแน่ ลมก็พัดโบกเข้ามา ทำให้กิ่งไม้ถูกันไปมาเสียงดังไปทั่ว

ฉันเอาไฟฉายออกมาจากกระเป๋า แล้วก็เปิดมัน แสงสว่างที่ฉายออกมาก็โลมเลียไปตามกอหญ้าใต้ต้นไม้ทันที

 

“นี่ โทริโกะ ทุกทีมันมีต้นไม้เยอะขนาดนี้เลยเหรอ?”
“ฉันก็ว่ามันแปลกๆ เหมือนกัน รู้สึกว่าตอนมาที่นี่ ป่ามันโปร่งกว่านี้นะ AP-1 ขับฝ่าป่าที่แน่นขนาดนี้ไม่ได้หรอก”

 

ระหว่างที่พูดอยู่ โทริโกะก็เหมือนจะนึกขึ้นได้พอดี แล้วเธอก็ยก AK ของเธอขึ้นมาเตรียมพร้อมเลย

 

“เดี๋ยวนะ หรือว่า พวกนี้คือปีศาจต้นไม้งั้นเหรอ? อย่าง บางทีพวกมันอาจจะค่อยๆ ตามพวกเรามาก็ได้”

 

ฉันเพ่งไปที่ตาขวา แล้วก็รีบมองไปรอบๆ

 

“…ดูเหมือนจะไม่ใช่นะ พวกนี้เป็นต้นไม้ธรรมดาๆ หมดเลย ถึงจะไม่รู้ว่ามันเป็นต้นบีชหรือต้นโอ๊คก็เถอะ”
“งั้น ทำไมมันถึงเปลี่ยนไปจากตอนที่พวกเรามาล่ะ?”

 

ฉันหันไฟฉายลง รวมแสงให้ลงมาฉายที่พื้นแทน ไม่เห็นร่องรอยอะไรที่พวกเราทิ้งไว้ตอนที่มาถึงอยู่เลย ตรงนั้นมันมีแต่ช่องว่างระหว่างต้นไม้กับทางขึ้นเขาที่มืดทึมเท่านั้นเอง

 

“นี่พวกเราออกมาคนละที่กันเลยหรือเปล่าเนี่ย?”
“ตึกนี้มันมีทางเข้าทางออกแค่ทางเดียวเลยไม่ใช่เหรอ?”
“มันก็ใช่ แต่ว่า…”

 

ฉันกลับหลังหันไปมองที่ตึกข้างหลังพวกเรา จ้องไปที่ประตูทางเข้าที่มืดสนิท แล้วก็มองขึ้นไปที่ห้องชมวิวกำลังหมุนไปพร้อมกับเสียงหนักๆ

 

“เป็นไปได้มั้ยว่าทางออกของหอชมวิวนี่จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามที่มันหมุนไปน่ะ หรืออาจจะไม่ใช่ตำแหน่ง แต่เป็นสภาวะ? การรับรู้? อะไรแบบนั้นน่ะ”
“ฉันไม่ค่อยเข้าใจเลยแฮะ”
“ก่อนหน้านี้―ตอนที่เธอออกไปโดยไม่บอกฉันน่ะ ตอนที่ฉันอยู่ในกลิตช์ ฉันเห็นว่ามุมมองของโลกเบื้องหลังมันเปลี่ยนไปน่ะ อย่างในเมืองร้างนั่นก็มีของบางอย่างที่บางทีก็ดูเหมือนลุง บางทีก็ดูเหมือนต้นไม้ด้วย ระหว่างที่พวกเราอยู่ที่ห้องชมวิว บางทีของอย่างเดียวกันนั่นอาจจะเกิดขึ้นก็ได้นะ ก็เลยทำให้ป่ามันหนาแน่นขึ้น แถมเวลาก็ข้ามไปเป็นตอนกลางคืนอีก”
“งั้น หอชมวิวก็หมุนมาที่… การรับรู้นี้น่ะเหรอ? เหมือนแบบในลิฟต์สินะ?”
“ตอนนั้นที่เรามองออกมาจากบนนั้น มีตอนนึงที่ฉันรู้สึก เอ๊ะ ขึ้นมานะ ดูเหมือนป่ามันจะแน่นขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ล่ะมั้ง ถ้าเกิดตอนนั้นฉันรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นล่ะก็ มันก็คงจะไม่-”
“ชู่ว!”

 

โทริโกะร้องเสียงเบาๆ ออกมา แล้วตัดบทฉันก่อน

 

“ฉันได้ยินอะไรซักอย่าง”
“…!”

 

ฉันทำตามที่โทริโกะทำ ก่อนจะเตรียมพร้อมไรเฟิลของตัวเอง ปิดปากเงียบสนิท แล้วตั้งใจฟังให้ดี

เธอพูดถูก ฉันได้ยินเสียงแตกๆ ด้วย เสียงนั่นที่เหมือนเสียงลมรั่วออกมาจากถุงใหญ่ๆ น่ะ

 

*เทน… โซว… เม็ตสึ*

 

มีอะไรบางอย่างเคลื่อนลงมาตามทางลงเขาด้วย ทำเสียงเหมือนกับอะไรนิ่มๆ กระแทกไล่มาตามทางเลย

 

*เทน… โซว… เม็ตสึ… เทน… โซว… เม็ตสึ…*

 

ทันทีที่ฉันได้ยินเสียงเอกลักษณ์นั่น ฉันก็รู้ทันทีเลยว่ามันคืออะไร

 

“…ยามาโนเกะ”

 

ฉันหันกระบอก M4 ของตัวเองไปตรงทางเดิน ปลดเซฟตี้ของปืนออก ใช้เวลาซักพักเลยกว่าฉันจะเอามือซ้ายของตัวเองมาจับที่กริปมือด้านหน้าในขณะที่ยังถือไฟฉายเอาไว้อยู่แบบนี้น่ะ

 

“ยามาโนเกะ? อะไรล่ะนั่น?”

 

โทริโกะถามฉัน พร้อมๆ กับที่ทำท่าทางแบบเดียวกับที่ฉันทำเลย

 

“ถ้าสรุปเลยก็ เป็นตัวประหลาดที่เข้าสิงผู้หญิงน่ะ”
“อีกแล้ว…? ตอนโคโทริบาโกะก็ทีนึง ของพวกนี้มันชักจะหมายหัวผู้หญิงมากเกินไปหน่อยแล้วนะ ไม่คิดงั้นเหรอ?”

 

ยามาโนเกะเป็นตัวประหลาดที่มีชายคนนึงไปเจอเข้าตอนที่เขาขับรถอยู่กับลูกสาวของเขาที่กำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ผู้โดยสาร มันเดินตรงเข้ามา พูดคำปริศนาอย่าง ‘テン (เทน)、ソウ (โซว)、メツ (เม็ตสึ)’ ซ้ำไปซ้ำมา ก่อนจะเข้าสิงลูกสาวของชายคนนั้น แล้วก็หายวับไป เพื่อจะช่วยลูกสาวที่เสียสติไปแล้วของเขาให้ได้ ชายคนนั้นรีบขับรถลงเขา และวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากวัดใกล้ๆ ทันที

แต่ว่า…

 

*เทน… โซว… เม็ตสึ… เทน… โซว… เม็ตสึ…*

 

เสียงนั่นเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ แล้วเจ้าของเสียงนั่นก็ปรากฏขึ้นตรงทางเปิดช่องเขา

ร่างสีขาวที่ไม่มีลักษณะอะไรชัดเจนก็โผล่มา เด่นลอยออกมาด้วยแสงจากไฟฉาย มันมีร่างเหมือนมนุษย์ แต่กลับไม่มีหัว กลับกัน มันมีหน้าของมนุษย์อันใหญ่อยู่ที่หน้าอกของมันแทน โดดเหยงๆ ลงมาตามช่องเขาด้วยขาข้างเดียวของมัน

 

“อึก”

 

โทริโกะพึมพำออกมา คงสุดจะทนแล้วล่ะ รอยยิ้มยิงฟันกว้างจากหน้าบนหน้าอกของมันนั่นน่ะ เป็นภาพที่ฝังความน่ารังเกียจใส่คนที่เห็นได้แบบทันทีทันใดเลย

มนุษย์จะตอบสนองด้วยความกลัวต่อสิ่งที่มีชิ้นส่วนร่างกายของมนุษย์ แต่ประกอบกันแบบผิดไป ไม่ก็มีชิ้นส่วนบางอย่างเพิ่มขึ้นมาหรือขาดหายไป อย่างสิงเทียนใน [ชานไห่จิง คัมภีร์ขุนเขาและท้องทะเล] หรือ [ธรรมชาติวิทยา] ของพลินีผู้อาวุโส ก็บรรยายถึงพวกเบลมมี คล้ายกับคนที่ไม่มีหัว กับพวกไซอาพอด คล้ายกับคนที่มีขาข้างเดียว ดูแล้วยามาโนเกะก็คงมาจากพวกผิดปกติกลุ่มเดียวกันนั่นแหละ

แล้วยามาโนเกะตัวนั้นก็หยุดเดิน สายตาของมันจ้องมาทางฉันแล้ว

 

*เทนกุริ… โซวกิ… เม็ตสึสึกิ*

 

มันพูดออกมาแบบนั้น แล้วก็เลื่อนสายตาไปมองที่โทริโกะต่อ

 

*เทนโรว… โซวเรียว… เม็ตสึกิโมโนะ*

 

อะไรเนี่ย? มันพูดอะไรกันแน่นะ?

แล้วเจ้ายามาโนะเกะก็ฉวยโอกาสจากที่พวกเรางงกันจนชะงักไป เคลื่อนไหวทันทีเลย

มันโดดไปโดดมาในทิศทางที่มั่วไปหมดด้วยขาข้างเดียวข้างนั้น เหวี่ยงแขนของมันไปมายังกับว่ากำลังอาละวาดอยู่ มันบิดลำตัวที่สั่นระรัว พร้อมกับพุ่งเข้ามาอย่างเร็วจนน่ากลัวเลย

ทั้งฉันทั้งโทริโกะก็เผลอชะงักกันไปเลย―วิธีการเคลื่อนไหวของมันน่ะ แค่เห็นก็ทำให้รู้สึกไม่สบายใจแล้ว พวกเราก็เห็นอะไรต่อมิอะไรในโลกเบื้องหลังมาแล้วพอสมควรเหมือนกันนะ แต่นี่มันเป็นครั้งแรกเลยที่แค่วิธีการขยับตัวของมันก็น่ากลัวแล้ว มันวิ่งพล่านไปทั่วยังกับแมลงขายั้วเยี้ยยุ่บยั่บโดนยาฆ่าแมลงพ่นใส่เลย มันไม่ใช่วิธีการเคลื่อนไหวของตัวประหลาดที่มีอวัยวะของมนุษย์อยู่ควรจะทำเลยซักนิด

ระหว่างที่พวกเรายังสะอิดสะเอียนแทบสุดจะทน ยามาโนเกะก็พุ่งเข้ามาประชิดตัวอยู่ตรงหน้าพวกเราแล้ว การเคลื่อนไหวสุดพิสดารนั่นหยุดลงซักที พอฉันเห็นหน้าของมัน―ที่ก็เกินจะรับไว้อยู่แล้ว―ฉีกยิ้มกว้างใส่ สติของฉันก็เกินกว่าจะรับไว้แล้ว

 

“กรี๊ดดดดดด!”

 

ฉันกรี๊ดลั่นพร้อมกับลั่นไกปืนออกไป ปากกระบอกของ M4 ส่งประกายไฟสว่างวาบออกมาในความมืด ย้อมต้นไม้รอบๆ ให้เป็นเงาลางๆ สีแดงอยู่แวบนึง แล้วในชั่วพริบตา ร่างสีขาวของมันก็หายวับไปเหมือนกับโดนลบหายไปเฉยๆ แล้วในตอนนั้น ก็มีความรู้สึกกระตุกแปลกๆ วิ่งไปทั่วร่างของฉันเลย ยังกับว่าโดนอะไรนุ่มๆ หยุ่นๆ ฟาดใส่ ปลอกกระสุนร่วงกราวลงกับพื้น กลิ่นควันไฟลอยโชยมาแตะจมูกของฉัน

ยามาโนเกะหายหัวไปไหนไม่รู้ หาไม่เจอเลย

 

โทริโกะ ไม่เป็นไรใช่มั้ย?

 

ฉันพยายามจะพูดแบบนั้น แต่คำพูดที่ออกมาจากปากของฉันกลับเป็น

 

“เข้ามาแล้ว”
“ฮะ?”

 

โทริโกะหันกลับมามองที่ฉันด้วยสีหน้าที่งงไปหมด

 

“เมื่อกี้เธอว่าไงนะ?”
“เข้ามาแล้ว เข้ามาแล้ว เข้ามาแล้ว”

 

อ่า ซวยล่ะสิ โดนเข้าแล้วไง

 

TN: โห เดือดจริงๆ 555

 

เดี๋ยวมาอธิบายการกล่าวถึงในเรื่องไว้ท้ายตอนนะครับ

山海经 (Shānhǎi jīng) หรือ คัมภีร์ขุนเขาและท้องทะเล เป็นคัมภีร์ดั้งเดิมเกี่ยวเทพนิยายปรัมปราของภูมิศาสตร์จีน ปรากฏตั้งแต่ 400 ปีก่อนคริสตกาล ฉบับดั้งเดิม เป็นม้วนภาพเรียกว่า [ภาพคัมภีร์ทะเลขุนเขา ซานไห่ถูจิง (山海图经)] แต่หายสาบสูญไปในสมัยราชวงศ์ เว่ยจินเหนือใต้ (魏晋南北朝)
บันทึกเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับเทพนิยาย, ตำนานเทพต่างๆ, ความเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์, คาถามนต์พิธีของมนุษย์โบราณ, เรื่องธรรมชาติวิทยาของพันธุ์พืช-สัตว์, สมุนไพร, ภูมิศาสตร์ และแร่ธาตุธรณีวิทยา เป็นการรวบรวมข้อเขียนเกี่ยวกับตำนานที่แต่งขึ้นหลายครั้งหลายวาระหลายนักประพันธ์ จึงไม่มีความชัดเจนเรื่องผู้ประพันธ์ เนื้อหาแบ่งเป็น 18 บท ด้วยเรื่องราว 4 หมวด ได้แก่ หมวดว่าด้วยภูเขา 5 บท, หมวดว่าด้วยทะเล 8 บท, หมวดว่าด้วยสัตว์โลก 4 บท และหมวดภูมิภาคในท้องทะเล 1 บท เนื้อหาครอบคลุมพื้นที่ 100 กว่ารัฐโบราณในอดีต ด้วยอักษร 31,000 ตัว, ขุนเขา 550 แห่ง, ช่องทางน้ำ 300 แห่ง

สิงเทียน (刑天 : Xingtian) เป็นศัตรูของจักรพรรดิหวงตี้ ระหว่างศึกชิงตำแหน่งเทพ สิงเทียนรบแพ้จึงถูกตัดหัวนำศพไปฝัง แต่แม้จะไร้หัว สิงเทียนก็ยังไม่ตาย เขาได้ใช้หัวนมเป็นดวงตา ใช้สะดือเป็นปาก จับขวานยักษ์และโล่ขึ้นมา หมายจะรบกับจักรพรรดิหวงตี้ต่อ หน้าตาในรูปวาดก็แบบนี้นะครับ

ธรรมชาติวิทยา (Naturalis Historia) เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของพลินีผู้อาวุโส และยังงานที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา ผลงานชิ้นเดียวที่ใหญ่ที่สุดของเขาที่รอดชีวิตจากจักรวรรดิโรมันจนถึงทุกวันนี้ เริ่มต้นขึ้นในค.ศ. 77 รวมเป็น 37 เล่ม

เบลมมี (Blemmyae) เชื่อกันว่าเป็นมนุษย์ประเภทหนึ่งที่อาศัยอยู่ในทวีปแอฟริกา แต่ไร้หัว ส่วนใบหน้าไปปรากฏอยู่ที่บริเวณหน้าอกแทน โดยมีช่วงไหล่อยู่สูงกว่าใบหน้า

ไซอาพอด (Sciapodae) เป็นสิ่งมีชีวิตคล้ายคนแคระที่มีเท้า 1 ข้างอันใหญ่ยื่นออกมาจากขากลางที่งอกออกมาจากกึ่งกลางลำตัว แต่กลับรวดเร็วคล่องแคล่วจนน่าตกใจ และยังใช้เท้าอันใหญ่ของตัวเองขึ้นมาบังแสงแดดได้อีกด้วย

[นิยายแปล] ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง

[นิยายแปล] ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง

Score 10
Status: Completed
การพบกันครั้งแรกกับ นิชินะ โทริโกะ ของเธอคือที่โลกเบื้องหลัง หลังจากได้เห็น “สิ่งนั้น” และเกือบตายไปแล้ว ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของนักศึกษามหาลัยผู้เหนื่อยล้า คามิโคชิ โซราโอะ ก็เปลี่ยนไป ในโลกเบื้องหลังนี้ที่มีอยู่เคียงคู่กับโลกของเราอันเต็มไปด้วยปริศนา มีตัวตนที่อันตรายอย่างคุเนะคุเนะและท่านฮัชชาคุที่ถูกพูดถึงกันในเรื่องผีจริงๆ นั้นปรากฏอยู่ เพื่อการวิจัย เพื่อผลประโยชน์ และเพื่อตามหาคนสำคัญ โทริโกะกับโซราโอะจึงก้าวเท้าเข้าสู่ดินแดนแสนพิลึกพิลั่นนั้น! (เรื่องนี้ แปลจาก LN ENG)

Recommended Series

Options

not work with dark mode
Reset