นี่มันเป็นตึกแรกที่โลกเบื้องหลังที่เราเข้ามาข้างใน นับตั้งแต่ตอนที่เราเจอกับท่านฮัชชาคุหรือเปล่านะ? มันก็ดูเหมือนกับที่เห็นจากข้างนอกนั่นแหละ แต่ข้างในมันก็ก็โล้นๆ เลยนะ นึกภาพไม่ออกเลยว่ามันเคยถูกใช้งานมาก่อนหรือเปล่า ทั้งสถานีคิซารากิ ทั้งเมืองร้างของคุณลุงในห้วงมิติ ทั้งร้านริมทะเลที่โอกินาว่า ทุกที่มันดูเหมือนถูกยกมาจากโลกเบื้องหน้าเลย แต่หอชมวิวนี่ดูเหมือนว่ารายละเอียดมันจะตกหล่นไปอยู่นะ
เกือบจะมองว่ามันเป็นของอย่าง ‘กึ่งอาคาร’ ได้เลยนะ
ถึงยังงั้น ตรงบันไดมันก็สร้างจากคอนกรีตทนทานเลย เราเหยียบลงไปมันก็ไม่ได้ลั่นเสียงแปลกๆ ออกมาเลยด้วย ถึงสีที่ทาบนเหล็กมันจะซีด แล้วก็เริ่มแตกร่อนออกมาแล้วก็เถอะ แค่ฉันใช้ถุงมือแตะมันเบาๆ สีมันก็บอกออกมาง่ายๆ เลย จนเหล็กขึ้นสนิมที่อยู่ใต้มันก็โผล่ออกมาให้เห็น
เผื่อกรณีที่อาจจะมีอะไรเกิดขึ้น ให้โทริโกะที่คุ้นเคยกับการใช้ปืนเป็นคนเดินนำน่าจะดีกว่า แต่ถ้าไม่มีตาขวาของฉัน ก็เป็นไปได้ว่าเธอจะไม่ทันสังเกตเห็น ‘อะไรบางอย่าง’ ด้วย พอเป็นแบบนั้น พวกเราก็เลยเดินกันแบบไหล่ชนไหล่ ขึ้นไปตามบันไดแคบๆ ด้วยกันเลย ฉันใช้สายคล้องพาดปืนไว้ที่หลัง แล้วก็ถือมาคารอฟไว้ให้พร้อม ก่อนจะชะเง้อขึ้นไปมองที่ชั้นบนช้าๆ
“อืม ไม่เห็นกลิตช์เลยนะ”
“โอเค งั้น ไปกันเถอะ”
พวกเราเหยียบขึ้นตามขั้นบันไดไปที่ห้องชมวิว
กำแพงรอบๆ เป็นหน้าต่างหมดเลย ในห้องก็เลยสว่างสุดๆ มีก้อนกรวดกับเศษกระจกกระจายอยู่ทั่วพื้นคอนกรีตเปล่าๆ แล้วก็มีม้านั่งโลหะเรียงอยู่ใกล้ๆ หน้าต่างเป็นแถวด้วย
ที่ฉันมองเห็น มันก็ประมาณนี้นะ แล้วโทริโกะที่อยู่ข้างๆ ฉันก็ตะโกนขึ้นมา
“นั่นใครน่ะ!?”
ฉันตกใจจนหันขวับตามไปมองเลย แล้วก็เจอกับร่างของคนคนนึงนอนเอนหลังพิงเสาตรงกลางห้องชมวิวอยู่ เห็นแบบนั้นฉันก็สะดุ้งโหยง ชี้ปืนขึ้นไปใส่คนคนนั้นทันที แต่ร่างนั้นก็ไม่มีทีท่าจะขยับตัวเลยนะ ทั่วทั้งตัวของเขาสวมชุดหลวมๆ โป่งๆ ยังกับถุง ที่หัวก็ถูกบังเอาไว้ด้วยหมวกที่ปิดทั้งหัวกับกระบังหน้าหมวก จนมองไม่เห็นหน้าเลย ไม่ว่าจะมองยังไง นั่นมันก็…
“…นักบินอวกาศ?”
โทริโกะถามขึ้นมาอย่างสงสัย
“ย- ยังอยู่หรือเปล่า?”
“น่าจะไม่แล้วนะ”
โทริโกะกระชับมือที่กำด้ามปืน AK เอาไว้ ชี้ปากกระบอกของไรเฟิลไปใกล้กับร่างๆ นั้น ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับอะไรทั้งนั้น เธอใช้ปากกระบอกปืนไปเกี่ยวที่ใต้กระบังหน้าของหมวก แล้วก็ยกมันขึ้น
ข้างในชุดนั้น มันไม่มีอะไรเลย
“ไม่มีอะไรเลยนี่”
ฉันเตรียมใจเผื่อเอาไว้แล้วว่าน่าจะได้เจอศพแบบเต็มๆ ตา พอเป็นแบบนี้ฉันก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ตอนที่โทริโกะลดปืนไรเฟิลลง หมวกมันก็ปิดกลับลงมาที่เดิม
“เธอว่ามันหลุดเข้ามาจากโลกเบื้องหน้าด้วยเหมือนกันมั้ย?”
“หมายถึง มาจากอวกาศน่ะเหรอ?”
“ไม่รู้สิ”
ฉันเงยหน้าขึ้นไปมอง แต่ที่เพดานก็ไม่ได้มีรูอะไรนะ มีแค่รางใส่หลอดไฟฟลูออเรสเซนซ์เท่านั้นเอง โทริโกะย่อเข่าลงไป ก่อนจะเริ่มสำรวจที่ชุดนักบินอวกาศชุดนั้น
“มีอะไรเขียนอยู่ด้วยนะ แต่ก็… แหงล่ะ เราอ่านมันที่ฝั่งนี้ไม่ออกอยู่แล้ว”
พอเธอทักขึ้นมานี่ ฉันก็เพิ่งสังเกตเห็นตัวอักษรที่ผิดเพี้ยนไปอยู่ตรงนั้นตรงนี้เต็มไปหมดเลย
“หืม ไม่รู้เลยแฮะว่าภาษาดั้งเดิมมันเป็นภาษาอะไรกันแน่”
“ฉันก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้หรอกนะ แต่ฉันมั่นใจเลยล่ะว่าชุดนักบินอวกาศของอเมริกาหรือของญี่ปุ่นไม่ได้หน้าตาแบบนี้แน่”
ฉันบอกไปแบบนั้น โทริโกะก็เอียงคอไปทางข้างๆ
“นี่มันใช่ชุดนักบินอวกาศแน่หรือเปล่า? อาจจะเป็นพวกชุดป้องกันอะไรแบบนั้นก็ได้นะ”
“ชุดป้องกัน? จากอะไรน่ะ?”
“ก็แบบ อย่างอาวุธเคมีไง”
“อ้อออ”
ระหว่างที่ฉันมองดูชุดนักบินอวกาศ (?) ที่นั่งกางขาอยู่นี่ ฉันก็เริ่มจะรู้สึกกังวลขึ้นมาหน่อยๆ แล้ว
“…เธอว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่กับคนที่ใส่ชุดนี้น่ะ?”
“อืม นี่ก็ไม่ได้มีกลิ่นแปลกๆ อะไรนะ แล้วก็ไม่ได้ตายคาชุดอยู่ด้วย”
“แสดงว่าคนคนนั้นเขาถอดชุดออก แล้วก็เดินหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้งั้นสิ?”
“อย่าง ตัวลอยขึ้นไปในอากาศ แล้วก็บินหายไปไหนต่อไหนแล้วน่ะเหรอ?”
“ว่าไงนะ…?”
พอรู้สึกได้ว่าคิดไปก็ไม่ช่วยอะไร พวกเราก็มั่นใจกันแล้วว่า อย่างน้อยที่สุด เจ้าชุดนี่มันก็คงจะไม่เข้ามาทำร้ายพวกเราหรอก พวกเราก็เลยตัดสินใจที่จะช่างมัน แล้วก็เดินไปที่อื่นต่อ
ที่มุมนึงของห้องชมวิว ก็ชั้นหมุนล้มอยู่อันนึง กับสีที่กระจายไปทั่วบนพื้นรอบๆ ที่มันซีดไปแล้ว แล้วก็มีพวกโปสต์การ์ดภาพวาดสีน้ำรูปวิว รูปถ่ายมุมถนนสไตล์ยุโรป ภาพแมว ภาพหมา แล้วก็อื่นๆ อีกมากมาย แล้วก็ยังมีรูปถ่ายคณะคนที่มาเที่ยวตามโอกาสด้วย อย่างรูปของครอบครัวที่ไม่คุ้นหน้าเลย ไม่ก็เป็นรูปถ่ายครึ่งตัวแบบที่เราจะถ่ายทำบัตรประชาชนน่ะ ฉันไม่เห็นแสงสีเงินรอบๆ มันหรอกนะ แต่ฉันก็สุ่มๆ หยิบมันขึ้นมา เก็บใส่ในถุงซิปล็อกอยู่ดี หวังว่าพวกมันจะช่วยเติมเงินใส่กระเป๋าฉันหน่อยนะ
ตรงนี้มีกล้องส่องทางไกลอันใหญ่ แบบที่เราคิดว่าจะได้เห็นติดตั้งอยู่ในหอชมวิวอยู่ด้วยนะ มันเป็นแบบที่ต้องหยอดเหรียญก่อนถึงจะใช้งานได้นะ แต่ฉันทำใจลองใช้มันดูไม่ไหวจริงๆ ถ้าเกิดลงเอยดันเผลอไปมองคุเนะคุเนะเข้าล่ะก็ มีหวังได้เยินไปตลอดทั้งวันแน่ นั่นเบาที่สุดแล้วนะ…
พอมองดูไปรอบห้องกันทีนึงแล้ว พวกเราก็เดินมาดูวิวทางหน้าต่างกัน
“วิวดีเนอะ ว่ามั้ย?”
“ไม่อะ ก็ไม่มีอะไรพิเศษเลยนี่”
โทริโกะก็แค่พูดสิ่งที่เธอคิดออกมา แต่ฉันก็ดันย้อนเธอกลับไปซะงั้น
ข้อเท็จจริงก็คือ หอชมวิวอันนี้มันควรจะถูกสร้างเอาไว้บนพื้นที่เปิดโล่งนะ เพราะงั้น ภาพวิวส่วนใหญ่ที่มองเห็นได้มันก็เลยเป็นแค่กิ่งไม้ที่แน่นไปหมดของป่าที่อยู่รอบๆ เท่านั้นเอง
มองไปทางทิศใต้ ใกล้ๆ กับหนองน้ำ ก็คือเนินเขาที่พวกเราออกมาจากตรงนั้นกัน ทางตะวันออกก็คือจุดหมายของพวกเราในการเดินทางครั้งนี้ โครงตึกที่มีเกทเปิดออกไปที่จิมโบโจ ไกลออกไปทางเหนืออีกนิดหน่อยก็มีแนวเทือกเขา กับสันเขาที่มีต้นไม้โตกันแน่นไปหมดอยู่ ทางตะวันตกไกลลิบๆ นู่น ฉันเหมือนจะเห็นอะไรคล้ายๆ กับสะพานด้วย
หอชมวิวอันนี้มันหมุนอยู่ตลอดเลยนะ แต่… แหล่งพลังงานของมันคืออะไรล่ะเนี่ย? ที่สถานีคิซารากิเอง ทั้งๆ ที่ไม่มีกระแสไฟฟ้า ก็ยังมีหลอดไฟที่ติดได้โดยไม่มีเหตุผลเลยนี่นา ที่นี่ไม่ได้มีแสงเรืองๆ สีเงินด้วย คงจะไม่ใช่ทั้งกลิตช์ ทั้ง UBL อาร์ติแฟกต์เลยล่ะนะ
“ก็ ดูจะปลอดภัยแล้วนะ ถ้างั้น มากินข้าวกล่องกันเลยดีมั้ย?”
โทริโกะถามฉันด้วยน้ำเสียงร่าเริง ทำเอาฉันหันขวับไปมองเธอแบบไม่อยากจะเชื่อเลย
“จะกินที่นี่จริงๆ เหรอเนี่ย?”
“ไม่ได้เหรอ?”
“ก็ไม่ได้บอกว่าไม่ได้หรอก แต่… ไม่รู้สึกไม่สบายใจเลยเหรอ? ฉันรู้สึกเหมือนโดนมอง-”
“มอง? ใครอะ?”
“เออ คือ บ-”
พอฉันหันไปรอบๆ สายตากับไปหยุดอยู่ที่ชุดอวกาศเปล่าๆ (เราเรียกกันแบบนั้นอะนะ) ที่นั่งอยู่กลางห้องชมวิว แถมฉันก็เห็นพวกเรา 2 คนสะท้อนอยู่บนกระบังหน้าหมวกด้วย
“อ้อออ ยังงี้เอง… โอเค งั้น ก็ทำแบบนี้ละกัน”
โทริโกะหันกลับไป แล้วก็เดินเข้าไปหาชุดนักบินอวกาศอันนั้น เธอก้มตัวลง คว้ามันที่รักแร้ แล้วก็เริ่มลากมันมาตรงที่พวกเราอยู่กัน
“เอ๊ะ เออ? ท- ทำอะไรของเธอล่ะนั่นน่ะ?”
“เธอไม่สบายใจเพราะรู้สึกเหมือนโดนมองอยู่ใช่มั้ยล่ะ? ถ้าเราเอามันมานั่งตรงนี้ซะ…”
ระหว่างที่ฉันยังอยู่มองอย่างงงๆ อยู่ โทริโกะก็เอาชุดนักบินอวกาศมานั่งที่ม้านั่งตัวนึงข้างหน้าต่าง แล้วเธอก็หย่อนตัวนั่งข้างๆ มัน โอบแขนไปรอบไหล่ของชุดนั่น ก่อนจะยกนิ้วโป้งมาให้ฉัน
“ดูสิ เห็นมั้ย? เท่านี้ก็เหมือนกับว่าเขามองออกไปนอกห้องชมวิวแล้ว”
ฉันมองไปที่โทริโกะด้วยท่าทีที่พอใจจนออกนอกหน้าเลย
“โทริโกะ มีหลายครั้งเลยนะที่ฉันคิดว่าเธอนี่บ้าเต็มขั้นจริงๆ ด้วยน่ะ”
TN: อืม ที่รู้สึกว่าถูกมองเนี่ย จะใช่ชุดนั่นหรือเปล่านะ? หรือเป็นอะไรอย่างอื่นกันแน่?