[นิยายแปล] ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง 147 ไฟล์ 15 : ค้างคืนที่โลกเบื้องหลัง [7.2]

ตอนที่ 147 ไฟล์ 15 : ค้างคืนที่โลกเบื้องหลัง [7.2]

ไม่นะ โทริโกะ โทริโกะ ช่วยด—

 

พริบตาต่อมา ก็มีเสียงขยี้ดังลั่น แล้วโลกทั้งใบก็มืดไปหมดเลย

 

“โซราโอะ!”

 

มีใครบางคนคว้าตัวฉันมาจากข้างหลัง ก่อนจะถูกกระชากแรงมากจนฉันล้มคว่ำไปเลย

ฉันมองขึ้นไปที่เพดานทั้งๆ ที่ยังสับสนอยู่ แล้วก็เห็นว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่โถงทางเดินมืดๆ ของโรงแรม แสงไฟของตะเกียง LED ฉายลอดออกไปทางประตูที่เปิดอยู่ โทริโกะในสภาพกระเซอะกระเซิงกำลังเตรียมพร้อมจะใช้ขวานในมือที่เธอถืออยู่นั่นฟาดใส่คนตัวแดงอีกทีนึงแล้ว

 

“โทริโกะ! เดี๋ยวก่อน!”

 

ฉันโพล่งตะโกนออกไปพร้อมกับพุ่งตัวไปเกาะขาเธอไว้

 

“อะไรเนี่ย!? โซราโอะ! ปล่อยนะ!”

 

แล้วฉันก็ตะโกนออกไปอย่างสิ้นหวังเลย

 

“มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดนะ! นั่นคือคนตัวแดงนะ!”
“ไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดเหรอ!?”
“นั่นคือคนตัวแดงน่ะ! เขาคือคนตัวแดง เพราะงั้นก็เลยไม่ใช่อย่างที่เธอคิดไง!”

 

โทริโกะจ้องเขม็งมาที่ฉันด้วยสายตาแทบจะกินเลือดกินเนื้อ เธอยื่นมือซ้ายออกมาจับส่วนบนหัวของฉัน ก่อนจะหมุนบังคับให้ฉันหันไปเผชิญหน้ากับคนตัวแดง

 

“มองให้ดีสิ! ไม่มีทางที่ไอ้นั่นมันจะไม่อันตรายอยู่แล้ว!”
“ต- แต่ เขาคือคนตัวแดงนะ”

 

ฉันยังบ่นออกมาแบบนั้น จนในที่สุด โทริโกะก็เดือดมากจนหมดความอดทนแล้ว

 

“อย่าตัดสินที่รูปร่างภายนอกของมันสิ! โซราโอะ! เธอจะเชื่อใจใคร!? เจ้านั่น! หรือว่าฉัน!?”

 

แค่ด้วยคำพูดพวกนั้น มันก็เป็นเหมือนกับสะเก็ดแผลที่ขึ้นมาทับการรับรู้ของฉันมันถูกกระชากออกไปเลย คนตัวแดงกำลังอ้าปากค้างเหมือนกับว่ากำลังตะโกนอะไรซักอย่างใส่ฉัน ตัวหมุนไปมาหลังจากที่โดนขวานสับลงไปใส่ครั้งแรก ข้างในปากนั่นมันดำสนิท เหมือนกับเขม่าในเตาผิงเลย

 

“จ-… เจ้านี่มันบ้าอะไรเนี่ย!?”
“ตื่นแล้วสินะตอนนี้น่ะ!?”
“อือ… อื้อ! ตื่นแล้ว!”

 

ฉันร้องจนแทบกรี๊ดออกมาเลย

นี่ฉันปล่อยให้ไอ้ตัวประหลาดนี่กอดฉันอย่างไร้ข้อสงสัยเพราะความทรงจำดีๆ เนี่ยนะ!?

ความคิดก่อนหน้านี้วิ่งถลากลับเข้ามาในหัวเลย

เจ้านี่พยายามจะให้ฉันราดน้ำมันก๊าดใส่ตัวเอง แล้วก็ฆ่าตัวตายด้วยการจุดไฟเผาตัวเองทั้งเป็นนี่!

ตอนนี้ พอฉันรู้ตัวได้ซักที ฉันก็ช็อกกับข้อเท็จจริงอย่างนึงที่ว่า ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยรู้สึกตะหงิดกับเรื่องนี้มาก่อนเลย

 

“ตั้งสติหน่อยสิโซราโอะ! เธอต้องมองเจ้านี่นะ! ใช้ตาขวาน่ะ!”

 

พอโทริโกะบอกแบบนั้นกับฉัน ฉันก็ดึงสติกลับมาได้ ฉันเพ่งสมาธิไปที่ตาขวาของตัวเอง จ้องไปที่คนตัวแดง

ถ้าเจ้านั่นแค่พยายามจะฆ่าฉันล่ะก็ นั่นมันก็เรื่องนึงนะ

แต่ไม่สิ―แค่นี้มันไม่พอหรอก มันพยายามจะเอาโทริโกะไปจากฉันด้วย

 

“โอเค ฉันมองเจ้านั่นเอาไว้แล้ว”

 

ฉันบอกเธอไปด้วยเสียงกดต่ำ เพราะถ้าเกิดฉันพูดออกมาด้วยเสียงที่ดังกว่านี้ล่ะก็ ฉันคุมอารมณ์ของตัวเองไม่อยู่แน่ แล้วสุดท้ายฉันก็ตะโกนออกไปเสียงดังลั่นอยู่ดี

 

“เชือดมันทิ้งไปเลย โทริโกะ”
“จัดให้เลย!”

 

โทริโกะกำขวานเอาไว้ด้วยมือทั้ง 2 ข้างอีกรอบนึง

ใบขวานเหล็กหนาตัดแหวกอากาศเป็นเสียง *วุบ* ต่ำๆ ก่อนจะฝังลึกลงเข้าไปในตัวของคนตัวแดง

ไม่มีเสียงกรีดร้องออกมาเลยซักนิด โทริโกะฟาดขวานลงใส่ศัตรูตัวนั้นภายใต้สายตาของฉัน ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า อย่างไร้ความปรานี

หญิงงามเพราะขวานงั้นเหรอ

ก็จริงนะ

 

แทนที่จะเป็นเลือด กลับเป็นขี้เถ้าที่ปลิวว่อนออกมาจากตัวของคนตัวแดงในตอนที่ถูกสับเป็นชิ้นๆ แขนขาที่ขาดสะบั้นออกมาตกลงบนพรมปูพื้นที่โถงทางเดินเหมือนเปลือกไม้ที่ไหม้เกรียม ตรงขอบแผลที่ถูกฟันนั่นเป็นถ่านไฟแดงโลมเลียอยู่ แต่มันก็ถูกรองเท้าปีนเขาของโทริโกะเหยียบขยี้จนพวกมันหายไปในเวลาไม่นานเลย

โทริโกะลดขวานลงมา หายใจเข้าออกแรงๆ ก่อนจะหันกลับมาหาฉัน

 

“โอเคหรือเปล่า? ยืนไหวมั้ย?”

 

ฉันกำมือแน่น พยุงร่างของตัวเองขึ้นมา แล้วอาการคลื่นไส้ที่มากจนน่าเหลือเชื่อก็ไหลทะลักเข้ามาใส่ฉันทันที ฉันโน้มตัวกุมท้อง พูดอะไรไม่ได้ ก่อนจะอ้วกลงไปใส่เศษซากที่เหลือของคนตัวแดง

ถึงจะเป็นตอนที่ฉันไม่เหลืออะไรอยู่ในท้องแล้วก็ตาม อาการขย้อนจากในกระเพาะมันก็ยังไม่หยุดเลย ผ่านไปพักใหญ่ๆ เลยกว่าฉันจะรู้สึกตัวได้ว่าโทริโกะกำลังลูบหลังให้ฉันอยู่

 

นี่คนตัวแดงนั่นหลอกฉันมานานแค่ไหนแล้วเนี่ย? คิดถึงเรื่องนี้ก็ทำเอาฉันโมโหแทบบ้าเลย

นี่แปลว่าตั้งแต่ก่อนฉันจะขึ้นชั้นมอปลาย ตอนที่ฉันเจอมันที่ตึกร้างนั่น มันก็ทำให้ประสาทการรับรู้ของฉันเพี้ยนไป ขนาดตอนที่มันมาโผล่ที่หน้าประตูอพาร์ตเมนต์ของฉันเอง ฉันยังไม่ใส่ใจเลย ยังกับว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่มันจะอยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว

ทีนี้ พอโทริโกะช่วยฉันแล้ว ฉันก็พุ่งตัวเซไปมากลับเข้ามาในห้อง เธอส่งน้ำมาให้ฉันแก้วนึง ฉันก็ตรงไปกลั้วปากที่อ่างล้างหน้า ภาพหน้าของฉันที่สะท้อนอยู่ในกระจกนี่ยับเยินสุดๆ ไปเลย

 

“ขอโทษนะโทริโกะ ขอโทษจริงๆ ฉันไม่เคยรู้เลยว่าฉั—”

 

ฉันเริ่มจะพูดบอกเธอด้วยเสียงแหบพร่าเพราะเพิ่งอ้วกมา แต่โทริโกะก็เอานิ้วยื่นมาแตะที่ริมฝีปากของฉันก่อน

 

“ชู่ว เอาเป็นว่าตอนนี้พักผ่อนก่อนเถอะ เราค่อยคุยกันตอนเช้าก็ได้ โอเคมั้ย?”
“อือ…”

 

บางที อาจจะเพราะฉันเพิ่งผ่านประสบการณ์ความทรงจำเมื่อตอนยังเรียนอยู่ในโรงเรียนอยู่ก็ได้ ฉันก็พยักหน้าให้หงึกๆ เหมือนเป็นเด็กเลย ไม่สิ ไม่ใช่ยังงั้น นั่นมันความทรงจำปลอมนะ มันไม่เคยเกิดขึ้นจริงซักหน่อย…

ฉันถอดเสื้อโค้ทกับรองเท้าตัวเองออกตามที่โทริโกะแนะนำ แล้วก็กลับขึ้นไปนอนบนเตียง โทริโกะนั่งอยู่ข้างๆ ตัวฉัน ลูบหัวฉันไปด้วยเบาๆ ไปด้วย ทุกทีต้องกลับกันนี่นะ ฉันคิดแบบนั่นในขณะที่รู้สึกถึงมือที่อ่อนโยนของเธอลูบผมของฉันไปเบาๆ ฉันก็รู้สึกใจเย็นลงเรื่อยๆ

 

แต่ฉันนอนหลับไม่ไหว พอหลับตาทีไร ภาพนั้นมันก็กลับเข้ามาในหัวตลอดเลย เป็นภาพที่ชัดเจน ภาพของคุณแม่ เกือบจะหันหน้ามาแล้ว…

ความกลัวที่ฉันรู้สึกในตอนนั้นมันยากที่จะพูดออกมาเป็นคำได้ แค่จำเรื่องนั้นได้ก็ทำฉันตัวสั่นแล้ว ไม่ใช่เพราะคุณแม่น่ากลัวหรอก ฉันรักท่านมาก ตอนที่ท่านเสีย ฉันก็ใจสลายเลย ความทรงจำที่ว่าท่านเป็นห่วงฉันมากแค่ไหน เป็นสิ่งที่คอยช่วยให้ฉันก้าวผ่านช่วงเวลายากลำบากที่เกิดขึ้นต่อมาไปได้บ่อยๆ เลย

แต่ต่อจากนั้นแหละที่ฉันกลัวจริงๆ ฉันรู้เลยว่าถ้าเราสบตากัน ทุกสิ่งทุกอย่างต้องพังครืนแน่ แล้วก็จะไม่มีทางถอยกลับได้อีก ในบรรดาความน่ากลัวทุกอย่างที่ฉันได้เจอมาตั้งแต่ได้รู้ถึงโลกเบื้องหลัง ฉันไม่เคยรู้สึกกลัวมากเท่าตอนนั้นมาก่อนเลย แค่จินตนาการถึงความคิดที่จะได้เห็นตาของคุณแม่ก็ทำเอาฉันอยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ แล้ว

 

ถ้าเกิดมันไม่ใช่ความทรงจำปลอมๆ แต่เป็นเรื่องอะไรที่มันเกิดขึ้นจริงๆ ล่ะ? บางที ต่อให้โลกนั้นมันจะบิดไปนิดหน่อยเพราะที่นี่คือโลกเบื้องหลังก็ตามที แล้วนั่นคือคุณแม่จริงๆ ล่ะ?

ถ้าเกิดพวกเราสบตากัน ได้คุยกัน แล้วฉันเดินเข้าไปในบ้านหลังนั้นล่ะ?

ถ้าเกิดนั่นไม่ใช่แค่ภาพหลอนที่คนตัวแดงทำให้ฉันเห็น แต่มันเป็นโลกเบื้องหลังในมุมมองที่เปลี่ยนออกไปที่คุณแม่ของฉันที่ฉันคิดว่าท่านเสียไปแล้ว จริงๆ แล้วท่านจะยังมีชีวิตอยู่?

ถ้าเกิดมันเป็นโลกที่พ่อกับย่าไม่เคยหลงงมงายไปกับลัทธิเพราะการที่แม่จากไปล่ะ? ถ้าเกิดฉันได้รับความเป็นไปได้ที่จะได้อยู่ร่วมกันทั้ง 4 คนเป็นครอบครัวหรือเปล่า?

ฉันจะยังเป็นคนเดิมอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้มั้ย?

ไม่มีที่ให้กับ ‘ฉัน’ คนนี้ในครอบครัวคามิโคชิที่ต่างไปนั่นหรอก

หมายถึง แหงล่ะ ฉันคนนั้นคงจะมีความสุขกว่า ฉันอีกคนไม่เคยต้องเจอกับการถูกหักหลังจากครอบครัวของตัวเอง ความบ้าคลั่ง หรือเจตนาร้ายที่ถาโถมเข้ามาใส่ ถ้าเธอได้ใช้ชีวิตอย่างสงบ เต็มไปด้วยความสุขดี—ยังไงเธอก็ต้องต่างจากฉันไปแบบเป็นคนละคนแน่นอน

ส่วนใหญ่ของฉันที่เป็นอยู่ตอนนี้ ก็มาจากการเอาเศษซากที่เหลืออยู่หลังจากคุณแม่จากไปมาติดแปะเข้าด้วยกันอย่างสุดชีวิตเท่านั้นเอง เพราะงั้น ฉันเชื่อเลยว่าถ้าฉันเหลือบเห็นเข้ากับความเป็นไปได้ที่อาจจะเปลี่ยนแปลงพื้นเพนั่นได้แบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือล่ะก็ มันคงสะเทือนใจฉันไปได้ถึงแก่นเลย

ฉันลองพยายามอธิบายความกลัวของตัวเองออกมาได้นะ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้ฉันรู้สึกกลัวน้อยลงเลยซักนิด ถ้าจะได้อะไรขึ้นมาล่ะก็ มันทำให้ในหัวฉันมันวิ่งวุ่นไปหมด แถมทำสภาพจิตใจฉันมันพังทลายไปยิ่งกว่าเดิมอีกเนี่ยสิ

 

“อ๊าาากกกกก!”

 

ฉันครวญครางออกมา ก่อนจะยกมือขึ้นมาจิกหัวของตัวเอง ตอนที่เล็บจิกเข้าไปที่ผิวของตัวเอง กับตอนที่ฉันดึงผมของตัวเอง ฉันถึงรู้สึกได้ว่าความเจ็บปวดมันช่วยทำให้ฉันเสียแรงที่จะคิดไปได้

 

“อย่าทำแบบนั้นสิ โซราโอะ เดี๋ยวก็หัวล้านหรอก”

 

โทริโกะคว้ามือทั้ง 2 ข้างเพื่อพยายามจะหยุดฉันเอาไว้ แต่ฉันก็ปัดมือเธอออก ก่อนจะผุดตัวลุกขึ้นมานั่ง

 

“โซราโอะ…”

 

ฉันหันไปหาโทริโกะที่มองมาที่ฉันด้วยสีหน้าที่ดูเป็นห่วง

 

“โทริโกะ ตบฉันทีสิ”
“เอ๊ะ!? ทำไมล่ะ!?”
“ถ้าฉันยังคิดนู่นนี่อยู่แบบนี้ ฉันต้องเป็นบ้าแน่ๆ ขอร้องล่ะ”
“เธอ… อยากให้ฉันตีเธอเหรอ?”

 

โทริโกะถามมาด้วยเสียงสั่นๆ จนฉันต้องส่ายหัวอย่างหงุดหงิดเลย

 

“จะอะไรก็ได้! ที่ช่วยดึงสติของฉันกลับมาก็พอ! เร็วเข้าเถอะ!”

 

ฉันตะโกนลั่นก่อนจะหลับตาปี๋ รอรับความเจ็บที่จะวิ่งเข้ามา

เอาจริงๆ จะอะไรก็ได้ทั้งนั้นนั่นแหละ ถ้าเธอจะไม่หยุดอยู่แค่ตบ แค่ชกมาตรงๆ เลยก็ได้ ฉันก็ยินดีรับนะ ฉันอยากได้ความรู้สึกที่มันแรงพอจะทำให้ฉันไล่ไอ้ความวุ่นวายที่มันเต็มหัวฉันไปหมดแล้วตอนนี้ให้มันพ้นๆ ไปซักที

ฉันรู้จักเธอน่า เธอไม่ชอบใจที่ถูกฉันชอบพูดว่าความรุนแรงในครอบครัว แต่เธอก็ชอบตบฉันซะเหลือเกินนี่ ตอนที่เธอไล่ยามาโนเกะออกจากฉันนี่ก็ใส่ใหญ่เลย แล้วเมื่อไหร่ก็ตามที่เธอเริ่มบีบหน้าฉัน เธอก็จะทำตัวแปลกๆ ไปอยู่ตลอดเลย แต่ จะยังไงก็เถอะ ฉันยกโทษให้ได้อยู่แล้ว เธอคือโทริโกะนี่ เพราะงั้นรีบๆ ซักที แล้วก็―

ฉันรู้สึกได้ว่าโทริโกะขยับตัวแล้ว ฉันเผลอย่อตัวหนีมาโดยอัตโนมัติ แล้วก็มีมือมาจับที่แก้มซ้ายของฉัน

ตามมาด้วยมืออีกข้างที่แก้มขวา อย่างช้าๆ และเบามือ

หยุดเลย ฉันไม่ได้อยากได้แบบนี้ซักหน่อย กระชากแรงๆ แล้วก็ซัดฉันมาเลย ไม่เข้าใจหรือไงเนี่ยโทริโกะ? ตอนนี้ ฉันแทบจะเป็นบ้าอยู่ล—

 

มีอะไรซักอย่างนิ่มๆ มาแตะที่ริมฝีปากของฉัน แล้วในหัวฉันมันก็โล่งไปเลย

จ-…!?

 

ฉันลืมตาขึ้นมาแบบไม่ทันตั้งใจ ขนตาสีทองก็อยู่ตรงหน้าฉัน แทบจะชนอยู่แล้ว ฉันก็เลยกระแทกหนังตาตัวเองกลับมาปิดสนิทอีกรอบนึง แต่พริบตานั้นแล้ว ฉันก็เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดได้ซักที

 

โทริโกะจับหน้าฉันเอาไว้ในมือ 2 ข้าง แล้วก็จูบฉันอยู่

 

TN: สมกับที่โตมาในสังคมตะวันตกจริงๆ

ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r

[นิยายแปล] ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง

[นิยายแปล] ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง

Score 10
Status: Completed
การพบกันครั้งแรกกับ นิชินะ โทริโกะ ของเธอคือที่โลกเบื้องหลัง หลังจากได้เห็น “สิ่งนั้น” และเกือบตายไปแล้ว ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของนักศึกษามหาลัยผู้เหนื่อยล้า คามิโคชิ โซราโอะ ก็เปลี่ยนไป ในโลกเบื้องหลังนี้ที่มีอยู่เคียงคู่กับโลกของเราอันเต็มไปด้วยปริศนา มีตัวตนที่อันตรายอย่างคุเนะคุเนะและท่านฮัชชาคุที่ถูกพูดถึงกันในเรื่องผีจริงๆ นั้นปรากฏอยู่ เพื่อการวิจัย เพื่อผลประโยชน์ และเพื่อตามหาคนสำคัญ โทริโกะกับโซราโอะจึงก้าวเท้าเข้าสู่ดินแดนแสนพิลึกพิลั่นนั้น! (เรื่องนี้ แปลจาก LN ENG)

Recommended Series

Options

not work with dark mode
Reset