เวลาผ่านไปแค่ไหนแล้วนะ? จู่ๆ ฉันก็รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงอะไรซักอย่าง ก็เลยลืมตาขึ้นมา
ห้องยังเงียบสนิท แล้วก็หนาวสุดๆ ใต้แสงไฟสีขาวของตะเกียง LED นี่ ดูเหมือนตั้งแต่ที่เราหลับไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยนะ
ได้ยินอีกแล้ว เป็นเสียงไฟฟ้าเบาๆ―เหมือนเสียงกระดิ่งเลย
“โทริโกะ”
ฉันเขย่ากองผ้าห่มไปไว้ข้างตัว ตอนที่ฉันทำแบบนั้น กองผ้าห่มก็ถล่มไปแบบที่ไม่มีการต่อต้าน จนมันกระจายไปทั่วเตียงเลย
อ้อ ยังงี้เอง โทริโกะต้องออกไปทำอะไรซักอย่าง ก็เลยลุกออกไปจากเตียงตอนที่ฉันยังหลับอยู่แน่เลย
ฉันลุกออกมา ใส่รองเท้า จากนั้นก็สอดแขนที่หนาวจนสั่นไปทั้งตัวเข้าไปในแขนเสื้อโค้ท
ฉันเดินออกมาจากเตียงไปตามหาตัวโทริโกะ ห้องน้ำมืดอยู่ พื้นก็แห้งด้วย ฉันเคาะประตูก่อนจะเปิดเข้าไปดูข้างใน แต่โทริโกะก็ไม่ได้อยู่ตรงนั้น
ออกไปไหนของเธอนะ? ฉันสงสัยปนเป็นห่วงหน่อยๆ ตอนนั้นแหละที่ฉันได้ยินเสียงกระดิ่งเบาๆ อีกแล้ว
ตอนนั้นแหละที่ฉันคิดได้พอดีเลย โทริโกะติงต๊องต้องเผลอออกจากห้องไปแบบไม่ทันคิดแหงๆ ระบบออโต้ล็อกก็เลยขังยัยนั่นไว้ข้างนอก ตอนนี้ก็เลยต้องกดกริ่งพยายามเข้ามาข้างในสินะ
ช่วยไม่ได้จริงๆ เลยนะ ยัยนั่นเนี่ยให้ตายเถอะ… ฉันหัวเราะกับตัวเอง แล้วก็ปลดโซ่คล้องประตูออก ก่อนจะเปิดประตู
ลมเย็นๆ พัดเข้ามาจากข้างนอกห้อง
ที่ตรงนั้น มีคนตัวแดงยืนอยู่
เขาตัวสูงกว่าฉันเยอะ กำลังก้มลงมามองที่ฉัน
รู้สึกว่า ความโหยหามันเอ่ออยู่ในตัวฉันเลย
จำตอนนั้นได้เลย
ตอนที่ฉันอยู่ตัวคนเดียว คุณถามฉันว่า
“เธอไม่ต้องการคนพวกนั้นแล้วเหรอ?”
หลังจากนั้น ตอนที่ฉันกลับบ้าน พวกนั้นก็หายไปหมดแล้ว
ฉันไม่รู้หรอกว่าคุณทำอะไรไปหรือเปล่า หรือมันแค่บังเอิญเฉยๆ แต่คืนนั้น ในตึกร้าง คุณช่วยฉันเอาไว้
ดีใจจังที่ได้เจอคุณอีก เป็นยังไงบ้าง?
ฉันยิ้มออกมา คนตัวแดงก็โน้มตัวลงมาหาช้าๆ แล้วก็เข้ามากอดฉัน
มันรู้สึกทั้งนุ่มทั้งอบอุ่นมาก เหมือนกับเมื่อตอนนั้นเลย
เอ๊ะ?
ทำไมไม่จุดไฟเหรอ?
ก็ พวกนั้นไม่ได้กลับมาที่บ้านอีกแล้วนี่
โมโหเหรอ?
ฉันเตรียมน้ำมันก๊าดกับทุกอย่างไว้พร้อมแล้วนะ อย่างที่คุณว่าเลย
ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้ราดมันใส่ตัวเอง แต่ฉันไม่อยากตัวเปียกนี่นา อีกอย่างถ้าพวกนั้นไม่กลับมาแล้ว ก็ไม่รู้สึกว่ามันจะมีประโยชน์อะไรต้องทำแบบนั้นแล้ว
อย่าโกรธเลยนะ
ฮะ?
“ฉันไม่ต้องการเด็กผู้หญิงนั่นแล้วหรือเปล่า?”
เด็กผู้หญิงไหน?
…
ฉันต้องการเธอ
ต้องการมากๆ ฉันต้องการเด็กคนนั้น
ฉันต้องการเธอ เพราะงั้น คุณจะเอาเธอไปไม่ได้นะ
ไม่ได้ เข้าใจนะ?
เธอน่ะเป็นคนพิเศษ
เอ๊ะ?
แทนที่?
ฉันไม่ต้องการอะไรมาแทนเธอทั้งนั้นแหละ
เธอคือคนเดียวที่ฉันต้องการ
ไม่เป็นไร คุณไม่ต้องคอยดูหรอก
คุณไม่—
อยู่ๆ ภาพที่ฉันเห็นก็เขย่าๆ
แล้วฉันก็ไม่ได้ยืนอยู่ที่โถงทางเดินมืดๆ อีกแล้ว แต่กลับเป็นในทุ่งโล่งตอนเที่ยงวันแทน
ฉันรู้จักที่นี่นี่นา สนามกีฬาในโรงเรียนประถมที่ฉันเรียนนี่
ทำไมฉันมาอยู่ที่นี่อีกแล้วเนี่ย? โรงเรียนยังไม่เลิกเลย ถ้าฉันไม่กลับไปข้างใน พวกเขาต้องโกรธฉันแหงๆ
ฉันมองไปรอบๆ อย่างงงๆ จนไปเห็นประตูเหล็กสนินเกรอะบานนึงอยู่ที่มุมสวน
มันตั้งเอาไว้กลางพื้นคอนกรีต พอฉันดึงด้ามจับดู แม้แต่กำลังกล้ามเนื้อเด็กประถมของฉันยังเปิดออกได้เลย
ข้างในนั้นมีบันไดลงไป ถึงจะเป็นเมื่อตอนอยู่ชั้นประถม ฉันก็ชอบการออกสำรวจไปในที่ที่ไม่คุ้นเคยอยู่แล้ว ฉันก็เลยเริ่มปีนลงไปอย่างตื่นเต้น
พอมาถึงข้างล่าง ตรงนั้นก็เป็นโถงทางเดินที่มีพื้นเป็นตาข่ายเหล็ก ฉันได้ยินเสียงน้ำไหลอยู่ใต้เท้าเลย เห็นแบบนั้นฉันก็เดินหน้าต่อทันที
แต่ไม่นาน โถงทางเดินมันก็ตัน ฉันเดินมาได้น่าจะแค่ 20 เมตรเองมั้ง ก็มีประตูรั้วเหล็กกั้นไว้ไม่ให้ฉันไปต่อ กับบันไดปีนขึ้นติดอยู่ตรงกำแพง
แค่นี้เองเหรอ…? ฉันคิดยังงั้น ผิดหวังอยู่ในใจ พลางปีนบันไดขึ้นไป เปิดประตูเล็กๆ ออกมาข้างนอก เพราะอะไรไม่รู้มันถึงได้ออกมาโผล่มาที่เดียวกับที่ฉันปีนลงไปเลย แถมมันเพิ่งจะเที่ยงเองนะ แต่ตอนนี้ท้องฟ้ามันกลายเป็นสีแบบท้องฟ้าตอนเย็นไปแล้ว
เห็นแบบนั้นฉันกลัวขึ้นมา ก่อนจะรีบวิ่งกลับบ้าน ภาพบรรยากาศที่คุ้นเคยระหว่างทางก็ดูผิดแปลกยังไงไม่รู้ ตรงนั้นตรงนี้ มีตึกที่ดูไม่คุ้นตามาตั้งแทนหลังที่ฉันจำได้ ป้ายจราจรกับป้ายทุกอันตลอดทางก็ดูมีอะไรแปลกๆ ไปด้วย
ตอนที่ฉันมาถึงบ้าน พลางยืนหอบอยู่ ที่นี่เองก็มีอะไรแปลกๆ เหมือนกัน
ตรงที่ต้นไม้ในสวนของเรายืนต้นอยู่นั่น ตอนนี้ก็มีกระบองเพชรงอกขึ้นมา แถมมีดอกไม้สีแดงดอกใหญ่บานอยู่ด้วย ในลานจอดรถของบ้านเราก็มีรถสปอร์ตคันเล็กจอดอยู่ ลำโพงอินเตอร์คอมก็ถูกแทนที่ด้วยคันโยกเล็กๆ ชี้ลงมา เป็นด้ามจับไม้เรียบๆ ที่มีเครื่องหมายอะไรซักอย่างสีดำๆ อยู่ที่ด้ามจับด้วย รูปปั้นที่ดูเหมือนวัวหน้าคน 2 ตัวที่ตั้งอยู่ข้างๆ ประตูหน้าบ้านก้มลงมามองที่ฉันด้วย
ที่นี้ควรจะเป็นบ้านของฉันนะ แต่… ฉันกลับรู้สึกงงกับภาพสุดโกลาหลตรงหน้าที่เหมือนกับว่ามันอยากจะให้ฉันหาของที่ดูมีอะไรผิดแปลกไปให้หมดทุกชิ้นยังไงยังงั้น ฉันเดินอ้อมไปข้างหลังบ้าน พอแอบมองเข้าไปทางหน้าต่างห้องครัวก็เห็นพ่อกับย่าคุยกันอย่างยิ้มแย้มอยู่ตรงโต๊ะเตี้ยๆ ในห้องที่วางหิ้งพระพุทธรูปของครอบครัวเราเอาไว้อยู่
ฉันคิดว่านี่มันแปลกมาก เพราะตามปกติ ในเวลาแบบนี้ พ่อจะยังไม่กลับบ้าน ย่าก็สวมชุดกิโมโนสีฟ้าน้ำทะเลแบบที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลยด้วย
มีของที่ดูเหมือนตุ๊กตาวางอยู่บนโต๊ะระหว่างทั้ง 2 คน มันดูเหมือนริกกะจัง ตุ๊กตาบาร์บี้ของฉันเลย แต่ดูสวยกว่ากันเยอะเลย พวกเขากำลังคุยกันว่าจะเอายังไงกับมันดี ฉันหวั่นๆ ว่าว่าทั้งคู่จะเอาตุ๊กตาตัวนั้นไปจากฉันหรือเปล่า ถึงฉันจะยังไม่ได้มันมาก็เถอะ
เป็นตอนนั้นแหละที่ฉันได้ยินเสียงก้าวเท้าลงบันไดมา แล้วคุณแม่ของฉันก็เดินเข้ามาในครัว จากตรงที่ฉันอยู่นี่ก็มองไม่เห็นหน้าคุณแม่หรอก แต่ท่านก็ดูเหมือนเดิมสำหรับฉันอย่างที่ท่านเป็นมาตลอดเลย
ฉันตะโกนเรียกคุณแม่จากทางหน้าต่างอย่างโล่งอกเลย
เป็นตอนนั้นแหละที่ฉันรู้สึกได้ว่าตัวเองมีอะไรผิดแปลกสุดๆ ไปเลย
คุณแม่ ควรจะเสียไปแล้วสิ
หลังจากที่คุณแม่เสีย พ่อกับย่าก็เป็นบ้าไปเลย
เพราะแบบนั้นแหละ ฉันถึงได้หนีออกจากบ้าน…
นั่นก็เลยทำให้ฉันได้เจอกับเด็กคนนั้น แล้วนั่นก็ทำให้ฉันอยู่ที่นี่ตอนนี้
ถ้างั้น แล้วนั่นคือคุณแม่เหรอ?
ถ้าคุณแม่เป็นตัวจริง… แล้วฉันเป็นอะไรกันล่ะ?
ตอนที่คุณแม่ได้ยินเสียงฉัน แล้วหันมาทางฉันช้าๆ เวลามันเหมือนจะถูกยืดออกเลย
มองไม่ได้นะ
มันจะถอยกลับไม่ได้แล้วนะ
ฉันจะเสียบางอย่างที่มีค่าของฉันไปนะ
ฉันรู้เรื่องนั้นได้จากสัญชาตญาณเลย แต่ถึงยังงั้น ฉันกลับขยับไปไหนไม่ได้ ทำได้แต่จ้องผ่านหน้าต่างเข้าไปอยู่แบบนั้น เหมือนับตัวมันแข็งไปหมด ละสายตาออกมาจากคุณแม่ที่จวนเจียนจะหันมาทางนี้อยู่แล้วไม่ได้เลย
ไม่นะ
โทริโกะ
โทริโกะ ช่วยด—
TN: ตัดฟีลจะตอนที่แล้วมาก
แล้วเดี๋ยวนะ นี่ตอนเด็กๆ โซราโอะไปเจออะไรมากันแน่เนี่ย…?
ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r