[นิยายแปล] ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง 145 ไฟล์ 15 : ค้างคืนที่โลกเบื้องหลัง [6.2]

ตอนที่ 145 ไฟล์ 15 : ค้างคืนที่โลกเบื้องหลัง [6.2]

ฉันเดินลงมาตามโถงทางเดินพร้อมกับปืนไรเฟิลจู่โจมสะพายหลังอยู่ ในมือถือไฟฉายกับมาคารอฟเอาไว้ ไม่นานเราก็มาถึงล็อบบี้ปูหินแล้ว ห้องมันเย็น แล้วก็ว่างเปล่า แผงกระดานที่แขกเอาไว้ใช้เลือกห้องมืดไปหมดเลย เศษแจกันกับมัดดอกไม้แห้งกรอบกระจายไปทั่วพื้น ฉันใช้ชะแลงแงะเปิดประตูเข้าไปหลังเคาน์เตอร์ เดินตรงไปหาแผงกระดานที่หลบอยู่ข้างหลัง ฉันมองไล่ดูกุญแจห้องทุกดอกบนกำแพงจนกระทั่งเจอกุญแจดอกนึงที่มีพวงกุญแจต่างจากดอกที่เหลือ

 

“นั่นเอง ฉันว่าดอกนี้นะ”
“อะไรน่ะ?”
“กุญแจมาสเตอร์คีย์ไง ฉันเคยได้ยินว่าโรงแรมทุกที่จะมีกุญแจดอกนึงที่เปิดเข้าไปได้ทุกห้องเลยน่ะ”

 

พอฉันอธิบายแบบนั้น โทริโกะก็ตาเป็นประกายเลย

 

“ว้าว โซราโอะ เธอดูคุ้นกับเรื่องพวกนี้จริงๆ เลยนี่นา?
“ฉันไม่คิดว่ามันเป็นอะไรที่น่าชื่นชมหรอกนะ แต่… ฉันก็ทำมาเยอะแหละ นั่นมันก็ตอนที่ฉันยังเด็กเท่านั้นเอง”

 

ถึงจะมากสุดมันก็แค่ 3 ปีแหละนะ

อีกอย่าง แม้กระทั่งตอนนี้ฉันก็ยังเป็นแค่เด็กอยู่เลย…

 

“มีอะไรเหรอ?”

 

เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันรู้สึกแย่ โทริโกะจะรู้สึกได้ทุกที แต่ก็นะ ฉันทำแบบเดียวกันกับเธอไม่ได้เลย…

ฉันถอนหายใจออกมา

 

“ไปกันเถอะ หาห้องดีๆ แล้วนอนดีกว่า”
“อ- โอเค”

 

เพราะใช้ลิฟต์ไม่ได้ เราก็เลยเลือกใช้บันไดพนักงานกัน เหมือนอย่างตอนที่ฉันมาเลย บันไดมันโดนไม้อัดปิดเอาไว้ ฉันกำลังจะใช้ชะแลงตัวเองงัดเปิดทางอยู่แล้ว แต่โทริโกะก็หยุดฉันไว้ ก่อนจะถอดซองหนังออกจากขวานเธอ หายใจเข้าออกอย่างแรงเลย

 

เสียงหักเสียงแตกที่น่ากลัวดังก้องสะท้อนไปทั่วทั้งโรงแรม แล้วทางขึ้นบันไดก็เปิดออกแล้ว

 

“โทษทีนะ… ไม่ได้ตั้งใจจะให้เสียงดังขนาดนั้น…”
“…เอาเถอะ อะไรที่มันแล้วก็แล้วไป อย่างน้อยตอนนี้ทางก็เปิดแล้วล่ะนะ”

 

ฉันพูดพยายามรักษาความรู้สึกของโทริโกะ ก่อนจะเตะเขี่ยเศษไม้อัดออกไปจากทางเดิน แล้วก็เริ่มเดินขึ้นบันไดไป

พอเรามาถึงชั้น 2 มันก็มีลมเย็นๆ พับวูบเข้ามาเหมือนกับมีใครเปิดหน้าต่างทิ้งเอาไว้แถวนี้ซักบาน พวกเราก็เดินไปกันต่อ ที่ชั้น 3 นี่ค่อนข้างจะสภาพดีอยู่นะ เราก็เลยตกลงกันว่าจะหาที่นอนกันตรงชั้นนี้

 

“ฉันเคยได้ยินว่ามีคนจัดปาร์ตี้เฉพาะผู้หญิงกันที่แบบนี้ด้วยนะ”

 

ฉันบอกไป โทริโกะก็หันมามองที่ฉันอย่างงงๆ

 

“หมายความว่าไงน่ะ?”
“ปาร์ตี้สาวๆ ที่เลิฟโฮเทลไง”
“อ้อ…”
“มันเหมือนกับที่เราทำนี่มากเลยนะฉันว่า”

 

โทริโกะส่ายหัวช้าๆ

 

“ฉันว่ามันต่างกันสุดขั้วเลยมากกว่า”

 

พวกเราทั้งคู่พูดด้วยน้ำเสียงดูมั่นใจนะ แต่ในใจตอนนี่เราไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยเท่าไหร่เลยตอนนี้ ตกกลางคืน ในที่ที่ไม่คุ้นเคย ในโลกเบื้องหลัง ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเราอยู่ที่ไหนกันแน่ คงจะแปลกแล้วล่ะถ้าจะไม่รู้สึกเครียดอยู่ในใจเลยซักกระเบียดนิ้วเลย ถึงฉันจะพยายามเต็มที่เลยที่จะไม่ย้อนคิดถึงเรื่องสมัยก่อน ฉันไม่รู้เลยว่าตึกนี้ที่เรากำลังเดินไปทั่วอยู่นี่มันยังไงกันแน่ มันชัดอยู่แล้วว่าที่นี่มันไม่ใช่ ‘ที่ในความทรงจำของฉัน’ แน่นอน แค่คล้ายกันมากๆ เท่านั้นเอง เหมือนกับมีใครซักคนสร้่างของเลียนแบบแบบความเที่ยงตรงสูงมาจากการอ่านเข้าไปในหัวของฉันยังไงยังงั้นเลย

นี่มันบ้าอะไรเนี่ย? ไหวมันถึงมีตึกแบบนี้อยู่จริงได้กันเนี่ย? ถ้าฉันยังคิดถึงเรื่องนี้อีกแม้แต่นิดเดียวล่ะก็ ฉันต้องเป็นบ้าไปแน่ๆ

 

ระหว่างที่ฉันยังกดความสงสัยที่พยายามจะฝ่าออกมาไม่หยุดเอาไว้ลึกในหัว เราก็เดินไปๆ มาๆ เปิดประตูห้องด้วยกุญแจมาสเตอร์คีย์ แล้วก็ตัดห้องออกกัน พวกเราได้เจอทั้งเฟอร์นิเจอร์พังๆ เชื้อราขึ้นบนพื้นบนกำแพง กับเพดานน้ำรั่ว แต่หลังจากที่จับได้ห้องพลาดไปหลายห้อง ในที่สุดก็ถูกรางวัลได้ห้องดีๆ ซักที  ดูไม่มีอะไรเสียหาย ถ้ามองข้ามแค่เรื่องฝุ่นไป ที่นี่ก็เป็นห้องที่อยู่ได้ดีเยี่ยมเลยล่ะ ห้องที่ตั้งอยู่ตรงกลางทางระหว่างบันไดพนักงานกับบันไดหนีไฟนี่ก็สะดวกดีด้วย เผื่อว่าเราอาจจะต้องวิ่งหนีกัน

ทางซ้ายของประตูทางเข้าก็มีอ่างอาบน้ำอยู่ ส่วนทางขวาก็เป็นประตูเข้าไปเจอชักโครกกับอ่างล้างหน้า ถึงน้ำประปาจะถูกตัดไปแล้วก็เถอะ ทีวีเองก็เปิดไม่ติดอยู่แล้วล่ะ ฉันลองดูในตู้เย็น แต่มันก็ว่างเปล่า ไม่ต้องพูดถึงสิ่งอำนวยความสะดวกเลย ต่อให้ถ้าเกิดมันจะมี ฉันก็ไม่ไปแตะมันอยู่ดีนั่นแหละ แต่พอไม่มีของพวกนั้นแล้ว มันก็ชวนให้รู้สึกเหมือนอะไรซักอย่างมันหายไปเลย แต่ก็ไม่เป็นไร ตราบใดที่ยังมีเตียงหลังใหญ่ที่วางเด่นอยู่กลางห้องนี้ นี่ก็ดีพอสำหรับฉันแล้วล่ะ

แต่ถึงฉันจะคิดว่า นอนในถุงนอนของตัวเองกับผ้าห่มของเตียงก็ใช้ได้แล้ว โรงแรมในหน้าหนาวที่ไม่มีระบบทำความร้อนเปิดเอาไว้นี่มันหนาวกว่าที่ฉันคิดเยอะเลย ต่อให้โครงสร้างด้านในมันจะไม่มีอะไรพังจนเห็นได้ชัด ที่นี่มันก็ยังเป็นซากตึกร้างอยู่ดี มันมีลมน่ารำคาญพัดวูบๆ เข้ามาอยู่เรื่อยๆ จากที่ไหนซักที่ด้วย พวกเราเลยเอาของชิ้นใหญ่ไปวางเอาไว้ที่ข้างเตียง ก่อนจะเดินออกไปดูข้างนอกกันซักหน่อย

 

เราใช้ไฟฉายส่องไปตามกำแพงที่ใกล้กับลิฟต์จนได้เจอกับรูกุญแจ มันจำเป็นต้องใช้กุญแจอื่นนอกจากมาสเตอร์คีย์ในการไขเข้าไป ฉันก็เลยสอดปลายชะแลงเข้าไปตรงช่องว่างข้างกำแพง แล้วก็งัดเปิดมันออก ข้างในมีชั้นวางของที่มีผ้าลินินอัดเอาไว้เต็มเลย

พวกเรากลับไปจัดเตียงกันด้วยผ้าคลุมเตียงกับปลอกหมอนที่ได้มา แล้วก็เอาผ้าห่มที่หยิบมาด้วยมากองเอาไว้ เท่านี้เราก็ไม่ต้องกลัวหนาวตายแล้วล่ะ

เราเปิดตะเกียง LED วางเอาไว้บนโต๊ะแก้ว ก่อนจะต้มน้ำกันด้วยเตาแก๊สปิกนิก ดูจากลมหนาวที่พัดเข้ามาอยู่ได้นี่แล้วเนี่ย เราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการที่คาร์บอนไดออกไซด์สะสมในอากาศหรอก

ฉันรินน้ำร้อนลงในบะหมี่ถ้วยรสซีฟู้ด แล้วก็นั่งรอ 2 นาทีครึ่ง เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าราเมงสำเร็จรูปมากินที่โลกเบื้องหลังนี่รสชาติดีกว่าที่มันเป็นในโลกเบื้องหน้าเยอะเลยล่ะ

หลังจากที่กินเสร็จเรียบร้อย ฉันก็ต้มน้ำเพิ่มอีกเพื่อจะชงกาแฟสำเร็จรูปต่อ ได้จิบกาแฟหอมฉุยคู่กับเยลลี่โยกังรสเค็มอีกนิดหน่อยก็ช่วยให้ฉันสงบใจลงได้ซักที

 

“ดูสิ นี่ก็เริ่มรู้สึกเหมือนปาร์ตี้สาวๆ ในเลิฟโฮเทลแล้วนะ”

 

ฉันว่า แต่โทริโกะก็ยังส่ายหัวอยู่นั่นแหละ

 

“ไม่ใช่แน่นอน”
“ก็แบบ นี่เราก็มาที่เลิฟโฮเทล กินขนม แล้วก็คุยเล่นกันไม่ใช่เหรอ?”
“มันต่างกันนะ โอเคมั้ย? นี่ไม่ใช่ปารตี้สาวๆ ซักหน่อย”
“นี่เธอรู้เรื่องอะไรของปาร์ตี้สาวๆ ด้วยเหรอ โทริโกะ?”
“มากกว่าที่โซราโอะรู้แล้วกันน่า!”
“อ้อหรอ? งั้นเหรอ? งั้นมาฟังกันหน่อยแล้วกัน ว่าปาร์ตี้สาวๆ เนี่ยมันเป็นยังไงกันแน่น่ะ”

 

หลังจากนั้นไปอีกพักนึง เราก็เถียงกันไปกันมาว่าปาร์ตี้สาวๆ ของคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่พวกเราเนี่ยมันควรจะเป็นยังไง แต่เราไม่มีใครมีประสบการณ์หรือความรู้กันเลย เพราะงั้น การถกประเด็นกันนี่ก็เลยไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรเลยซักนิด

 

“ได้! ถ้างั้น ไว้กลับไปเมื่อไหร่ก็ไปจัดกันเลย! ไม่ใช่ที่ซากตึกร้างโง่ๆ นี่! ไปงานปาร์ตี้ผู้หญิงที่เลิฟโฮเทลจริงๆ กันเลย!”

 

ฉันโพล่งไปแบบนั้นแบบไม่ทันคิด ซึ่งโทริโกะก็พยักหน้า

 

“โอเค”
“ทีนี้เธอจะได้เห็นว่า-… เดี๋ยว ว่าไงนะ?”
“ได้สิ ไปกันเถอะ ของจริงเลย ก็แบบ ฉันก็ไม่เคยไปปาร์ตี้สาวๆ มาก่อนเหมือนกัน”
“เอาจริงเหรอ?”
“โซราโอะ เธอเป็นคนดึงเรื่องนี้ขึ้นมาเองนะ”
“มันก็ใช่ แต่…”
“งั้นก็ไปกันเถอะ ไปปาร์ตี้สาวๆ ที่เลิฟโฮเทลกัน เธอกินพวกฮันนี่โทสต์กับอะไรพวกนั้นใช่มั้ยล่ะ? ไม่ใช่ว่าฉันไม่รู้เรื่องพวกนั้นหรอกนะ”
“ก็ ฉันรู้แค่ของที่เห็นในเน็ตเท่านั้นแหละ…”
“ไว้กลับไปแล้วเราค่อยไปจองคิวนู่นนี่ แล้วก็ไปกันเถอะ ฉันตั้งตารออยู่นะ”
“อ- อื้อ…”

 

ฮะ…?

โทริโกะหาวหวอดมา ไม่ได้สนใจฉันที่เงียบไปเพราะความกังวลเลย

 

“ชักง่วงแล้วสิ”
“…ฉันว่าเรานอนได้แล้วล่ะ”

 

พวกเราถอดเสื้อโค้ทกับรองเท้าออก แล้วก็มุดเข้าไปใต้ผ้าคลุมเตียงกัน ผ้าห่มมีเพียบ เพราะงั้นเราก็เลยไม่จำเป็ต้องใช้ถุงนอนเลย พวกเราเอาผ้าห่มไปใช้กันคนละ 3 ผืน แล้วก็ดึงผ้านวมผืนใหญ่ที่ติดกับเตียงมาคลุมตัวพวกเราเอาไว้

เราตกลงกันว่าจะหรี่ไฟตะเกียงลง แต่ก็เปิดมันทิ้งเอาไว้ ฉันเช็คดูอีกทีว่าปืนอยู่ในระยะที่มือคว้าได้ ก่อนจะทิ้งหัวลงบนหมอน

 

“ราตรีสวัสดิ์นะ”
“เจอกันตอนเช้า”

 

รู้สึกได้ว่าราเมงสำเร็จรูปกับกาแฟช่วยให้ในตัวฉันอุ่นมาจากข้างในเลย ต้องขอบคุณความเหนื่อยล้านี้ด้วยล่ะนะ แวบเดียวฉันก็หลับไปเลย

 

TN: เอาล่ะ กางถุงป๊อบคอร์นนั่งรอ 2 สาวกลับโลกเบื้องหน้าเลยดีกว่า 555

ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r

[นิยายแปล] ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง

[นิยายแปล] ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง

Score 10
Status: Completed
การพบกันครั้งแรกกับ นิชินะ โทริโกะ ของเธอคือที่โลกเบื้องหลัง หลังจากได้เห็น “สิ่งนั้น” และเกือบตายไปแล้ว ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของนักศึกษามหาลัยผู้เหนื่อยล้า คามิโคชิ โซราโอะ ก็เปลี่ยนไป ในโลกเบื้องหลังนี้ที่มีอยู่เคียงคู่กับโลกของเราอันเต็มไปด้วยปริศนา มีตัวตนที่อันตรายอย่างคุเนะคุเนะและท่านฮัชชาคุที่ถูกพูดถึงกันในเรื่องผีจริงๆ นั้นปรากฏอยู่ เพื่อการวิจัย เพื่อผลประโยชน์ และเพื่อตามหาคนสำคัญ โทริโกะกับโซราโอะจึงก้าวเท้าเข้าสู่ดินแดนแสนพิลึกพิลั่นนั้น! (เรื่องนี้ แปลจาก LN ENG)

Options

not work with dark mode
Reset