Side:ไอแซค&เซน่อน (เรื่องราวของชายที่วางกับดักและชายที่ถูกวางกับดัก)
「……พูดอะไรนะ แก? แกจะทำอะไร……?」
「เอาน่าๆ! มายืนคุยกันในที่แบบนี้ก็กระไรอยู่ เข้าไปคุยข้างในกัน! แบบนั้นมันน่าจะสะดวกกับเธอกว่ามั้ง?」
「ชิ……!」
ถ้ายังคงพูดคุยกันเสียงดังในโถงทางเดินทั้งแบบนี้ มันคงไม่สะดวกกับเธอใช่ไหมล่ะ? เมื่อไอแซคพูดเช่นนั้น เซน่อนก็ทำตามคำพูดของเขาพร้อมใบหน้าบูดบึ้งและเปิดประตูห้อง
เมื่อไอแซคเข้าไปในห้องแล้วสังเกตเซน่อนอีกครั้ง ก็เค้นจมูกดังฮึพร้อมเอ่ยคำพูดเยาะเย้ย
「ถึงงั้นก็เถอะ……ใบหน้าย่ำแย่เลยนะเนี่ย! จะว่าไงดีล่ะที่เรียกว่า~ตกต่ำน่ะคงแสดงออกไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วละ!」
「หนวกหู……! หุบปาก หุบปาก หุบปาก!!」
เซน่อนในตอนนี้ที่คำรามและกรีดร้องต่อคำยั่วยุของไอแซคนั้น สัมผัสถึงความมีชีวิตชีวาที่เคยมีในช่วงแรกที่เข้ามาในสถาบันไม่ได้เลย
ผมสีเงินที่เคยงดงามกระเซอะกระเซิง มีความบ้าคลั่งและความว่างเปล่าสถิตอยู่ในดวงตาสีทอง บรรยากาศตามธรรมชาติของตัวละครหลักที่เคยมีเมื่อครั้งหนึ่งไม่มีหลงเหลืออยู่แล้ว
นี่คือรูปลักษณ์อันตกต่ำของชายที่เคยถูกยกย่องว่าเป็นวีรชน ผู้เอาชนะยูโกซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสวะที่สุดในสถาบันงั้นหรือ……ไอแซคยิ้มเยาะเซน่อนเช่นนั้นและพูดกับเขาที่เกือบจะบ้าคลั่งด้วยรอยยิ้ม
「เอาน่าๆ ใจเย็นๆก่อนสิ ที่ผมมาก็เพื่อหยิบยื่นโอกาสครั้งสุดท้ายให้เธอที่ตกต่ำแบบนั้นยังไงล่ะ」
「……หมายความว่ายังไง?」
「ก็บอกไปแล้วใช่ไหมล่ะ? ว่ามาประลองกับผม ถ้าเธอชนะในการประลองนี้ละก็จะให้วัตถุดิบทั้งหมดที่ผมมีอยู่เลยละ ไม่ได้จะอวดหรอกนะแต่ผมใช้เองคนเดียวไม่หมดเพราะมีวัตถุดิบสต็อกไว้ค่อนข้างเยอะ ถ้าได้สิ่งนั้นไปครองละก็เธอจะสามารถเตรียมอุปกรณ์ได้เพียงพอเลย น่าจะสร้างอุปกรณ์ในส่วนของพวกพ้องได้เหลือเฟือเลยนะ โอกาสในการเป็นวีรชนมาเสิร์ฟอีกครั้งแล้ว……ว่าไง? น่าดึงดูดเลยใช่ไหมล่ะ?」
「อีกครั้ง ฉัน……? ถ้าชนะการประลองจะสามารถคอนทินิวได้……!!」
เซน่อนที่ได้ยินคำพูดของไอแซคซึ่งราวกับบทเพลงพูดทวนคำพูดของเขาซ้ำๆ
ผลจากการพ่ายแพ้ซ้ำๆ ทำให้สูญเสียความเชื่อมั่นจากเหล่านักเรียน ตนเองที่มาถึงจุดจบเกมโอเวอร์แล้วมีโอกาสฟื้นกลับได้อีกครั้ง เซน่อนสูดหายใจพร้อมจินตนาการอันแสนหวาน ทว่าแคลร์ซึ่งเข้าร่วมการสนทนาด้วยได้พูดออกมาเพื่อปลุกเขาที่เป็นเช่นนั้นขึ้นมาจากความฝัน
「โปรดรอก่อนค่ะ ท่านไอแซค ที่ว่าประลองถ้าท่านเซน่อนจะเข้าร่วมการประลองก็ต้องเดิมพันด้วยอะไรบางอย่างสินะคะ? คุณตั้งใจจะเรียกร้องอะไรจากท่านเซน่อนเหรอคะ?」
「ฮะฮะ! ของแบบนั้นมันก็เห็นๆกันอยู่นี่นา ในบรรดาของที่หมอนี่มีอยู่ของที่ผมรู้สึกสนใจมันก็มีแค่สิ่งเดียวใช่ไหมล่ะ?」
ไอแซคยกแขนขวาขึ้นจนถึงระดับสายตา ในขณะที่พูดเช่นนั้น
เขาชี้ตรงไปยังแคลร์ด้วยนิ้วชี้ที่ยื่นออกมา และพูดกับเธอด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความปรารถนา
「สิ่งที่ผมจะเรียกร้องจากเซน่อนในการเข้าร่วมประลอง……สิ่งนั้นก็คือเธอยังไงล่ะ แคลร์ รูจ ถ้าเซน่อนแพ้เธอต้องเป็นของผม」
「หน่ะ……!?」
「อึก……!?」
เซน่อนเปล่งเสียงที่เต็มไปด้วยความตกใจ แคลร์แสดงสีหน้าเจ็บปวดที่เรื่องนั้นเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้
การตอบสนองของทั้งคู่ที่ผสมปนเปกัน ไอแซคเฝ้าดูสิ่งนั้นด้วยความรู้สึกสนุกสนาน
ไม่ได้ตั้งใจจะให้วัตถุดิบฟรีๆอยู่แล้ว เดิมทีก็ไม่ได้คิดที่จะแพ้ในการประลองอยู่แล้วด้วย ในขณะที่ไอแซคหัวเราะภายในใจ เซน่อนที่ตื่นตระหนกได้ส่ายหัวไปมาอย่างแรงเพื่อปฏิเสธเรื่องนั้น
「มะ ไม่ได้! เรื่องนั้นไม่ได้! ไม่ให้แคลร์! มีแค่แคลร์ที่จะไม่ให้เด็ดขาด!」
「หื~ม……อ้อเหรอ เอาเถอะผมยังไงก็ได้แหละ แต่ว่านะ……วันนี้ ถึงตอนนี้จะไม่เสียแคลร์ไป แต่ในอนาคตอันใกล้มันก็มีอนาคตที่จะถูกใครสักคนมาช่วงชิงเธอไปอยู่ดีไม่ใช่เหรอ?」
「อึก……!」
ยังไงก็ได้ แม้จะพูดเช่นนั้นแต่ไอแซคก็ยังคงพ่นคำพูดอันไร้ความปราณีเพื่อไล่ต้อนเซน่อนเรื่อยๆ
ฮึก เขาร่างกายสั่นเทา ไอแซดยังคงพูดต่อเพื่อปลุกความกังวลใจต่ออนาคตที่รอเขาอยู่
「จะเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องไปจนถึงเมื่อไหร่ล่ะ ความแตกต่างระหว่างเหล่านักเรียนคนอื่นๆที่ได้รับประสบการณ์จากคำร้องและจากชั้นเรียนจะแย่ลงเรื่อยๆเอานะ? ถึงแม้เธอจะเอาชนะไอ้สวะยูโกแล้วได้แคลร์มาครองแต่เรื่องนั้นมันไม่ใช่สิ่งแน่นอนสักหน่อย ถ้าตระกูลรูจตัดสินว่าเธอไม่เหมาะสมที่จะเป็นคู่ของแคลร์ละก็……เธอก็ต้องไปเป็นของชายอื่น เรื่องแค่นั้นก็น่าจะเข้าใจใช่ไหมล่ะ?」
「หะ หุบปาก หุบปาก……!」
「ถ้ามัวแต่ปล่อยให้เวลาเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ทั้งแบบนี้ ความหวังที่เธอจะฟื้นตัวกลับมาได้อีกครั้งจะไกลห่างไปเรื่อยๆ ถ้าอย่างนั้นตอนนี้การเคลื่อนไหวเสียตั้งแต่ตรงนั้นมันน่าจะมีความเป็นไปได้มากกว่าใช่ไหมล่ะ? ในอนาคตอันใกล้ที่ไม่ได้ทำอะไรเลยแคลร์จะหายไปจากเธอ ถ้ากลายเป็นแบบนั้นเธอจะสูญเสียทุกสิ่งจะอย่าง ถ้าอย่างนั้นก็เคลื่อนไหวก่อนหน้านั้นน่าจะดีกว่าใช่ไหม?」
「อู อุก อึก……」
เรื่องที่ไอแซคพูดนั้นไม่มีอะไรผิดเลย หากยังคงเก็บตัวอยู่ในห้องต่อไปทั้งแบบนี้อย่าว่าแต่สถานการณ์จะดีขึ้นเลยกลับยิ่งแย่ลงเรื่อยๆอีกต่างหาก
เซน่อนในตอนนี้เป็นตัวตนที่ห่างไกลจากตัวละครหลักใน『ลูมินัส ฮิสทรี่』มาก แตกต่างกับตัวละครหลักที่สร้างผลงานความสำเร็จซ้ำๆเพื่อให้เป็นที่ยอมรับจากใครต่อใครและชนะอย่างต่อเนื่องจนได้รับสิทธิ์เคียงข้างเธอจากคนรอบข้าง เขาเป็นเพียงชายที่สูญเสียทุกอย่างและเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง
ตอนนี้ที่สูญเสียสิทธิ์ในฐานะตัวละครหลักไปแล้ว สักวันแคลร์ก็อาจจะไปเป็นของคนอื่นสักคนไม่ใช่หรือ เซน่อนรู้สึกกังวลเช่นนั้นอยู่ตลอด
ถึงจะเบือนหน้าหนีจากสิ่งนั้นมาตลอดและพยายามทำใจให้สงบอย่างเต็มที่ แต่ในตอนนี้ที่ได้เผชิญหน้ากับความจริงนั้นอีกครั้งเพราะไอแซค ความรู้สึกกังวลอันมหาศาลก็ได้เข้าโจมตีเขา
「มาประลองกันเถอะ เซน่อน ถ้าเป็นตอนนี้อาจจะยังมีโอกาสอยู่นะ? โอกาสดีๆแบบนี้คงไม่มาเยือนอีกเป็นครั้งที่สองหรอก……ถ้าอยากกลับมาอีกครั้งตรงนี้ก็มีแต่ต้องรับการประลองใช่ไหมล่ะ?」
「ไม่ได้ค่ะ ท่านเซน่อน! จะหลงไปตามคำยั่วยุของท่านไอแซคไม่ได้นะคะ! คุณในตอนนี้เหนื่อยล้าทั้งกายทั้งใจ ไม่ได้อยู่ในสภาพที่จะต่อสู้ได้เลยค่ะ! ได้โปรดใจเย็นๆลงก่อนเถอะค่ะ! ท่านเซน่อน!」
「ฉะ ฉัน ฉันน่ะ……!?」
รู้อยู่แล้ว ว่าคำเชิญของไอแซคเป็นกับดัก
ตามที่แคลร์ว่า ตนเองไม่ได้อยู่ในสภาพที่จะสู้ได้เลย อีกฝ่ายเข้าใจอยู่แล้วว่าเป็นแบบนั้นจึงยื่นท้าประลอง
ทว่า……โอกาสนี้ที่มาเยือนเป็นโอกาสสุดท้ายที่ตนเองจะฟื้นคืนตำแหน่งว่าที่วีรชน เซน่อนเข้าใจเรื่องนั้นได้
หากหนีจากสิ่งนี้ก็จะไม่มีทางฟื้นตัวอีก หลังจากนี้ความแตกต่างกับรอบๆข้างจะยิ่งทิ้งห่างขึ้นเรื่อยๆ อย่าว่าแต่ไล่ตามทันเลยการจะเติมเต็มช่องว่างนั้นก็คงไม่มีวันเป็นจริง
ทว่า หากแพ้ตนเองก็จะถูกช่วงชิงแคลร์ไป จะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างจริงๆ
อย่างไรก็ตามแม้จะหนีต่อไปเรื่อยๆท้ายที่สุดสักวันแคลร์ก็จะถูกใครสักคนช่วงชิงไปอยู่ดี อย่างไรก็ตามการเข้าร่วมประลองความเสี่ยงมันมากเกินไปจริงๆ……ไอแซคที่ยิ้มชอบใจเพราะเห็นสภาพที่เซน่อนลังเลเช่นนั้นได้เอาริมฝีปากแนบหูของเขา เพื่อผลักดันครั้งสุดท้ายด้วยเสียงที่ไม่ให้แคลร์ได้ยิน