Side:ไอแซค (เรื่องราวของชายที่เผยความปรารถนาออกมา)
หากจะให้อธิบายความสำเร็จของตนเองในช่วงหลังมานี้เป็นประโยคเดียวก็คงเป็น『สภาพที่ดีที่สุด』ล่ะมั้ง ไอแซคกำลังคิดเช่นนั้น
มอบดาบมารที่ขโมยมาจากหน่วยรักษาความปลอดภัยให้เนด ขอให้ก็อบปี้และเปลี่ยนหน้าตา ตั้งแต่เริ่มใช้สิ่งนั้นในฐานะอาวุธพิเศษของตนเองก็สามารถขึ้นมาถึงตรงนี้ด้วยพลังที่ไม่มีใครหยุดได้
ไม่แพ้ในการประลอง ได้รับชัยชนะอย่างต่อเนื่องหลายวัน
เพราะเหตุนั้นวัตถุดิบเองก็ได้มาครองเป็นภูเขาด้วย พอมอบสิ่งนั้นให้เนดค่าความชื่นชอบของเขาก็สูงขึ้นพร้อมกับทำให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้นด้วย เหนือสิ่งอื่นใดการได้เห็นสภาพที่เหล่านักเรียนคนอื่นไม่สามารถเสริมแกร่งอุปกรณ์ได้นั้นมันอดรู้สึกสนุกไม่ได้
ได้พลังที่จะทำอะไรก็ได้มาครอง และไม่ว่าจะทำอะไรก็ออกมาดีไปซะทุกอย่าง……มันรู้สึกว่าตนเองในตอนนี้กำลังสนุกที่สุดกับชีวิตในฐานะผู้เกิดใหม่ต่างโลก และในฐานะตัวละครหลักที่มาเกิดใหม่ที่โลกในเกม
ถึงเหล่าผู้กลับชาติมาเกิดคู่แข่งจะพูดบ่นอะไรบางอย่าง แต่เรื่องนั้นก็ทำให้เงียบปากไปได้ด้วยการประลอง……มุ่งไปที่ไหนก็ไร้ศัตรู ตามตัวอักษร
ไม่ว่าจะเป็นเหล่าตัวละครในโลกนี้ ไม่ว่าเป็นเหล่าผู้กลับชาติมาเกิดคนอื่นๆ หรือแม้แต่อาจารย์ ก็หยุดตนเองไม่ได้
ได้อาวุธที่ตรงกับสเตตัสอันเป็นเลิศมาครอง ตนเองที่ใช้ประโยชน์จากสิ่งนั้นเพิ่มเลเวลขึ้นอย่างรวดเร็วได้กลายเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้แล้ว ไอแซคคิดเช่นนั้นจากก้นบึ้งของหัวใจ
คนที่ใกล้เคียงกับการเป็นวีรชนที่สุดคือตนเองอย่างไม่ต้องสงสัย วันที่ตนเองซึ่งแข็งแกร่งที่สุดจะได้รับการเทิศทูนในฐานะตัวตนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลกนี้อยู่อีกไม่ไกลแล้ว
วีรชนเดียวดาย ไอแซค เอเรีย……เป็นผู้ที่สมบูรณ์แบบในหลายด้านรวมทั้งนามที่สองด้วย เขายิ้มอย่างน่าขนลุกขณะคิดเช่นนั้น เคลื่อนไหวไปตามความปรารถนาที่พรั่งพรูขึ้นมาและประพฤติตนตามใจตัวเอง
รีดไถวัตถุดิบจากเหล่านักเรียน ลอบโจมตีคนที่ไม่ตอบรับการประลอง เคลื่อนไหวเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการมาครองทั้งหมด
หากถามว่าการกระทำนั้นคู่ควรแก่การเป็นวีรชนหรือไม่ละก็ไม่จำเป็นต้องคิดเลยทว่า ความคิดเช่นนั้นได้ปลิวหายไปจากหัวของตัวเขาจนหมดสิ้นแล้ว
(เพราะประลองมาหลายครั้งเลยได้รับค่าประสบการณ์ เลเวลเองก็เพิ่มขึ้นด้วย วัตถุดิบก็ได้มาครองเป็นกระบุง ในส่วนของอุปกรณ์ตอนนี้ก็เพียงพอแล้วสินะ ถ้าอย่างนั้นที่เหลือก็――)
ในตอนที่เอาคริสตัลเวทมนตร์ธาตุไฟจากโครงกระดูกมาครองไม่ได้ก็คิดอยู่ว่าจะทำยังไงดี ทว่าก็สามารถฟื้นกลับมาได้อย่างยอดเยี่ยม
สมกับเป็นตัวเองจริงๆ ไอแซคมีความสุขที่ได้รับอาวุธอันทรงพลังยิ่งกว่าที่วางแผนไว้ในตอนแรกพร้อมชื่นชมตนเองเช่นนั้น
หากจะมีสิ่งที่จำเป็นอย่างอื่นก็คงจะเป็นพวกพ้อง แต่ไอแซคยึดมั่นในการเล่นโซโล่ของแบบนั้นจึงไม่จำเป็น
แต่ยังไงก็ตาม……แม้พวกพ้องจะไม่จำเป็น แต่ผู้หญิงที่ตกหลุมรักตนเองก็รู้สึกอยากได้อยู่
ไม่ใช่สิ่งสวยงามที่เรียกว่าคนรัก ไม่ใช่สิ่งน่าสนใจแปลกๆที่เรียกว่าสมาชิกฮาเร็ม
สิ่งที่ต้องการคือตัวตนที่สามารถทำกับร่างกายนั้นได้อย่างอิสระ ที่ตนเองสามารถทำได้ตามที่ต้องการ……“ทาส”นั่นเอง
……ก็นะ ถึงเนื่องจากจังหวะเวลาจึงไม่สามารถลงมือกับตัวละครที่ยังไม่เคยเจอได้ แต่เรื่องนั้นทิ้งไว้ก่อน
สิ่งสำคัญคือ ไอแซคในตอนนี้มีพลังที่สามารถทำตามใจชอบกับเหล่าสาวงามในเกมได้แล้ว
ไม่ใช่แค่เขา แต่เหล่าผู้กลับชาติมาเกิดคนอื่นเองก็ปรารถนาอย่างมุ่งมั่นที่จะสำเร็จการศึกษาจากความซิงเช่นกัน……ดูเหมือนว่าวันเฉลิมฉลองเรื่องนั้นจะมาถึงแล้ว
ไอแซคในตอนนี้มีพลังจะเลือกฝ่ายตรงข้ามนั้นได้อย่างอิสระ เพราะไม่ว่าใครก็ไม่สามารถหยุดเขาในตอนนี้ได้แล้วยังไงล่ะ
หากเป็นอย่างนั้นสิ่งที่หายไปก็คือคู่นอน หากถูกบอกว่าจะเป็นใครก็ได้ก็คงจะลังเลแทน
เมลต์ที่เป็นสาวงามประเภทสุขภาพดี กระตือรือร้น มีสไตล์ สดใสเองก็น่าจะดี แองเจิลที่เป็นตัวละครสายวิศวกรอุปกรณ์เวทภาคภูมิใจในหน้าอกมหึมายิ่งกว่าเธอเองก็ไม่แย่
ถ้ายูโกยอมรับการประลองก่อนหน้านี้โดยเอาพวกเธอเป็นเดิมพันละก็ คงได้ทั้งสองคนมาครองรวดเดียวและความปรารถนาของตนเองคงเป็นจริงไปแล้ว ถึงไอแซคจะพยายามทำเช่นนั้นทว่า……น่าเสียดายที่การท้าประลองนั้นถูกปฏิเสธ
หากต้องการเรื่องนั้นก็มีวิธีที่จะบังคับลากยูโกขึ้นมาบนสนามประลองอยู่ แต่ไอแซคไม่ได้ตั้งใจจะยึดติดขนาดนั้น
เพราะมีคนที่มีเสน่ห์ยิ่งกว่าเมลต์และแอง……ไม่สิ เพราะมีผู้หญิงคนอื่นที่รู้สึกว่าถ้าทำเรื่องแบบนี้ก็น่าสนุกกว่าอยู่ยังไงล่ะ
ย้อนเวลากลับไป ตอนกลางวัน ทันทีหลังจากที่ถูกยูโกปฏิเสธการท้าประลอง ไอแซคได้ไปเยี่ยมเยือนบุคคลหนึ่ง
ขณะที่ฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี เขาก็เคาะประตูห้องของบุคคลนั้น และตะโกนเรียกอยู่อีกฟากของประตู
「เซ~น่อนคุง มาเล่นกันเถอะ~!」
หลังจากที่กล่าวคำนั้นซึ่งสดใสร่าเริงแต่แฝงไปด้วยเจตนาร้าย หลายวินาที ช่วงเวลาแห่งความเงียบผ่านเลยไป
ไม่มีการตอบสนองจากอีกฟากของประตู ถ้าอย่างนั้นก็จะทำต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะตอบกลับแต่ก่อนที่ไอแซคจะเคาะอีกครั้ง ประตูก็เปิดออกพร้อมกับเสียงแอ๊ดด เจ้าของห้องนั้น……ไม่ใช่สิ เป็นสาวงามผมทองนั่นเอง
「คือว่า ขออภัยด้วยค่ะ ท่านเซน่อนตอนนี้ไม่อยากพบกับใคร……」
「อ้อ เหรอ? ถ้างั้น อุตส่าห์มาทั้งทีไปเดตกับผมเถอะนะ! ต้องรับมือกับคนที่เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องเนี่ยพลอยทำให้อารมณ์หดหู่เปล่าๆใช่ไหมล่ะ? เพราะงั้นนั่นไง ออกไปเล่นกันเถอะ!」
「เอ๊ะ? ไม่ค่ะ คือว่า ฉัน……」
ไอแซคชวนเดตแบบบังคับโดยไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่พูดเลย สาวงามที่ออกจากห้อง……จับมือแคลร์ พยายามลากออกจากห้องและดึงมาหาตนเอง
ในระหว่างที่เธอตกใจและสับสน ก็มีอีกมือหนึ่งยื่นออกมาจากห้องแล้วคว้าแขนอีกข้างของแคลร์ หยุดการกระทำของไอแซคเอาไว้ได้อย่างฉิวเฉียด
「……ทำอะไรน่ะ แก แคลร์เป็นของฉัน……!!」
「อะ~ไรกัน ก็ออกมาได้นี่นา อย่าทำให้ต้องเสียเวลาลงมือโดยไม่จำเป็นสิ」
เจ้าของห้องที่สีหน้าไร้ชีวิตชีวาและหันสายตาที่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่ามาทางนี้ ไอแซคพูดเช่นนั้นกับเซน่อน
หลังจากทำเช่นนั้น เขาก็หันไปหาผู้แพ้ที่จ้องมองทางนี้ และพูดขึ้น
「เซน่อนมาเล่นกับผมหน่อยสิ! มาประลองอย่างสนุกสนานกันเถอะ!」