[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว 79 – 056:งานเลี้ยงแห่งความร้าวฉาน ⑳พลิกผัน

ตอนที่ 79 - 056:งานเลี้ยงแห่งความร้าวฉาน ⑳พลิกผัน

056:งานเลี้ยงแห่งความร้าวฉาน ⑳พลิกผัน

 

งานเปิดตัวของลูน่าถูกฉายไปทั่วจตุรัสกลางเมือง

 

สื่งที่สำคัญก็คือโดนตัดเนื้อหาที่ฉันประกาศว่าจะไม่แต่งงานเข้ากับราชวงศ์ออกไป

 

เป็นข้อความพร้อมรูปภาพของเจ้าชายอาเบลแสดงความยินดีกับลูน่าที่งานเปิดตัวเป็นไปได้ด้วยดี จนทำให้เหล่าผู้ที่ได้พบเห็นน่าจะเกิดการเข้าใจผิดว่าลูน่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเจ้าชาย

 

สิ่งที่ผิดคือแม้ว่ามาร์ควิสตระกูลดิแซคจะประท้วงต่อต้านเรื่องวิดีโอที่ฉายออกไป แต่ก็โดนทำหูทวนลม

 

และอีกอย่างหากมีบทสนทนาระหว่างลูน่ากับเจ้าชายแม้แต่คำเดียว ก็คงโดนจับได้เพราะเผยแพร่เฟคนิวส์ออกไป และทำให้การเผยแพร่วิดีโอถูกระงับ

 

อย่างไรก็ตามในเนื้อหานั้นไม่มีการโกหกแต่อย่างใด เพียงแค่บอกว่า “อยากจะถ่ายทอดความน่ารักของลูน่าจังให้กับทุกคนได้เห็น” มันก็จะจบลงด้วยข้ออ้างที่ว่า “พวกเราก็แค่ทดสอบความทนทานของโปรเจ็คเตอร์เท่านั้นเอง” ทำให้การประท้วงนั้นไร้ความหมาย

 

 

 

เรื่องการแบ่งพรรคแบ่งฝ่ายประชาชนนั้นไม่เข้าใจหรอก เพราะนี่เป็นแค่ค่านิยมของเหล่าขุนนาง และไม่ได้เกี่ยวข้องกับประชาชนทั่วไปโดยตรง และการประท้วงเองก็ไม่เป็นผล

 

 

 

กล่าวอีกนัยหนึ่งการจะกำจัดต้นตอวิดีโอนี้ก็เหมือนกับการขัดคำสั่งของราชินีและมันยากเกินไป

 

 

 

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะปล่อยเฉยได้

 

หากมัวแต่เงียบ นั่นก็หมายความว่าอีกฝ่ายนั้นถูกต้อง เพราะความเงียบเองก็เป็นคำตอบอย่างหนึ่ง

 

แม้ว่าพวกเราจะไม่ได้คิดแบบนั้น แต่คนส่วนใหญ่จะมองแบบนี้

 

เพราะฉะนั้นแล้ว สิ่งที่โง่เขลาที่สุดก็คือการคุยกันด้วยคำพูด แต่การเงียบเองก็ไม่ใช่คำตอบ เพราะงั้นต้องเคลื่อนไหวแบบอื่น

 

 

 

「อลิซ่า ชิล่า ฉันจะรีบไปที่ปราสาทและรายงานเรื่องเหล่านี้ให้พ่อแม่ทราบ」

 

 

 

「ฉันเองก็จะไปด้วยคะพี่สาว」

 

 

 

อลิซ่าเองก็แสดงความมุ่งมั่น

 

ชิล่าเองก็โค้งศีรษะน้อมรับโดยไม่พูดอะไร

 

ลูน่าคิดว่าทุกคนที่อยู่ตรงนี้รู้วิธีการบินอยู่แล้ว ดังนั้นไม่จำเป็นต้องเดินเท้า

 

 

 

「อาาาาา ท่านลูน่า~!!」

 

 

 

ขณะที่กำลังจะบินออกไปนั่นเองเธอก็ถูกเรียก

 

จากนั้นก็เห็นเด็กสาวตัวเล็กๆซึ่งเหมือนกับสามัญชนยิ้มมาทางฉันด้วยรอยยิ้มไร้เดียงสา

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้นผู้คนต่างก็จับจ้องมาที่พวกเรา

 

พวกเราโดนพบเห็นและฝูงชนก็เริ่มมามุงดู

 

ดูเหมือนว่าการที่ฉันบินจะทำให้ตัวเองโดดเด่นและตอนนี้เองก็มีผู้คนจำนวนมาก

 

 

 

「ท่านลูน่า!」

 

「เทพธิดา!」

 

「น่ารักโครตตตตตตตต~!」

 

 

 

อัตราส่วนของสามัญชนต่อผู้หญิงอยู่ที่ 6:4 และสังเกตเห็นได้ว่าอยู่ในช่วงวัยสิบหกถึงสี่สิบปี

 

พวกเขาเงยหน้ามองไปที่ลูน่าซึ่งเป็นคนที่บินอยู่บนฟ้าและพวกเขากำลังยกย่องเธอ

 

 

 

「อะฮะฮะ……」

 

 

 

หากใครแสดงท่าทีเป็นปรปักษ์ก็แค่บดขยี้มันแค่นั้น

 

แต่ว่าสายตาเหล่านั้นต่างจ้องมองมาด้วยความอิจฉา ควมชื่นชม และศรัทธา

 

ดังนั้นลูน่าจึงทักทายทุกคนด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ

 

 

 

「ฝากตัวด้วยนะคะทุกคน ดิฉัน ลูน่า เบล ดิแซค เพิ่งเปิดตัวในงานเมื่อวันก่อนหลังจากนี้ก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ」

 

 

 

น้ำเสียงนั้นผ่อนคลายและก้มศีรษะฝากเนื้อฝากตัวกับทุกคน

 

 

 

「สิ่งที่แสดงอยู่นั่นคือภาพงานเปิดตัวที่เกิดขึ้นเมื่อวานค่ะ โดยอุปกรณ์ที่ใช้ฉายนี้เรียกว่าโปรเจ็คเตอร์ คราวนี้เป็นการทดสอบการออกอากาศค่า」

 

 

 

ขณะที่ฉันพูดขอบคุณสมองของฉันเริ่มหมุน

 

 

 

「ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าพวกเราอาจจะได้เห็นสิ่งเหล่านี้ฉายไปทั่วเมืองค่ะ」

 

 

 

รอยยิ้มอันแสนอ่อนโยนแผ่กระจายไปทุกทิศทาง

 

เหล่าประชาชนต่างมองมาด้วยความชื่นชมราวกับหลงใหล

 

 

 

「อิย๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!」

 

 

 

จากนั้นเองก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังจากที่ไหนสักแห่ง

 

ทุกคนต่างจ้องมองลูน่าจนไม่สังเกตเห็น แต่ก็เห็นได้ว่าสาวน้อยที่ชี้ไปที่ลูน่าเมื่อกี้กำลังถูกผลักโดยชายคนหนึ่งที่วิ่งเข้ามาหาและล้มลง

 

ลูน่าจึงรีบบินเข้าไปช่วยสาวน้อยคนนั้นไว้ทันที

 

 

 

「……เอ๊ะ!?」

 

 

 

จากนั้นก็ต้องประหลาดใจเพราะเห็นเลือดบนมือ

 

บนพื้นดินเธอล้มลงกับเศษขวดแก้วที่แตกและบอกได้เลยว่าสภาพเธอในตอนนี้กำลังโชกเลือด

 

 

 

「ช่วยไม่ได้สินะคะ」

 

 

 

ลูน่ารีบร้อนและเปลี่ยนใจใช้งานสกิลของเธอในทันที

 

 

 

 ――วิชาสำนักมังกรซากุระ เคล็ดวิชาลับ คืนชีพเหนือพิภพ

 

 

 

วิ้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง…………….บูม….เสียงดังแสบแก้วหูพร้อมกับแสงสีทอง

 

ปีกสีขาวบริสุทธิ์ผุดขึ้นที่หลังของเธอและรัศมีสีทองปรากฏเหนือศีรษะ

 

ฉันไม่รู้ว่าเธอคนนั้นได้รับบาดเจ็บถึงตายหรือไม่ แต่ว่าบาดแผลในตอนนี้ทุกอย่างหายดีแล้ว

 

 

 

「……เทพธิดา」

 

 

 

เธอพึมพำขณะเบิกตากว้างมองไปที่ผมสีเงินมันวาวสีทองของลูน่า

 

ลูน่ายิ้มอย่างอ่อนโยนโดยไม่ปฏิเสธคำพูดของเธอและให้เธอยืนด้วยตัวเอง

 

 

 

「โปรดระมัดระวังตัวด้วยนะคะยามออกมาข้างนอก เพราะว่าอาจจะได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ค่ะ」

 

 

 

เธอที่อายุไม่ถึงสิบขวบตอบกลับ「ค่าาา!」จากนั้นก็โผเข้ากอดเธอราวกับจะจากไป

 

 

 

「เอ๊ะ?」

 

 

 

「พี่สาวฉวยโอกาสค่าาาาาาาาา!」

 

 

 

ลูน่าผ่อนคลายแก้มของเธอยามได้ยินคำพูดแสนอบอุ่น

 

 

 

「น้องสาวเอ๋ยอย่าใส่ร้ายกันจะได้ไหม……」

 

 

 

แม้ว่าอลิซ่าจะเฝ้าดูจากระยะไกลแต่ก็ผิวปากทำไม่รู้ไม่ชี้

 

นางฟ้าผมสีทองลุกขึ้นยืน จากนั้นก็หันไปมองฝูงชนที่มารวมกันด้วยสีหน้าจริงจัง

 

 

 

「ทุกคนมีอิสระที่จะเดินเที่ยวเล่นไปรอบๆแต่อย่างน้อยพวกคุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาทำร้ายเด็กตัวเล็กๆจนได้รับบาดเจ็บ จะทำอะไรกรุณาสังเกตคนรอบตัวคุณด้วยนะคะ」

 

 

 

「「「ครับ/ค่ะ ท่านเทพธิดา!!」」」

 

 

 

จากนั้นทุกคนต่างภาวนา

 

เช่นเดียวกับสมาชิกในทีมของฉัน แต่ทำไมพวกเขาถึงพูดจาสุภาพกันขนาดนี้

 

อีกอย่างหนึ่ง

 

เธอทำได้แต่ยิ้มออกมากับคำชื่นชมที่ทุกคนยกย่องซึ่งก็ไม่รู้ว่าตัวเองทำใจได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ยามที่ถูกเรียกว่าเทพธิดาโดยไม่สะทกสะท้าน

 

 

 

 

 

ลูน่าตอบกลับเสียงเชียร์ของฝูงชนและโบกมือลา จากนั้นก็มุ่งหน้ามาที่ปราสาท

 

ปีกที่งอกขึ้นมาและวงแหวนเหนือศีรษะหายไปและผมของเธอก็กลับเป็นสีเงิน

 

 

 

ยามที่ยืนอยู่หน้าปราสาทช่วยให้พวกเราผ่านเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว

 

ขณะที่ฉันเดินไปตามโถงทางเดิน ฉันเห็นท่านพ่อและท่านแม่ที่มาจากอีกด้านหนึ่ง

 

 

 

「มีอะไรงั้นหรอลูก?」

 

 

 

พ่อถามด้วยความสงสัย ลูน่าจึงรายงานอย่างรวดเร็ว

 

เมื่อได้ยินว่ามีการใช้โปรเจ็คเตอร์และกำลังฉายวิดีโองานเปิดตัวของฉัน ทุกคนต่างหน้าซีดและพยายามเข้าพบราชินี

 

เกมครั้งนี้ลูน่าจะต้องเป็นฝ่ายชนะ

 

 

 

「ท่านพ่อท่านแม่ ตอนนี้หนูมีแผนที่น่าสนใจ หนูจะทำตัวเองให้เป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อต้านจะได้ไหมคะ?」

 

 

 

เมื่อเห็นฝูงชนรวมกันก่อนหน้านี้ลูน่าเลยคิดว่าสถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว

 

ในสายตาของราชินี เธอสนใจแค่การแต่งงานของลูน่ากับเจ้าชาย และดูไม่สนใจเรื่องอื่น

 

อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาของคนทั่วไปที่เห็นวิดีโอนั้น คือพวกเขาไม่ได้สนใจการแต่งงานของราชวงศ์ และส่วนใหญ่ต่างชื่นชมลูน่า

 

 

 

นั่นหมายความว่า

 

ไม่จำเป็นต้องตอบสนองอย่างรุนแรงกับเจ้าชายอาเบลที่ส่งข้อความแสดงความยินดีถึงลูน่า

 

 

 

ดังนั้นสิ่งที่พวกนั้นทำก็คือการทดลองใช้งานโปรเจ็คเตอร์ จากนั้นก็ขอให้ผู้แต่งบทเพลง มาบรรเลงให้เท่านั้น

 

ปัญหาคือเรื่องนี้พวกเรายังไม่มีกฏหมายPDPAเพราะยังไม่มีการร่างกฏหมายแบบนี้ขึ้นมา

 

 

 

กล่าวคือมีสิทธิ์อิสระในการใช้ผลงาน

 

เพราะงั้นพวกเราจำเป็นต้องตรากฏหมายการใช้รูปถ่ายและวิดีโอให้มีบทลงโทษ

 

และเหตุผลหลักก็คือการเอาภาพลูน่ามาใช้เป็นผลประโยชน์ส่วนตัว

 

 

 

เพราะงั้นเลยปิ๊งไอเดียขึ้นมา

 

ฉันเลยคิดว่าถ้าฉันกลายเป็น “ไอดอลประจำเมืองหลวง” ที่สามารถร้อง เล่น  เต้น และแสดงได้ ก็จะถือเป็นบุคคลสาธารณะและจะไม่มีทางแต่งงานเข้ากับราชวงศ์ได้แน่นอน

 

 

 

เท่าที่ลูน่ารู้ เธอไม่อยากจะพิชิตโลกนี้ด้วยการใช้กำลังเพราะมันง่ายเกินไป

 

ไม่น่าแปลกใจเลยที่ลูน่าจะไม่สนใจเหล่าราชวงศ์

 

แต่ว่าถ้าฉันสามารถเป็นไอดอลระดับโลกที่สามารพิชิตโลกใบนี้ได้ขึ้นมาล่ะ มันน่าสนใจมากเลยใช่ไหม?

 

 

 

ด้วยเหตุนี้หากมีสินค้าจำหน่วยสมาคมการค้าลาบรุสด้วยการเอาตัวเองเป็นต้นแบบ พวกเราก็สามารถโฆษณาวิดีโอและทดลองว่าพวกเราสามารถจัดจำหน่วยสิ่งเหล่านี้ได้ไหม

 

ถ้าผลตอบรับนั้นดีขึ้นมากฏหมายคุ้มครองด้านการถ่ายภาพและวิดีโอจะถูกพัฒนาขึ้นโดยอ้างอิงจากข้อมูลเหล่านี้

 

 

 

ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการรุนแรงและเรียกร้องให้ไม่ให้ถ่ายทอดงานวิดีโอของเธอได้

 

เพื่อที่จะก้าวไปข้างหน้าจำเป็นต้องดำเนินแผนการ “เจรจาทางธุรกิจ”ขึ้นในตอนนี้

 

 

 

「ลูน่า จะไม่เป็นไรจริงๆเหรอจ้ะ?」

 

 

 

「แน่นอนค่ะท่านแม่」

 

 

 

ซาราเอล่าที่ได้ฟังเรื่องราวทังหมดก็ยืนยันเป็นครั้งสุดท้าย

 

ลูน่าพยักหน้าตอบรับอย่างรุนแรง เธอไม่คิดจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับบรรดาเจ้าชายแสนปวกเปียกเหล่านั้นหรือเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์

 

ซาราเอล่ามองหน้าจิลล์และพยักหน้ากับคำขอสุดโต่งของลูกสาว

 

 

 

ดังนั้นเป้าหมายของมาร์ควิสของดิแซคมั่นคงขึ้น

 

เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการแต่งงานกับราชวงศ์ พวกเขาจึงส่งเสริมความคิดของเหล่าลูกสาว

 

ส่วนคู่แต่งงานในอนาคตลูน่าคิดว่าปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคต

 

 

 

อย่างไรก็ตาม หากไม่เอาชนะการสแตมปีดของเหล่าสัตว์ประหลาดก็จะยังมาคิดชีวิตหลังจากนั้นไม่ได้

 

 

 

หลังจากพูดคุยแลกเปลี่ยนกันอยู่นานพวกเราก็เดินทางไปหาราชินีเอลิซ่า

 

ณ จุดนี้งานขนย้ายของก็เสร็จสมบูรณ์และเหล่าคนรับใช้ก็กลับไปที่คฤหาสน์

 

[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว

[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว

Score 10
Status: Completed
เรื่องย่อ(ตรงไหนฟะ) เรื่องราวสามัญที่พบเห็นได้ดาษดื่นกับคนธรรมดาทั่วไปที่ตายไปในโลกแฟนตาซีและเกิดใหม่ในโลกใบเดิม ไม่ใช่ไปเกิดใหม่ต่างโลก ก็แค่กลับชาติมาเกิดธรรมดา(ถึงปกติจะไปเกิดใหม่ต่างโลก……)แต่ว่าเกิดใหม่ทั้งทีก็ดันเป็น TS ไปซะแล้ว กลายเป็นสาวน้อยที่อาจจะเติบใหญ่ ――ในอดีต เขาเป็นชายผู้เป็นจ้าวนักสู้ปรมาจารย์ด้านพลังคิ (ศิลปะการต่อสู้ที่ผสมผสานพลังกายและเวทมนตร์เข้าด้วยกัน) ขณะที่ใช้ชีวิตธรรมดาสามัญทั่วไป เขาก็ได้พยายามข้ามแม่น้ำซันสึ แต่ก็ล้มเหลว กลับมาเกิดใหม่ จุดหมายปลายทางที่มาเกิดคือลูกสาวขุนนาง เป็นนางร้ายที่ถูกลิขิตให้หมั้นกับเจ้าชายและโดนเนรเทศ โชคดีภายใต้ความโชคร้ายลูน่าที่เป็นลูกสาวของมาร์ควิสได้มองเห็นอนาคต(สิ่งมีชีวิตลึกลับที่อ้างตัวเองว่ามาจากต่างโลก ได้นำแผ่นเกมจีบสาวจากอีกโลกหนึ่งพร้อมกับเกมคอนโซล) และขณะที่เผชิญหน้ากับอนาคตอันเลวร้ายเธอก็ได้ใช้เทคนิค คิ ที่เชี่ยวชาญมาจากชาติก่อนอย่างเต็มที่ ผม(ฉัน)นั้น TUEEE(โครตแกร่ง)ในโลกแห่งนี้ แต่กลับไม่มีพัฒนาการเลยสักนิด หากรังเกียจใครก็พร้อมที่จะซัดหน้ามัน ดังนั้นไม่ได้มีความกวนประสาทแบบนางร้ายปกติ ตัวละครหลักนั้นเป็นสาวสวย(TS) แต่นางเอกเองก็สวยไม่แพ้กัน เหล่าสาวๆต่างโดนรุมจีบ ตัวละครหลักค่อยๆตกหลุมรักทั้งนางเอกและTS หลงรักเพียงแรกเห็น ทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ด้วย “คิ” พลังเวทย์อะไรนั่นไม่ได้ใช้เลย เป็นเรื่องราวสุดแสนจะวายป่วงที่เต็มไปด้วยเล่ห์กลและใช้พลังในการแก้ปัญหา ทำสิ่งต่างๆที่ชอบ ด้วย การเป็นไอดอล หรือ นักแสดงชั้นเลิศ และในที่สุดก็ถูกเรียกว่าจักรพรรดินี

Recommended Series

Options

not work with dark mode
Reset