[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว 61 – 038:งานเปิดตัวแห่งความร้าวฉาน② จุดพักอาซาเรีย Ⅰ

ตอนที่ 61 - 038:งานเปิดตัวแห่งความร้าวฉาน② จุดพักอาซาเรีย Ⅰ

038:งานเปิดตัวแห่งความร้าวฉาน② จุดพักอาซาเรีย Ⅰ

 

――หนึ่งสัปดาห์หลังจากได้รับจดหมายจากทางราชวงศ์ในแง่คำสั่งให้ไปจัดงานเปิดตัวที่ปราสาท ลูน่าออกเดินทางไปเมืองหลวงเม็กเมลโดยมีท่านแม่ของเธอ พร้อมกับสมาชิกกองกำลังพิทักษ์นางฟ้า ห้าสิบนาย และยังมีสมาชิกอีกห้าสิบคนของอัศวินเฟิร์สไนท์ ซึ่งเป็นกองทัพส่วนตัวของท่านแม่ รวมถึงพ่อครัวและเหล่าเมดติดตามมาด้วย

 

 

 

ความจริงที่ว่ามีอัศวินห้าสิบคนที่ขี่ม้า ในแง่นั้นส่วนของกองทัพลูน่านั้นบินบนท้องฟ้าเลยไม่จำเป็นต้องเอาม้ามาเกินความจำเป็น แต่ว่าพอลงมาที่พื้นดินพวกเราต้องวิ่งให้ทันม้า นี่เลยเป็นส่วนที่ค่อนข้างจะยาก แต่ว่ามันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นเพราะอุปกรณ์ของพวกเรานั้นเบามาก และผู้ที่โดยสารรถม้าเองก็แวะพักบ่อยด้วย

 

ถึงกระนั้นพวกเรามาถึงเมืองหลวงภายในสองวันด้วยความเหนื่อยล้า

 

การนั่งรถม้าสบายๆจากลาทอสไปยังเมืองหลวงใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์

 

หากขี่ม้าทั้งวันก็ใช้เวลาประมาณสามวัน

 

แต่ว่านะฉันเป็นพวกไม่ค่อยชอบจุกจิกเรื่องระยะเวลาในการเดินทางนี่สิ

 

 

 

「เฮ้อ……….วันนี้เองก็แดดแรงเหลือเกิน」

 

 

 

ไม่มีเมฆบนท้องฟ้าสีครามเข้มและแสงแดดก็แผดเผาทุกสิ่งที่อยู่บนพื้น

 

 

ในวันแบบนี้ อยากบินอย่างอิสระภายใต้เงื่อนไขของการฝึกแต่การบินตามรถม้ามันค่อนข้างจะเหนื่อยน่ะ สงสารลูกน้องเหมือนกัน

 

มีรถม้าอยู่สองสามคัน และในรถม้านำมามีท่านแม่ แอนนา และ ฮาเรีย ซึ่งเป็นเมดส่วนตัว และท่านมิน่าและอลิซ่าลูกสาวเคาน์เตสแห่งวินเบล

 

 

 

ในกรณีคราวนี้อลิซ่าไม่ได้มาในฐานะหัวหน้าหน่วยแต่เป็นฐานะลูกสาวของเคาน์เตส

 

หากไม่ทำแบบนั้นเธอได้บินไปรอบๆแน่นอน

 

ดูเหมือนว่าเธอเองก็ไม่อยากแยกจากลูน่าพี่สาวของเธอ ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ดังนั้นเธอเลยนั่งอยู่ในรถม้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

 

 

มากกว่านั้นอลิซ่าเองก็มีงานเปิดตัวในปีนี้เช่นกัน

 

ยิ่งไปกว่านั้นหากเป็นครอบครัวของตระกูลเคาน์เตสก็จะต้องจัดงานของตัวเอง

 

แต่ว่าเคาน์เตสวินเบลก็ต้องหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

 

ท่านแม่ได้แจ้งให้ท่านมิน่าทราบถึงความเป็นไปได้ถึงการแตกตื่นของพวกปีศาจ “การโจมตีลาพลัส”และพวกเราก็ได้ตกลงกันว่าจะไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือย เนื่องจากพวกเราได้เตรียมพร้อมสำหรับการรับมือเหตุการณ์ในอนาคต แทนที่จะสืบสวนข้อเท็จจริง

 

 

 

ท่านมิน่าไม่ใช่แค่นักสู้ที่ชาญฉลาดเท่านั้น แต่ตระกูลของเธอยังเป็นนักรบทั้งครอบครัว แต่ว่ามันสมองนั้นเฉียบแหลมมากกว่าพวกสมองกล้ามของตาแก่แห่งเวลซัค ดังนั้นพวกเราจึงจัดหาอาวุธและกองกำลังทางทหารผ่านท่านหลังเมือง

 

 

 

กล่าวอีกนัยหนึ่งซาราเอล่าและมิน่าใช้ประโยชน์จากการเป็นพี่น้องกันในการจัดงานเลี้ยงเปิดตัวพร้อมกัน

 

สำหรับขุนนางส่วนกลางที่อุทิศตนให้กับการเมืองในพระราชวัง เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกขุนนางแถวชายแดนหรือดินแดนที่ห่างไกลจะให้ความสำคัญกับการปฏิบัติจริงมากกว่าห่วงศักดิ์ศรี

 

 

 

หัวหน้าของดยุคเวลซัคแกรนด์และเคานต์เตสวินเบลเป็นมิตรกันมาเวลานาน

 

เรียกได้ว่าไปมาหาสู่กันบ่อยๆ

 

 

 

รถสองคันที่เหลือเต็มไปด้วยสัมภาระจำนวนมาก รวมทั้งอีกคนบรรทุกเหล่าช่างเย็บผ้าและพ่อครัว

 

 

 

「ท่านซาราเอล่า พวกเราจะถึงอาซาเรียในอีกสักครู่ พวกเราได้จัดเตรียมที่พักไว้แล้ว แต่ได้โปรดระมัดระวังตัวด้วยเพราะเป็นเขตของมาร์ควิสมูเอล」

 

 

 

เมื่อประตูถูกเคาะพวกเราก็เปิดหน้าต่างรถม้าและคุณคาร์ดิสกัปตันอัศวินเฟิร์สไนท์ก็ออกมาจากขบวน

 

เป็นบทสนทนาแปลกๆ และลูน่าก็ไม่เข้าใจ แต่เมื่อสบตากับท่านแม่ที่นั่งอยู่ตรงข้ามเธอ

 

 

 

「มาร์ควิสมูเอล เป็นตระกูลขุนนางที่มีมลทิล ดูเหมือนจะมีส่วนร่วมกับองค์กรน่าสงสัย อย่างไรก็ตามมีข้อเท็จจริงว่าพวกเขาได้แต่งงานกับเจ้าหญิงของราชวงศ์ ดังนั้นตำแหน่งของพวกเขาจะเทียบเท่าดยุค แต่ว่าเนื่องจากท่านเจ้าเมืองที่จะเป็นดยุค ตำแหน่งเลยยังเป็นมาร์ควิสอยู่ สิ่งที่น่างุนงงที่สุดคือราชวงศ์ไม่เคยลงมาตรวจสอบการกระทำของพวกเขาเลย แม้จะมีเรือ่งอื้อฉาวเป็นเวลานาน」

 

 

 

「กล่าวอีกนัยหนึ่งมีการจ่ายสินบน ราชวงศ์เองก็รู้เห็นเป็นใจงั้นเหรอคะ……?」

 

 

 

「ก็ประมาณนั้น เจ้าของปัจจุบัน คือมาร์ควิสลิฟเรย์ มูเอลและมีลูกสาวคนเดียว ซึ่งชื่อว่า ชิล่า มูเอล อายุ สิบสองปี ในปีนี้ กล่าวอีกนัยหนึ่งเป็นพวกที่จะเข้าเรียนพร้อมกันกับพวกลูกๆระวังไว้ด้วยล่ะ」

 

 

 

「ค่ะ ท่านแม่」

 

 

 

ท่านแม่เตือนด้วยความระมัดระวัง

 

 ลูน่าพยักหน้า「อืม」และจดจำชื่อเหล่านั้นไว้ในความทรงจำ

 

 

 

 

 

 ――พวกเรามาถึงอาซาเรียเมืองของมาร์ควิสมูเอลในช่วงกลางวัน

 

พวกเราเข้าเมืองได้เลยโดยไม่ต้องมาทำเรื่องที่หน้าประตูเมือง เนื่องจากเขียนจดหมายมาล่วงหน้าแล้ว

 

มีการเตรียมที่พักไว้ให้พร้อมและหากไปจอดรถม้าคามคำแนะนำ ก็จะเห็นที่พักของชนชั้นสูงและเช็คอินเข้าพร้อมสัมภาระได้เลย

 

เป็นหน้าที่ของเหล่าเมดและบัตเลอร์จะต้องช่วยขนสัมภาระดังนั้นพวกเราเลยรีบกลับเข้าไปในห้องเพื่อไม่ให้รบกวนการทำงานของพวกเขา

 

 

 

「ในที่สุดก็ได้มานอนบนเตียงนุ่มๆสักที」ท่านแม่กล่าว

 

「เอ่อความเหนื่อยล้าทางใจเหมือนจะกำจัดไม่ได้ และก้นของฉันก็ระบบหมดไปแล้วค่ะ」ลูน่าบ่น

 

「ท่านพี่คืนนี้มาตอนเตียงเดียวกันไหมคะ」ทั้งอลิซ่าและคุณมิน่าต่างกล่าวพร้อมกัน

 

「เฮ้อ มิน่า เธอไม่ควรพูดเรื่องแบบนั้นต่อหน้าลูกสาวนะ」

 

「เอ๊ะ มันแปลกงั้นเหรอคะ? หรือท่านพี่รังเกียจดิฉันแล้วงั้นเหรอคะ?」

 

「เฮ้อ……ท่านแม่นี่ไม่ได้เรื่องเลยนะคะ……」อลิซ่าเองนี่ได้นิสัยจากแม่ของเธอมาเต็มๆ

 

「เอ่อ อลิซ่าเธอเองก็ไม่มีหน้าไปบ่นใส่คุณมิน่าหรอกนะ」ลูน่าพูดสวนกลับไป

 

 

 

นี่ไม่ใช่โรงแรมเดียวที่ถูกจอง แต่ยังมีการจองโรงแรมให้เหล่าเมดและพ่อครัวได้พักผ่อนอีกด้วย

 

รวมถึงเหล่าทหารเองก็ได้พักในโรงแรมเช่นกัน คืนนี้อาจจะมีการสังสรรค์ พวกทหารคงจะอารมณ์ดีมากๆ คาดว่าโรงแรมและโรงเตี๊ยมในคืนนี้น่าจะคึกคักน่าดูเลยล่ะ

 

เมื่อพูดถึงโรงอาหารของโรงแรมแล้วมันสะอาดและเงียบสงบมากแถมภายในก็ตกแต่งอย่างดี

 

ดูเหมือนว่าพวกเราจะเป็นแขกเพียงกลุ่มเดียวในวันนี้ และไม่พบเจอใครอีก ดูเหมือนเหมาเป็นการส่วนตัวเลย

 

 

 

(แต่มันดูไม่ค่อยบาลานซ์สักเท่าไหร่เลยนะ……)

 

 

 

สภาพแวดล้อมอุดมสมบูรณ์ แต่คุณภาพของอาหารกลับห่วยแตก หรืออาจเป็นเพราะพวกเรากินอาหารชั้นสูงกันจนชิน พวกเครื่องปรุงรสเองก็ไม่ได้มาตราฐานที่ลูน่าคาดหวัง และในที่สุดเธอก็ทนทานต่อไปไม่ได้

 

 

 

จากมุมมองของชนชั้นสูงแล้ว เป็นเรื่องปกติที่จะทานอาหารไม่หมด และจากมุมมองคนที่เสิร์ฟ จะเสิร์ฟในกรณีเผื่อเอาไว้ให้ถูกทิ้งไว้อยู่แล้ว แต่ก็คงเจ็บปวดไม่น้อยที่มีอาหารมากกว่าครึ่งเหลือทิ้งไว้

 

 

 

「พี่สาว วันนี้ทานน้อยเกินไปรึเปล่าคะ」

 

 

 

ในทางตรงกันข้ามอลิซ่าดูทานอย่างอร่อยและเธอกินเยอะมากจนกลัวเธอจะอ้วนจนพุงกางเลยล่ะ

 

 

 

「เอ่อ ไม่หรอก แต่ดูเหมือนเธอจะทานเยอะเป็นพิเศษเลยนะ?」

 

 

 

หมายความว่ายังไงเหรอคะ? ราวกับว่าเธอจะพูดแบบนั้น

 

 ลูน่าเองก็นึกอะไรบางอย่างออกแล้วก็「อ่า นั่นสินะ」

 

 

 

อาบน้ำหลังทานอาหารเสร็จ

 

เป็นช่วงเวลาแห่งสกินชิพ

 

ตอนนี้ฉันคิดว่าคุณมิน่าและอลิซ่ามีผิวที่หยาบกร้าน โดยเฉพาะคุณมิน่าที่หน้าอกใหญ่เป็นพิเศษ

 

ในทางกลับกันซาราเอล่าและลูน่ามีผิวที่ขาวเนียน มันวาวและรูปร่างค่อนข้างเพรียว

 

ลูน่าสงสัยว่านี่เป็นปัญหาทางสายเลือดงั้นเหรอ ทำไมร่างกายของสองครอบครัวได้ต่างกันถึงขนาดนี้

 

 

 

「……เอ่อพอได้มาเห็นอะไรแบบนี้แล้วก็สมกับเป็นแม่ลูกกันดีนะ」

 

 

 

「อืม ตอนนี้ฉันเองก็คิดเช่นเดียวกันค่ะ」

 

 

 

ลูน่าและท่านแม่เองก็พูดคุยเห็นพ้องต้องกัน

 

คุณมิน่านั้นกอดแขนของท่านแม่ และอลิซ่าก็มาเกาะติดลูน่า

 

ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ

 

 

 

「ท้ายที่สุดแล้วแนวพรรคร่วมก็ล้มเหลว」

 

 

 

หลังจากอาบน้ำเสร็จพวกเราก็ไปดื่มนมเย็นที่ฉันเสนอให้ดื่มหลังอาบน้ำ

 

ทั้งสี่กลับเข้าห้องและเข้านอนโดยแต่งตัวด้วยชุดนอน

 

 

 

 

 

 ――ซูดงงงงงงงงงงง!

 

 

 

ตอนนั้นเองในเวลากลางคืน

 

ลูน่าซึ่งนอนอยู่กับอลิซ่าลืมตาขึ้นมาทันทีเพราะเสียง

 

ดูเหมือนว่าจะมีเสียงระเบิดจากที่ไหนสักแห่ง

 

ดวงตาของเธอเบิกกว้างและทั้งสองก็จ้องมองกัน

 

 

 

「พี่สาว นี่มัน」

 

 

 

「อ่า น่าจะไม่ใช่เรื่องเล่นๆแล้วล่ะ」

 

 

 

พวกเรากระซิบกันก่อนจะลุกออกจากเตียง

 

พวกเราสวมชุดเตรียมพร้อมออกศึก

 

ลูน่าสวมชุดเบลเซอร์สีขาวของเธอ

 

อลิซ่าเป็นชุดสีเขียวที่เคลื่อนไหวได้ง่าย

 

ใส่เกราะแขนแล้วหยิบลูกตะกั่วออกมาจากกระเป๋าที่ติดอยู่กับเข็มขัดคาดเอว

 

ใช้เวลาประมาณสามนาที

 

หลังจากนั้นพวกเราออกจากห้องและพบกับท่านแม่ที่กำลังต่อสู้อยู่ที่โถงทางเดิน

 

 

 

「โอ้ววว พวกเธอมาช้าเกินไปหน่อยนะ?」

 

 

 

「อย่ามาพูดบ้าๆน่า สถานการณ์น่าสนใจแบบนี้ใครจะปล่อยให้หลุดรอดไปได้กันคะ」

 

 

 

เป็นบทสนทนาระหว่างท่านแม่กับลูน่า

 

ซาราเอล่ามีดาบคาดอยู่ที่เอวและคุณมิน่าเองก็สวมถุงมือพร้อมกับกำหมัดแน่น

 

ในพื้นที่จำกัดแบบนี้อาวุธประเภทกำปั้นหรือมีดจะได้ผลดี

 

ขณะที่ฉันรีบวิ่งผ่านทางเดินเพื่อค้นหาแหล่งที่มาของเสียงก่อนหน้านี้ฉันเจอร่างสีดำที่เคลื่อนตัวออกจากหน้าต่างของโรงแรม

 

 

 

「เข้าใจแล้ว อย่างงี้นี่เอง พวกนั้นก็ช่างสุภาพเหลือเกินนะที่มาส่งสัญญาณว่าจะจู่โจมกลางดึก」

 

 

 

ลูน่าพึมพำพร้อมกับมองบานหน้าต่างที่แตกออก

 

ภายใต้แสงจันทร์ลางๆมีแขนขาสีดำที่ปกคลุมไปด้วยเงามืดถูกเผยให้เห็น

 

ดูเหมือนพวกนั้นจะใช้อาวุธประเภทกริซที่ย้อมด้วยสีดำ เป็นมือสังหารสินะ

 

 

 

「ช่างกล้าเข้ามาโจมตีทั้งๆที่รู้ว่าพวกเราอยู่ที่นี่ คิดจะลอบสังหารแขกคนสำคัญรึอย่างไร」

 

 

 

จากมุมตาของเธอ เธอเห็นท่านแม่จับดาบที่เอวของเธอ ลูน่าหยิบลูกตะกั่วออกมาจากกระเป๋าแล้วสะบัดด้วยนิ้วของเธอ

 

 

 

 ――วิชาสำนักมังกรซากุระ กระสุนหลังมือ

 

 

 

ตูมมมมมมมมมมม

 

ด้วยเพราะแบบนั้นเองชายชุดดำคนหนึ่งทรุดตัวลงกับพื้นโดยที่สมองถูกทำลาย

 

ศัตรูหยุดเคลื่อนไหว บางทีเพราะตกใจ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าลูน่าจะหยุดโจมตี

 

 

 

「อย่าคิดว่าจะได้กลับไปแบบมีชีวิตเชียวล่ะ มาหาเรื่องเองก็เตรียมตัวตายไว้ได้เลย?」

 

 

 

ลูน่ายิ้มออกมาด้วยความชั่วร้าย

 

กลุ่มชายชุดดำที่ซึ่งมาเรียจะเรียกว่า “นินจา” เสียชีวิตภายในชั่วพริบตา

 

[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว

[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว

Score 10
Status: Completed
เรื่องย่อ(ตรงไหนฟะ) เรื่องราวสามัญที่พบเห็นได้ดาษดื่นกับคนธรรมดาทั่วไปที่ตายไปในโลกแฟนตาซีและเกิดใหม่ในโลกใบเดิม ไม่ใช่ไปเกิดใหม่ต่างโลก ก็แค่กลับชาติมาเกิดธรรมดา(ถึงปกติจะไปเกิดใหม่ต่างโลก……)แต่ว่าเกิดใหม่ทั้งทีก็ดันเป็น TS ไปซะแล้ว กลายเป็นสาวน้อยที่อาจจะเติบใหญ่ ――ในอดีต เขาเป็นชายผู้เป็นจ้าวนักสู้ปรมาจารย์ด้านพลังคิ (ศิลปะการต่อสู้ที่ผสมผสานพลังกายและเวทมนตร์เข้าด้วยกัน) ขณะที่ใช้ชีวิตธรรมดาสามัญทั่วไป เขาก็ได้พยายามข้ามแม่น้ำซันสึ แต่ก็ล้มเหลว กลับมาเกิดใหม่ จุดหมายปลายทางที่มาเกิดคือลูกสาวขุนนาง เป็นนางร้ายที่ถูกลิขิตให้หมั้นกับเจ้าชายและโดนเนรเทศ โชคดีภายใต้ความโชคร้ายลูน่าที่เป็นลูกสาวของมาร์ควิสได้มองเห็นอนาคต(สิ่งมีชีวิตลึกลับที่อ้างตัวเองว่ามาจากต่างโลก ได้นำแผ่นเกมจีบสาวจากอีกโลกหนึ่งพร้อมกับเกมคอนโซล) และขณะที่เผชิญหน้ากับอนาคตอันเลวร้ายเธอก็ได้ใช้เทคนิค คิ ที่เชี่ยวชาญมาจากชาติก่อนอย่างเต็มที่ ผม(ฉัน)นั้น TUEEE(โครตแกร่ง)ในโลกแห่งนี้ แต่กลับไม่มีพัฒนาการเลยสักนิด หากรังเกียจใครก็พร้อมที่จะซัดหน้ามัน ดังนั้นไม่ได้มีความกวนประสาทแบบนางร้ายปกติ ตัวละครหลักนั้นเป็นสาวสวย(TS) แต่นางเอกเองก็สวยไม่แพ้กัน เหล่าสาวๆต่างโดนรุมจีบ ตัวละครหลักค่อยๆตกหลุมรักทั้งนางเอกและTS หลงรักเพียงแรกเห็น ทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ด้วย “คิ” พลังเวทย์อะไรนั่นไม่ได้ใช้เลย เป็นเรื่องราวสุดแสนจะวายป่วงที่เต็มไปด้วยเล่ห์กลและใช้พลังในการแก้ปัญหา ทำสิ่งต่างๆที่ชอบ ด้วย การเป็นไอดอล หรือ นักแสดงชั้นเลิศ และในที่สุดก็ถูกเรียกว่าจักรพรรดินี

Options

not work with dark mode
Reset