036:แผนการฝึกนักบุญ⑬ เต้นรำภายใต้แสงจันทร์
พวกเรากำลังกลับไปที่คฤหาสน์ของมาร์ควิส ในขณะที่ท่านพี่คอยดูแลฉัน
ท่านพี่นั้นไหล่แคบกว่าฉันเล็กน้อย และฉันคิดว่านั่นเป็นเพราะร่างกายที่ดูบอบบางของเธอ
เธอดูเหมือนเจ้าหญิงจริงๆ ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน
อย่างไรก็ตาม เมื่อการต่อสู้ได้เริ่มขึ้น เธอก็วิ่งออกไปด้วยความดีใจและเป็นคนแรกที่เข้าบดขยี้ศัตรูอย่างมีความสุข แม้แต่น้ำเสียงและท่าทางก็เปลี่ยนไป
『มันกลับกันเลยต่างหากภาพลักษณ์ที่เรียบร้อยเป็นเพียงเปลือกนอก แต่ภายในนั้นหยาบกระด้าง』
นี่คือคำตอบที่ฉันถามเมื่อไม่กี่วันก่อน
ไม่ใช่ว่าเธอมีบุคลิกสองประเภทหรืออาการป่วยทางจิต แต่เป็นเพียงว่าเธอปรับเปลี่ยนอารมณ์ไปตามสถานการณ์
『เรื่องแบบนี้มันกว้างใหญ่กว่าที่คิดนะรู้ไหม ดังนั้นน่ะควรวางมาดของตัวเองไว้ในแต่ละโหมดจะดีกว่านะ?』
หากฟังจากความหมายที่เธอพูดแล้ว อัตราการรอดชีวิตจะสูงขึ้น เพราะการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวจะช่วยพลิกสถานการณ์ในสนามรบ ในทางกลับกันหากมัวแต่คีปลุคอยู่ตลอดเวลา มันจะทำให้ดูเป็นคนน่าเชื่อถือได้ยาก
ดังนั้นควรจะปรับเปลี่ยนอารมณ์ไปตามสถานการณ์
ยังกล่าวอีกว่าการควบคุมตนเองนั้นช่วยในการฝึกฝนได้ดี และจะมีประสิทธิภาพอย่างยิ่งเมื่อเจอสถานการณ์กดดันที่ต้องปกปิดธาตุแท้
อย่างที่คาดไว้ท่านพี่นี่สุดยอดจริงๆ
เธอเป็นลูกสาวของมาร์ควิสและในขณะเดียวกันก็มีสายเลือดของดยุคสูงศักดิ์ซ่อนเอาไว้อยู่
ไม่แปลกใจเลยหากเธอจะได้ตำแหน่งเจ้าหญิงมาครอบครอง
แต่นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการฝึกเหล่านี้ถึงจำเป็น
มันทำให้ตระหนักได้ว่าการเป็นขุนนางที่ต่ำต้อยไม่จำเป็นต้องทำตัวสมบูรณ์แบบเสมอไป และฉันอยู่ในตำแหน่งที่ห่างไกลความกังวลหากเทียบกับท่านพี่ ฉันไม่จำเป็นต้องฝึกฝีปากอันคมคายไว้ต่อสู้กับศัตรูทางการเมือง
――เมื่ออาหารเย็นสิ้นสุดลง ท่านพี่ก็มาหาฉันที่ห้อง
「พรุ่งนี้ฉันต้องกลับบ้านแล้วค่ะ ดังนั้นก็เลยอยากจะใช้เวลาอยู่กับท่านพี่ให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้」
ฉันกับท่านพี่นั่งข้างกันบนเตียงด้วยรอยยิ้ม
「อ่า เอาล่ะ มาเริ่มกันเถอะ」
「ค่ะ……」
ขณะที่ฉันพูดเช่นนั้นฉันก็ยื่นกระดาษสองสามแผ่นที่จดไว้ให้เธอ
มันเป็นเนื้อหาโดยรวมของ “ฟ้าคราม” ทั้งห้าซีรีย์ และแม้ว่าฉันจะเขียนได้แค่คร่าวๆ เนื่องจากมีเวลาจำกัด แต่ฉันก็อธิบายเนื้อหาสำคัญของแต่ละซีรีย์ได้อย่างครบถ้วน รวมถึงตัวละครหลัก
ฉันนั้นเป็นคนญี่ปุ่นสมัยใหม่ที่กลับชาติมาเกิด และฉันเป็นพวกติดเกมจีบหนุ่ม ดังนั้นฉันเลยรู้ว่าต้องทำอะไรยังไง ถึงจะผ่านตรงนั้นไปได้
ถึงแม้ว่าท่านพี่จะบอกว่าตนเองคือพวกเดียวกัน แต่ฉันคิดว่าเธอต่างจากฉันโดยสิ้นเชิง
ดังนั้นโดยธรรมชาติเธอไม่ควรจะรู้เรื่องของเกมจีบหนุ่ม ดังนั้นเธอไม่น่าจะหลีกเลี่ยงหายนะที่จะเผชิญในอนาคตได้ฉันคิดแบบนั้น
ฉันก็เลยตัดสินใจจะปกป้องท่านพี่
ความสามารถในการต่อสู้ของฉันนั้นต่ำที่สุด และในแง่ของมันสมอง ก็ไม่ได้ดีเลิศ
ถึงแม้จะเรียกตัวเองว่าเป็นขุนนางได้ แต่เนื่องจากมียศต่ำที่สุด และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเคลื่อนไหวทางการเมือง
แต่ฉันมีความรู้ของเกม
ในโลกที่คล้ายกับเกมที่ฉันเคยเล่นและแน่ใจว่าเหตุการณ์ทุกอย่างจะเกิดขึ้นตามรูทต่างๆหากเงื่อนไขนั้นเพียงพอ
ดังนั้นฉันเลยแนะนำเธอไปว่าจะเป็นการดีกว่าที่ไม่ส่งต่อความรู้เหล่านี้ให้คนอื่น
หากรู้ล่วงหน้าว่าเหตุการณ์อะไรจะเกิดขึ้น ท่านพี่ก็จะสามารถเดินหน้าได้มากกว่าหนึ่งถึงสองเหตุการณ์ในคราวเดียวและหากใช้อำนาจก็สามารถทำลายกำแพงหายนะแทนที่จะมานั่งไล่ลื้อมันออก
ฉันอยากจะรับใช้ท่านพี่
ฉันกำลังคิดที่จะมอบเครื่องบรรณาการให้ท่านพี่เพื่อที่ฉันจะได้อยู่กับเธอต่อไปนานๆ
「ฉันไม่ค่อยมีเวลามากนักค่ะ ดังนั้นฉันจะเข้าประเด็นหลักๆเลยนะคะ เมื่อฉันกลับไปถึงที่บ้าน ฉันจะเขียน “หนังสือทำนายอนาคต” ให้เสร็จและจะนำมันมาในครั้งถัดไป!」
「อืม ขอบคุณนะมาเรีย」
เพียงแค่ถูกเรียกฉันก็รู้สึกมีความสุขมาก
แต่ว่ามันก็น่าเศร้าในเวลาเดียวกัน
หัวใจของฉันเต้นแรงและฉันคิดถึงแต่ท่านพี่
「ฉันจะอ่านเจ้านี่อย่างละเอียดในภายหลัง แต่มาเรีย ช่วยมาด้วยกันสักครู่จะได้ไหม?」
「ค่ะ」
ฉันตอบกลับท่านพี่ยิ้มด้วยความซุกซน
เพราะท่านพี่พูดว่า “ช่วยมาด้วยกันสักครู่” ฉันเลยรู้ว่าเรื่องที่คุยมันจริงจังมากแค่ไหน และไม่มีเหตุผลให้ปฏิเสธ
「คืนนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงและแสงของดวงจันทร์เองก็สาดส่อง ฉันจึงอยากจะเต้นสักหน่อย」
「ฉันยินดีจะเป็นคู่เต้นรำค่ะ ท่านพี่♡」
มือที่อ่อนโยนโอบเอวฉัน
ฉันตัวสั่นด้วยความยินดีจนความคิดต่างๆมลายหายไป
ฉันลุกขึ้นจากเตียงตามคำเชิญชวนจากนั้นพวกเราก็เริ่มเต้นรำภายใต้แสงสลัวของห้อง
แสงจันทร์ส่องเข้ามาทางหน้าต่าง
อย่างไรก็ตามภาพตรงหน้ามันช่างดูงดงาม
ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องเต้นยังไงขณะที่ถูกชวน
แต่ว่าเธอนั้นเป็นฝ่ายนำฉันและมอบความสุขให้กับฉัน
(ท่านพี่รักที่สุด……♡)
มือของฉันอยู่บนไหล่ของเธอและมือของเธอจับสะโพกของฉัน
พวกเราใช้มืออีกข้างจับมือกัน ฉันรู้สึกมีความสุขอย่างมากราวกับจะหลับไป
「มาเรียน้องสาวที่น่ารักของฉัน…….มาอยู่เคียงข้างฉันตลอดไปเถอะนะ」
「ค่ะ ท่านพี่ ฉันจะอยู่เคียงข้างท่านพี่ตลอดไป♡」
ในห้องที่พวกเราเต้นเป็นวงกลม
แสงจันทร์ส่องทะลุความมืดมิดแสดงให้เห็นสองเราท่ามกลางแสงเงา
มือของฉันซึ่งควรจะอยู่บนไหล่ของเธอโอบรอบหลังเล็กๆนั่นก่อนที่ฉันจะรู้ตัว
เสียงหัวใจเต้นอย่างรุนแรงเมื่อเราได้กอดกัน
แก้มของเธอนั้นร้อนผ่าวและลมหายใจอันอ่อนหวาน
บนพรมภายในห้อง พวกเราย่ำเท้าไปมา
ฉันกำลังจะละลายไปกับความสุขครั้งนี้
ในที่สุดพวกเราก็เต้นเสร็จแล้วมือของฉันก็โอบรอบเอวเธอท่านพี่เองก็มาจูบที่ซอกคอฉัน
「อร๊างงงงงงง……♡」
「มาเรีย เธอน่ะเป็นเด็กดี」
「ค่ะ ท่านพี่♡」
ขณะที่ฉันกระพริบตาด้วยความประหลาดใจ ความอบอุ่นก็ได้ล่องลอยไป
ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกว่าไม่ควรเป็นเช่นนี้ จึงเข้าไปกอดเธออีกรอบ
กอดเธออย่างแนบแน่น พวกเราถ่ายทอดความรักไม่ใช่ด้วยคำพูด แต่ด้วยความเร่าร้อนภายในกาย
「――หลับฝันดีนะ มาเรีย」
「ค่ะ ท่านพี่ ราตรีสวัสดิ์」
หลังจากเพลิดเพลินกับความอบอุ่นของร่างกาย พวกเราก็ปล่อยกัน
หลังจากพูดคุยกันเล็กน้อยพวกเราก็ต่างแยกกัน
สำหรับฉัน ฉันอยากจะนอนกอดท่านพี่ทั้งคืน แต่ฉันไม่สามารถบังคับฝืนใจเธอได้ ดังนั้นเลยได้แต่นอนหลับลงไปท่ามกลางความเร่าร้อนที่ยังคุกกรุ่น
――ในตอนเช้า ขณะที่ฉันแต่งตัวเสร็จแล้ว รถม้าก็ปรากฏขึ้นที่ทางเข้าคฤหาสน์
แน่นอนว่าคือรถม้าของตระกูลมาร์ควิส
เมื่อฉันขึ้นไปบนรถม้าก็ส่งสายตาเศร้าๆไปยังท่านพี่ที่มาส่งฉฉันและโบกมือด้วยรอยยิ้ม
ครั้งต่อไปที่จะได้พบกับท่านพี่ลูน่า น่าจะเป็นงานเปิดตัวของเธอ
เป็นคำสั่งของท่านพี่ ว่าให้ฉันไปหัดเรียนรู้เรื่องมารยาทของขุนนางมาให้มากที่สุด
「ฉันอยากจะอยู่เคียงข้างเธอ แต่ฉันยังมีมารยาทไม่มากพอ ในสังคมขุนนางการมีมารยาทเป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้ ดังนั้น ฉันจะไปฝึกทุกอย่างจนชำนาญเพื่อที่จะเคียงข้างท่านพี่ได้อีกครั้ง」
ฉันพยักหน้ากับคำพูดเหล่านั้น
ต้องปรับปรุงตัวเองเพื่อไม่ให้ขายขี้หน้าใคร
ด้วยความมุ่งมั่นเหล่านั้น ฉันอดทนต่อความทรมานที่ต้องจากลากับท่านพี่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
TN: ขอบคุณสำหรับการโดเนทมากๆครับช่วยต่อชีวิตผมไปจนถึงสิ้นเดือนจริงๆ ขอบคุณจากทุกยอดโดเนทครับ T_T