[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว 54 – 031:แผนการฝึกนักบุญ⑧ เขาวงกตแห่งความมืดมน บทแรก

ตอนที่ 54 - 031:แผนการฝึกนักบุญ⑧ เขาวงกตแห่งความมืดมน บทแรก

031:แผนการฝึกนักบุญ⑧ เขาวงกตแห่งความมืดมน บทแรก

 

「――อืมคิดว่าชื่อดันเจี้ยนอย่างเป็นทางการก็คือ “เขาวงกตแห่งความมืดมน” ค่ะ」

 

 

 

ระหว่างทางไปกลับพวกเราได้พูดคุยเนื้อหาเกี่ยวกับ “ฟ้าคราม” ดังนั้นฉันก็เลยบอกชื่อของดันเจี้ยนให้เธอฟัง เพราะที่นี่ถูกเรียกว่า “ถ้ำแห่งการทดลองที่สอง”

 

จากนั้นท่านพี่ก็มองมาที่ฉันและถามว่า「พอจะรู้รายละเอียดอย่างอื่นนอกจากชื่อไหม?」

 

ฉันก็เลยตอบกลับไปว่า「ในเกมฉันสามารถผ่านมันไปได้อย่างง่ายดายดังนั้นก็เลยค่อนข้างจะจำเนื้อหาส่วนใหญ่ได้ บางทีอาจจะมีผิดพลาดไปบ้างในกรณี」

 

 

 

「ดันเจี้ยนนี้มีทั้งหมดสามชั้น และมอนสเตอร์ที่โผล่มาส่วนใหญ่จะเป็นสเกลตันและซอมบี้ซึ่งเป็นพวกประเภทอันเดด และด้านในสุดจะมีอัศวินหัวขาดดูลาฮาลเป็นบอสของดันเจี้ยนแห่งนี้ค่ะ」

 

 

 

「……ดูลาฮาล?」

 

 

 

ท่านพี่มีปฏิกิริยาเล็กน้อย และคิดอะไรบางอย่าง

 

เมื่อฉันกำลังจะถามเธอว่ามีอะไร เธอก็พูดออกมา

 

 

 

「ช่างน่าแปลก ปกติดูลาฮาลก็ถูกจัดอยู่ในหมวดของซอมบี้ แต่ไม่น่าจะเป็นถึงระดับบอสได้…….และเหนือสิ่งอื่นใด “เขา”」

 

 

 

เธอพูดอะไรบางอย่างที่เหมือนจะสำคัญและก็หยุดลง

 

 「เหนือสิ่งอื่นใดเขา」นั่นมันคืออะไรกันแน่?

 

ฉันอยากรู้จริงๆ

 

 

 

「อืม ไว้ไปเห็นด้วยตาเดี๋ยวจะรู้เองแหละ กับสิ่งที่ฉันเพิ่งพูดเธอจะ “เห็นได้อย่างชัดเจน” ว่ามันคืออะไร?」

 

 

 

เธอพูดเป็นนัยยะ

 

ท่านพี่พูดคำที่ค่อนข้างมีความหมายและก็ปัดตกมันไป

 

 

 

「เอ่อถ้างั้นจะบอกรายละเอียดเพิ่มเติมนะคะ……..มันมีที่ไหนสักแห่งในชั้นสอง มันมีกับดักน่ารังเกียจสำหรับพวกเราอยู่ด้วยนั่นก็คือบังคับเคลื่อนย้ายซึ่งมันจะพาเราไปที่มอนสเตอร์เฮาท์ หลังจากพวกเราผ่านมันมาได้พวกเราจะเจอกับดูลาฮาล ถ้าไปด้วยเส้นทางนี้จะมีไอเทมแรร์ตกด้วยนะคะ」

 

 

 

「อืม เข้าใจแล้ว」

 

 

 

「แต่ถ้าเอาชัวร์แนะนำให้หลีกเลี่ยงกับดักและใช้กลยุทธ์สักหน่อยพวกเราก็จะผ่านไปได้อย่างรวดเร็วค่ะ」

 

 

 

「พวกเราจะเสี่ยงด้วยการเคลียร์เส้นทางที่ยากลำบากเพื่อได้ไอเทมแรร์หรือเลือกเส้นทางที่ปลอดภัย นั่นคือบททดสอบสินะ」

 

 

 

「เอ่อก็คงจะแบบนั้นมั้งคะ……」

 

 

 

ฉันเองก็ไม่ค่อยรู้หรอก

 

อาจจะไม่สามารถเรียกได้ว่าการทดสอบ แต่ถ้าเตรียมตัวให้ถูกต้อง ก็สามารถพิชิตแบบไหนก็ได้

 

 

 

「มาเรีย ฉันจะบอกสิ่งหนึ่งให้เธอจำเอาไว้นะ ดันเจี้ยนนั้นมีสองประเภทใหญ่ๆ หนึ่งคือออกแบบมาให้พิชิตได้ตั้งแต่เริ่ม ในขณะที่บางแห่งไม่สามารถทำได้ และบางแห่งถูกสร้างขึ้นโดยไม่สามารถเคลียร์ได้เพราะงั้นดันเจี้ยนที่ไม่สามารถเคลียร์ได้นั้นจะต่างกันไปโดยสิ้นเชิง เป็นเรื่องแน่นอนว่าผู้ที่เข้ามาพิชิตจะต้องโดนกับดักอันแสนชั่วร้ายยามที่เราเหนื่อยล้าและในขณะที่มอนสเตอร์สุดแกร่งกำลังเดินเตร่ไปรอบๆ ซึ่งมันจะถูกเตรียมไว้ตั้งแต่ชั้นบนๆ มีกับดักอีกมากมาย อย่างเช่น เมื่อเปิดหีบสมบัติแล้วกำแพงห้องจะพังทลายลงทันที หรือ หินเวทย์ที่จะเข้าไปปลูกถ่ายในร่างกายของนักผจญภัยที่ถูกจับได้และทิ้งไว้ในห้องด้านท้ายโดยที่ร่างกายครึ่งหนึ่งกลายเป็นมอนสเตอร์และจะระเบิดทันที เมื่อบอสถูกกำจัด แต่ส่วนใหญ่ก็มีดันเจี้ยนที่เฝ้ารอผู้ที่มาท้าทายตั้งแต่แรกแล้ว」

 

 

 

อืม ราวกับวางยาพิษไว้ก่อนแล้ว

 

อย่างน้อยก็ไม่คิดว่ามีดันเจี้ยนแบบนั้นใน “ฟ้าคราม”

 

แต่ฉันแน่ใจว่าท่านพี่มีอะไรมากกว่านั้นที่จะบอกฉัน

 

 

 

「”เขาวงกตแห่งความมืดมน” ให้บรรยากาศที่แปลกประหลาดไปเล็กน้อย สถานการณ์อาจจะต่างจากที่เธอเคยเล่นมาก็ได้ ดังนั้นอย่าลดการระมัดระวังตัวเด็ดขาด」

 

 

 

「ค่ะ ท่านพี่」

 

 

 

ฉันเองก็ต้องเตรียมตัวตามที่ท่านพี่บอก

 

เอ่อ แต่ว่าท่านพี่ฉันน่ารักเกินไป ช่วยรับฉันไปเป็นภรรยาได้ไหมคะ?

 

ก็เพราะแบบนั้นเอง……。

 

 

 

 

 

เมื่อพวกเรากลับมารวมกลุ่ม ฉันก็ก้าวเข้าไปในถ้ำด้วยความกังวล

 

มีแนวหน้าสามคนและหลังอยู่สี่คน นักผจญภัยทั้งหมดเจ็ดคนเดินผ่านชั้นหนึ่งไปยังชั้นสองได้อย่างง่ายดาย

 

ภายในถ้ำมีแสงสลัว แต่ไม่มากจนพอจะให้เห็นทั้งหมด

 

เห็นได้ชัดว่าพื้นผิวผนังเปิดโล่งจะเปล่งแสงและมีรูปร่างที่ทำให้เห็นได้ชัด

 

 

 

มากกว่านั้น คิดว่าน่าจะเป็นถ้ำตามธรรมชาติและถูกดันแปลงขึ้นมาเพื่อให้คนเข้ามาในภายหลังจนสามารถใช้เป็นดันเจี้ยนได้

 

เพราะมันมีแผ่นป้ายติดอยู่หน้าทางเข้าเลยทำให้คิดแบบนั้น

 

 

 

ศัตรูส่วนใหญ่ก็เป็นจำพวกอันเดด

 

โดยปกติแล้วพวกอันเดดพวกเราจะต้องเตรียมอุปกรณ์รับมือเฉพาะทาง แต่ตอนนี้ไม่ใช่ปัญหา

 

 

 

เห็นได้ชัดว่าพวกมันทนทายาทต่อการโจมตีทางกายภาพ แต่มันอ่อนแอกับการโจมตีที่ผสมไปด้วยพลังปราณและสามารถบดขยี้มันได้อย่างง่ายดาย

 

 

 

「พลังปราณนั้นมีความคล้ายคลึงกับแสงอาทิตย์ ดังนั้นการโจมตีด้วยพลังปราณจึงมีประสิทธิภาพพอๆกับการใช้เวทย์ธาตุศักดิ์สิทธิ์ หากคิดในแง่ของความคุ้มค่า ก็น่าจะเป็นการที่สามารถใช้งานได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นพวกนับถือศาสนาหรือนักบวช」

 

 

 

ด้วยพื้นที่ปิดและจำกัด ทั้งสองฝ่ายไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำให้ระยะห่างแคบลง และด้วยเหตุนี้พวกเราแทบจะเดินแถวเรียงหนึ่ง

 

ขณะที่เธออธิบาย ท่านพี่ก็บดขยี้ซอมบี้ด้วยหมัดของเธอ

 

 

 

「แต่ว่าหากพวกอันเดดโดนเวทย์ศักดิ์สิทธิ์มันจะสลายกลายเป็นเถ้าถ่าน ดังนั้นมันเลยช่วยดับกลิ่นเน่าเหม็นของพวกมันได้ แต่กรณีของพลังปราณก็อย่างที่เห็นๆกันไม่สามารถทำลายมันเป็นเถ่าถ่านได้ รู้งี้เตรียมพวกของดับกลิ่นมาก็ดี」

 

 

 

เธอหันมามองฉันที่อยู่ทางด้านหลัง

 

ฉันประสานมือเพื่อกล่าวขอบคุณเธอ

 

 

 

「โอ้ววว ถ้างั้นหลังจบภารกิจนี้พวกเราไปแช่บ่อน้ำพุร้อนกันดีไหมคะ เดี๋ยวฉันถูหลังให้พี่สาวเองค่ะ♡」

 

 

 

ท่านอลิซ่าเข้าหาท่านพี่เหมือนกับลูกสุนัข

 

กลิ่นมันต้องเน่าเหม็นมากแน่ๆหลังจากฆ่าซอมบี้ แต่ฉันไม่สามารถบอกได้ว่าประสาทสัมผัสด้านการรับกลิ่นของฉันมันเป็นอะไรไปหรือเป็นเพราะความรักที่มากล้นทำให้ร่างกายไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว

 

แต่ว่าแน่นอนพอฉันเห็นแบบนั้นเองก็อิจฉา

 

 

 

「ท่านพี่ ฉันเองก็จะช่วยด้วยค่ะ!」

 

 

 

พวกเราลงมาที่ชั้นสองซึ่งมันง่ายกว่าที่คิดและมันมีทางเข้ากลางที่มีถนนคดเขี้ยวและไม่มีประตู แต่ขนาดของมันใหญ่เท่าห้องๆหนึ่งฉันอดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา

 

 

 

「ดูเหมือนว่ามัน」

 

 

 

「มีอะไรงั้นเหรอ?」

 

 

 

「พวกเราจะต้องเข้าไปในกับดักเคลื่อนย้ายและเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์เฮาท์ค่ะ」

 

 

 

「เข้าใจแล้ว」

 

 

 

ท่านอลิซ่าเองก็พยักหน้าเห็นด้วย

 

เอ่อว่าแต่เธอรู้ได้ยังไง ไปได้ยินมาจากไหน

 

แต่ว่าเธอก็ไม่ได้สนใจที่จะถามมันด้วยซ้ำ

 

เหตุผลก็คือเธอคิดว่ามันไม่จำเป็น

 

ฉันรู้เพราะฉันเองก็เป็นพวกประเภทเดียวกับเธอ ท่านอลิซ่านั้นเชื่อในคำพูดของท่านพี่อย่างสนิทใจโดยไม่มีข้อกังขา

 

ใช่ นี่มันก็เหมือนกับความรักบังตา เห็นกงจักรเป็นดอกบัว

 

ฉันไม่รู้ว่าเธอเป็นแบบนี้ตั้งแต่เริ่มรึเปล่า และไม่รู้ว่าเธอศรัทธาในตัวท่านพี่มากแค่ไหน

 

 

 

「แน่นอนว่าพวกเราจะหลีกเลี่ยงและไปต่อใช่ไหม?」

 

 

 

เกลถามออกมา

 

ท่านพี่ใช้นิ้วม้วนผมเล็กน้อยและเธอก็พูดขึ้นมา

 

 

 

「แน่นอนว่าฉันจะเข้าไปฆ่าพวกมันให้เหี้ยน มีปัญหาอะไรรึเปล่า?」

 

 

 

ก็กะไว้แล้วว่าท่านพี่ต้องพูดแบบนี้

 

ท่านพี่น่ารักที่สุดเลย!

 

ฉันมองไปทางเธอด้วยความพึงพอใจ แต่ว่าแลนเซอร์คนนั้นก็ส่งเสียงชวนหงุดหงิดออกมา「หา เอาจริงดิเข้าไปในมอนสเตอร์เฮ้าท์……」ช่างเป็นคำพูดของพวกขี้ขลาดเสียจริง

 

[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว

[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว

Score 10
Status: Completed
เรื่องย่อ(ตรงไหนฟะ) เรื่องราวสามัญที่พบเห็นได้ดาษดื่นกับคนธรรมดาทั่วไปที่ตายไปในโลกแฟนตาซีและเกิดใหม่ในโลกใบเดิม ไม่ใช่ไปเกิดใหม่ต่างโลก ก็แค่กลับชาติมาเกิดธรรมดา(ถึงปกติจะไปเกิดใหม่ต่างโลก……)แต่ว่าเกิดใหม่ทั้งทีก็ดันเป็น TS ไปซะแล้ว กลายเป็นสาวน้อยที่อาจจะเติบใหญ่ ――ในอดีต เขาเป็นชายผู้เป็นจ้าวนักสู้ปรมาจารย์ด้านพลังคิ (ศิลปะการต่อสู้ที่ผสมผสานพลังกายและเวทมนตร์เข้าด้วยกัน) ขณะที่ใช้ชีวิตธรรมดาสามัญทั่วไป เขาก็ได้พยายามข้ามแม่น้ำซันสึ แต่ก็ล้มเหลว กลับมาเกิดใหม่ จุดหมายปลายทางที่มาเกิดคือลูกสาวขุนนาง เป็นนางร้ายที่ถูกลิขิตให้หมั้นกับเจ้าชายและโดนเนรเทศ โชคดีภายใต้ความโชคร้ายลูน่าที่เป็นลูกสาวของมาร์ควิสได้มองเห็นอนาคต(สิ่งมีชีวิตลึกลับที่อ้างตัวเองว่ามาจากต่างโลก ได้นำแผ่นเกมจีบสาวจากอีกโลกหนึ่งพร้อมกับเกมคอนโซล) และขณะที่เผชิญหน้ากับอนาคตอันเลวร้ายเธอก็ได้ใช้เทคนิค คิ ที่เชี่ยวชาญมาจากชาติก่อนอย่างเต็มที่ ผม(ฉัน)นั้น TUEEE(โครตแกร่ง)ในโลกแห่งนี้ แต่กลับไม่มีพัฒนาการเลยสักนิด หากรังเกียจใครก็พร้อมที่จะซัดหน้ามัน ดังนั้นไม่ได้มีความกวนประสาทแบบนางร้ายปกติ ตัวละครหลักนั้นเป็นสาวสวย(TS) แต่นางเอกเองก็สวยไม่แพ้กัน เหล่าสาวๆต่างโดนรุมจีบ ตัวละครหลักค่อยๆตกหลุมรักทั้งนางเอกและTS หลงรักเพียงแรกเห็น ทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ด้วย “คิ” พลังเวทย์อะไรนั่นไม่ได้ใช้เลย เป็นเรื่องราวสุดแสนจะวายป่วงที่เต็มไปด้วยเล่ห์กลและใช้พลังในการแก้ปัญหา ทำสิ่งต่างๆที่ชอบ ด้วย การเป็นไอดอล หรือ นักแสดงชั้นเลิศ และในที่สุดก็ถูกเรียกว่าจักรพรรดินี

Recommended Series

Options

not work with dark mode
Reset