[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว 49 – 026:แผนการฝึกนักบุญ③ ภาคมาเรียโบยบินบนท้องฟ้า

ตอนที่ 49 - 026:แผนการฝึกนักบุญ③ ภาคมาเรียโบยบินบนท้องฟ้า

026:แผนการฝึกนักบุญ③ มาเรียโบยบินบนท้องฟ้า

 

――เมื่อมองย้อนกลับไป ฉันคิดว่า มาเรีย เทมเพิล นางเอกของ “ฟ้าคราม”นั้นไม่มีใครเทียบได้ในแง่พรสวรรค์หรือสเตตัส

 

 

 

ดังนั้นแม้ว่าเธอจะได้พบกับบุคคลสำคัญของประเทศที่สถาบันเวทมนตร์ แต่ก็ไม่ถึงว่าไม่มีนัยยะสำคัญและในความเป็นจริงก็สามารถประสบความสำเร็จในการพิชิตดันเจี้ยน

 

 

 

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ในคำพูดของท่านพี่ “ฉันเกิดมาพร้อมบทบาทของลูกสาวตระกูลขุนนางบารอน มาเรีย เทมเพิล”  

 

ฉันคิดว่าท่านพี่กำลังสอนฉันหลากหลายอย่างเพื่อเผชิญหน้ากับอนาคต

 

บางทีอาจจะทำให้พวกเขาทำอะไรบางอย่างนอกเหนือจากนั้น

 

ส่วนฉันจะทำร้ายท่านพี่ที่รับบทเป็นนางร้ายหรือไม่นั้น มีแม้แต่ความคิดที่ว่าเรื่องเหล่านั้นจะไม่มีทางเกิดขึ้นในหัวของฉัน

 

ไม่บางทีอาจจะไม่แน่ใจว่าจะต้องเผชิญหน้ากันอย่างไร แต่ก็สามารถบดขยี้ได้อยู่ดี

 

 

 

ใช่แน่นอน ถ้าต้องเผชิญหน้ากับท่านพี่แล้ว ฉันไม่มีโอกาสเอาชนะเธอได้เลย

 

ทุกคนเห็นได้ชัดว่าลูน่า เบลล์ ดิแซค คนนี้เกินมนุษย์ไปไกลโขแล้ว

 

 

 

 

 

「――ยัตต้า ! ลอยตัวได้แล้วค่ะ!!」

 

 

 

สามวันต่อมาฉันบินขึ้นไปบนท้องฟ้าโดยอยู่บนหลังของท่านพี่และผู้คนในหน่วยรบ

 

ฉันก็ทำได้เหมือนกับพวกเขาแล้วหลังจากผ่านมาสามวัน

 

 

 

「ฉันเป็นอัจฉริยะงั้นเหรอคะ……?!」

 

 

 

เมื่อฉันพูดอะไรแบบนั้นกับตัวเองขณะที่ลอยอยู่บนอากาศประมาณสิบเซนติเมตรจากพื้นโดยเกาหัวอยู่ ท่านพี่ที่อยู่ตรงหน้าเองก็ไขว้แขนพยักหน้า

 

 

 

「ท้ายที่สุดแล้วก็เต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์สินะน้องสาวของฉัน」

 

 

 

「ท่านพี่คะ! ฉันน่ะ! ――อิย๊า!?」

 

 

 

ฉันเผลออารมณ์ดีมากเกินไปหน่อยขณะที่ลอยตัวอยู่และตกลงมาก้นจ้ำเบ้า

 

ถึงกระนั้น ฉันก็ยังลุกขึ้นมากอดท่านพี่สุดที่รัก แม้ว่าจะมีคราบน้ำตาไหลอยู่ก็ตาม

 

 

 

(ท่านพี่………..อ่ากลิ่นของท่านพี่………หอมจังเลยค่ะ…………ชอบที่สุด♡)

 

 

 

ด้วยเหตุนี้ฉันปล่อยให้เส้นผมของท่านพี่ลูบไล้ไปตามซอกคอของฉัน

 

ฉันคิดว่าฉันกำลังจะละลาย

 

ทุกครั้งที่ได้กอดกับท่านพี่ความสุขที่มากล้นจะเข้าจู่โจมฉัน และฉันรักความรู้สึกเหล่านี้มากจนคิดว่าขาดมันไม่ได้อีกแล้ว

 

กลิ่นที่ลอยออกมาจากซอกคอของท่านพี่ทำให้ฉันออดอ้อนเธอมากเข้าไปอีก และมันทำฉันแทบเป็นบ้า

 

ฉันแน่ใจว่าฉันจะโดนเกลียดแน่ถ้าฉันเผลอจับกดท่านพี่ลงในตอนนี้

 

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าฉันจะอดกลั้นเอาไว้ได้

 

ราวกับจะหลีกหนีความขัดแย้งฉันโดนบีบแขน

 

 

 

「เฮ้อ เธอเนี่ยนะ ! อย่ามาพลอดรักในช่วงกลางวันแสกๆสิ!!」

 

 

 

เสียงดังมาจากทางด้านหลัง และฉันก็รีบปล่อยมือทันที

 

เมื่อฉันมองไปทางนั้นก็เห็นท่านอลิซ่ามองมาทางนี้ด้วยความโกรธ

 

 

 

「เธอน่ะตัวดีเลย หัดละอายซะบ้างแม้ว่าจะรักพี่สาวมากแค่ไหนก็ต้องหักห้ามใจตัวเองเอาไว้ เธอเป็นลูกสาวของขุนนาง ดังนั้นปฏิบัติตัวให้มันสง่างามหน่อยสิคะ แล้วก็อย่าเนียนหอมแก้มพี่สาวด้วย!」

 

 

 

「ค่าาา……」

 

 

 

เอ๋ นี่ฉันโดนจับได้งั้นเหรอ ฉันว่าฉันเนียนแล้วนะ?

 

ฉันก้มศีรษะขณะคิด

 

 

 

「เอ๋ งั้นเหรอ อลิซ่าน่ะเหมาะกับบุคลิกขี้อ้อนมากกว่ามาเรียอีกนะ ใบหน้าน่ารักน่าชังนั่นฉันเห็นยังอิจฉาเลยค่ะ…」

 

 

 

「พี่สาวล่ะก็…..ปากหวานกับผู้หญิงทุกคนเลยนะคะ……♡」

 

 

 

ท่านพี่เป็นคนเข้ามาขัดจังหวะ

 

ฉันรู้สึกว่าตอนนี้ใบหน้าของฉันกำลังเอ่อล้นไปด้วยน้ำตาและอลิซ่าที่โดนชมก็หน้าแดง

 

สิ่งที่ฉันเห็นคือร่างของท่านพี่ที่เข้าไปกอดอลิซ่า

 

 

 

「โยชิ โยชิ อย่ามองโลกในแง่ลบมากนักสิ!」

 

 

 

จากนั้นเธอก็ปรบมือ

 

 

 

「ตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่ดีพวกเราไปเที่ยวในเมืองกันดีไหม」

 

 

 

「「เอ๊ะ?」」

 

 

 

เสียงของฉันและอลิซ่าซ้อนทับกันด้วยความตกใจ

 

 

 

「พวกเราไปลงทะเบียนกิลด์นักผจญภัยและรับคำของ่ายๆทำกันดีไหม?」

 

 

 

ท่านพี่พูดด้วยท่าทีตื่นเต้น

 

พวกเราทำได้แค่จ้องมองท่านพี่ด้วยความตกตะลึง

 

 

 

「ไปสิคะ!」

 

 

 

ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดีและท่านพี่ก็ติดต่อกับโอไกอย่างรวดเร็ว

 

โอไกทำสีหน้าเคร่งขรึมขณะสวมชุดสีดำและเข็มขัดสีแดง วิ่งเข้ามาทางนี้

 

 

 

「มีอะไรงั้นเหรอครับ?」

 

 

 

「พวกเราจะไปที่เมือง ไปเดินเล่นสักหน่อย และก็ลงทะเบียนนักผจญภัย รับคำของ่ายๆมาทำ ดังนั้นช่วยมาเป็นคนคุ้มกันให้หน่อยได้ม้าา?」

 

 

 

「แน่นอนครับ」

 

 

 

เขาพยักหน้าให้กับท่านพี่ด้วยความยินดี

 

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ฉันอดไม่ได้ที่เห็นเขายิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน

 

 

 

「ที่เหลือฝึกกันเองตามสบายนะ」

 

 

 

เมื่อเธอพูดเช่นนั้นพวกเราก็เข้าไปในคฤหาสน์

 

พวกเราตัดสินใจปลอมตัวเพื่อเข้าเมือง

 

 

 

 

 

ดังนั้นพวกเราเลยหาชุดที่เคลื่อนไหวได้ง่ายๆแทนที่จะเป็นชุดที่เต็มยศ

 

พวกเรานั้นแต่งชุดแตกต่างกันโดยมีลักษณะต่างกันดังนี้

 

 

 

ท่านพี่สวมกระโปรงพลีทสีน้ำตาลอ่อนและเสื้อแขนสั้นสีขาว เนคไทสีน้ำเงิน เธอสวมเสื้อคลุมสีเทาทับ และเสื้อคลุมสั้นที่เข้ากับสีของกระโปรงของเธอเพื่อแสดงด้านน่ารัก

 

เธอมัดผมยาวด้วยริบบิ้นตรงกลางให้ความเงางามสีเงิน แต่เธอน่ารักมากเกินไปจนคิดว่าอาจจะถูกผู้ชายข้างถนนจู่โจมได้

 

หวาาาาาาาาา……….ท่านพี่ของฉันน่ารักเกินไปแล้วค่ะ

 

 

 

ท่านอลิซ่าสวมชุดสีแดงและชุดของเธอค่อนข้างคล้ายกี่เพ้าที่มีชั้นในแปลกตาและแผ่นรองไหล่ที่เกราะอก นอกจากนี้เธอแต่งตัวคล้ายกับท่านพี่ แต่เธอก็สวมเกราะมือที่ทาด้วยสีแดงเข้มซึ่งเป็นสีประจำตัวของเธอ

 

ผมสีแดงของเธอมัดเป็นหางม้า และเมื่อรวมเข้ากับใบหน้าที่ร่าเริงของเธอแล้ว

 

นอกจากนี้เธอยังมีลูกตะกั่วใส่ไว้ในกระเป๋าหนังเล็กๆของเข็มขัดพันรอบเอว แต่ฉันก็งงว่าเธอจะเอาไปใช้ทำอะไร

 

 

 

เพราะงั้นฉันเองก็แต่งตัวในธีมสีน้ำเงินซึ่งตรงกันข้ามกับท่านอลิซ่า

 

กระโปรงยาวเป็นจีบ และเสื้อยืดแขนสั้นสีขาวสวมด้านในขณะที่มีแจ็กเก็ตสีน้ำเงินทับอยู่ด้านนอก

 

ไม่ว่าจะคิดยังไงเสื้อผ้าของพวกเราก็ไม่เหมือนธีมผู้คนในยุคกลางเลยสักนิดและผมสีน้ำเงินของฉันถูกมัดด้วยริบบิ้นที่เข้ากับท่านพี่และทอดยาวมาถึงอก

 

สำหรับริบบิ้น อลิซ่าเองก็ใช้อันเดียวกันทำให้ทั้งสามขำกันอยู่พักหนึ่ง

 

 

 

นอกจากนี้ คุณโอไก ยังมีเสื้อสีดำพร้อมเข็ดขัดสีแดงและเกราะมือเขาก็ย้อมไปด้วยสีดำซี่งดูดุดัน

 

ไม่สิ เครื่องแต่งกายในคฤหาสน์มันค่อนข้างน้อยไปหน่อย แต่ว่า จะดีเหรอที่ฉันจะปฏิบัติตัวกับพวกเขาอย่างเท่าเทียมกันแบบนี้

 

ไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนรับใช้ที่จงรักภักดีกับเธอเหรอ

 

 ราวกับรู้ว่าฉันจะประท้วง เธอยกมือขึ้นและบอกว่า「อย่าคิดมาก」

 

 

ตอนนี้พวกเรามากันสี่คน

 

ซึ่งถือว่าครบองค์ประชุมในแง่ปาร์ตี้

 

 

 

หลังจากเตรียมการเสร็จแล้ว เราก็ออกจากคฤหาสน์ และแม้ว่าจะใช้เวลาในการเดินมากกว่าหนึ่งชั่วโมงแต่ก็มาถึงภายในสิบนาทีด้วยการบิน

 

ฉันยังคงวุ่นกับการฝึกบิน ดังนั้นเลยขอให้ท่านพี่ช่วยแบกฉันไปด้วย และพวกเราก็มาถึงเมืองลาทอสในขณะที่ท่านอลิซ่าบ่นฉันไม่หยุด

 

 

 

「เชิญเข้าไปในเมืองได้เลยครับ」

 

 

 

「ขอบคุณมากนะ」

 

 

 

「「เอะเหะ――♡」」

 

 

 

ยามคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าประตูเมืองมองมาทางท่านพี่และยิ้มให้

 

ท่านพี่ที่มีเสน่ห์นั้นเดินนำเข้าไปในเมือง

 

ฉันรู้สึกว่าพวกเราโดนจ้องมองแบบแปลกๆ

 

มันเหมือนกับว่าฉันอยากจะอวดท่านพี่สุดน่ารักคนนี้ให้ทั้งโลกได้เห็น

 

 

 

 

 

 ――เราเดินไปตามถนนสายหลัก

 

ท่านพี่เดินนำหน้าฉันอยู่ และท่านอลิซ่าที่เดินกอดแขนเธอ

 

ทันใดนั้นฉันก็นึกถึงเรื่องนี้ขณะที่อยู่บนท้องถนน

 

 

 

 

 

ฉันคิดว่าโลกนี้นั้นคล้ายกับโลกเกมจีบสาว “ฟ้าคราม”

 

แต่ว่า  นอกเหนือจากนั้นมันยังมีรูปแบบการผจญภัยเข้ามาร่วมด้วยอีกนั่นทำให้ฉันนึกถึงว่ามันมีซีรีย์แยกที่เป็นภาค RPG และ SLG อีกด้วย

 

และแม้กระทั่งระบบพื้นฐานต่างๆนาๆทั้งหลายแหล่ก็เหมือนกันแต่ประเภทเกมแค่ต่างกันเฉยๆ

 

 

 

 บางทีโลกนี้อาจเป็นไปตามระบบเกม RPG……。

 

 

 

ฉันเผลอพึมพำออกมาโดยไม่ตั้งใจ

 

 

 

「สเตตัส」

 

 

 

 

 

จากนั้นหน้าต่างสถานะก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของฉันและมีค่าตัวเลขและตัวอักษรแสดงอยู่ด้วยความโปร่งใส

 

 

 

 

 

*****

 

 

 

มาเรีย เทมเพิล (12)

 

 

 

 Lv:3

 

 ความแข็งแกร่งทางกายภาพ(HP):10/10

 

 พลังงาน(STA):20/40

 

 พลังเวทย์(MP):50/50

 

 ผู้นำ(LEA):5

 

 กำลังรบ(WIL):15

 

 ความฉลาด(INT):40

 

 การเมือง(LOG):10

 

 เสน่ห์(CHA):55

 

 

 

สกิล:

 

 นักบุญ(ยังไม่ถูกใช้งาน)

 

 วิชาสำนักมังกรซากุระ 1

 

 

 

ฉายา:

 

ลูกสาวของบารอน

 

ลูกศิษย์สำนักมังกรซากุระ

 

 

 

****

 

 

 

เห็นได้ชัดว่าฉันเลเวล 3

 

หวาาาา ขยะซะไม่มี สเตตัสต่ำเตี้ยเรี่ยดินโครตๆ โดนวางยาพิษตายยังไม่แปลกใจเลย

 

เพียงแต่ว่าค่าเสน่ห์ฉันนี่สูงจังเลยนะ……。

 

ไม่ ไม่ ไม่ ต้องก่อนหน้านั้นสิ

 

 

 

มันไม่ใช่เกม RPG แต่มันเป็นเกมจำลอง SLG ต่างหากล่ะ

 

จงจำเอาไว้ตัวฉัน……。

 

ระหว่างทางไปยังกิลด์นักผจญภัยฉันยักไหล่

 

ป.ล.เผลอหยุดไปอีกสองวันแล้ว ฮะ ฮะ ช่วงนี้ติด HBR จัดเลย แล้วก็ช่วงนี้ก็ช็อตมากด้วย 555

[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว

[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว

Score 10
Status: Completed
เรื่องย่อ(ตรงไหนฟะ) เรื่องราวสามัญที่พบเห็นได้ดาษดื่นกับคนธรรมดาทั่วไปที่ตายไปในโลกแฟนตาซีและเกิดใหม่ในโลกใบเดิม ไม่ใช่ไปเกิดใหม่ต่างโลก ก็แค่กลับชาติมาเกิดธรรมดา(ถึงปกติจะไปเกิดใหม่ต่างโลก……)แต่ว่าเกิดใหม่ทั้งทีก็ดันเป็น TS ไปซะแล้ว กลายเป็นสาวน้อยที่อาจจะเติบใหญ่ ――ในอดีต เขาเป็นชายผู้เป็นจ้าวนักสู้ปรมาจารย์ด้านพลังคิ (ศิลปะการต่อสู้ที่ผสมผสานพลังกายและเวทมนตร์เข้าด้วยกัน) ขณะที่ใช้ชีวิตธรรมดาสามัญทั่วไป เขาก็ได้พยายามข้ามแม่น้ำซันสึ แต่ก็ล้มเหลว กลับมาเกิดใหม่ จุดหมายปลายทางที่มาเกิดคือลูกสาวขุนนาง เป็นนางร้ายที่ถูกลิขิตให้หมั้นกับเจ้าชายและโดนเนรเทศ โชคดีภายใต้ความโชคร้ายลูน่าที่เป็นลูกสาวของมาร์ควิสได้มองเห็นอนาคต(สิ่งมีชีวิตลึกลับที่อ้างตัวเองว่ามาจากต่างโลก ได้นำแผ่นเกมจีบสาวจากอีกโลกหนึ่งพร้อมกับเกมคอนโซล) และขณะที่เผชิญหน้ากับอนาคตอันเลวร้ายเธอก็ได้ใช้เทคนิค คิ ที่เชี่ยวชาญมาจากชาติก่อนอย่างเต็มที่ ผม(ฉัน)นั้น TUEEE(โครตแกร่ง)ในโลกแห่งนี้ แต่กลับไม่มีพัฒนาการเลยสักนิด หากรังเกียจใครก็พร้อมที่จะซัดหน้ามัน ดังนั้นไม่ได้มีความกวนประสาทแบบนางร้ายปกติ ตัวละครหลักนั้นเป็นสาวสวย(TS) แต่นางเอกเองก็สวยไม่แพ้กัน เหล่าสาวๆต่างโดนรุมจีบ ตัวละครหลักค่อยๆตกหลุมรักทั้งนางเอกและTS หลงรักเพียงแรกเห็น ทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ด้วย “คิ” พลังเวทย์อะไรนั่นไม่ได้ใช้เลย เป็นเรื่องราวสุดแสนจะวายป่วงที่เต็มไปด้วยเล่ห์กลและใช้พลังในการแก้ปัญหา ทำสิ่งต่างๆที่ชอบ ด้วย การเป็นไอดอล หรือ นักแสดงชั้นเลิศ และในที่สุดก็ถูกเรียกว่าจักรพรรดินี

Options

not work with dark mode
Reset