022:ความเศร้าของมาเรีย
――ดิฉัน มาเรีย เทมเพิล อายุ สิบสองปี ลูกสาวของตระกูลบารอน
ในฐานะที่ฉันเคยเป็นลูกจ้างบริษัทแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ฉันเสียชีวิตเพราะทำงานหนักเกินไปและกลับชาติมาเกิดใหม่ในโลกที่คล้ายกับเกม “มังกรครามและจันทราสีแดง”
ฉันมีความตั้งใจอยู่ค่ะ
ฉันไม่ได้คิดว่าตัวเองจะต้องไปตกหลุมรักเจ้าชาย และฉันเองก็ไม่คิดจะไปใส่ร้ายป้ายสีใครจนทำให้นางร้ายของเรื่องเดือดร้อนและตัวเองแฮปปี้เอนด์คนเดียว แม้ว่าฉันจะลงทะเบียนเรียนที่สถาบันเวทมนตร์ แต่ฉันจะไม่เข้าไปยุ่งกับตัวละครหลักเด็ดขาดค่ะ
อันที่จริงลูกสาวของมาร์ควิส ลูน่า เบลล์ ดิแซค ที่ควรจะเป็นนางร้าย ก็เป็นคนที่กลับชาติมาเกิดเหมือนกับฉันค่ะ และในวินาทีที่ฉันจะลงมือเคลื่อนไหว อาจจะต้องเข้าหาเธอ
วันก่อนดิฉันได้รับเชิญให้ไปงานเลี้ยงของท่านลูน่าค่ะ และพวกเราที่เป็นตระกูลบารอน แต่สิ่งที่รอเราอยู่นั่นคือหายนะ
เมื่อมองแวบแรกท่านลูน่าเป็นสาวน้อยที่น่ารักแต่กำเนิด แต่ฉันรู้มาว่าตรงกันข้ามกับรูปลักษณ์ที่น่าทะนุถนอม เธอเป็นผู้ใช้พลังปราณที่เก่งกาจมากค่ะ
เธอพูดคุยกับราชินีราวกับกำลังจะงัดกับอีกฝ่าย และแม้แต่ตัวเธอก็ไม่ได้แสดงท่าทีเคารพต่อเจ้าชายทั้งสองคน
ถ้าฉันทำแบบเดียวกันกับเธอล่ะก็ตระกูลของฉันคงล่มจมภายในทันทีค่ะ
เธอเป็นคนที่น่ากลัวมาก และฉันทุกเช้าเย็นจะระแวงเธอตลอดเวลาเลยค่ะ
(……น้องสาวของท่านลูน่า♡)
กลัวงั้นเหรอ?
ใช่ฉันบอกตัวเองว่านี่คือความกลัว
แต่ความรู้สึกที่มีต่อเธอมันหักห้ามใจไม่ได้
นี่มันคืออะไรกัน ฉัน กำลังจะบ้าไปแล้วงั้นเหรอคะ
รูปลักษณ์ของสาวน้อยวัยสิบสองปีผมสีเงินที่ฉายซ้ำแล้วซ้ำเล่าในหัวของฉัน
ยามที่หลับหรือตื่นนอนสิ่งที่ฉันทำคือคิดถึงเธอคนนั้น
แม้ว่าฉันจะรู้สึกเจ็บปวดกับสิ่งนี้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย
「อ๊าาาาาาาาาา……」
วันนี้ฉันเองก็ได้แต่ถอนหายใจ
พอลองเอานิ้วสัมผัสที่แก้มที่เธอเคยลูบ
อยากจะเจอเธอจังเลย อยากจะคุยกันมากกว่านี้ แม้ว่าจะเป็นเพียงชั่วขณะหนึ่งก็ตาม
แต่ฉันกลัวว่า「เธอเป็นใคร?」แล้วทำไมฉันถึงได้ตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบแบบนี้ มันทำให้ฉันกลัว
นี่ฉันบ้าไปแล้วเหรอไงเนี่ย
แม้ว่าจะเป็นความสัมพันธ์แบบหญิงหญิงก็เถอะ……。
ถ้าเธอได้รู้ถึงความคิดอันโสมมที่ฉันอยากทำกับเธอ เธอคงจะดูถูกฉันอย่างแน่นอน
ดังนั้นพวกเราไม่ควรจะเจอกันอีก
แต่ฉันไม่มั่นใจเลยว่าจะหักห้างตัวเองไหว
แต่ฉันอยากเจอเธอเหลือเกิน
อยากจะพูดคุย อยากจะสัมผัส
ถ้าฉันทำได้ละก็ ฉันจะทำให้เธอกลายมาเป็นทาสรักของฉัน!
「――เอาล่ะ ไปหาเธอดีกว่า」
เป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้วตั้งแต่งานเลี้ยงวันเกิด
ฉันตัดสินใจที่จะวิ่งออกจากบ้าน
ฉันอยากจะเขียนโน้ตทิ้งเอาไว้ แต่ฉันไม่รู้ว่าจะอ้างอะไรดี เลยวางกระดาษเปล่าไว้บนโต๊ะ
ฉันคิดว่าฉันจะถูกพ่อและแม่ดุแน่นอน แต่ฉันหยิบเงินที่ออมเอาไว้และมุ่งหน้าไปยังรถม้าสาธารณะ
หากลูกสาวของตระกูลขุนนางจะเข้าบ้านท่านเจ้าเมืองจะต้องส่งจดหมายล่วงหน้าเอาไว้ก่อน
หากไม่ทำเช่นนั้น บุคคลที่จะต้องเข้าไปพบต้องเตรียมหลายสิ่งหลายอย่าง เช่น จัดตารางงาน
ถึงจะรู้แบบนั้นก็เถอะ
แต่ใจมันสั่งมา ฉันหักห้ามตัวเองไม่ไหวแล้ว
โดยที่ไม่รู้ตัวฉันย้ายไปยังหน้ารถม้าข้างคนสารถี และมาถึงหน้าบ้านของตระกูลมาร์ควิส
「แม่หนู มีอะไรยังงั้นเหรอ?」
ตอนนี้มียามที่สวมชุดเกราะเหล็ก
เธอตกใจกับการปรากฏตัวชายวัยกลางคน แต่เธอก็บอกว่า “ดิฉันอยากพบท่านลูน่า”
ฉันใช้เวลากว่าสิบนาทีในการทำเรื่องขอเข้าพบ แต่ว่าลูน่าก็รีบมาหาเธอทันทีแล้วตกใจ「มาเรียจัง?!」
「น้องสาวของท่านลูน่า…….มาหาแล้วค่ะ」
ฉันพูดออกมาจากปากด้วยตัวเอง และฉันสูญเสียความเป็นตัวเองและสะโพกของเธอก็เอนเข้าหาลูน่า
แค่มองไปที่ลูน่าที่วิ่งเข้ามาหาฉัน น้ำตาก็ไหลออกมาตามธรรมชาติ และฉันนี่ร้องไห้เก่งเท่าอายุจริงๆเลย
ลูน่าก้มลงและกอดฉันเบาๆ
มันเศร้าและเจ็บปวดมากจริงๆจนไม่รู้จะทำอะไรอีกต่อไป
ฉันนั้นอยากจะอยู่กับเธอตลอดเวลา
◆ ◆ ◆
――จากนั้นฉันก็ถูกพาไปที่ห้องรับแขกของคฤหาสน์และนั่งบนโซฟากับท่านลูน่า
ชาที่ชงโดยเมดนั้นสดชื่นมาก
มือที่โอบไหล่ของเธอนั้นอบอุ่นเหมือนท่านแม่ที่ปลอบโยนฉัน
ภายในอกของฉันดูเหมือนจะถูกเติมเต็มไปด้วยความสุข
「ดังนั้นมาเรียจึงวิ่งออกจากบ้านโดยไม่บอกพ่อแม่และมาที่นี่ด้วยตัวเอง……」
「ค่ะ หนูขอโทษนะคะ หนูอยากเจอท่านพี่จริงๆ……」
เมื่อฉันบอกเธอว่าเป็นมายังไง ลูน่าดูมีปัญหา แต่ก็ยังลูบผมด้วยนิ้วที่อ่อนโยนและบอบบางของเธอ
ฉันไม่อยากจะถูกทิ้งเอาไว้อีกแล้วและทุกครั้งที่ฉันลุกขึ้นยืนเธอก็พยายามจะประคองฉันเอาไว้
「เฮ้อ อดไม่ได้เลยจริงๆ」
「ขอโทษด้วยนะคะ」
ฉันทำได้แค่ขอโทษ
แต่ตอนนี้ฉันอยากจะโอบกอดความอบอุ่นเหล่านี้ไว้
「หากเป็นเช่นนี้ก็ต้องมีการฝึกพิเศษกันหน่อยแล้ว」
「……เอ๊ะ?」
ในที่สุดท่านลูน่าก็พูด
ฉันเองก็จะเป็นหนึ่งในพรรคพวกงั้นเหรอ
เธอลุกขึ้นยืนและฉันก็ยืนข้างเธอและเดินออกจากคฤหาสน์
เดินไม่ไกลจากที่นั่นก็เจอสนามฝึก
「เอ่อ ท่านพี่?」
「ฮ่าาาาาาาาาาาาาาาา ทุกโคนนนนนนนนนนนนน~!」
กำแพงหินและก้อนหินที่ดูขรุขระ
เหล่าชายชาตรีตะโกนขานรับและอดไม่ได้ที่จะกลัว
แต่เมื่อพยายามมองไปรอบๆแต่ก็หนีไม่พ้น
「โอ้ เธอ……」
เป็นสาวน้อยผมแดงที่วิ่งเข้ามาหาฉัน
ฉันจำได้ว่าเธอชื่ออลิซ่า
อลิซ่าเหลือบมองฉันขณะที่ฉันกำลังกอดแขนท่านลูน่า แต่สีหน้าของเธอก็ดูผ่อนคลาย
「ดิฉันมาเรียค่ะ ท่านอลิซ่า!」
「เอ่อ ใช่ ฉันจำได้แล้ว」
ถึงจะบอกว่าจำได้แต่คงลืมไปแล้วล่ะ แต่ฉันไม่พูดดีกว่า
ท่านลูน่าดึงฉันออกจากอ้อมแขนของเธอวางมือบนไหล่ของฉันในขณะที่ฉันกำลังจะร้องไห้ เธอก็ตะโกนใส่เหล่าชายชาตรี
「เธอชื่อมาเรีย เธอเป็นเพื่อนของฉัน และฉันตัดสินใจให้เธอเข้าร่วมการฝึกอบรม เพราะงั้นทุกคนช่วยรับน้องใหม่」
「「「เยส มายลอร์ด!!!」」」
เหล่าชายชาตรีที่เหมือนปีศาจมากกว่าทหารตอบสนองด้วยเสียงไพเราะ
ท่านลูน่าพาฉันมาที่ห้องเก็บของของสนามฝึก ดึงเสื้อท่อนบนสำรองจากด้านหลังออกมาและกระตุ้นให้ฉันเปลี่ยนเสื้อท่อนบน
ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้ากับเธอแล้วกลับไปที่สนามฝึกซ้อม
「วันนี้จะเริ่มจากการวิ่งเบาๆและฝึกกล้ามเนื้อให้ยืดหยุ่น」
ดูเหมือนจะทำแสร้งเป็นคิดเล็กคิดน้อย
ผมสีเงินแวววาวของเธอห้อยลงมาบนใบหน้าของเธอทำให้เธอดูงดงามมาก
「มาเรียถ้ามีเวลามาคิดมากนัก มาฝึกกันเถอะ ปล่อยให้ร่างกายไหลไปตามสายลม」
「ค่ะ ท่านพี่」
ปล่อยให้ไหล? เธอตอบสนองคำพูดนั่นด้วยความมุ่งมั่นเป็นธรรมชาติ
หลังจากนั้นฉันก็วิ่งไปเรื่อยๆเพื่อฝึกกล้ามเนื้อในขณะที่จะอาเจียนออกมา และไม่รู้ว่าวิดพื้นไปอีกกี่ครั้ง สติของฉันเริ่มจางหาย
ดูเหมือนว่าฮายามะจะรีบวิ่งออกจากคฤหาสน์และไปบ้านของตระกูลเทมเพิล แต่ฉันไม่มีทางรู้ได้เพราะฉันกำลังเวียนหัว
TN: ขอโทษที่หายไปหนึ่งสัปดาห์เต็มครับ เนื่องจากตาแดงทั้งสองข้างทำให้ไม่สามารถโฟกัสกับการทำอะไรเป็นเวลานาน มันจะทำให้ปวดตามากๆ เลยต้องไปรักษาตาเพิ่งจะหายมาครับ เดี๋ยวจะกลับมาแปลต่อเด้อ ต้องขอโทษจริงๆด้วยครับ